โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 116
ตอนที่ 116 – ความเสื่อมโทรมของชนชั้นสูง!
“ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
ใช่แล้ว, เย่เทียนวางแผนหลอกแครสซัส.
เย่เทียนเดาไว้แล้วว่าแครสซัสคงจะหาวิธีป้องกันตัวเองแบบแสบๆแน่
แม้ว่าแผนหลอกล่อนี้จะดูหน้าไม่อายก็ตามแต่มันก็ได้ผลดีมากๆ ในยุคนี้ที่ความยุติธรรมไว้ใจไม่ได้คงไม่มีใครกล้าแย้งเขาแน่
เว้นซะแต่เฮร่าจะออกมาแย้งด้วยตัวเอง แต่ครั้งแรกของเฮร่าก็เป็นของเย่เทียนไปแล้ว จริงๆ เขาก็ไม่อยากจะพูดว่าแครสซัสนั้นไม่เคยร่วมรักกับเฮร่าหรอก เพราะนั่นจะเป็นการล่อเป้า ถ้าเขาทําเช่นนั้นไปก็แปลว่าเขารนหาที่ตายซะเอง
แต่เพราะเย่เทียนได้เปิดบริสุทธิ์ของเฮร่าเขาจึงทราบดีว่าเฮร่านั้นไม่มีปานเลย ฉะนั้นจากการล่อเป้าตัวเองก็กลายเป็นการถือไพ่เหนือกว่าแทน.
เฮร่าไม่มีปาน, นอกจากพ่อแม่เธอแล้ว เพื่อนทั้ง3ของเธอก็รู้ด้วย
แน่นอนว่าตัวละครสําคัญในเรื่องนี้คือเด็กผู้หญิงที่เป็นโรคทางตา ถ้าไม่มีนางล่ะก็แผนของเย่เทียนคงไม่สําเร็จเป็นแน่
ด้วยความหลักแหลมและเจ้าเล่ห์ของแครสซัส เขาคงจะเดาได้ว่าเย่เทียนจะทําอะไรและคงจะตอบว่า “เฮร่าไม่มีปาน” แหง.
ดังนั้นเย่เทียนจึงวางแผนหลอกเขายังไงล่ะ
เขาพบเด็กที่เป็นโรคทางตานั้นโดยบังเอิญและด้วยความที่นางประหม่ามากๆ ตานางก็จะกระตุกแบบหยุดไม่อยู่
เย่เทียนจ้างเธอไปเยอะมากเพื่อที่จะเอาตัวนางเข้ามาในห้องไต่สวนนี้ เพื่อให้แกล้งเล่นเป็นเพื่อนสนิทของเฮร่า, เขาขอเธอแค่อย่างเดียวคือให้ยืนนิ่งๆต่อหน้าแครสซัส แล้วไอออกมาเมื่อถึงจังหวะ
เมื่อเย่เทียนบีบให้เขาตอบว่า “ขวาหรือซ้าย” แครสซัสที่กําลังลนลานอยู่นั้นคงต้องเลือกซ้าย แน่นอน เพราะ “เพื่อนสนิท” ของนางเป็นคนส่งคําใบ้ให้ยังไงล่ะ
จริงๆแล้วต่อให้เย่เทียนไม่ได้พบเด็กคนนี้ล่ะก็ เขาก็คงจะไปหาเด็กคนอื่นให้มาเล่น แทนแล้วให้เธอกระพริบตาใส่แครสซัส. แต่ถ้าเป็นงั้นแผนก็คงจะไม่สมบูรณ์แบบนัก เพราะแครสชัสสามารถรู้ได้ง่ายๆเลยว่าเป็นความรู้สึกจริงๆหรือแค่แกล้งทํา
อาจพูดได้เลยว่าการที่ได้พบกับเด็กผู้หญิงที่เป็นโรคตาเข้าทําให้แผนของเย่เทียนสมบูรณ์แบบไม่ว่าแครสซัสจะฉลาดแค่ไหน เขาก็จะติดกับที่เย่เทียนวางไว้นี้อย่างแน่นอน
“ความจริงได้กระจ่างแล้ว ท่านผู้พิพากษาเทเรโดและคณะลูกขุนทุกท่าน, ข้าคิดว่าพวกท่านควรจะเริ่มตัดสินแครสซัสได้แล้วนะครับ! ตามกฏที่8ของ “กฏ12โต๊ะ” อันยิ่งใหญ่ของสาธารณรัฐโรมัน, บรรทัดที่1กล่าวว่า ผู้ใดหมิ่นประมาทชนชั้นสูงหรือผู้อื่นด้วยคําพูดหรือบทเพลงที่มีเจตนาหมิ่นผู้อื่นนั้นจะถูกตัดสินประหารชีวิต!”
