โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 57
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
———————————————————————————————
บางทีพวกยักษ์อาจจะลงเหลืออยู่บ้างในยุคนี้. แต่จำนวนพวกเขาก็น้อยมากและส่วนใหญ่ก็ซ่อนอยู่ในป่าทั้งปี.
เย่เทียนเริ่มสงสัยในยุคนี้มากขึ้นซะแล้วสิ.
ในยุคกรีซโบราณนั่นเต็มไปด้วยตำนานและเรื่องลึกลับมากมาย. พวกสัตว์ลึกลับและมอนส์เตอร์ในนิทานเล่านั้นอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องที่แต่งขึ้น, พวกมันน่าจะถูกมนุษย์เห็นจริงๆ. แต่เพราะความเข้าใจผิดของมนุษย์ พวกมันเลยถูกป้ายสีไปมั่วซั่ว.
“เจ้าได้มายังไง แม็กซ์?”
เย่เทียนถามแม็กซ์ด้วยความสงสัย.
“ปกติข้าชื่นชอบการสะสมของแปลกอยู่แล้วน่ะครับ เพราะพวกชนชั้นสูงต่างพากันชอบของแบบนี้. ข้าได้ยินมาว่าในป่ามายันเองก็มีพวกสัตว์นี้อยู่ ข้าจึงรวบรวมนักล่ามีประสบการณ์ไปหาพวกมัน. แต่พวกมันแข็งแกร่งมาก ข้าเลยจับมาได้แค่ตัวเดียว….”
แม็กซ์อธิบายพร้อมกับความรู้สึกเสียดาย.
“พระเจ้า, เจ้าแน่ใจนะว่านางเป็นพวกสัตว์?”
เย่เทียนรู้สึกหมดคำพูด แม็กซ์เข้าใจผิดว่ายักษ์เป็นพวกสัตว์ร้าย.
ในช่วงโบราณนี้ พวกคนเขาคิดว่ายักษ์เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งงั้นหรอ?
“ครับ ลอร์ดซาตาน. ทุกคนรู้ว่านางเป็นสัตว์แต่ข้าเองก็ไม่เคยเห็นที่หน้าตางดงามเช่นนี้มาก่อน. ตอนแรกข้ากะจะขายนางให้ชนชั้นสูงผู้อื่นแต่พวกเขาไม่ชอบนาง เพราะนางตัวใหญ่และกินเยอะเกินไป. ยิ่งไปกว่านั้นนางก็ไม่ใช่สัตว์ตัวผู้ จึงไม่มีใครคิดว่านางจะมีค่าพอจะสู้. แถมข้าเองก็ดันขึ้นราคานางด้วย นางก็เลยอยู่นี่ ขายไม่ออก….”
แม็กซ์อธิบายอย่างกระอั่กกระอ่วม.
เป็นอย่างที่คิดเลย ที่เขาอธิบายมามันตรงกับที่เย่เทียนคาดเดาไว้จริงๆ. ในสายตาหลายๆคน พวกยักษ์คือสัตว์เดรัจฉาน หรือที่เขาเรียกกัน เดรัจฉานยักษ์.
แม้แต่คนโรมันเองก็ไม่ได้คิดว่าจะมีอะไรพิเศษกับตัวตนของพวกเดรัจฉานนี่.
ในระหว่างสงครามสปาตั้น300คนนั้น ก็เคยมียักษ์ปรากฏอยู่. ยักษ์ตนนั้นถูกฝึกให้กลายเป็นทาสนักรบ.
“ป่ามายัน? เจ้าบอกว่าเจ้าจับนางได้ที่ป่ามายันสินะ แล้วก็ฟังจากน้ำเสียงเจ้าแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีพวกสัตว์นี้มากกว่าตัวเดียวสินะ?”
เย่เทียนไม่ได้โต้แย้งคำพูดของแม็กซ์เลย แต่กลับกันเขากลับหวังให้ชาวโรมันให้ความสำคัญกับพวกยักษ์นี่มากขึ้น.
ถ้าเขามีเวลา เขาอยากจะไปป่ามายันเพื่อจับยักษ์ทั้งหมดด้วยตัวเอง ให้มาเป็นทาสที่แข็งแกร่งของเขา แล้วพวกเขาก็จะได้ไม่สูญพันธุ์ไป.
“ครับ ลอร์ดซาตานผู้ยิ่งใหญ่. ตอนแรกพวกเราเห็นสัตว์พวกนี้อย่างน้อยตั้ง2โหล, ชายและหญิง, และเด็กเล็กๆ. แต่ท่านคงนึกไม่ถึงว่าพวกมันชั่วร้ายแค่ไหน. เขาว่ากันว่าพวกมันออกมาจากป่าบ่อยๆ เพื่อลักพาตัวผู้หญิงคนหนึ่งเอาไปทำลูก….”
