โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 587 - อาวุโสลึกลับ
“ไป๋หลี!!”
แม้หัวแทบจะระเบิด แต่ความสามารถในการรับรู้ของฉินเฟิงยังคงอยู่ ช่วงเวลานี้ เมื่อเห็นไป๋หลีสูญสิ้นสิ่งที่คอยปกป้องชั้นสุดท้าย เขาร้องอุทานออกมา
เจ้าตัวฝืนควบคุมร่างกาย โน้มตัวลง ย่ำเท้าออกไป ระเบิดความเร็วด้วยกำลังภายในทั้งหมดที่มี
ได้ยินแค่เพียงเสียงหวีดหวิว ก่อนทั้งสองกระโจนออกไปจากตำแหน่งเดิม
ตูมมมมม!
อำนาจทำลายอันน่าสะพรึง โถมลงบนตำแหน่งที่พวกตนเคยยืนอยู่เมื่อครู่ จากนั้นตามมาด้วยเสียงครืนนนน ภูเขาเริ่มสั่นสะเทือน ผืนดินคล้ายถูกเขย่า
ฉินเฟิงหันศีรษะกลับไป และพบว่าตำแหน่งเมื่อครู่ ปรากฏรอยประทับบุ๋มลึกลงไปกว่าสิบเมตร อีกทั้งโดยรอบยังปรากฏรอยแตกร่าว แผ่ขยายออกไปไกลกว่า 30 เมตร
หากการโจมตีดังกล่าวตกลงบนร่างของไป๋หลี ต่อให้เธอไม่ตาย ก็คงได้รับบาดเจ็บสาหัส
แค่หันไปมองมันแล้วจินตนาการตาม ก็ทำให้ฉินเฟิงอดรู้สึกกลัวขึ้นมาไม่ได้
แต่ในตอนนี้ ไม่มีเวลาให้เขาจินตนาการใดๆ เนื่องจากตนระดมพลังอย่างกะทันหัน ความเจ็บปวดในหัวเลยยิ่งทวีความรุนแรงมากกว่าเดิม!
ไป๋หลีช่วยพยุงฉินเฟิง และพบว่าในตอนนี้ มือของเธอเปื้อนไปด้วยเลือด แต่เด็กสาวก็ตระหนักดี ว่าปัจจุบันเธอทำได้แค่หนีเท่านั้น
ไป๋หลีสัมผัสได้ถึงสายตาของแซดที่ตกลงบนตัวเธอกับฉินเฟิง มันถูกตรึงเอาไว้อย่างแน่นหนา อย่างไรไม่มีทางถูกสลัดหลุด
หากอีกฝ่ายโจมตีอีกครั้ง คงไร้หนทางหลบเลี่ยง ใบหน้าของแซดในเวลานี้มืดทะมึน ยากที่จะมองเห็น
อย่างไรก็ตาม รอยแตกร้าวบนใบหน้าเขา ยิ่งมายิ่งขยับขยายไปเรื่อยๆ
“ฉินเฟิง ดูเหมือนว่า ไม่ว่ายังไงนายก็จะไม่ยอมมากับฉินจริงๆสินะ”
ฉินเฟิงข่มอาการปวดหัว หัวเราะเย็นชา “ใครจะยอมไปเป็นหนูทดลอง? สมองฉันไม่กลวงมีแต่น้ำหรอกนะ”
ระหว่างหลบหนี มือของฉินเฟิงได้ซุกเข้าไปในอกเสื้อ กุมแก่นสัตว์ร้ายเอาไว้ และเริ่มสูบกลืนพลังของมันอย่างบ้าคลั่ง เพื่อเร่งฟื้นฟูพลังสมาธิและกำลังภายในของตน
อีกด้านหนึ่ง ไป๋หลีคอยส่งเสียงผ่านจิตสำนึกเข้ามา “ที่รัก ฉันยังมีแก่นสัตว์ร้ายอยู่อีกส่วนหนึ่ง พวกมันเก็บอยู่ในพื้นที่มิติ คุณสามารถจุดชนวนพวกมันให้เกิดการระเบิดใส่แซดได้ ถึงการกระทำแบบนั้นจะไม่สร้างความเสียหายเท่ากับพลังงานจากเลเวล S แต่ตอนนี้เขาอ่อนแอลงมากแล้ว ฉันคิดว่าน่าจะได้ผล”
ด้วยเหตุนี้ แม้วิกฤตจะมาเคาะถึงหน้าประตูบ้าน แต่จิตใจของฉินเฟิงก็ยังไม่ท้อจนถึงที่สุด
ปลาจะตาย หรือว่าแหดักปลาจะขาดก่อน เวลานี้ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมีไพ่ในมือมากกว่ากันแล้ว
แซดกล่าว “น่าเสียดายจริงๆ ดูเหมือนว่าฉันคงต้องใช้ไม้แข็งกว่านี้ ถึงจะลากตัวนายกลับไปได้!”