เย่เทียนพูดด้วยเสียงทุ่มไปทางเทเรโดและคณะลูกขุนทุกคน
“ประหาร!”
วิคเตอร์ลุกขึ้นทันทีแล้วตะโกนออกมาอย่างดังพร้อมสีหน้าที่ตื่นเต้นมากๆ ในที่สุดเขาก็มีโอกาสจะได้ระบายความเคียดแค้นในใจซักที
“ประหาร!”
“ประหาร!”
กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นมาแล้วตะโกนเสียงดัง, พวกเขาคือคนจากตระกูลที่เป็นพันธมิตรกับตระกูลเวิร์นเนอร์, แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยปากเลยแม้แต่ตระกูลของแอนดรูว์ด้วย
สถานการณ์นี้ทําให้เยู่เทียนส่ายหัวแล้วถอนหายใจออกมายาวๆเลย! เขารู้แล้วว่ารอบนี้ การทําลายแครสซัสมันคงจะเป็นไปไม่ได้เสียแล้วทุจริต
กลุ่มชนชั้นสูงแทบจะทั้งหมดในสาธารณรัฐโรมันนั้นได้เสื่อมโทรมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กฏ12โต๊ะนั้นกลายเป็นเพียงแค่ลมปากและสิ่งที่ทําให้ชาวเมืองกลัวเท่านั้นแล้ว
กฎหมายร้ายแรงแบบนี้ใช้กับพวกชนชั้นสูงไม่ได้ผลหรอก, ชนชั้นสูงอํานาจล้นแบบแครสซัสก็คงไม่ต้องพูดถึงเลย.
ถ้าวันนี้ตัดสินโทษแล้ว, ในวันหน้า กฏ12โต๊ธก็จะมีผลกับชนชั้นสูงทุกคน, ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าลงโทษแครสชัสตามกฎ 12 โต๊ะ
ในหมู่ชนชั้นสูงพวกนี้มีใครบ้างล่ะที่ไม่เคยทําผิด? ใครบ้างล่ะที่ไม่เคยละเมิดกฎ 12 โต๊ะ? ไม่ใช่แค่ที่ผ่านมาเท่านั้นแต่ในอนาคตก็ด้วย. พวกเขาน่ะอยู่เหนือกฏ12โต๊ะตลอดเลยต่างหาก
ถ้ากฎ 12 โต๊ะยังมีอํานาจเหนือพวกเขาอยู่ล่ะก็ พวกเขาจะยังมีชีวิตสุขสบายได้ยังไงกันล่ะ?
ถ้าวันนี้พวกเขาประหารแครสซัสจริงๆ ใครจะรู้ล่ะว่าพวกเขาจะเป็นรายต่อไปรึป่าว?
ดังนั้นคณะลูกขุนจึงไม่ประหารแครสซัสในวันนี้
พอเห็นทุกคนนั่งเงียบ, เย่เทียนก็รู้ทันทีว่าไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน ไม่ว่าเขาจะกดดันมากเพียงใด, มันก็เปล่าประโยชน์, กลับกัน, เขาก็จะกลายเป็นคนที่คอยขัดคอชนชั้นสูงและสมาชิกสภาทุกคนแทน
การขัดคอคนพวกนี้ไม่ใช่เรื่องดีเลย มันจะทําให้ใช้ชีวิตในโรมยากขึ้น
ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรอีก แต่กลับส่งยิ้มแล้วทําความเคารพไปทางเทเรโดและแครสซัสจากนั้นก็คํานับให้ชนชั้นสูงทุกคนแล้วออกจากที่แห่งนี้ไปด้วยท่าทีเหมือนคนมีชัย
วันนี้เขาชนะแล้ว! เขาโยนแครสซัสลงนรกด้วยความยิ่งใหญ่ของเขาและแครสซัสเองก็จะไม่สามารถเอาชื่อเสียงหรือสติสตางกลับมาได้พักนึงเลย
หลังจากวันนี้ไปตระกูลเวิร์นเนอร์ก็จะกลายเป็นพันธมิตรที่พึ่งพาได้ของเย่เทียน
นอกจากนั้นแล้ว เหรียญทองครึ่งทาเลนตั้มกับนักรบสปาต้น20คนก็จะมาอยู่ในกํามือของเขาในไม่ช้าแน่
แม้แครสซัสจะไม่ถูกประหารชีวิต แต่เขาก็ยังต้องชําระค่าทําขวัญให้ตระกูลเวิร์นเนอร์เป็นจํานวนมากและเย่เทียนก็จะได้ครึ่งนึงด้วย.
