โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 62
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
———————————————————————————————
ชิ้ง! ชิ้ง!
พวกผู้อารักษ์ขารีบชักดาบออกมาทันทีและพร้อมจะโจมตีเย่เทียนทุกเมื่อ.
“ปอมปีย์, ในที่สุดเจ้าก็มีความกล้าซักทีนะ. แต่ข้าคิดว่าเจ้าควรจ่ายหนี้ข้ามาก่อนดีกว่า ไม่งั้นแล้วข้าจะบอกให้สภาเริ่มการดวลกับเจ้าแน่!”
เย่เทียนเย้ย.
“ไอ้โรคจิตเอ้ย!”
ปอมปีย์ด่าเย่เทียนในใจ.
“เจ้าบ้าซาตาน! เจ้าไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษของชนชั้นสูงเลย. ทำไมคนถ่อยอย่างเจ้าถึงได้กลายเป็นชนชั้นสูงได้? เจ้านี่มันเหมือนกับกะหรี่หนี้ท้วมหัวอยู่บนถนนจริงๆ!”
เวลิน่าเองก็เริ่มโมโหเช่นกัน. เย่เทียนมาพูดเรื่องหนี้กับเธอบนถนนแบบนี้และฉีกหน้าเธออีก. แล้วเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เวลาคนพูดเรื่องสตรีชั้นสูง.
“ท่านหญิงเวลิน่า, ให้ลูกชายท่านชำระหนี้ข้าก่อนสิ แล้วข้าจะคุยเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษของชนชั้นสูงให้ท่านฟัง”
เย่เทียนพูดเย้ย “เจ้ายังไม่จ่ายหนี้ที่ติดไว้เลย, แล้วจะมาพูดเรื่องความสุภาพได้ยังไง?”
“เขาติดหนี้ท่านเท่าไหร่?”
แม้เวลิน่าจะโกรธแต่เธอก็พยายามใจเย็นแล้วถามเย่เทียน.
“แค่1ทาเลนตั้ม ไม่ขาดไม่เกิน”
เย่เทียนพูด.
“ห้ะ? 1ทาเลนตั้ม? เจ้าบ้าไปแล้วหรอ? ลูกชายข้าจะไปติดหนี้ท่านเยอะขนาดนั้นได้ยังไง? เจ้าต้องเป็นพวกต้มตุ๋นแน่!”
พอได้ยินว่าลูกชายเธอติดหนี้มากขนาดนั้น เวลิน่าก็สติแตกไปเลย จำนวนเงินมันไม่ใช่น้อยๆนะ!
“ท่านหญิงเวริน่า, ท่านคือสมาชิกในตระกูลปอมปีย์ที่ยิ่งใหญ่. หากท่านอยากจะติดหนี้ข้าไว้ 1 ทาเลนตั้ม ข้าก็คงไม่มีทางเลือกและข้าก็จะไม่ขอให้พระเจ้าปราณีด้วย ข้าว่าความยุติธรรมของโรมันจะต้องช่วยข้าได้แน่. อีกอย่างนะ ปอมปีย์ เจ้าน่ะโตแล้ว เมื่อไหร่เจ้าจะรักษาคำพูดได้เยี่ยงชายชาตรี!”
เย่เทียนส่ายหัวแล้วพูด.
“ซาตาน, อย่ามาดูหมิ่นชื่อปอมปีย์. ข้าจะใช้หนี้ที่ติดไว้กับเจ้าแน่. แต่มันไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เขาหวังว่าเจ้าจะให้เวลาข้าหน่อย!”
พอเห็นคนเริ่มเข้ามามุงดูเรื่อยๆ ปอมปีย์ก็เริ่มกังวลจึงพูดกับเย่เทียนไปด้วยเสียงหนักแน่น.
ปอมปีย์เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่. เขาไม่อยากให้ชื่อเสียงสกุลของเขาบ่นปี้, ไม่น่าเชื่อถือเพราะความผิดของเขา.
“ข้าจะให้เวลาเจ้า5วันและข้าหวังว่าจะได้เห็นทองสว่างๆ ไม่งั้นเกียรติของตระกูลปอมปีย์จะไม่ทำให้ข้าหวั่นไหวแน่!”
เย่เทียนพูดแล้วก็ขึ้นขี่ม้า.
“ท่านชาบปอมปีย์ ท่านหญิงเวลิน่า. ข้าขออภัยที่หมิ่นท่านวันนี้. โปรดอภัยในความหยาบคายของข้า…….แต่พวกเจ้าก็ดูเหมือนคู่รักจริงๆ”
พอพูดเสร็จเย่เทียนก็ขี่ม้าหนีไป.
“เจ้าบ้าซาตาน!”
