โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 66
งานแต่งงานของชนชั้นสูงนั้นหรูหราสุดยอดมาก!
หลังจากทำพิธีเสร็จทุกขั้นแล้ว, เจ้าสาวก็คงจะเหนื่อยมากแครสซัสจึงส่งเธอกลับห้องไป. เพราะเจ้าสาวยังมีพิธีที่จะต้องทำในวันพรุ่งนี้.
หลังจากส่งเจ้าสาวกลับเข้าห้องหอไปแล้ว, แครสซัสก็ออกมาทันที. ยังมีแขกอยู่หลายคนที่กำลังรอเขาอยู่. คืนนี้เขาจะต้องเมาแน่ๆ.
หลังจากเจ้าสาวถูกส่งกลับแล้ว, ทาสหญิงเด็กๆหลายคนก็ถูกเรียกให้มารินไวน์และสร้างความบันเทิงให้กับแขก.
แน่นอนว่าคงไม่มีใครกล้าทำอะไรเกินหน้าเกินตาแน่ๆ เพราะคืนนี้เป็นคืนของเจ้าบ่าว.
ในงานเลี้ยงงานแต่งนั้นมีหลายคนมองมาทางเย่เทียนด้วยความอิจฉาเพราะตอนนี้เขากำลังอยู่กับสาวงามตั้ง3คน.
ออเรเลีย, คุณหญิงฉินน่าและยูเลีย ป้าของซีซาร์ที่เข้ามาหาเย่เทียนอย่างร่าเริงเมื่อเห็นเขา.
แค่มีหญิงงาม3คนพร้อมกันก็ทำให้ชายหลายๆคนจ้องริษยาอยู่แล้ว. สิ่งที่เหนือกว่านั้นคือสถานะของพวกเธอไม่ใช่เล่นๆ, ถ้าไม่ใช่มาจากตระกูลใหญ่ๆก็สามีมีอำนาจมากล้น.
อย่างที่รู้กันว่าคนส่วนใหญ่ในงานเป็นพวกสุภาพสตรีและบุรุษชนชั้นสูงส่วนใหญ่ก็มีแค่พวกเด็กๆไม่ก็คนแก่ๆ.
เพราะช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤตของโรมที่จะต้องปราบปรามพันธมิตรของพวกกบฏ ฉะนั้นชนชั้นสูงวัยกลางคนส่วนใหญ่ก็อยู่ในสนามรบกันหมดเพื่อเป็นกำลังหลักให้กับตระกูลของพวกเขา.
พอสังเกตเห็นสายตาของพวกชั้นสูง, เย่เทียนก็ยิ้มแรงในใจ. แม้ว่าเขาจะถูกบังคับให้ลงเรือลำเดียวกับกาอิอุส มาเรียสแต่เขาก็ไม่อยากจะโพนทะนาออกไปแต่สงสัยคืนนี้คงจะเลี่ยงไม่ได้แล้วสิ.
กาอิอุ มาเรียสนั้นเริ่มแข็งแกร่งขึ้นมาใน2ปีที่ผ่านมานี้แต่หลังจากสงครามสังคม, พันธมิตรของเขาทั้งหมดถูกปราบพ่าย, กองกำลังเองก็ขาดอำนาจ. จากนั้นพ่อของซีซาร์กับลุงก็จะตายบนสนามรบและกาอิอุส มาเรียสก็จะพ่ายสงครามระหว่างสุละ. ต่อมาเขาก็จะพ่ายแพ้ให้กับสุละอีกเรื่องพยายามหยุดยั้งอำนาจ แล้วก็จะถูกเนรเทศออกไป. จากนั้นเขากับฉินน่าจะใช้ประโยชน์จากการเดินทางไปมิทราดาตี้ของสุละ, ทำการหยุดยั้งอำนาจครั้งที่สองแล้วก็ประสบความสำเร็จ. แต่ทว่าเขาจะสิ้นใจหลังจากขึ้นปกครองได้ไม่กี่วันและถูกฉินน่าแทนที่ไป.
หลังจากหลายปีที่ฉินน่าปกครอง, สุละที่เอาชนะสงครามได้ก็ฆ่าเขาลง.
ตั้งแต่ตอนนั้นมา ประวัติศาตร์ของตระกูลซีซาร์ก็พบกับจุดจบ!
แต่ถึงยังไงก็อีกหลายปีกว่าจะถึง.