แม็กซ์พูดต่อ และอธิบายให้เห็นภาพด้วย.
“ขอบใจนะแม็กซ์ ข้าขอบใจเจ้าที่บอกเรื่องนี้. ในฐานะชนขั้นสูงแล้ว, ข้าคิดว่าข้าต้องรับผิดชอบ ทำลายพวกสัตว์ชั่วร้ายเหล่านี้…..”
เย่เทียนยิ้มและพูดอย่างจริงจัง.
“ลอร์ดซาตานผู้เมตตาและเที่ยงธรรม, ขอให้พระเจ้าคุ้มครองท่าน!”
แม็กซ์ไม่พลาดโอกาสเยินยอเขาเลย.
“ข้าขอรับของขวัญเจ้าไว้และข้าชอบมันมากนะ. เอาล่ะมากินข้าวเย็นกันเถอะ!”
เย่เทียนยิ้มและปล่อยให้แม็กซ์กับครอบครัวเข้ามาในห้องรับแขก, อาหารพร้อมแล้ว.
“ขอบคุณความใจกว้างของท่านครับลอร์ดซาตาน ข้ารู้สึกเป็นเกียรติมาก!”
แม็กซ์ดีใจมากม มันเป็นเกียรติสำหรับครอบครัวเขาจริงๆที่ได้มาร่วมโต๊ะอาหารกับชนชั้นสูง.
แน่นอนว่า ถ้าหากชนชั้นสูงพวกอื่นรับรู้ว่าเย่เทียนกินอาหารค่ำกับพวกไพร่เหล่านี้ พวกเขาคงจะดูหมิ่นเขาแน่.
“แม็กซ์, ข้าได้เล่าเรื่องเจ้าให้ท่านหญิงออเรเลียฟังแล้ววันนี้ และนางเองก็สัญญาว่าจะให้เจ้าพบ. พรุ่งนี้เจ้าสามารถพาคอสซูเทียตัวน้อยไปที่บ้านจูเลียสได้เลย. อย่าลืมนะ มันขึ้นอยู่กับตัวเจ้าและคอสซูเทีย แต่ข้ามั่นใจว่าน่ารักและสวยอย่างคอสซูเทียน่าจะทำให้นางประทับใจได้….”
ขณะกินมื้อค่ำ เย่เทียนนั้นดูไม่อ้อมค้อมและพูดเข้าเรื่องกับแม็กซ์ไปตรงๆ.
เขาพูดเรื่องไปกับออเรเลียจริงและออเรเลียก็บ่นกลับมานานมาก. ออเรเลียบอกว่านางจะยกลูกสาวให้เย่เทียน แต่เย่เทียนดันแนะนำซีซาร์ให้กับเด็กผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้านี่นะ, แค่รวยกว่านิดหน่อยเอง.
เย่เทียนกล่อมเธออยู่นานมาก, เธอจึงสัญญาไปว่าจะยอมให้แม็กซ์มาเจออย่างไม่เต็มใจนัก.
เย่เทียนพยายามสุดความสามารถแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับแม็กซ์.
“ขอบคุณพระเจ้า, ขอบคุณครับท่านลอร์ดซาตานผู้ยิ่งใหญ่!”
พอได้ยินที่เย่เทียนพูด แม็กซ์ก็ตื่นเต้นมาก. เขาไม่นึกเลยว่าเย่เทียนจะมีความสามารถมากขนาดนี้.
“นี่เป็นเพราะการนำทางของนางฟ้าแห่งโชคต่างหาก….”
เย่เทียนยิ้ม. เขาไม่รู้หรอกพระเจ้ามีจริงมั้ยแต่เขารู้ว่าคนในยุคนี้มีศาสนาที่เชื่อในพระเจ้าทุกรูปแบบ, แม้แต่พ่อมดแม่มดและนักบวช.
“ลอร์ดซาตานครับ, เพื่อเป็นการตอบแทนคุณของนางฟ้าแห่งโชค, โปรดรับของขวัญนี้ไว้ให้นางด้วย”
เย่เทียนนั้นเป็นคนใจกว้าง, แม็กซ์เองก็เป็นคนตรงๆด้วย, เขาเอากระดาษหนังออกมาแล้วยื่นให้เย่เทียน.
เย่เทียนเปิดมันออกมาแล้วพบว่ามันคือโฉนดที่ดินที่เขาต้องการ.