โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 538 - ใครได้อันดับหนึ่ง
Ep.538 – ใครได้อันดับหนึ่ง?
“ไหนขอฉันดูหน่อยเถอะ ว่าจะมีลูกรักของพระเจ้าสักกี่คนกัน ที่สามารถผ่านมันไปได้!” มุมปากของฉินเฟิงยกยิ้มเล็กน้อย ในเวลาเดียวกัน หัวใจของเขาก็เริ่มลุกโชน
นั่นเพราะ ลูกรักของพระเจ้าเหล่านี้ มีอายุเรียกได้ว่าใกล้เคียงกับตน และสถานะในอนาคต ไมิอาจมองข้าม ทั้งหมดจะกลายเป็นบุคคลสำคัญอย่างแท้จริง
ความเร็วของฉินเฟิงไม่ได้ชะลอลง เขามุ่งหน้าสังหารต่อไป และสามารถฝ่าด่านชั้นเจ็ดมาได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ลุยต่อในชั้นแปด !
จิหรันที่รั้งอันดับสาม เมื่อเห็นว่าตนเองร่วงตกลงมาอยู่อันดับสี่ ความร้อนรนก็เริ่มผุดขึ้นมาในหัวใจ
“ฉินเฟิงคนนี้เป็นใครกัน? เขาไล่ตามฉันมาตลอด แต่ตอนนี้ดันแซงไปแล้ว”
จิหรันขบคิด เดิมพอผ่านชั้นเจ็ด ก็นั่งลงพักผ่อนเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นฉินเฟิงแซงหน้าเธอไป เจ้าตัวที่เพิ่งพักฟื้นฟูกำลังภายในได้เพียง1/3 ก็ขบฟันแน่น ผุดลุกขึ้นและเริ่มปีนหอคอยต่อทันที
“นายฉินเฟิงคนนี้ ไม่น่าจะมาจากเมืองหลวงมังกร งั้นต้องเป็นคนของอีกสี่ภูมิภาค ตัวฉันเป็นถึงลูกรักของพระเจ้าที่แสนภาคภูมิของเมืองหลวง จะยอมถูกกดอื่นเหยียบหัวได้อย่างไร? ฮึ่ม! ”
จิหรันในฐานะอัจฉริยะของเมืองหลวงมังกร เลยเป็นธรรมดาที่จะเปี่ยมไปด้วยความศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจ
เธอไล่สังหารสัตว์ร้ายอย่าไม่ลดละ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจกลับขึ้นไปแซงฉินเฟิงได้
ตรงกันข้าม เป็นฉินเฟิงที่สามารถก้าวขึ้นไปถึงชั้นเก้าได้อย่างกะทันหัน!
และชั้นเก้า อาจสามารถเรียกว่าเป็นชั้นสุดท้ายของใครหลายๆคน
อันที่จริงแล้ว มีเพียงลูกรักของพระเจ้าระดับสูงเท่านั้น ถึงสามารถย่างกรายขึ้นมายังชั้นนี้ได้
ขณะเดียวกัน เหล่าเลเวล A ภายในอาคารรอบหอคอย ต่างเฝ้ามองวิดีโอ จดจ้องมายังฉินเฟิง
แต่หลังจากที่ดูเป็นเวลานาน พวกเขาก็ค้นพบว่าฉินเฟิงแตกต่างจากคนอื่นๆ
ตามปกติแล้ว สัตว์ร้ายที่ปรากฏในหอคอยประตูมังกร ล้วนอ้างอิงตามความแข็งแกร่งของผู้ท้าทายมัน ซึ่งฉินเฟิงเป็นเลเวล C2 ดังนั้นศัตรูที่เขาต้องเผชิญก็จะเป็นเลเวล C2 เช่นกัน ไม่เอาเปรียบจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนมาถึงตอนนี้ ฉินเฟิงกลับยังคงผ่อนคลาย เขาเดินสบายๆไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อย สามารถโค่นร่างเงาสัตว์ร้ายลงได้โดยแทบไม่ใช้กระบวนท่าวรยุทธด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้ามผ่านชั้นแปด ฉินเฟิงก็ยังมิได้ดูตื่นตัวแต่อย่างใด เขายังคงก้าวไปข้างหน้าด้วยความเร็วเท่าเดิม ในขณะที่คนอื่นๆ แต่ละย่างก้าวต้องฟันฝ่าอย่างยากลำบาก และคนที่ลำบากที่สุดในตอนนี้มิใช่ใครอื่น เป็นจิหรันที่ไม่ยอมพัก พยายามไล่ตามฉินเฟิง
“เอ่อ พอลองสังเกตดูดีๆแล้ว ฉันว่าเขาผ่อนคลายมากเกินไปไหม?”
