โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 56
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
———————————————————————————————–
หลังจากอาบน้ำกับสาวหมาป่าเสร็จ, เย่เทียนก็วาดพื้นที่ขนาดใหญ่ไว้ที่สวนของเขาแล้วบอกเธอว่าสามารถวิ่งเล่นได้เฉพาะในพื้นที่นี้เท่านั้น ตอนนี้.
หลังจากที่เย่เทียนใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดเธอก็เข้าใจสิ่งที่เขาพูด. เธอยอมเชื่อฟังกฏของเย่เทียนซักที แล้วเขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา.
ถึงแม้ว่าสัญชาตญาณมนุษย์ของสาวหมาป่ากำลังค่อยๆกลับมา, แต่สัญชาตญาณสัตว์ป่าก็ยังคงเหลืออยู่ในตัวเธอมากกว่า. ฉะนั้นถ้าเกิดปล่อยให้เธอวิ่งเล่นตามใจชอบ, เธอก็อาจจะไปทำร้ายคนอื่นและทำให้คนภายนอกรู้ถึงตัวตนเธอได้.
หลังจากวาดพื้นที่เสร็จ, เย่เทียนก็ตั้งให้มันเป็นพื้นที่ต้องห้ามที่ตัวเขาและคนที่เขาไว้ใจอย่างเช่นแองเจล่า สามารถเข้าออกได้.
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ไดอาน่าก็เข้ามาหาเย่เทียนแล้วพูด “เจ้านายคะ, แม็กซ์ต้องการจะพบท่าน. เขาบอกว่าเขามีนัดกับท่านค่ะ”
“โอเค, ให้เขาเข้ามาเลย!”
เย่เทียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม. เขาคงเดาได้แหละว่าแม็กซ์น่าจะรออย่างกังวลมากๆในวันนี้.
เขาเองก็ไม่รู้ว่าแครสซัสจะทำข้อตกลงอะไรไว้บ้างตอนที่เขาปลีกตัวออกมา.
หรืออาจจะไม่, ไม่ก็ไม่สำเร็จ. ไม่งั้นแล้วแม็กซ์คงไม่รีบมาที่นี่เร็วขนาดนี้.
“กรุ่กกๆๆๆ…”
ไม่นานนักก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นและรู้สึกเหมือนว่าจะเป็นเสียงกีบเท้าของม้า. จากนั้นรถม้าก็มาจอดด้านหน้าเย่เทียน.
“ลอร์ดซาตาน, เป็นเกียรติที่ได้พบท่านอีกครั้งนะครับ. ขอบคุณพระเจ้าที่ท่านอณุญาตให้ข้าพบท่าน…”
พอเห็นเย่เทียน แม็กซ์ก็รู้สึกตื่นเต้นและนอบน้อม.
ถึงแม้เย่เทียนจะเป็นชนชั้นสูงหน้าใหม่, แต่เขาก็มีแรงเกื้อหนุนจากจูเลียส. ไม่งั้นออเรเลียคงไม่รีบเข้าสภาทำเรื่องให้เขาด้วยตัวเองแน่.
“ข้าขอแนะนำครับ นี่คือภรรยาข้า, แมรี่ซูและลูกสาวข้า คอสซูเทีย. ขอท่านอภัยมารยาททรามของข้าที่ข้าตัดสินใจพาพวกเขามาพบท่านโดยไม่ขออณุญาตนะครับ”
แม็กซ์แนะนำผู้หญิงคนหนึ่งด้านหลังเขาและเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่อายุน่าจะประมาณ 8หรือ9ขวบ.
สตรีท่านนี้หน้าตาสะสวย อายุน่าจะประมาณ 40 ปีแต่ก็ยังหุ่นดีอยู่. เด็กผู้หญิงข้างๆพวกเขาก็คือลูกสาวนั่นเอง. เธอมีใบหน้าโหงวเฮ้งดี, จิ้มลิ้มและดูงดงาม เป็นเด็กที่สวยตั้งแต่เกิดจริงๆ. ขณะอยู่ต่อหน้าเย่เทียน เธอไม่หวาดกลัวเลย แต่กลับจ้องมาทางเย่เทียนด้วยความสงสัยด้วยตาดวงโตคู่สวยนั้น.
“พวกเราขออณุญาตคำนับท่านลอร์ดซาตาน…”
แมรี่ซูรีบดึงคอสซูเทียมาแล้วคำนับเย่เทียน.
“ข้าเองก็ชอบบรรยากาศครื้นเครงนี่นะ. เลดี้แมรี่ซูกับหนูน้อยคอสซูเทียน่าจะทำให้อาหารเย็นของพวกเราน่าสนใจมากขึ้นเลย…..”
เย่เทียนไม่กล่าวโทษการกระทำของแม็กซ์เลย. เขาคิดว่าแม็กซ์น่าจะมีความมั่นใจในเรื่องความงามของคอสซูเทียมากพอที่จะพามาหาเขาที่นี่.
