โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 61
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
———————————————————————————————
“โฮ่ง!”
ขณะกินอาหารเช้า, สาวหมาป่าก็ได้พบกับยักษ์สาว. และเธอก็ส่งเสียงขู่ใส่ทันที, ซึ่งนั่นทำให้ยักษ์สาวกลัวหน้าซีดจนเย่เทียนต้องปรามวิคตอเรียลง.
มื้อเช้านี้ดูหรูและเยอะมาก เพราะยักษ์สาวได้ขึ้นครองราชย์แล้ว ตอนนี้ก็เหมือนกับมีราชานักกิน3คนอยู่ในครอบครัวนี้เลย.
“แองเจล่า, ออกไปหาว่ามีช่างก่อสร้างกี่คนในตลาดแล้วพาพวกนั้นมาที่นี่ให้หมดเลย”
เขาได้ที่ดินมาแล้ว เย่เทียนเลยจะเริ่มแผนทำเงินของเขาซักที.
ร้านอาหารนี่เป็นแค่ขั้นเริ่มต้นสำหรับเขาเท่านั้น. เมื่อเวลามาถึง, เขาจะขยายธุรกิจอื่นไว้ข้างๆร้านอาหาร อย่างเช่นร้านแฟชั่น, น้ำหอมราคาแพงและอื่นๆอีกมากมาย.
เขาอยากทำให้ที่ดินผืนนั้นเป็นย่านการค้าที่รุ่งโรจน์ที่สุดและเป็นสรวงสวรรค์สำหรับพวกชนชั้นสูงรวยๆในโรม.
พอเขาได้เงินมาพอแล้ว เขาก็จะเริ่มสร้างโคลอสเซียมขนาดกลางๆ. และด้วยโคลอสเซียมนี้ เขาก็จะได้กลายเป็นนายทาสที่แข็งแกร่งที่สุดโดยไม่ต้องสงสัยเลย.
เขาจะเดินไปในเส้นทางสู่การเป็นสุดยอดนายทาส เพราะสำหรับเขาแล้ว เหล่าทาสนั้นหมายถึงความแข็งแกร่งและความเป็นนิรันด์.
“ค่ะ,นายทาสผู้สูงส่งของข้า!”
แองเจล่าตอบด้วยความเคารพ, ผู้คนเริ่มรู้แล้วว่าเย่เทียนนั้นเป็นชนชั้นสูง ฉะนั้นต่อให้เขาสั่งให้เธอไปคนเดียว ก็จะไม่มีใครกล้ามายุ่มย่ามกับเธอ, ไม่มีใครอยากจะลบหลู่ชนชั้นสูงหรอกนะ.
“ไดอาน่า, เจ้ารับผิดชอบทุกอย่างที่บ้าน. ข้าจะไม่อยู่ซักพักหนึ่ง. และก็แน่นอนว่า
ฟิลิปมันอาจจะส่งทาสมาให้วันนี้, เจ้าสามารถพาพวกทาสนักรบสปาตั้นไปรับด้วยก็ได้”
พวกทาสในบ้านนั้นก็ภักดีกับเขาอยู่แล้ว, ดังนั้นเขาจึงวางใจได้มากเลย.
ณ ตอนนี้ค่าความภักดีของพวกทาสนักรบสปาตั้นเองก็ถึง98แต้มแล้วและพวกเขาก็เทิดทูนเย่เทียนดั่งพระเจ้าด้วย.
“ค่ะ, นายท่านผู้สูงส่งของข้า!”
ถ้าเรื่องการจัดการต่างๆแล้ว ไดอาน่าใส่ใจทั้งหมดของเธอลงไปเลยและเพราะเธอทำงานเก่งเช่นนี้ เย่เทียนจึงเชื่อใจเธอและแต่งตั้งให้เธอเป็นผู้ดูแลเรื่องในบ้าน.
ครั้งนี้เย่เทียนเลือกที่จะขี่ม้าแทนการเดิน.
ม้าตัวนี้เป็นม้าสงครามแต่มันก็ยังดูธรรมดาๆ เย่เทียนเลยไม่ค่อยพอใจกับมันนัก.
เพราะในยุคนี้ ม้าสงครามเปรียบเสมือนรถยนต์ในอนาคตเลย.
ในอนาคตนั้นทุกๆคนต่างก็อยากมีรถสปอร์ทตัวท้อปทั้งนั้น, ในยุคนี้เองก็เช่นกัน เย่เทียนก็หวังว่าจะได้ครองม้าตัวท้อป.
แต่ทว่า, ต่อให้มันเป็นแค่ม้าธรรมดา, ตอนที่เขาขี่มันผ่านถนน, มันก็ดึงดูดสายตาอิจฉาของชาวเมืองได้เยอะอยู่เช่นกัน.
“ปอมปีย์?”
ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ sharkyแปล นะครับ.
ผ่านมาได้ครึ่งทางเย่เทียนก็เห็นคนหน้าคุ้นๆ, นั่นมันปอมปีย์ไม่ใช่เหรอ?
แต่เขาก็ไม่ได้อยู่คนเดียว, เขากำลังเดินอยู่กับสตรีคนหนึ่งไปทางร้านขายเครื่องเพชร และก็มีผู้ติดตามกลุ่มนึงรอบๆเขา.