สีหน้าของฉินเฟิงกับไป๋หลีกลายเป็นซีดเผือด
ไม้แข็ง?
จะบอกว่าที่ผ่านมานี่ใช้ไม้อ่อนงั้นหรอ?
ถ้าพวกมันเป็นไม้อ่อนจริงๆ ฉินเฟิงไม่รู้แล้วล่ะ ว่าเขาจะใช้กลยุทธ์อะไรงัดออกมาสู้อีก
ขณะเดียวกัน แซดเริ่มเหยียดมือออกไป เงาร่างของมังกรดำปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ประกบเข้ากับแขนของแซด แลคล้ายเกราะเหล็กอันน่าหวาดกลัว ดูเหมือนว่าการโจมตีอันรุนแรง กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกคราว
แต่ในตอนนั้นเอง ท้องฟ้าที่มืดมัวก็เริ่มถูกแทรกแซงโดยสีขาว เมฆสีดำหมึกเริ่มซีดลงทันใด กระทั่งร่างกายของฉินเฟิงที่ไม่ว่าจะน้ำหรือไฟก็มิอาจรุกราน ไม่สามารถส่งผลกระทบทางอุณหภูมิต่อตัวเขา ตอนนี้ยังบังเกิดความรู้สึกหนาวยะเยือก
ปรากฏเกล็ดหิมะโปรยปรายลงจากฟากฟ้า ถัดมา ตำแหน่งเพลิงบรรจบที่ฉินเฟิงเคยปลดปล่อยไว้ก่อนหน้านี้ เริ่มถูกแช่แข็งเพราะความหนาวเย็นดังกล่าว
เกล็ดหิมะอันประหลาดตาลอยผ่านมา เหนือยอดเขาหิมะใหญ่ ปรากฏร่างของคนๆหนึ่ง
ในการรับรู้ของฉินเฟิง เขาไม่พบเลยว่าอีกฝ่ายใช้วิธีอะไร ถึงบุกเข้ามาได้อย่างเงียบเชียบเช่นนี้
“แซด อาละวาดพอแล้ว! เด็กคนนี้เห็นอยู่ว่าไม่เต็มใจ ทำไมคุณถึงไม่ปล่อยเขาไปล่ะ”
เสียงชราภาพดังขึ้น
คนที่เอ่ยออกมา เป็นอาวุโสท่านหนึ่ง ผมทั้งหัวมีสีขาวโพลน สวมใส่เสื้อขนสัตว์ที่พบเห็นได้ทั่วไปในเมืองหนาว สองมือสอดลงในแขนเสื้ออีกข้าง ร่างกายดูแข็งแกร่งกำยำ แต่หลังค่อมลงเล็กน้อยตามอายุ
หากคุณพบเห็นคนๆนี้ในเมือง เขาก็คงเป็นแค่ชายแก่ใจดีทั่วๆไป
แต่ในที่นี้ กลับไม่มีใครกล้าแสดงท่าทีดูถูกเขา!
