โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 52
“เจ้านายผู้สูงศักดิ์ของข้า ท่านกลับมาแล้ว…”
ทันทีที่เขากลับมาถึงบ้าน, เด็กสาวทั้งสองคน, เดย์ซี่และดินน่าก็รีบเข้ามาหาเย่เทียนและพูดกับเขาด้วยความกังวล.
“เกิดอะไรขึ้น?”
ตาของเย่เทียนหรี่ลงเล็กน้อย, แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นเล็กน้อย “มีเจ้าโง่ที่ไหนกล้ามาก่อปัญหาอีกหรอ?”
“เจ้านายคะ, ท่านหญิงผู้ทรงเกียรติออเรเลียและลูกชายซีซาร์มาที่บ้านท่านค่ะ. ท่านแม่ของเราและแองเจล่ากำลังต้อนรับพวกเขาอยู่. พระเจ้าช่วย, ชนชั้นสูงยิ่งใหญ่แบบนั้นมาที่บ้านเราจริงๆหรอ…”
เดย์ซี่ตื่นเต้นมากถึงขนาดพูดรัวๆแทบจะไม่รู้เรื่องเลย.
“เอ่อ….พวกเขาก็แค่ชนชั้นสูงระดับท้อปแค่นั้นเอง. ไม่ใช่เรื่องใหญ่ซะหน่อย!, ซูซานตัวน้อยจ๊ะ เมื่อคืนเจ้าหลับสนิทดีหรือป่าว?”
เย่เทียนอึ้งไปพักหนึ่งแล้วก็ยิ้มพร้อมกับหยิกแก้มน้อยๆของซูซานที่กำลังวิ่งมาหา เขาคิดว่า เกิดอะไรขึ้นอีกละเนี่ย.
“รีบไปพบท่านหญิงออเรเลียกันเถอะ…..”
เย่เทียนพูดพร้อมกับยิ้มแล้วเดินไปด้านหน้า. รูปร่างอันสง่างามทำให้ดวงตาของเด็กผู้หญิงทั้งสามคนเต็มไปด้วยความรักใคร่.
หลังจากเข้ามาในห้องรับแขกแล้ว เย่เทียนก็เห็นออเรเลียกับซีซาร์กำลังนั่งอยู่ตรงเก้าอี้แขกและกินผลไม้กับดื่มไวน์แดง.
ออเรเลียใส่ชุดเดรสสีม่วงวันนี้, คอขาวๆดุดหิมะก็โชวให้เห็น. เธอช่างดูสง่างามและสูงส่ง.
อีกด้านหนึ่ง ไดอาน่ากับแองเจล่ายืนอยู่เงียบๆ.
“ข้ามีความยินดีที่ได้พบท่านอีกครั้ง, ท่านหญิงออเรเลียผู้สูงส่งและงดงาม. พูดตรงๆเลยว่า ข้าอยากตายในอ้อมแขนของท่านมาก….”
หน้าของเย่เทียนมีรอยยิ้มดุจดังพระอาทิตย์อยู่ เขาชมออเรเลียด้วยมุกเสร่อๆ.
“…..”
พอออเรเลียเห็นเย่เทียน เธอก็เหม่อไปพักหนึ่งเลย. เพราะเธอพบว่าเย่เทียนดูหล่อขึ้น, สูงและแข็งแกร่งมาก! และเขาดูเหมือนพระอาทิตย์เฉิดฉาย ที่ทำให้ทุกอย่างรอบๆเขาดูราวกับสุริยุปราคาและดึงดูดสายตาของเธอมากๆ.
และมีบางอย่างที่ลึกลับในตัวเขาที่มันดึงดูดเธอและทำให้เธออยากค้นหาต่อไปอีก.
พอเธอได้ยินมุกเสร่อๆของเย่เทียน ร่างกายเธอกลับสั่นขึ้นทันทีราวกับมีน้ำอุ่นๆอยากจะทะลักออกมา!
นี่คือผลจากการที่ค่าเสน่ห์ของเขาขึ้นมาถึง100แต้ม. 100แต้มนั้นไม่ได้แปลว่าสมบูรณ์แบบแต่มันคือขีดจำกัดเฉยๆ. ถึงอย่างนั้นเมื่อเย่เทียนหว่านเสน่ห์ออกมา เขาก็ยังดูเป็นที่น่าจับตาของพวกสาวๆและเด็กผู้หญิง.
