โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 104
“แน่นอนครับ, ถ้าไม่มีข้าคอยพิทักษ์แล้วท่านจะต้องแพ้ศึกครั้งนี้แน่. คิดดูสิครับตระกูลของท่านจะเทียบกับแครสซัสได้ยังไง? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแครสซัสมีตระกูลสุละคอยหนุนหลัง? ลองคิดดูสิครับว่ามันจะเป็นยังไงถ้าตระกูลท่านถูกตราหน้าความอัปยศ? ฉะนั้นค่าตัวของข้านั้นไม่ได้แพงเลย!”
เย่เทียนพูดอย่างสุขุม.
“เจ้าชนะได้แน่นะ?”
หลังจากวิคเตอร์ฟังคำพูดที่แสนมั่นใจของเย่เทียนความโกรธในใจของเขาก็มอดลงไปแล้วก็ถามเย่เทียนด้วยเสียงทุ้ม.
“ถ้าข้าไม่ชนะล่ะก็ ข้อตกลงทั้งหมดก็จะถูกยกเลิกครับ!”
เย่เทียนพูดอย่างมั่นใจ.
“ก็ได้! ข้าจะเชื่อใจท่าน, พรุ่งนี้ข้าจะจ้างท่านให้เป็นตัวแทนของตระกูลข้า. หากท่านช่วยพวกเราล้มแครสซัสและปกป้องชื่อเสียงของเวิร์นเนอร์ได้ ข้าจะยอมจ่ายให้ท่านทั้งหมดที่พูดมาตะกี้: ทาสสปาตั้น20คน, เหรียญทองครึ่งทาเลนตั้มและทำสัญญากับท่านว่าตระกูลของข้าจะสนับสนุนท่านโดยไม่มีข้อแม้และก็จะจ่ายให้ท่านครึ่งหนึ่งที่แครสซัสจ่ายให้ข้า”
วิคเตอร์สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วตัดสินใจ.
“ขอให้เราร่วมมือกันโดยราบรื่นนะครับ…..”
เย่เทียนหัวเราะด้วยความดีใจ, แน่นอนเงินของตระกูลนี้เอามาได้ง่ายๆโดยวิธีนี้จริงๆ.
งานนี้เขาต้องได้อย่างน้อยทองครึ่งทาเลนตั้มและทาสสปาตั้น20คนแน่.
รางวัลใหญ่ก็แน่นอนว่าคือตระกูลเวิร์นเนอร์จะสนับสนุนเขาโดยไม่มีข้อแม้ไปอีก5ปีหน้า.
เหตุนี้จากทั่วทั้งโรมก็จะมี5ตระกูลใหญ่ที่คอยยืนเคียงข้างเขา.
แม้ว่าจะมีแค่5ตระกูล แต่พวกเขาก็อาจจะสามารถดึงคนอื่นจากในสภามาเพิ่มได้ถ้าเย่เทียนเจอปัญหาเข้าจริงๆ.
ที่ภายนอกนั้นเย่เทียนดูเหมือนคนที่มีหน้ามีตาขึ้นมาโดยฉับพลันแต่อำนาจที่ไร้เทียมทานของเขานั้นก็ไม่ต่างจากชนชั้นสูงหน้าเก่าเลย.
“แล้วถ้าเจ้าทำไม่ได้ล่ะ?”
วิคเตอร์ถามเย่เทียนเบาๆ.
“อืม…..ท่านวิคเตอร์, ข้าขอพูดตรงๆเลยนะ! หากข้าช่วยตระกูลท่านไม่ได้งั้นแม้แต่พระเจ้าเองก็ช่วยท่านไม่ได้เช่นกัน! ความล้มเหลวของข้าคือจุดเริ่มต้นของจุดจบตระกูลท่าน. แปลว่าในสายตาข้าท่านคงไม่มีค่าพอที่จะร่วมมือด้วย! เข้าใจรึป่าวครับ?”
เย่เทียนเห็นวิคเตอร์ดูท่าไม่รู้สึกถึงความหนักหนาของเรื่องนี้เขาเลยเปลี่ยนท่าที่ไปทันทีเป็นหยิ่งยโสมากๆและจริงจังมากด้วย.