ฉินเฟิงกับไป๋หลีกำลังหลบหนีการไล่ล่าของแซด เลยไม่ทราบว่าตอนนี้ทั้งสองก้าวลึกเข้ามาในภูเขามากแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ในตอนที่หิมะถล่ม ธารลาวาปรากฏขึ้น และสัตว์ร้ายที่ไม่เกี่ยวข้องพลอยได้รับผลกระทบ อย่างน้อยทั้งหมดน่าจะเป็นเลเวล C ขึ้นไป (ความหมายคือเข้ามาลึกมากจริงๆ ลึกเกินกว่าพวกเจ้าเมืองจะเข้ามาถึงแถวๆนี้ได้)
อาวุโสคนนี้กล้าสนทนากับแซดอย่างเปิดเผย เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดา
“หูซาน!” แซดพอเห็นชายชรา อารมณ์เดือดดาลบ้าคลั่งคล้ายดูเย็นลงเล็งน้อย “นอนไม่หลับรึไง ถึงวิ่งแจ้นออกมายุ่งกับธุระของคนอื่น!”
“คุณมาทำเสียงดังหน้าบ้านฉัน แล้วฉันจะนอนหลับได้อย่างไร?” อาวุโสที่ชื่อหูซาน หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ
ฉินเฟิงเมื่อมองเห็นควันที่ลอยจากมัน สีหน้าแปรเปลี่ยนกลับกลาย
หลังก้าวเข้าสู่ยุคโลกาวินาศ ร่างกายมนุษย์ได้เกิดการวิวัฒนาการ ยกระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นความปิติที่ได้จากยาสูบก็ถดถอยลงมากเช่นกัน ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่า ปัจจุบันเจ้าสิ่งนี้ไม่มีผลิตออกมาวางจำหน่ายแล้ว
มันแพร่กระจายเฉพาะในหมู่ชนชั้นสูงเท่านั้น กลายเป็นความบันเทิงชนิดหนึ่ง
แต่บุหรี่ที่อาวุโสคนนี้หยิบขึ้นมา แม้ฉินเฟิงจะอยู่ห่างไกล แต่กลับสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอันน่าหลงใหลของมัน
“กลิ่นนี้น่าจะเกิดจากเมิ่งเฉียนเสี้ยน (ภวังค์นิรันดร์) อาวุโสคนนี้เป็นใครกันแน่?” ไส้บุหรี่นี้ทำมาจากสมุนไพรวิญญาณที่มีค่ามากๆ
“แซด แค่ฉันยอมให้คุณมาสร้างปัญหาในดินแดนของฉัน ก็ถือว่ามีน้ำใจมากแล้ว แต่ในบางเรื่อง ก็อย่าให้มันมากจนเกินไป”
“ฉันมากเกินไปยังไง? ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อใครกัน อย่าบอกนะว่าไม่รู้!” แซดเริ่มร้อนรนจนสังเกตเห็นได้ชัด อาวุโสที่เรียกว่าหูซานเคาะๆขี้บุหรี่ออก และกล่าวต่อว่า “อย่ามาพูดกับฉันเรื่องความฝันของคณ ฉันไม่อยากได้ยิน ฉันขอคนละครึ่งทาง ถือว่าลืมเลือนเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ไปเถอะ”
“อาศัยเหตุผลอะไรมาให้ฉันลืม?” แซดแสยะยิ้มหยัน
หูซานกล่าว “เพราะฉันคอยปกปักษ์ภูมิภาคเหนืออยู่ และเขาคือลูกรักของพระเจ้าจากภาคเหนือ!”
สีหน้าของแซดหม่นทะมึนลง
“คุณต้องการปกป้องเขาจริงๆ?”
“อืม!”
“ประเสริฐ ถ้าอยากให้เขารอดจากสิ่งมากมายที่ทำลงไป งั้นฉันขอแลกเปลี่ยนตัวเขากับอีกรัฐหนึ่ง!” แซดเผยยิ้มเย็นชา
หูซานถอนหายใจและกล่าว “ฉันสามารถมอบรัฐฮุยหลูแก่คุณได้ แต่จงจำไว้ให้ดี ว่าแค่เฉพาะในส่วนที่เป็นอาณาเขตขององค์กรมืดเท่านั้น อยากทำอะไรมันก็เรื่องของคุณ แต่อย่าคิดก้าวก่ายหรือเข้าไปวุ่นวายในอาณาเขตพันธมิตรมนุษย์!”
แซดหัวเราะเย็นชา ในแววตาของเขาคล้ายสื่อสารออกมาว่า : ถ้าฉันจะทำ แกห้ามได้หรอ!