“บ้าเอ๊ย! นี่วิญญาณร้ายกำลังล่อลวงตัวเรารึ?”
เมื่อเย่เทียนเดินเข้ามาหาเธอ ตาของออเรเลียก็มีความรู้สึกหลงใหลแว่บขึ้นมา แต่นางก็ตั้งสติได้ทันควันและอดตำหนิตัวเองไม่ได้ และความรู้สึกสูญเสียก็เกิดขึ้นในใจของเธอเช่นกัน.
“ซาตาน, ช่วงนี้ข้ากำลังยุ่งกับเรื่องที่จะช่วยให้เจ้าเป็นชนชั้นสูงอย่างเร็วที่สุดอยู่. แล้วดูเจ้าสิ? เจ้าไม่เพียงแต่ไม่มาตามที่เรานัดหมายกันไว้ก่อนหน้านี้ แถมยังไม่แยแสเรื่องคู่หมั้นของเจ้าเลยแม้แต่นิดเดียวด้วย. พระเจ้า, ข้าล่ะสงสัยตัวเองจริงๆที่คิดผิดหรือคิดถูกกันนะที่เลือกลูกเขยไม่มีความรับผิดชอบเยี่ยงเจ้า….”
ออเรเลียบ่น แต่ความโมโหในน้ำเสียงของเธอกลับมีความขมขื่นซ่อนอยู่.
“ท่านหญิงออเรเลียครับ, การโมโหนั้นคือศัตรูตัวฉกาจของสตรีทั้งหลายนะครับ. ข้าเองก็ยุ่งมากๆช่วงไม่กี่วันมานี้. เพื่อที่จะแสดงคำขอโทษ ข้าจะทำอาหารให้ท่านทานเป็นการส่วนตัวในมื้อเที่ยงนี้เอง. ข้าหวังว่าอาหารที่ข้าทำจะช่วยบรรเทาความโกรธของท่านได้บ้าง…..”
เย่เทียนยิ้ม, เขาไม่กล้าทำให้ออเรเลียไม่พอใจ ณ ตอนนี้เลย. ไม่เพียงแค่นางห่วงใยตัวเขาและทำทุกอย่างเพื่อเขาในช่วงหลายวันนี้เท่านั้น, ชื่อของ’ตระกูลจูเลียส’เองก็มีประโยชน์มากๆ. ก่อนที่เขาจะเติบโตเป็นใหญ่ได้ เขาต้องเลียขาอวบๆของเธอให้ดีๆ.
“น่าประหลาดนัก, ท่านทำอาหารเป็นด้วยรึ?”
ออเรเลียประหลาดใจมาก และความสงสัยของเธอก็ตื่นขึ้นทันที.
มันไม่แปลกหรอกถ้าผู้ชายจะทำอาหารเป็นในสาธารณะรัฐโรม แต่นั่นเฉพาะพวกชาวเมืองจนๆไม่ก็พวกทาสเท่านั้น. ปกติแล้วบ้านรวยๆจะมีทาสเก่งๆเป็นเชฟทำอาหารให้.
เพราะว่างานในครัวไม่เพียงแต่สกปรกเท่านั้นแต่ยังเหนื่อยมากๆอีกด้วย.
“ถ้าท่านได้ทานแล้ว ข้ามั่นใจว่าท่านจะต้องหลงใหลและมาบ้านข้าเพื่ออาหารที่ข้าทำทุกๆวันแน่!!”
เย่เทียนพูดอย่างภูมิใจ. จากนั้นเขาหันไปเรียกซีซาร์ “ซีซาร์ตัวน้อย, ไปกันเถอะ. ข้าจะสอนเจ้าหั่นผักเอง!”
“เจ้าบ้าซาตาน ข้าไม่ได้อยากให้ลูกข้าเป็นเชฟซักหน่อย…”
ออเรเลียบ่น.
“ถ้าไม่มีทักษะมีดที่เยี่ยมยอด, ก็จะไม่สามารถเป็นนักดาบที่เยี่ยมยอดได้ครับ. ไปกันเถอะ. ครัวน่ะได้ซ่อนความลับสุดยอดของการเป็นนักดาบที่ดีเอาไว้. เพราะต้นกำเนิดของอาวุธทุกๆอย่างล้วนมาจากชีวิตประจำวันทั้งนั้น….”