ในอีกหลายปีเย่เทียนอาจจะไม่มีพลังพอจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาตร์ของโรมโบราณแต่อย่างน้อยเขาก็มีพลังพอที่จะปกป้องตัวเขาเองและคนของเขาได้.
ดังนั้นเย่เทียนเลยไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้มากเท่าไหร่.
“ซีซาร์, เจ้าได้เรียนรู้อะไรมาจากอาจารย์ของเจ้าบ้างล่ะ?”
ยูเลียถามซีซาร์ด้วยความสงสัย.
“เยอะเลยครับ, วิชาดาบแกร่งๆเยอะแยะเลยแม้ว่าท่านน้องเขยของข้าจะสอนมาหน่อยนึงแต่ก็ใช้ได้จริงเยอะเลย!”
ซีซาร์พูดอย่างภูมิใจ.
“ท่านหญิงทั้งสาม, โปรดให้ข้าสรรเสริญเกียรติของพวกท่านด้วยแก้วไวน์ด้วยเถิด, ด้วยเกียรติทั้งหมดของข้าแด่ความงามของพวกท่าน….”
ระหว่างคุยกันนั้น, ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาที่โต๊ะของเย่เทียนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มและท่าทางมึนเมา.
“ขอบใจสำหรับคำอวยพรเจ้านะ, มาโคเนีย หลายชายของสุละ!”
ออเรเลียขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ, ท่านหญิงฉินไม่พูดใดๆแต่ก็ยกแก้วขึ้นมาแทน, ส่วนยูเลียนั้นไม่ได้ใส่ใจเขาเลย.
“ท่านหญิงยูเลียผู้สูงส่งของข้า, ข้าสงสัยว่าข้าจะมีโอกาสได้เชิญท่านมาเต้นด้วยกันได้รึไม่. เชื่อข้าเถิด ท่านจะต้องชอบใจร่างกายที่แข็งแกร่งของข้าแน่ๆ….”
มาโคเนียไม่ได้โกรธตอนที่สังเกตเห็นยูเลียเมินเขาแต่พูดกับนางด้วยรอยยิ้มวิปลาศ.
เยาะเย้ยหรอ?
ไม่ใช่, นี่มันหักหน้ากันชัดๆ!
ชนชั้นสูงทุกคนล้วนรู้ว่าระหว่างกาอิอุส มาเรียสกับสุละนั้นกำลังชิงดีชิงเด่นกันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่. แม้ว่ามันจะยังไม่เป็นที่โจ่งแจ้งแต่การแย่งชิงของพวกเขานั้นก็รุนแรงมาก.
และหลานชายของสุละกำลังก่อกวนภรรยาของกาอิอุส มาเรียสต่อหน้าสาธารณะอยู่, ดูยังไงก็หักหน้ากันชัดๆเลยหนิ?
พอได้ยินดังนั้นหน้าของยูเลียก็เดือดดาลไปด้วยความโกรธและตัวเธอก็เริ่มสั่น.
“ตุ่บ!”
เย่เทียนยิ้มแล้วลุกขึ้น, มือของเขาค่อยๆบีบไปที่ไหล่ของมาโคเนียแต่กำลังของเขานั้นเยอะไปหน่อย.
“ฟุ่บ!!!”
มาโคเนียไม่สามารถทนพละกำลังระดับขีดจำกัดของมนุษย์ของเย่เทียนได้, อีกอย่างตอนนี้เขาก็กำลังเมาด้วย เขาเลยล้มพับคุกเข่าต่อหน้ายูเลีย.
ทุกๆคนรู้สึกช้อค, ไม่ใช่เพราะกำลังของเย่เทียนแต่คือภาพที่มาโคเนียกำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้ายูเลียแบบนั้น, มันคงทำให้สุละอยากฆ่าตัวตายแน่.
“อ่า…อะไรเนี่ย, ท่านลอร์ด, ท่านพูดว่าท่านแข็งแกร่งไม่ใช่รึ? พระเจ้าเป็นพระยานได้.ท่านจะโทษข้าไม่ได้นะ ข้าแค่จะชวนท่านมานั่งแล้วดื่มซักแก้วแค่นั้นเอง…”
เย่เทียนชักมือกลับแล้วแกล้งทำเป็นตกใจแล้วอธิบายด้วยสีหน้าไม่รู้อิโหน่อิเหน่.
