โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 50
แม็กซ์ ออลเรดเป็นเศรษฐีที่เป็นที่รู้จักดี.
เขาเคยเป็นอัศวินผู้ยิ่งใหญ่มาก่อนและมีความคิดด้านการค้าขายที่เยี่ยมยอดมาก. ด้วยสิทธิ์ที่จะสามารถขายทาสที่เขาจับได้ในสงคราม, เขาจึงสามารถหาเงินก้อนแรกมาได้อย่างง่ายดาย.
ด้วยเงินก้อนนี้และสติปัญญาของเขา เขาจึงสั่งสมความมั่งคั่งขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว. และตอนนี้เขากำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นชนชั้นสูง.
ถึงแม้ว่าเขาอาจจะไม่สามารถเป็นได้ แต่อย่างน้อยเขาก็อยากให้ทายาทของตัวเองเป็น.
และไพ่ตายของเขาก็คือทรัพย์ของเขาและลูกสาวแสนสวยของเขานั่นเอง.
ณ ตอนนี้เป้าหมายของเขาคือท่านชายซีซาร์แห่งตระกูลจูเลียส.
บ้านของแม็กซ์ ออลเรดนั้นค่อนข้างใหญ่โตและหรูหรา. ถึงแม้มันจะเทียบไม่ได้กับของพวกชนชั้นสูง แต่มันก็ยังดูดีกว่าบ้านของเศรษฐีทั่วๆไป.
“นายท่าน, ให้ข้าช่วยอะไรไหมครับ?”
เมื่อเย่เทียนมาที่หน้าประตูของบ้านออลเรด ทาสชราผู้หนึ่งก็รีบเข้ามาหาเขาแล้วถามด้วยความเคารพ.
นั่นเป็นเพราะชุดอันหรูหราของเย่เทียนทำให้ทาสชราผู้นี้คิดว่าเขาคือแขกผู้มีเกียรติตั้งแต่แรกเห็นเลย.
“อืม. ช่วยฝากบอกเจ้านายของเจ้าด้วยว่า ซาตาน เย่เทียนอยากจะพบเขา!”
เย่เทียนยิ้มและพูดอย่างนิ่มนวล. ตอนนี้ ทุกๆการเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยความสง่างามเพราะค่าเสน่ห์ที่สูงมากๆของเขา.
“ข้ายินดีที่ได้รับใช้ท่านครับ, นายท่านซาตาน….”
ทาสชราตอบอย่างเคารพ. ช่างเป็นชนชั้นสูงหนุ่มที่หายากนัก, เปี่ยมด้วยความสง่างาม ไม่มีความยโสเลยแม้แต่น้อย!!!!
“กรุ่กๆๆๆๆ…”
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงม้าดังมา, เย่เทียนหันไปมองแล้วก็ประหลาดใจเล็กน้อย – มันคือแครสซัส! แครสซัสเองก็เห็นเย่เทียนและประหลาดใจหน่อยๆอยู่เหมือนกัน, เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเย่เทียนจะมาถึงก่อนเขา.
“ความพ่ายแพ้เมื่อคืนทำให้หมอนี่ใจไม่นิ่งแล้วสินะ?”
เย่เทียนคิดในใจ.
“ลอร์ดแครสซัส, ช่างบังเอิญจริงๆ! พระเจ้าทรงลิขิตหรือนี่?”
เย่เทียนยิ้มอย่างดีใจและทักทายแครสซัสด้วยมารยาทที่อบอุ่น.
“ข้าก็ว่างั้น มิฉะนั้นแล้ว เราคงไม่ชะตาต้องกันขนาดนี้!”
แครสซัสหัวเราะตอบเย่เทียนและดูร่าเริงมากๆด้วย.
แต่เขากลับเกลียดรอยยิ้มแบบนี้ของเย่เทียน เพราะเขารู้ดีว่ารอยยิ้มบนหน้าเย่เทียนนี้มันน่ากลัวและร้ายกาจขนาดไหน.
“ข้าว่าเราควรสรรเสริญพระเป็นเจ้า!”