“เจ้ากล้าหมิ่นข้าเยี่ยงนั้นรึ! ในนามของปอมปีย์ ข้าจะส่งเจ้าลงนรกให้ได้!”
……….
พอเห็นร่างเย่เทียนลับไป ปอมปีย์กับแม่ของเขาก็โกรธเลือดขึ้นหน้าและก่นด่าอย่างรุนแรง.
เย่เทียนทำให้พวกเขาเจ็บมากวันนี้.
ส่วนเย่เทียนก็แฮปปี้มากๆ.
เขามาถึงที่ดินของเขา, เคาะประตูบ้านแล้วโชวใบโฉนดให้พวกเขาดูแล้วขอให้พวกเขาย้ายออกไป.
แต่มันกลับทำให้พวกเขาร้องไห้โฮ.
เพราะพวกเขาเป็นชาวบ้านจนๆ ถ้าพวกเขามีเงินพวกเขาก็คงไม่มาเช่าที่ไกลๆแบบนี้.
ชีวิตชาวเมืองในโรมนั้นยากลำบากมาก. เพราะที่ดินส่วนใหญ่ก็ถูกนายทาสซื้อไป, ไม่ก็พวกชนชั้นสูงหรือคนรวยๆ.
การใช้ชีวิตของคนทั่วไปเริ่มจะอยู่ยากขึ้นเรื่อยๆ บางคนถึงกับต้องขายลูกให้เป็นทาสเพื่อให้มีเงินพอใช้ในบ้าน.
แต่ชีวิตจริงมันก็โหดร้ายอยู่ดี.
แต่ท้ายสุดแล้วด้วยความสงสารเย่เทียนก็ไม่ใจร้ายไล่คนตาดำๆไปเปล่าๆแน่. เขาให้เงินกับทุกบ้านเป็นค่าย้ายออกไป ในที่สุดเขาก็โน้มน้าวสำเร็จ.
“เราเริ่มก่อสร้างได้พรุ่งนี้เลย!”
พอคิดอย่างนี้เย่เทียนก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นฮีโร่.
ไม่ว่าจะยุคไหน ถ้าไม่มีเงินก็จะไม่สามารถทำอะไรได้.
…….
“เจ้านาย, ข้าเจอช่างก่อสร้างในตลาดเยอะมากเลยค่ะและพวกเขาก็ไม่เรื่องมากเรื่องเงินด้วย….”
พอเขากลับมาบ้าน แองเจล่าก็เข้ามาหาเย่เทียน. แม้เธอจะเหนื่อยแต่เธอก็ดูมีความสุขมากๆ.
เธอมีความสุขเพราะได้ทำงานให้เย่เทียน.
“ขอบใจนะ แองเจล่า. ขอบคุณพระเจ้าที่ส่งของขวัญที่มีค่าเช่นนี้มาให้ข้า”
เย่เทียนยิ้มแล้วจุ๊บหน้าผากเธอ.
“เจ้านายคะ, ท่านคิดถูกจริงๆ. ฟิลิปส่งทาสมาให้ท่าน35คนเลยวันนี้และข้าก็ตัดสินใจใช้เงินด้วยตัวเองค่ะ….”
ไดอาน่าเองก็เข้ามารับคำชมเช่นกัน.
“ดีมากไดอาน่า. ข้าโชคดีจริงๆที่มีเจ้าอยู่ข้างๆ”
เย่เทียนดึงไดอาน่ามาในอ้อมแขนแล้วจูบเธอเป็นรางวัล ทำให้หน้าของไดอาน่าแดงขึ้นเพราะเธอรู้สึกว่าเห็ดของเย่เทียนลุกขึ้นอีกแล้ว.
เย่เทียนเองก็ช่วยไม่ได้เพราะร่างของไดอาน่าก็ยั่วยวนมาก.
จากไกลๆนั้น ซูซานก็มองมาทางไดอาน่ากับแองเจล่าด้วยความชื่นชม แล้วก็มองมาทางร่างกายที่กำลังโตของเธอ แล้วเธอก็รู้สึกเจ็บใจ.
“ไปกันเถอะ. ข้าจะไปเช็คพวกทาส…”
แล้วเย่เทียนก็เดินไปทางสวน.
“เจ้านายครับ, โปรดรับการคำนับจากข้าด้วย!”
เมื่อทาสนักรบที่ดูแลพวกทาสเห็นเย่เทียน พวกเขาก็คำนับอย่างนอบน้อม. สายตาที่เขามองเย่เทียนมีแต่ความชื่นชม.
“ข้าน้อมรับเกียรติของเจ้า!”
เย่เทียนพยักหน้าเบาๆแล้วเริ่มแสกนทาส35คนที่สวน.