จบเรื่องก็หันศีรษะมาอีกทาง จ้องมองมายังฉินเฟิงและไป๋หลีที่อยู่ในสภาพไร้ทางสู้ ฉีกยิ้มดุร้าย ฉากนี้เมื่อหลอมรวมเข้ากับรอยปริร้าวตามใบหน้า ก็ยิ่งชวนให้ผู้คนสยองขวัญ
“สามปี! ฉันให้เวลานายแค่สามปี!”
หมัดของฉินเฟิง กำแน่นขึ้น
สามปีงั้นหรอ?
เปลวเพลิงสว่างวาบในแววตาของฉินเฟิง
บางที นี่อาจจะเป็นการตัดสินใจผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตของแซด เพราะฉินเฟิงเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม ว่าไม่ต้องใช้เวลาถึงสามปี เขาจะเหนือกว่าแซดแน่นอน!
พลังงานระเบิดออกจากร่างกายของแซด คล้ายปรากฏเงาหางมังกรทมิฬขึ้นเบื้องหลังเขา จากนั้นก็ปรากฏเสียงหอนหวีดหวิว เจ้าตัวทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า และหายลับไปจากสายตา
วิกฤต ในที่สุดก็หายไป!
อย่างไรก็ตาม ไม่ไกลจากฉินเฟิง ยังมีอาวุโสลึกลับที่ไม่อาจคาดเดาได้อีกคนหนึ่ง
“ขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่!” ฉินเฟิงก้มหัวให้ ไม่ว่าสถานะของอีกฝ่ายจะเป็นใคร แต่ที่ฉินเฟิงรอดตายจากวันนี้มาได้ ต้องขอบคุณคนๆนี้
แม้อีกฝ่ายจะสามารถซื้อเวลาให้เขาได้แค่สามปีก็ตาม แต่ฉินเฟิง หลังจากที่ได้เผชิญกับศัตรูอันน่าหวาดกลัว มือยมทูตเอื้อมมาใกล้จนห่างแค่ปลายนิ้ว อย่างน้อยนี่ก็ช่วยเป็นแรงผลักดันให้เขาพัฒนาความแข็งแกร่งได้
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ เพราะเธอคือลูกรักของพระเจ้าในภูมิภาคตอนเหนือของฉัน ฮี่ ฮี่ แต่ว่านะเจ้าหนู เธอเองก็สุดยอดไม่เลวเลยเหมือนกัน นี่สินะที่เขาว่ากันว่าลูกวัวแรกเกิดมักไม่กลัวเสือ!”
หูซานกล่าวพลางวาดมือ พาหนะล่องเวหาที่มีรูปลักษณ์เรียบง่ายและธรรมดาลำหนึ่งปรากฏขึ้น
“มาเถอะ คิดส่งพระถัง ควรส่งให้ถึงชมพูทวีป ฉันจะพาเธอไปจากที่นี่เอง เพราะถ้าเธอไปเพียงลำพัง ถึงไม่ถูกแซดฆ่า แต่สุดท้ายคงถูกพวกสัตว์ร้ายฆ่าอยู่ดี”
ฉินเฟิงกับไป๋หลีก้าวขึ้นไปบนฮอลศึก เนื่องจากการต่อสู้ระหว่างฉินเฟิงกับแซด ส่งผลให้หิมะถล่มลงมา สัตว์ร้ายที่อยู่ไกลออกไป แม้ไม่ได้รับผลกระทบแต่กำลังตื่นตระหนก กลายเป็นคลุ้มคลั่ง
ตลอดทั้งขุนเขาตกอยู่ในอันตรายอย่างแท้จริง
อีกอย่างไป๋หลีก็ได้รับบาดเจ็บในเวลานี้ ต่อให้ไม่ร้ายแรงอะไร แต่ฉินเฟิงไม่อยากให้เธอออกหน้าลงมืออีกแล้ว
นอกจากนี้ … ฉินเฟิงมีคำถามมากมายอยู่เต็มอกที่จะถามอาวุโสตรงหน้าเขา
*อีก 3 ตอนน่าจะไม่เกิน 3 ทุ่ม