โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 562 - คนทรยศ
Ep.562 – คนทรยศ
ภายในงานเลี้ยง ฉินเฟิงก้าวขึ้นไปบนเวที ยืนอยู่เบื้องหน้าทุกคน ก้มลงมอง พบว่าแขกที่มาร่วมงานมีอย่างน้อยนับร้อยคน
เมืองหลวงมังกรใหญ่โตเป็นอย่างมาก หากให้เอ่ยอธิบายถึงผู้คนเบื้องหน้าเขา เกรงว่าส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้นำตระกูล กระทั่งเหล่าอาวุโสก็ยังมา
จำนวนของพวกเขา เป็นตัวแทนชั้นดีที่บ่งบอกถึงตัวตนทรงอำนาจในเมืองหลวงมังกร
‘ในบรรดาคนพวกนี้ น่าจะมีคนที่พร้อมร่วมมือกับฉันแค่ราวๆ 30 คนเท่านั้น ส่วนไอ้พวกที่ตามตื๊อฉันช่วงหลายวันที่ผ่านมา พวกมันจะไม่ได้อะไรเลย!’
ฉินเฟิงหัวเราะเยาะในใจ ตระกูลจำพวกหลังช่างสายตาคับแคบนัก พวกเขามองฉินเฟิง ทำตนราวเป็นหมาป่าโหย ทั้งๆที่ความเป็นจริง ผู้กุมอำนาจในมือคือฉินเฟิงต่างหาก
ตระกูลพวกนี้ ฉินเฟิงไม่เห็นอยู่ในสายตา อีกอย่างการแข่งขันในเมืองหลวงมังกรสูงมาก ไม่ช้าเดี๋ยวคนพวกนี้ก็จะถูกกำจัดไปเอง
“ผมกลับมาจากการสำรวจในครั้งนี้ ได้รับชิ้นส่วนเทคโนโลยีชั้นสูงกว่า 148 ชิ้น และวิธีฝึกฝนอบิลิตี้กว่า 13 เทคนิค ซึ่งสามารถนำไปเผยแพร่เพื่อให้ผู้อื่นเรียนรู้ได้ ดังนั้นในส่วนนี้ ผมจะขายให้กับพันธมิตรมนุษยชาติโดยตรง”
“สำหรับ 148 เทคโนโลยี เนื่องจากพลังของเทคโนโลยีแต่ละชิ้นแตกต่างกันไป ดังนั้นผมหวังว่า ทุกท่านที่อยากได้รับเทคโนโลยีไป จะมีความสามารถมากพอที่จะดูแลมัน!”
บังเกิดความโกลาหลขึ้นในฝูงชน แม้มีการคาดเดาเอาไว้ก่อนแล้วว่าฉินเฟิงอาจได้รับสมบัติกลับมาเป็นจำนวนมาก แต่พวกเขาไม่คาดคิดเลย ว่ามันจะมากขนาดนี้
ฉินเฟิงไม่สนใจคนเหล่านี้ เอ่ยปากต่อ “3 เทคโนโลยี ผมได้ส่งต่อแก่จ้าวพรมแดนซางแล้ว ที่เหลืออีก 145 เทคโนโลยี จะถูกแจกจ่ายไปในแต่ละตระกูลใหญ่ และกลุ่มที่ทรงอิทธิพล ทว่าที่กล่าวมา แต่ละตระกูล แต่ละกลุ่ม จะสามารถได้รับไปสูงสุดคนละ 5 เทคโนโลยีเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการวิจัยของแต่ละฝ่ายด้วย”
“ส่วนเงื่อนไขของผมก็เรียบง่าย ถ้าพวกคุณอยากได้เทคโนโลยีชิ้นไหน ก็แย่งกันประมูลมันไป ขณะเดียวกัน ผมจะไม่ถอนเงินที่ได้จากการประมูล แต่จะใช้มันเป็นทุนสนับสนุนในงานวิจัยเทคโนโลยีชิ้นนั้นแทน”
“และเนื่องจากผมเป็นผู้สนับสนุน ฉะนั้นเทคโนโลยีทุกชิ้น ผมจะต้องมีสิทธิเข้าร่วมงานวิจัย หรือนำมันออกมาใช้ได้เหมือนกับพวกคุณ ในกรณีที่งานวิจัยสามารถออกวางขาย ผมขอส่วนแบ่งกำไร20%”
“แน่นอน ผมเชื่อว่าในที่นี้ มีทั้งคนที่คิดดีและคิดร้าย ฉะนั้นท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ระหว่างที่ผมกับพวกคุณพัฒนางานวิจัยเทคโนโลยีร่วมกันเป็นเวลาสามปี ภายในสามปี ถ้าผมมีอันเป็นไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุสุดวิสัยหรือจงใจ เทคโนโลยีทั้งหมด จะถูกเผยแพร่ให้กับพันธมิตรองค์กรมืดทันที!”