“ใช่ ฉันก็คิดแบบนั้น อายุเท่านี้แต่ไปถึงเลเวล C2 เดิมคิดว่าเป็นแค่ดอกไม้ในเรือนกระจก เอาแต่ฝึกฝนไม่ยอมออกไปไหน แต่คาดไม่ถึงเลย ว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้”
“ขนาดตอนปีนหอคอยยังแข็งแกร่งแบบนี้ แล้วถ้าเขาสามารถกลับมาจากหอคอยประตูมังกรได้ล่ะ มันจะไม่ … ”
“ ซู๊ด … ”
ฝูงชนอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจลึก ขณะเดียวกัน ในหัวใจก็ขบคิดไปต่างๆนาๆ เริ่มบังเกิดความร้อนรุ่ม
เพราะเมื่อถึงเวลานั้น สิ่งที่กำลังจะกลับมา มันมากพอแล้วที่จะให้ตื่นเต้น
ภายในหอคอยประตูมังกร ฉินเฟิงผ่านชั้นเก้ามาได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งเวลานี้ ภายในสนามลานกว้างระหว่างชั้นเก้า จ้วงเซินกับเสือขาวที่ฟันฝ่าอุปสรรคมาได้อย่างยากลำบาก กำลังหยุดพักหายใจอยู่
ระหว่างทาง พวกเขาได้รับพลังงานมหาศาล ซึมซับเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นเลยต้องปรับสมดุล และนี่ยังช่วยให้พวกตนแข็งแกร่งไปอีกขั้น
“ขอพักแค่ไม่นานก็พอ ไม่อย่างนั้นจะไล่ตามหลงกันไม่ทัน”
จ้วงเซินเงยหน้าขึ้นมองงรายการจัดอันดับด้วยความอยากรู้ ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันของหลงกันเป็นอย่างไรบ้าง เขาสามารถทะลุชั้นสิบได้แล้วรึเปล่า หรือยังไม่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งหากเป็นอย่างหลัง ก็พอสรุปได้ว่า หลงกันเองก็กำลังพักผ่อนอยู่เช่นกัน
ทว่าหลังจากเรียกหน้าต่างรายการออกมา จ้วงเซินก็ต้องตกตะลึงเกินกว่าจะทำใจเชื่อ
“อะไรกัน? นี่ฉันกลายเป็นอันดับสามได้ยังไง! เจ้าคนที่ชื่อฉินเฟิงมันมาจากไหน?”
ใจของจ้วงเซินดั่งถูกแผดเผา เขานับถือหลงกันเป็นคู่แข่งเพียงคนเดียวตลอดมา แต่ตอนนี้ โดยไม่ทันตั้งตัว จู่ๆก็มีไอ้บ้าที่ชื่อฉินเฟิงจากที่ไหนก็ไม่รู้ ก้าวเข้ามาเบียดเขา
และเรื่องนี้จ้วงเซินไม่อาจทนได้
เมื่อได้สติ จ้วงเซินตัดสินใจก้าวเข้าสู่ชั้นที่สิบทันที
ขณะนี้ บนชั้นสิบ มีคนอยู่พร้อมกันถึง 3 คน
จ้วงเซิน , หลงกัน และฉินเฟิง!
งานประลองลูกรักของพระเจ้า ใช้เวลาในการคัดเลือกนานอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องก้าวเข้าสู่หอคอยประตูมังกรจริงๆ กลับให้เวลาเตรียมตัวแค่สามวัน!
สำหรับผู้ใช้พลังเลเวล D การไม่หลับไม่นอนเป็นเวลา 3 วัน ไม่ถือว่าเป็นสิ่งใด
แต่ถ้าต้องต่อสู้และฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตาม นี่คือคุณสมบัติที่จำเป็นในยามสงครามใหญ่มาเยือน
และปัจจุบัน หลังจากผ่านพ้นไปได้แค่ 23 ชั่วโมง ลูกรักของพระเจ้าบางคนก็สามารถมาถึงชั้นบนสุดได้แล้ว
ผู้ชมมากมายที่ยืนดูอยู่ข้างนอก เมื่อก้มลงมองดูเวลาอีกที พวกเขาก็ร้องอุทานออกมา
“หลงกันกับจ้วงเซินไปถึงชั้นสิบได้แล้ว!”
“ม้ามืด! แต่ในนั้นยังมีม้ามืดรวมอยู่ด้วย! เป็นฉินเฟิงจากภูมิภาคเหนือ เด็กคนนี้เองก็เป็นสุดยอดรุ่นเยาว์ในบรรดาลูกรักของพระเจ้าเหมือนกัน”
“ตอนนี้เขาอยู่อันดับสองแล้ว อาจเป็นไปได้ไหม ว่าเขาจะสามารถขึ้นแซงเป็นอันดับหนึ่งได้?”
“สุดยอด สุดยอดเกินไปแล้ว!”
ผู้คนนับไม่ถ้วน จ้องมองไปยังเกล็ดมังกรที่เป็นตัวแทนของฉินเฟิง มันค่อยๆเคลื่อนอยู่ด้านนอกของหอคอยประตูมังกร ไล่ตามเกล็ดที่เปล่งแสงไสวของหลงกันไปติดๆ
และครู่ต่อมา ทุกคนก็ต้องตะลึงงัน!
เพราะเรื่องที่แค่คาดเดา คิดกันเล่นๆ ในที่สุดก็เกิดขึ้นจริง!