เย่เทียนพูดอย่างสุภาพ.
“ใช่ ข้าก็ว่าอย่างงั้น, เป็นเกียรติจริงๆ…”
แครสซัสตอบด้วยรอยยิ้ม.
ทั้งสองคนนั้นรู้อยู่แก่ใจดี, ไม่มีใครกล้าพูดถึงเรื่องเมื่อคืนเลย! แต่ขณะเดียวกัน, พวกเขาเองก็ระแวงกันและกันมาก.
“ลอร์ดซาตาน, ข้าไม่คิดเลยว่า ท่านจะอดทนเรื่องที่ดินพื้นนั้นไม่ไหวน่ะ?”
แครสซัสถามเย่เทียนด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์.
“ท่านแครสซัสผู้สง่างาม! จริงๆนะ ที่ท่านมาที่นี่ก็ทำให้ข้าตกใจเช่นกัน. ตอนแรกข้าคิดว่าท่านจะแสดงสติปัญญาอันสุดยอดหลังข้าลงมือซะอีก!!!”
เย่เทียนส่ายหัวแล้วพูดช้าๆ.
“ว่าแต่ ข้าอยากทราบว่าไพ่ตายของท่านคืออะไรล่ะรอบนี้?”
แครสซัสหรี่ตาลงเล็กน้อยและถามเย่เทียนด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์.
“ท่านลอร์ด, เพราะการมาของท่าน ข้าจำเป็นต้องวางเงินให้เยอะขึ้น. ข้าคิดได้มั้ยว่าท่านกำลังเอาเกลือสาดใส่แผลข้าอยู่?”
เย่เทียนหรี่ตาลงเล็กน้อยเช่นกันและตอบอย่างสุภาพ.
“ข้าขออภัยอย่างสุดซึ้งที่ทำให้ท่านลำบากใจโดยไม่ได้ตั้งใจ. แต่ว่านะ ทางนี้เองก็ลำบากใจเช่นกัน ข้าไม่คิดว่าท่านจะให้ค่าที่ดินนั่นมากขนาดนี้….”
แครสซัสยิ้มและได้ระบายความอัดอั้นในใจไปเล็กน้อย. อย่างน้อยเขาก็ทำให้เย่เทียนลำบากใจขึ้นนิดนึง.
“เหะ เหะ…”
เย่เทียนหัวเราะและไม่พูดอะไรต่อ. เพราะยังไงวันนึงเจ้าหมอนี่ก็ได้ร้องไห้แน่. เย่เทียนคิดในใจ.
“ลอร์ดแครสซัส, ลอร์ดซาตานครับ! วันนี้เทพธิดาแห่งโชคได้สาดประกายแสงของท่านมาที่บ้านข้าแน่. ไม่เช่นนั้นแล้ว ข้าคงไม่รู้ว่าต้องทำยังไงให้ท่านทั้งสองคนมาที่นี่พร้อมกันได้…”
ชายวัยกลางคนดูท่าทางร่ำรวยวิ่งออกมาจากประตูด้วยความรีบร้อน. ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มและยินดีและตกใจซะมากกว่า.
คนหนึ่งก็เป็นชนชั้นสูงหน้าใหม่ที่ได้รับความช่วยเหลือและแรงสนับสนุนจากตระกูลจูเลียส, อีกคนก็เป็นชนชั้นสูงหน้าเก่า. พวกเขามาที่บ้านนี้พร้อมๆกัน ยิ่งแม็กซ์คิดเขาก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากกว่าตกใจซะอีก.
“ท่านแม็กซ์, ข้าก็คิดเช่นนั้นแหละ. เมื่อคืนนี้ข้าได้รับคำแนะนำจากเทพธิดาแห่งโชคมา, วันนี้ข้าเลยมาที่นี่ด้วยเรื่องท่านหญิงออเรเลียน่ะ เพราะข้าได้ยินมาว่าท่านอยากให้ลูกสาวท่านแต่งกับลูกศิษย์ของข้า, ซีซาร์ใช่รึป่าว?”