“ดังนั้นท่านควรจะภาวนาให้ข้าทำสำเร็จแล้วก็เลิกคิดว่าท่านจะได้อะไรจากข้าถ้าข้าพลาดดีกว่านะ! แล้วก็อย่าคิดด้วยว่าพอข้าช่วยสะสางเรื่องของท่านและช่วยท่านจากความอับอายได้แล้วท่านจะเขี่ยข้าทิ้งล่ะ! ข้านำท่านกลับมาบนดินได้ ข้าก็สามารถทำให้ท่านกลับไปตกนรกได้อีกเช่นกัน! ข้าสามารถช่วยให้ท่านกระทืบแครสซัสหรือจะช่วยแครสซัสทำลายท่านก็ได้! ฉะนั้นข้าคือคนเดียวที่จะช่วยท่านได้. ท่านไม่มีทางเลือกอื่น! หรือท่านจะอ้อนวอนพระเป็นเจ้าให้ช่วยก็ได้ถ้าท่านไม่เชื่อข้า!!”
เย่เทียนจ้องมาทางวิคเตอร์อย่างเย็นชาดูภาคภูมิเกินตัว. ณ ตอนนี้เขาดูราวกับว่าเป็นนักปราชญ์เลย ราวกับทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขาทั้งหมด.
วิคเตอร์รู้สึกหวาดกลัวและตะลึงกับเย่เทียนอยู่ตอนนี้.
สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าไม่ใช่เด็กน้อยที่มีหน้ามีตาโดยโชคแต่เป็นสัตว์ประหลาดที่น่าสยดสยอง.
“งั้นข้าจะทำตามที่เจ้าพูดแล้วกัน…..”
วิคเตอร์กลืนน้ำลายจากนั้นเสียงแหบๆก็ดังออกมาจากปากเขา เขาดูไม่เหยียดและไร้ความเคารพอีกต่อไป.
“เอาล่ะ เรามาคุยกันดีกว่าว่าพรุ่งนี้เราจะทำอะไรบ้างในศาล!”
เย่เทียนพูดเบาๆ.
…..
การสนทนากับตระกูลเวิร์นเนอร์นั้นยาวมาก, ตอนที่เย่เทียนออกจากบ้านพวกเขามามันก็บ่ายกว่าแล้ว, วิคเตอร์ส่งเขาอย่างสมเกียรติพร้อมเยินยอด้วย.
ไม่มีทาสคนใดในบ้านเวิร์นเนอร์รู้เลยว่าเย่เทียนทำอะไรกับเจ้านายพวกเขาบ้างจนเขามีท่าทีที่เปลี่ยนไปขนาดนี้ บ้างก็เดาว่าเย่เทียนวางยาเขาไม่ก็ล้างสมองไปแล้ว.
“ไดอาน่า, ไปที่บ้านฟิลิปแล้วเอาโฟบี้ไปด้วย. บอกเขาว่าข้าต้องการพบเขาเดี๋ยวนี้!”
หลังจากกลับมาบ้านเย่เทียนก็สั่งงานให้ไดอาน่า. ตอนนี้การปรองดองก็ได้ลงสัญญาเสร็จสิ้นแล้ว เย่เทียนจึงมีความคิดอยากจะเริ่มแผนเตรียมพร้อมยึดครองเหมืองและทำลายชื่อเสียงของสุละซะ. (พันธไมตรีตอนก่อนๆหลังจากนี้ผมขอใช้คำว่าปรองดองนะครับ)
ขอแค่ได้เหยียบย่ำสุละเท่านั้น เย่เทียนจึงจะสามารถนอนหลับสนิทได้.
ครึ่งสิงโตครึ่งจิ้งจอก, ทรราชสุละ.
ถ้าหมอนั่นได้อำนาจนั้นมาล่ะก็, เย่เทียนรู้ชะตาแล้วว่าคงไม่ได้ใช้ชีวิตดีๆอีกเป็นแน่.
“ค่ะเจ้านาย!”
ไดอาน่าตอบอย่างนอบน้อมจากนั้นเธอก็ไปตามหาโฟบี้แล้วขอให้เธอไปกับนางด้วย.
เย่เทียนอยากจะให้คนสร้างขวานยักษ์คมๆให้เธอจริงๆแต่เขาก็ไม่มีเวลาจะไปทำอย่างงั้น.