คุกคามมาย่อมคุกคามกลับ ผู้คนภายในห้อง แสดงออกถึงสีหน้าที่ต่างกันไป หนึ่งในผู้นำตระกูลใหญ่กล่าว “ มิสเตอร์ฉิน คุณทำแบบนี้ เกรงว่าจะเป็นการเข้าทางคนบางกลุ่ม!”
เพราะหากเกิดกรณีที่ตระกูลใหญ่บางตระกูลไม่อาจชนะการประมูล แล้วหันไปร่วมมือกับพันธมิตรองค์กรมืด สังหารฉินเฟิง แบบนั้นไม่เท่ากับพวกมันได้รับผลประโยชน์ไปฟรีๆหรอกหรือ?
สีหน้าของฉินเฟิงสงบไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวว่า “เรื่องนั้นอาวุโสโปรดวางใจ เพราะหากพวกเขาคิดจะทำอะไร อย่างน้อยต้องไว้หน้าความลับที่ผมกุมร่วมกับหลายๆท่านในที่นี้เสียก่อน”
เมื่อประโยคนี้หลุดออกมา บางคนก็เริ่มเข้าใจถึงแผนการของฉินเฟิง
ฉินเฟิงในแง่ความแข็งแกร่ง ตอนนี้ยังถือว่าอ่อนแอ แต่ขณะเดียวกัน เขามีศักยภาพมากกว่าอ้ายโตวและรุ่นเยาว์คนอื่นๆ
ดังนั้นคิดใช้กลยุทธ์กุมความลับของเทคโนโลยีกับพวกตระกูลใหญ่ หรือกล่าวได้ว่ากุมความลับอันสำคัญยิ่งของเมืองหลวงมังกร ดังนั้นกลายเป็นบุคคลที่สมควรได้รับการคุ้มครองอย่างถึงที่สุด ต้องมิให้ถูกผู้ใดทำร้ายจนตัวตาย
ในกรณีนี้ ยังเท่ากับว่าฉินเฟิงมีทุนในการเจรจากับเมืองหลวงมังกรอีกด้วย!
หากทุกตระกูลใหญ่ร่วมมือกับฉินเฟิง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฉินเฟิงจะกลายเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด!
ทว่าขณะเดียวกัน ฉินเฟิงก็ตระหนักได้ว่าตระกูลเหล่านี้ไม่ต้องการให้เขาจับเสือมือเปล่าไปเรื่อยๆ ฉะนั้นยื่นข้อเสนอเรื่องระยะเวลาสามปี พร้อมข่มขู่ว่าจะปล่อยข้อมูลแก่องค์กรมืดเพื่อป้องกันตนเอง
ขณะเดียวกัน ตระกูลที่ไม่ได้รับเทคโนโลยี ต้องเริ่มคิดแล้วว่า หากสังหารฉินเฟิงในทันที พวกเขาคงแทบไม่ได้รับข้อมูลเทคโนโลยีใดๆ
เพราะเทคโนโลยีมิใช่สิ่งที่สามารถวิจัยจนได้ข้อสรุปได้ในทันที มันจำเป็นต้องใช้เวลาค้นคว้านานกว่าหนึ่งปี สองปี หรือสามปี ตามระยะเวลาที่ฉินเฟิงเสนอ
ขณะที่ความแข็งแกร่งของฉินเฟิง ไม่อาจคาดคำนวณตามหลักสามัญสำนึกได้ –ด้วยความเร็วในการยกระดับของเขา บางทีอาจใช้เวลาเพียงครึ่งปี เขาก็สามารถไปถึงเลเวล B ได้แล้ว ถึงเวลานั้นการรับมือกับเลเวล A ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!
ถึงเวลานั้น หากคิดลงมือจริงๆ ไม่เท่ากับจำเป็นต้องเรียกผู้ใช้พลังเลเวล S มาสังหารฉินเฟิงหรอกหรือ?
ฝูงชนจ้องมองมายังฉินเฟิง เงียบงันไปชั่วขณะหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความซับซ้อน
ข้อเรียกร้องนี่ มองยังไงก็เป็นแผนการอันแยบยล!
ส่วนเป้าหมายของแผนการ คือการยื้อเวลา!