เย่เทียนเปิดปากก่อนแครสซัส.
เขาเผยไพ่ตายของตัวเองออกมาทันที, มันทำให้ทั้งแม็กซ์และแครสซัสอึ้งกับที่ไปเลย.
เย่เทียนไม่พูดเรื่องที่เขาอยากได้ที่ดินของแม็กซ์แต่กลับเปิดเผยสถานะอาจารย์ของซีซ่าร์ของเขา และยื่นข้อเสนอว่าเขาจะแนะนำแม็กซ์ให้กับท่านหญิงออเรเลียและซีซาร์.
“เวรเอ้ย!”
แครสซัสไม่คิดเลยว่าเย่เทียนจะเข้าเรื่องเร็วและสกัดเขาทุกทางแบบนี้.
แม็กซ์อยากได้อะไรที่สุดล่ะตอนนี้?
ความมั่งคั่ง?
แม็กซ์ได้สั่งสมความมั่งคั่งมาพอแล้วและการขายที่ดินก็ไม่ได้ให้กำไรเขามากมายอะไรหรอก.
ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการที่สุดคือให้ลูกสาวแต่งกับตระกูลจูเลียสและเบิกทางสู่ชนชั้นสูงต่างหาก.
คำพูดของเย่เทียนนั้นตรงเป้ามากๆและมันอัดจุดสำคัญของแครสซัสไปเต็มๆ.
แครสซัสนั้นเฉลียวฉลาดมาก เขาเข้าใจความหมายที่เย่เทียนพูดออกมาทันที. ดังนั้นเขาเลยเกือบจะกระอั่กเพราะความโกรธแค้น.
ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!! นี่แหละคือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของเรื่อง หมาจิ้งจอกหลอกใช้พลังของเสือล่ะ!
แต่มันคือระเบิดลูกใหญ่สำหรับแครสซัสเลย!
เพราะเย่เทียนนอกจากจะหลอกใช้พลังของ’เสือ’ แล้วยังจับจุดสำคัญของแม็กซ์ได้อีกด้วย!
รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่เทียนยิ่งสดใสกว่าเดิมอีก โดยเฉพาะตอนที่เขาเห็นหน้าตาบูดบึ้งของแครสซัส. เขามีความสุขมากๆ.
ตอนแรกถ้าไม่ใช่เพราะแครสซัส เขาก็คงไม่ต้องทำเรื่องให้ยากแล้วก็แค่แสดงสถานะชนชั้นสูงไป, จ่ายราคาสมน้ำสมเนื้อให้แม็กซ์ แค่นี้เขาก็ขายที่ให้แล้ว.
แต่แครสซัสไม่เพียงแต่เข้ามาก้าวก่ายเท่านั้น เขายังหมายหัวเย่เทียนอีกด้วย. ถ้าเขาไม่ยืมชื่อของซีซาร์กับออเรเลียมาจับจุดแม็กซ์แล้วล่ะก็ แม็กซ์ก็คงเลือกแครสซัสแน่ๆ.
เย่เทียนเองก็รู้ว่าเขาทำได้แค่หน่อยเดียวเท่านั้น. เขาพาแม็กซ์ไปแนะนำกับออเรเลียและซีซาร์แน่ เพียงแต่ว่าแม็กซ์จะสมหวังตัวเองได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาล้วนๆ.
เย่เทียนรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่ๆ เพราะออเรเลียนั้นแตกต่างจากพ่อของซีซาร์. ในประวัติศาสตร์นั้น ไม่รู้ว่าพ่อของซีซาร์ไปกินอะไรผิดมา เขาให้ลูกชายตัวเองแต่งกับลูกสาวของเศรษฐีที่ไหนไม่รู้ที่ไม่มีเบื้องหลังทางการเมืองเลย.
ออเรเลียไม่ยอมปล่อยให้ซีซาร์เดินทางนั้นแน่ๆ. ดูจากการกระทำของเธอแล้ว เธอคงปูทางด้านการเมืองที่ดีให้ซีซาร์ไว้แล้ว.