เย่เทียนอยากจะเปลี่ยนยักษ์สาวให้กลายเป็นนักรบที่ดุดันที่สุดจริงๆ.
ด้วยขนาดตัวและพละกำลังนั่นเธอคงฟันศัตรูหลายๆคนให้ขาดได้ภายในครั้งเดียว.
เย่เทียนตัดสินใจไปตามหาทาสนักรบหญิงสปาตั้นทั้งสองคน ตอนที่เขาโผล่มาข้างๆเฮเล็นและเลด้า พวกนางก็กำลังสู้กันอยู่ เสียงชักดาบดังมาแต่ไกล.
“ให้เราช่วยอะไรท่านคะเจ้านาย?.
เมื่อพวกเธอเห็นเย่เทียนก็เก็บดาบสั้นไปแล้วคำนับเย่เทียนอย่างนอบน้อม.
เนื่องจากการเคลื่อนไหวที่ดุดัน ร่างกายของพวกเธอก็เด้งขึ้นๆลงๆและเหงื่อก็ไหลลงไปที่ร่องภูเขาของพวกเธอ. มันดูมีเสน่ห์โคตรๆ.
“ข้ากำลังคิดวิธีการฝึกแบบพิเศษอยู่. ข้าอยากให้พวกเจ้าทั้งสองลองฝึกก่อนพอพวกเจ้าเข้าใจดีแล้วก็บอกข้าด้วยล่ะ! ข้าจะให้พวกเจ้าทั้งสองเป็นครูฝึกซึ่งพวกเจ้าจะมีหน้าที่คอยสอนกลยุทธ์พวกนี้ให้กับกองทหารหญิง!”
เย่เทียนเอาแปลนฝึกแบบพิเศษที่แลกจากระบบออกมาแล้วส่งให้พวกนางจากนั้นก็พูดเบาๆ.
มันไม่ใช่แปลนฝึกพิเศษจากอนาคตซะทีเดียวหรอก. แม้ว่ามันจะดูคล้ายแต่ระบบก็ได้ปรับเปลี่ยนมันให้เหมาะสมกับการทหารในยุคนี้.
เพราะยังไงพวกอาวุธกลก็คืออาวุธหลักที่ใช้ในอนาคตแต่ในยุคนี้มีแค่อาวุธเก่าๆเท่านั้น.
“กองกำลังพิเศษ?”
เฮเล็นและเลด้ารับแปลนมาแล้วถามอย่างด้วยความสงสัย.
“จริงๆแล้วก็มีกลุ่มนักรบแกร่งๆเหมือนสปาตั้นอยู่นะแต่แค่เชี่ยวชาญรอบด้านมากกว่า พวกเขาสามารถสู้บนบก, ทะเลและภูเขาได้. พวกเขายังเชี่ยวชาญอาวุธได้หลากหลายด้วย!”
เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้ม,เขาอ่านแปลนมาแล้วมันน่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ.
“แต่….เราไม่ค่อยเข้าใจมันนักค่ะ…”
เฮเล็นและเลด้าเปิดแปลนออกแล้วมองมันอย่างงงๆ.
“เจ้าอ่านไม่ออกรึ?”
เย่เทียนหมดคำจะพูด.
“ได้ค่ะแต่แค่นิดเดียว…”
เฮเล็นอายกว่ามาก.
“ถ้าจะเป็นทหารกองกำลังพิเศษ, เจ้าต้องรอบรู้ด้วย! ไดอาน่าไม่อยู่ที่นี่ซะด้วยสิตอนนี้ งั้นให้ข้าสอนเจ้าก่อนแล้วกัน…”
เย่เทียนส่ายหัวแล้วพูด.
พวกนางจะเป็นครูฝึกให้เย่เทียน พวกเธอจะอ่านไม่ออกได้ยังไง?
“ขอบพระคุณค่ะเจ้านาย….”
เลด้ากับเฮเล็นอายมากๆ พวกเธอเอาหัวซุกหน้าอกแต่เย่เทียนก็กลืนน้ำลายเบาๆ.
สปาตั้นหญิงนี่เหมือนเสือชีต้าร์จริงๆ. พวกนางดูยั่วยวนมาก!