ในฐานะอาจารย์แล้ว เย่เทียนก็ทำหน้าที่ให้ไวแล้วก็พูดประโยคเท่ๆออกมา. แล้วเขาก็ยื่นมือไปลูบหัวของซีซาร์.
“ข้าขอตัวนะครับ ท่านแม่. ข้าจะไปศึกษากับอาจารย์ก่อนนะครับ…”
ซีซาร์ตัดสินใจเทแม่ตัวเองแล้วตามหลังเย่เทียนไปอย่างว่าง่าย. ตาของเขาเต็มไปด้วยความเคารพ เพราะถึงยังไง คำพูดที่เย่เทียนพูดมันก็มีเหตุผล.
“โอ้ พระเจ้า…”
พอเห็นซีซาร์เลือกที่จะฟังเย่เทียนแล้วทำตามอย่างว่าง่าย ออเรเลียก็จำใจเอามือปกหน้าเพราะความอาย.
“ซีซาร์ตัวน้อย, ท่านต้องเรียกข้าว่าพี่เขยก่อนนะ”
“ท่านพี่เขย!”
“เคช่าสวยหรือป่าว?”
“ข้าไม่ทราบครับ, แต่เหมือนว่ามีแต่คนอยากจะจีบนาง!”
“ห้ะ? คราวหน้า ถ้ามีใครกล้ามาจีบนาง จัดการมันให้ข้าที!”
“ได้เลย! ข้าจะจัดการมันให้ท่าน, ท่านพี่เขย!”
….
ระหว่างทางเย่เทียนกับซีซาร์ก็คุยกันอย่างกับโจร500.
“ซีซาร์, นี่ลูกลืมวิถีสุภาพบุรุษไปแล้วหรอ?!!!”
ออเรเลียอดคำรามออกมาไม่ได้. นางกลัวว่าเย่เทียนจะทำให้ซีซาร์แปดเปื้อนเข้า.
“อุ่บบ!”
….
ไดอาน่าทนหัวเราะไม่ไหว จึงหัวเราะออกมาอย่างดังแต่เธอรู้สึกว่าไม่สุภาพ จึงรีบหยุดทันที.
เพราะมีเย่เทียนอยู่ข้างๆ พวกเธอจึงไม่กลัวออเรเลียเท่าใดนัก.
“ช่างเป็นชายที่โชคดีเสียจริง!”
ออเรเลียพึมพำเบาๆ เพราะทั้งไดอาน่าและแองเจล่าก็สวยทั้งคู่.
“เจ้านายของพวกเจ้าเป็นคนแบบไหนรึ?”
ออเรเลียอดถามเรื่องเย่เทียนไม่ไหว จึงหันไปถามพวกนางเพราะเหลือกันแค่3คน.
“เจ้านายของข้า, ทั้งใจดี, แข็งแกร่ง, เป็นห่วงเป็นใย….”
แองเจล่าพยายามนึกคำพูดและพูดอย่างช้าๆ, นางเล่าทุกอย่างที่รู้ให้ออเรเลียฟังพร้อมกับสายตาหลงใหลพร้อมๆกัน. แน่นอนว่าสิ่งที่ไม่ควรจะพูด นางก็ไม่พูดหรอก.
“พระเจ้าช่วย, เขากำหราบพวกทาสสปาตั้นพยศได้ด้วยตัวคนเดียวรึ….”
“ซาตานรวยมากเลยรึ? ข้าไม่อยากเชื่อจริงๆว่าเขาจะให้ทาสกินเนื้อบ่อยแบบนั้น…”
“อาหารที่ซาตานทำนี่อร่อยจริงๆรึ?”
….
เรื่องประหลาดใจต่างๆ โดนใจออเรเลียเรื่องแล้วเรื่องเล่า.
“คำถามสุดท้ายนะ. แล้วเรื่องความสามารถในการ…..มีอะไรกันของเจ้านายเจ้าล่ะ?”
จู่ๆออเรเลียก็กล้าถามคำถามแบบนั้น, แล้วหน้าของเธอก็แดงขึ้นมา.
หน้าของไดอาน่าและแองเจล่าเองก็แดงขึ้นเช่นกัน แล้วพวกเธอก็กระซิบข้างๆหูออเรเลีย. มันทำให้ร่างกายของเธอสั่นแรงมาก, ตาของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อและน้ำอุ่นๆก็เกือบจะทะลักล้นออกมาจากด้านในดอกไม้ของเธอ. (เดี๋ยวนะ)