เขาเสียดายอย่างเดียวคือแครสซัสไม่ถูกประหารนี่สิ แต่นั่นมันเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา สิ่งที่เขาทําได้คือพยายามสุดความสามารถแค่นั้นพอ.
ดวงตาของเย่เทียนลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง
เย่เทียนรู้สึกเหมือนว่าเขาอยู่จุดสูงสุดบนโลกใบนี้เลย, ด้วยทรัพย์สมบัติที่สั่งสมมาและแรงหนุนจากตระกูลใหญ่5ตระกูล, เขาจะไม่มีวันถูกใครข่มเหงอีกต่อไป
บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่เขาจะสร้างโคลอสเซียมในยุคนี้ก่อนเวลาอันควรแล้ว!
เย่เทียนมีแผนและโปรเจ็คมากมายที่สามารถทําได้ตอนนี้ เป้าหมายต่อไปของเขาคือการหาเงินให้ได้มากๆ
ถ้าไม่มีเงิน เขาจะเลี้ยงทาสเยอะๆได้ยังไงล่ะ?
“ท่านลอร์ดคะ…ข้าควรทําอย่างไรต่อดี?”
เย่เทียนเพิ่งเดินออกจากศาลไป, พร้อมกับเด็กผู้หญิงที่เป็นโรคตาตามมาติดๆ. นางถามเย่เทียนและดูเหมือนว่าจะร้องไห้ออกมาทุกเมื่อ, พร้อมกับตาที่กระพริบรัวๆ
ก่อนจะเริ่มการไต่สวน เย่เทียนจ้างเธอไปเยอะมากและขอให้เธอช่วยอย่างเดียวโดยที่เธอไม่ต้องทําอะไรเลย แค่ตามเขาเข้าศาลไปแล้วยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ต้องพูดแค่ยืนเฉยๆพอ.
แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าเธอจะไปทําให้ชนชั้นสูงมากอํานาจอย่างแครสซัสเกลียดขี้หน้าเข้า?
ถ้าแครสซัสแค้นนางจริงๆล่ะก็, นางก็ไม่รู้ว่าต้องทําอย่างไรแล้ว ดังนั้นเธอจึงรีบวิ่งตามเย่เทียนออกมาตอนที่เห็นเขาเดินออก
“วินนิค, เจ้าอย่าคิดมากไปเลย. วันหลังเจ้าจะมาทํางานที่บ้านข้าก็ได้, ข้าจะให้ค่าจ้างเจ้าอย่างดี!”
เย่เทียนยิ้ม, วินนิคเป็นแค่ลูกสาวของตระกูลสามัญชนธรรมดาๆ มันเป็นเรื่องปกติที่นางจะกลัวหลองหลอกแครสซัสเข้า
เนื่องจากเธอทํางานให้เขาได้อย่างดี, เย่เทียนจึงอยากตอบแทนด้วยการปกป้องเธอ, เพราะยังไงตอนแรกเขาก็ไม่ได้บอกเธอว่าเธอต้องไปหลอกแครสซัส, ไม่งั้นแล้วเธอคงไม่กล้าช่วยเขาจริงมั้ย?
ดูจากความโหดร้ายและความบ้าของแครสซัสมันแล้ว เขาคงจะพยายามหาทางแก้แค้นทุกคนที่กล้าหลอกเขาแน่
ด้วยความสามารถของหมอนั่นแล้ว แค่พูดคําเดียวออกจากปาก, วินนิคคงอยู่ไม่ถึงพรุ่งนี้แน่นอน