“เจ้า……ข้า..ข้าขออภัย, ข้าดื่มมากไปหน่อย, ข้าเสียมารยาทแล้ว, ขอตัวนะ…”
มาโคเนียทั้งเศร้าและโกรธ, อารมณ์เขากำลังพุ่งพลานอยู่และเขาทนรอจะฆ่าเย่เทียนไม่ไหวเลย. เขาไม่เชื่อคำพูดของเย่เทียนเลย. เขาจะคุกเข่าลงได้อย่างไงถ้าเย่เทียนแค่แตะเบาๆเอง? เขาเป็นกระดาษหรอ?
หลังจากพูดเสร็จมาโคเนียลุกขึ้นแล้วจากไปด้วยท่าทีมึนเมา.
“ซาตาน, ขอบใจนะ, เจ้าเป็นฮีโร่ของข้าจริงๆ!”
ยูเลียมองมาทางเย่เทียนด้วยสายตาเป็นประกายและขอบคุณเขาอย่างจริงใจ.
“ยินดีครับ. ข้าแค่สอนมารยาทพื้นฐานของโรมันแทนปู่ของเขาเท่านั้นเอง…”
เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้มเล็กๆและเขาก็เสน่ห์ล้นถึงขนาดทำให้ยูเลียปลื้ม.
“ไอ้เวร!!”
ปอมปีย์เห็นเย่เทียนจัดการสถานการณ์ที่น่าอายแบบนั้นได้จึงสบถออกมา. แต่อย่างน้อยเป้าหมายของเขาก็สำเร็จ ตอนนี้หลายของสุละกับเย่เทียนไม่ชอบขี้หน้ากันแล้ว.
มาโคเนียพยายามเลี่ยงไป ฉะนั้นพวกชนชั้นสูงเลยไม่ได้สังเกตเห็นนัก.
แต่ใครจะรู้ ว่าการเข่นฆ่ากำลังเดินทางมาแล้ว.
“โฮ่ง!!”
สาวหมาป่ามาถึงแมนชั่นของแครสซัสแล้ว. ขณะตามกลิ่นของเจ้าสาวไป เธอก็เข้าไปในห้องนอนของเจ้าสาวทันทีแต่แมนชั่นนั้นใหญ่เกินไปแถมยังมียามคอยเฝ้าอยู่ตามทางด้วย.
“ใครน่ะ!!”
ยามคนหนึ่งได้ยินเสียงฝีเท้าแล้วตะโกนออกมา.
“ฟุ่บ!”
วินาทีที่เขาหันหัวไปก็มีเงาพุ่งเข้ามา. เศษหนังที่คอของเขาหลุดออกมาพร้อมกับหลอดลม.
“ศัตรู!!”
“ศัตรู!!”
…
ยามคนอื่นเห็นแล้วตะโกนอย่างดัง.
“ปั้ก!!”
ตอนนี้เธอถูกเห็นเข้าแล้ว, วิคตอเรียจึงไม่อยากซ่อนตัวอีกต่อไป. เธอตะปบยามกระเด็นลงไปจากชั้นสองสู่ชั้นแรกที่แขกรวมตัวกันอยู่.
“โคร้ม!!”
เสียงอันโหดร้ายและเลือดที่กระเซ็น ทำให้ทุกๆคนกรีดร้องออกมา. หน้าของแครสซัสก็ยิ่งซีดลงไปอีก. เสียงมันดังมาจากชั้นที่2 ข้างๆห้องเจ้าสาว.
“ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ฆ่ามันให้ข้า!!”
แครสซัสคำราม.
“โฮ่ง!!”
วิคตอเรียส่งเสียงขู่, เธอกระโจนอย่างบ้าคลั่ง, ฆ่ายามทุกคนที่เข้ามาหาเธอและร่างของพวกนั้นก็ลงไปกองกับพื้น เลือดสาดและตายอย่างน่าอนาถ.
สาวหมาป่าได้ปลดปล่อยสัญชาตญาณนักฆ่าแล้ว เธอกำลังเข่นฆ่าด้วยความบ้าคลั่ง.
งานเลี้ยงที่โชกเลือด!!
ความคิดนี้โผล่ขึ้นมาในหัวของทุกคน.
เจ้าโรคจิตที่ไหนที่ตระกูลแครสซัสไปทำให้โกรธเข้ากันนะ?!