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงไม่คิดยอมให้พวกเขามีเวลาตัดสินใจ เผยโฉมเทคโนโลยีทั้ง 145 ชิ้นออกมาโดยตรง สิ่งต่างๆเหล่านี้ แน่นอนได้รับการคัดกรองโดยฉินเฟิงแล้ว แม้ให้คุณ แต่ก็ไม่ให้คุณมากจนเกินไป อีกทั้งแต่ละชิ้นมีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันไป
สิ่งเหล่านี้แต่ละชิ้นไม่เหมือนกัน การใช้งานก็ย่อมแตกต่าง อีกอย่างแต่ละตระกูล แต่ละกลุ่มสามารถเลือกได้จำกัด ฉะนั้นต้องวิเคราะห์มันให้ดี
บางตระกูลที่ทรงอำนาจ เริ่มชั่งน้ำหนักในใจ ว่าโควต้าห้าชิ้นของตนเอง จะเอาอะไรดี
“ตอนนี้ ผมขอเริ่มการประมูลเทคโนโลยีชิ้นแรก!” ผู้ประมูลฉินเฟิง เริ่มเคาะค้อนลงโต๊ะ
บังเกิดความวุ่นวายขึ้นในห้องโถง เสียงเสนอราคาดังอึงอล แต่ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของฉินเฟิง
เขายืนกอดอกอยู่หลังเวที เฝ้ามองการแก่งแย่งของผู้คนในเมืองหลวงมังกร แต่มิได้เกิดความไม่พึงพอใจในสายตา
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เจ้าตัวมองไปยังอนาคตที่ไกลกว่า เรื่องเงินประมูลตอนนี้มันแค่เล็กน้อย
…
ภายในเมืองเฟิงหลี ช่วงหลายวันมานี้ ซูซิงฝูแสร้งทำหน้าทำตาหนักใจ เป็นกังวลตลอดเวลา ทั้งที่ในความเป็นจริง เขากินอิ่มนอนอุ่น หลับสบายไร้เรื่องกังวล
“โชคดีจริงๆ ที่คนพวกนี้ยังไม่รู้ข่าว รอท่านประธานกลับมาก่อนเถอะ แล้วจะได้เห็นดีกัน!”
ฉินเฟิงทำข้อตกลงกับตระกูลในเมืองหลวงมังกร นี่ถือเป็นข่าวใหญ่ก็จริง แต่ก็เป็นข่าวในหมู่ผู้แข็งแกร่งเช่นกัน มันไม่มีทางส่งมาถึงรัฐทะเลเหนือที่ทั้งห่างไกลและอ่อนแอ ยิ่งไปกว่านั้นภายใต้การจงใจปิดบังข่าวสาร คนเหล่านี้ย่อมไม่มีทางรู้สึกตัว
ในช่วงหลายวันมานี้ อาศัยสัญชาตญาณของนักธุรกิจ ซูซิงฝูรู้สึกว่าพวกทรยศน่าจะใกล้ลงมือแล้ว พายุกำลังใกล้เข้ามา
“ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด! แจ้งเตือนความผิดปกติ! ” ข้อความหนึ่งเด้งขึ้นอย่างฉับพลัน ซูซิงฝูที่กำลังเหม่อลอยสะดุ้ง ยึดหลังตรงจากเก้าอี้ มองไปยังหน้าจอ
ระบบของเมืองลอยฟ้า มีฟังก์ชั่นมากมายที่โลกภายนอกไม่รู้จัก ตัวอย่างเช่นเจ้าสิ่งนี้ที่ซูซิงฝูกำลังควบคุมอยู่ มันคือระบบตรวจจับความผิดปกติ สามารถช่วยสแกนภายในเมืองเฟิงหลี ตรวจสอบสนามแม่เหล็กของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้
เขาสามารถตรวจพบถึงสัญญาณเสียชีวิตถึง 3 ศพได้ในระยะเวลาสั้นๆ ทั้งๆที่ในช่วงเวลาที่ฉินเฟิงอยู่ เมืองเฟิงหลีไม่เคยเกิดการต่อสู้ขึ้นเลยแท้ๆ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ซูซิงฝูมองดู เพียงสองนาที กลับมีคนตายไปมากถึง 6 รายแล้ว
ซูซิงฝูระดมระบบตรวจสอบอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็พบตำแหน่ง ว่ามาจากคฤหาสน์ของวังเฉินแห่งหน่วยลาดตระเวนประจำเมืองเฟิงหลี
เมื่อเห็นภาพชายคนหนึ่งกำลังไล่สังหารอย่างป่าเถื่อน ดวงตาของซูซิงฝู พลันฟุ้งไปด้วยความโกรธทันที
“เจ้าคนทรยศ!”
ซูซิงฝูคำรามกราด
…
ภายในเมืองหลวงมังกร ข้างในโถงจัดเลี้ยง ฉินเฟิงประเมินพวกเขาต่ำไป ตระกูลเหล่านี้ล้วนฝังรากลึกในเมืองหลวงมังกร สุดท้ายคนที่ได้ร่วมมือกับฉินเฟิง มีมากถึง 47 กลุ่มและตระกูล
แน่นอน ยังมีทุนจากการประมูลที่ได้รับมามากถึง 20 ล้านล้าน แม้จะไม่สามารถใช้ได้ แต่นี่ทำให้ฉินเฟิงอารมณ์ดีมาก
แต่ทั้งหมดนี้นับเป็นปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น มันเทียบไม่ได้เลยกับการเก็บเกี่ยวครั้งก่อนของฉินเฟิง
“ขอบคุณทุกท่านที่มา หวังว่าวันนี้ ทุกท่านจะเพลิดเพลินไปกับอาหาร และเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ”
จากนั้น อาหารก็ถูกยกออกมาเสิร์ฟ แต่บางคนก็เลือกบอกลาทันทีด้วยสีหน้าหม่นหมอง โดยเฉพาะบางคนไม่คิดรักษามารยาท อย่างผู้นำตระกูลชู เขาสะบัดแขนเสื้อและเดินจากไปทันทีโดยไม่ร่ำลา