…
ภายในหอคอยประตูมังกร บนชั้นสิบ ห้วงอารมณ์และการแสดงออกของหลงกันยังคงสงบนิ่ง เรื่องรายการจัดอันดับ คือสิ่งที่เขาให้ความกังวลน้อยที่สุด
นั่นเพราะเขามาจากตระกูลหลง เป็นนายน้อยยอดฝีมือของเมืองหลวงมังกร แข็งแกร่งและทรงพลัง เป็นที่โปรดปรานของสรวงสวรรค์ แม้จ้วงเซินจะนับเขาเป็นคู่แข่ง แต่หลงกัน ไม่เคยเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตาเลย
ดวงตาของหลงกัน มักจะมองทอดยาวออกไป เหนือล้ำและไกลห่างจากทุกคน
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเป็นผู้ที่ใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็สามารถผ่านการทดสอบของหอคอยประตูมังกร และก้าวขึ้นสู่ชั้นบนสุดได้สำเร็จ
บันไดหยกขาวขั้นสุดท้าย ปรากฏประตูที่กำลังสาดแสงไสว เป็นช่องว่างมิติ
หลงกันก้าวเข้าไป ในหัวใจรู้สึกตื่นเต้น สถานที่ที่มาไม่ถึงในปีที่แล้ว ในที่สุดวันนี้ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
เมื่อวิสัยทัศน์กลับคืน เขาก็พบกับลานกว้างใหญ่ แต่ลองกะระยะดูแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นพื้นที่ด้านในของหอคอยประตูมังกร อีกอย่างในหูเขา ยังสามารถได้ยินถึงเสียงโห่ร้องของผู้คนสะท้อนเข้ามา
บ่งบอกชัดเจนว่า ตนเองได้กลับมายังโลกแล้ว
พื้นที่รอบๆเป็นสีขาวบริสุทธิ์ โดยเฉพาะตำแหน่งใจกลางของมัน คาดไม่ถึงว่าจะมีช่องว่างมิติอยู่จริงๆ ไม่เพียงแค่นั้น แต่ที่นี่ ยังมีคนยืนอยู่ก่อนแล้วถึงสองคน
หนึ่งในนั้นคือผู้ใช้พลังเลเวล A เป็นผู้พิทักษ์หอคอย หลงกันรู้จักอีกฝ่ายดี
แต่อีกหนึ่ง กลับเป็นชายหนุ่มที่ตนไม่รู้จัก
ฉากนี้ทำให้หลงกันแข็งค้าง
“นายน้อยหลง ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้รับอันดับสองในการฝ่าด่านหอคอยประตูมังกร” ผู้พิทักษ์หอคอยเอ่ยปาก แต่ในประโยคที่บอกว่าขอแสดงความยินดี น้ำเสียงของเขาดูแปร่งๆไปเล็กน้อย
หลงกันคืออันดับหนึ่งในปีนี้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง แต่ไม่คาดหวังเลย ว่าเขากลับถูกม้ามืดแซงในโค้งสุดท้าย
และม้ามืดที่ว่า มิใช่ใครอื่น เป็นฉินเฟิง!
ฉินเฟิงมองหลงกัน ในแววตาสะท้อนประกายสดใส
หลงกันคือสุดยอดลูกรักของพระเจ้า เป็นทายาทสายตรงของตระกูลหลง หากนับกันตามรุ่นแล้ว นายน้อยหลงผู้นี้สมควรเรียกเจ้าเมืองมังกรอย่างหลงถิงว่า ท่านยายทวด
ตระกูลหลงพัฒนาสืบมารุ่นต่อรุ่น จนตอนนี้ หลงกันน่าจะเป็นรุ่นที่หกแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกตระกูลหลงยังถือเป็นผู้มีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก แต่ในบรรดาคนเหล่านั้น หลงกันแข็งแกร่งที่สุด
ก่อนฉินเฟิงกลับมาเกิดใหม่ เขาเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับหลงกัน ว่าอีกฝ่ายสามารถยกระดับขึ้นสู่เลเวล S ได้แล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่า ในอีก 9 ปีนับจากปัจจุบัน หลงกันสามารถก้าวผ่านประตูธรณี ขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของมนุษย์!
ช่างเป็นชายที่ทรงพลัง แต่ตอนนี้เลเวล S ในอนาคตกำลังเข้าร่วมงานประลองลูกรักของพระเจ้าพร้อมกันกับเขา ฉินเฟิงเลยรู้สึกสนใจขึ้นมา
ขณะเดียวกัน หลงกันก็กำลังขบคิดเกี่ยวกับฉินเฟิง คิดจนสมองแทบระเบิด
“ฉัน … ฉันได้อันดับสอง?” หลงกันกวาดตามองรอบๆ แต่พบว่าไม่มีใครอยู่ที่นี่เลยนอกจากฉินเฟิง
หลงกันสมองอื้ออึง
“งั้นใครคืออันดับหนึ่ง?”
ผู้พิทักษ์หอคอยแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจในแววตา แต่ยังคงชี้มาทางฉินเฟิงและกล่าว “เขาคืออันดับหนึ่ง เป็นฉินเฟิงจากรัฐทะเลเหนือของภูมิภาคเหนือ!”