ด้วยความหมั่นไส้ เย่เทียนจึงขี่ม้าไปทางพวกเขาโดยตรง.
“ไม่เจอกันนานเลยนะ ท่านชายปอมปีย์. ท่านดูใช้ชีวิตสบายจังนะ….”
เมื่อเย่เทียนเข้ามาหากลุ่มของปอมปีย์, คนติดตามของปอมปีย์ก็ตื่นตัวและรีบเอามือไปจับด้ามดาบทันที. เย่เทียนไม่อยากจะเผชิญหน้ากับพวกนั้นตัวต่อตัว, เขาจึงชักม้ากลับแล้วทักทายปอมปีย์ด้วยเสียงเบาๆ.
“เวรเอ้ย, ทำไมต้องมาโชคร้ายเจอเจ้าที่นอกบ้านแบบนี้ด้วย, ไอ้เวรซาตาน!”
หน้าของปอมปีย์เปลี่ยนไปเล็กน้อยและด้วยความอึดอัดใจเล็กๆเขาจึงพูดออกมาอย่างก้าวร้าว.
สองวันที่ผ่านมานี้เขาได้ส่งคนไปดูที่บ้านเย่เทียน, หวังว่าทาสปาตั้นจะกำเริบไม่ก็รอดูความตายของเย่เทียน.
แต่ทว่าเขาก็ได้แต่ผิดหวังอย่างแรง, สิ่งที่เขารอกลับไม่เกิดขึ้น กลับกันเขากลับได้รับจดหมายเลื่อนสถานะเย่เทียนให้เป็นชนชั้นสูงแทน.
มันทำให้เขารู้สึกอัดอัดจนอกจะแตก คุมอารมณ์ดีๆไม่ได้เวลาพบหน้าเขา.
“ท่านชายปอมปีย์, ท่านช่างเป็นคนไร้ยางอายและไม่น่าเชื่อใจนัก. ท่านไม่เพียงแต่ไม่จ่ายทอง1ทาเลนตั้มที่ติดข้าไว้เท่านั้น, แต่ยังมาเดินเล่นสบายใจกับสตรีท่าทางยั่วสวาทผู้นี้อีกรึ. ข้าขอให้พระเจ้าอภัยบาปของเจ้าด้วยเถอะ…..”
เย่เทียนมองไปที่สตรีห่มน้อยข้างๆปอมปีย์ด้วยรอยยิ้มบางๆ.
“ไอ้เวรซาตาน, หุบปากเน่าๆของเจ้าซะ, นี่ท่านแม่ข้านะ!”
พอได้ยินคำเยียดหยามของเย่เทียน, ปอมปีย์ตัวสั่นไปด้วยความโกรธเคืองแล้วตะคอกใส่เย่เทียนไป.
“ปอมปีย์, นี่เจ้ารู้จักชายหยาบคายนี่ได้อย่างไร? ข้าคิดว่าออเรเลียตาถึงซะอีก แต่ข้าว่านางคงจะตาบอดแล้วล่ะ, เคช่าผู้น่าสงสาร, ข้าจะภาวนาให้เจ้านะ……”
สตรีห่มน้อยผู้นั้นขมวดคิ้วแล้วทำหน้าเย้ย.
“ขออภัย ท่านหญิงผู้สูงส่ง. แต่ข้าว่าวันนี้มันไม่ได้ร้อนเท่าไหร่นะครับและโปรดให้ข้ากล่าวเตือนด้วยว่า ข้าคิดว่าท่านควรจะใส่เสื้อคลุมเพิ่มอีก ไม่งั้นแล้วข้าเองก็พร้อมจะถามราคาของท่าน…..”
เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้ม. ด้วยคำประชดประแชงแรงๆแบบนี้ เขาไม่เคยกลัวใครเลย.
“เจ้า……เจ้าบ้าซาตาน, เจ้าเป็นแค่ชนชั้นสูงหน้าใหม่ตัวจ้อย, เจ้ากล้าดียังไงมาหมิ่นศักดิ์ศรีข้า เวริน่าผู้สูงส่ง, ข้า….เจ้าอยากจะตายงั้นรึ!”
สตรีห่มน้อยเกือบจะระเบิดความโกรธออกมาหลังได้ยินคำพูดของเย่เทียน, ตัวเธอขยับขึ้นๆลงๆอย่างแรงแล้วชี้นิ้วไปหาเย่เทียนพร้อมคำด่า.
“ท่านหญิงเวริน่า, ขออภัยที่ข้าพูดตรงๆ, และหากว่าความจริงที่ข้าพูดออกไปทำร้ายท่าน โปรดขอร้องให้พระเจ้าอภัยแก่ข้าด้วยเถิด!”
เย่เทียนยิ้มเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวเลย.
“พอแล้วซาตาน, หุบปากเน่าๆของเจ้าซะ, เจ้ากำลังจะดูหมิ่นตระกูลชนชั้นสูงอันดับต้นๆงั้นรึ?”
พอเห็นแม่ของเขาถูกฉีกหน้า, ปอมปีย์ก็แทบจะระเบิดออกมา, เขารีบโดดเข้ามาช่วยและตะโกนใส่เย่เทียน.