“ขอบพระคุณครับ, ท่านลอร์ดซาตานผู้เมตตา….”
แม็กซ์ยินดีมาก. จากนั้นเขาก็ชี้ไปทางรถม้าแล้วพูดกับเย่เทียนว่า “ลอร์ดซาตานครับ, ข้าขอมอบของขวัญนี้ให้แก่ท่าน…”
มีกรงเหล็กขนาดใหญ่อยู่บนรถม้านั่น มันถูกปิดด้วยผ้าสีดำอยู่.
หลังจากพูดเสร็จ แม็กซ์ก็เดินไปข้างๆกรงแล้วเปิดผ้าออก.
แม้จะอยู่ในความมืดแต่เย่เทียนก็เห็นร่างหนึ่งอยู่ในกรงนั่น!
แต่รูปร่างนั้นดูสูงมาก! ดูจากผมยาวๆและรูปร่างแล้ว น่าจะเป็นผู้หญิงแน่ๆ.
แม้ว่าเธอกำลังนั่งอยู่ แต่เย่เทียนก็เดาว่าเธอน่าจะสูงอย่างน้อย 2เมตรครึ่งเลย.
สูงตั้ง2เมตรครึ่ง? แถมยังเป็นผู้หญิงอีก? มันเกินจิตนาการของเย่เทียนไปมากเลย, เว้นซะแต่เธอจะเป็นยักษ์ล่ะนะ.
ชุดของเธอดูเรียบง่ายมาก. ส่วนล่างเป็นกระโปรงที่ทำจากหนังสัตว์ และส่วนบนก็ทำจากหนังสัตว์เหมือนกันเอาไว้ปกปิดหน้าอกเบิ้มๆของเธอ.
สถานะ: มนุษย์ยักษ์ที่เกือบจะสูญพันธุ์
พละกำลัง: 100
ความแข็งแรง: 100
ความเร็ว: 80
ค่าความภักดี: 0
พอเห็นค่าแสตทของเธอ เย่เทียนก็อึ้งไปเลย.
ผู้หญิงคนนี้เป็นยักษ์จริงๆด้วย!
ยักษ์สาวนี่หว่า!
“ยักษ์งั้นรึ? นี่มียักษ์อยู่จริงๆในโลกนี้ด้วยรึ?”
เย่เทียนตกใจมากจริงๆ!
แต่ไม่นานเขาก็สงบใจลง.
ในอนาคตก็เคยมีหลักฐานว่ามียักษ์อยู่บนโลกจริงๆ.
ในช่วงปี 1900 คือยุคทองของการสำรวจโบราณคดี. มีคนพบเห็นมัมมี่ตัวใหญ่จำนวนมากและซากโครงกระดูก. ครั้งหนึ่งเคยค้นพบว่ามียักษ์อยู่ที่กรีก, อิตาลี, ตะวันออกกลางและอเมริกา มันไม่แน่ไม่นอนเลย.
นักโบราณคดีเชียโจวสนใจเรื่องตำนานยักษ์ของอเมริกามาก. จากการค้นคว้าของเขานั้น มีกองดินขนาดใหญ่หลายกองอยู่ในอเมริกา. พอพวกนั้นถูกขุดขึ้นมาในปี 1850, ด้านในเป็นซากศพที่สูงมากกว่า 2 เมตรและส่วนใหญ่ก็มีฟัน2แถว บางศพก็มีนิ้วมือและเท้า6นิ้วด้วย.
ในเนวาดาที่อเมริกา เคยมีถ้ำหนึ่งที่เรียกขานกันว่าถ้ำชุยหวัน (เหี้ยไรก่อน เมกาไม่ใช่จีนนะคนเขียน). จากตำนานของชนพื้นถิ่นที่นั่นพวกเขาเคยถูกคุกคามจากยักษ์ผมสีแดงเมื่อนานมาแล้ว. ยักษ์พวกนี้ตัวใหญ่มากและดุร้ายสุดๆ. พวกเขาสู้กันมาแรมปีจึงขับไล่พวกยักษ์ออกไปได้. ตอนแรกเรื่องนี้ไม่ได้รับความสนใจจากผู้คนมากนัก กระทั่งปี1911, นักขุดเหมืองพวกหนึ่งมาที่นี่และค้นพบมัมมี่ยักษ์สูงประมาณ2.2เมตรผมสีแดง. จากนั้นเรื่องนี้ก็ค่อยๆแพร่ออกไป.
เคยมีเรื่องเล่าว่ากระดูกของซากโครงกระดูกยักษ์นั้นถูกเก็บรักษาไว้ที่แล็ปไฮน์วิล.
เย่เทียนไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เห็นยักษ์ตัวเป็นๆในยุคนี้ แถมยักษ์ตนนี้ก็ยังเป็นของขวัญของเขาด้วย.
สุดยอดไปเลย!