โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 78
——————————————————————————————–
“บางทีอาจจะถึงเวลาที่หน้าไม้สุดเท่จะโผล่มาในยุคนี้แล้วมั้ง!!”
หลังจากอัดปอมปีย์และทำให้เขาอับอายไปแล้ว เย่เทียนก็ใจเย็นลงแล้วพึมพำเบาๆที่บ้าน.
หลังจากระบบได้อัพเกรดแล้ว เขาก็ได้สิทธิ์ซื้อของเพิ่มในมอลล์.
ในนั้นมีแปลนอาวุธอยู่ อาวุธที่ร้ายแรงจากจีนโบราณ.
ตัวอย่างเช่น, เต๋า, กระบี่ที่คมมากๆ, และพวกหน้าไม้ที่มีระยะไกล รุนแรงและใช้งานง่าย.
เต๋านั้นไม่เพียงแค่คมอย่างเดียวแต่มันยังสามารถเจาะทะลุเกราะได้ด้วย. มันถูกสร้างมาเพื่อไว้ฆ่าจริงๆ.
เต๋าที่อันตรายที่สุดคือ ถังโม๋เต๋า, มันคืออุปกรณ์ที่น่ากลัวของจริง!
ถังโม๋เต๋านั้นถูกใช้กับพวกทหารราบซะส่วนใหญ่. เนื่องจากน้ำหนักที่เบาและรูปทรงที่ยาวมันจึงงอรรถประโยชน์. ถ้าหากชายแข็งแกร่งได้ถือมันไว้ล่ะก็ เขาสามารถขยี้ศัตรูได้เพียงแค่ตวัดเบาๆเท่านั้น.
ถังโม๋เต๋านั้นไม่สามารถฝังไปพร้อมกับเจ้าของของมันได้เพราะพลังของมันแข็งแกร่งเกินไป. ผู้คนเชื่อว่ามันเป็นอาวุธที่จะนำสิ่งเลวร้ายมาให้. ไม่มีซักเล่มเลยที่นักโบราณคดีขุดพบในจีน. รูปภาพเลียนแบบถังโม๋เต๋าที่สร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด มาจากลักษณะที่ถูกเขียนไว้เท่านั้น.
พอมาคิดดูแล้วมันน่าจะเป็นอาวุธที่น่ากลัวมากถ้าอยู่ในมือของนักรบสปาตัน. พวกเขาจะหยุดยั้งไม่ได้เลย.
แต่ทว่า มันก็มีอาวุธร้ายแรงที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นซะอีก!
นั่นคือหน้าไม้ยังไงล่ะ!
พอมาถึงในยุคนี้เยเทียนสังเกตเห็นว่าโรมันและแม้แต่กรีกเองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับพวกธนูกับลูกศรมากนัก.
อาวุธและอุปกรณ์เกือบทั้งหมดของกองทัพกรีกโบราณนั้นล้วนแล้วแต่เป็นของง่ายๆ. มีแค่หมวก, เกราะอก, ผ้าปกขา, มีดคาดเอว, โล่บร๊อนซ์ที่ฝั่งซ้ายและโล่ยาวฝั่งขวา. อาวุธระยะไกลของพวกเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากหอกเท่านั้น.
และนี่ก็เป็นมาตราฐานสำหรับพวกทหารเกราะหนักทั่วๆไป – โล่, หอก, ดาบสั้น, เกราะแล้วก็หมวก.
ของโรมันเองก็เป็นแบบเดียวกัน ธนูของพวกเขาก็เป็นแบบง่ายๆ. เป็นธนูโค้งที่ทำจากเขาแพะสองอันติดกัน, มีระยะที่สั้นและพลังที่จำกัด.
แถมกองทัพโรมันเองก็เกณฑ์ทหารมาทั้งนั้น. ไม่มีกองทัพปกติเลย. ยิ่งไปกว่านั้นเวลาฝึกก็น้อยมากๆ ทางกองทัพเลยไม่ได้เตรียมกองพลธนูไว้.
หลังจากการปฏิรูปกองทัพโรมันของกาอิอุส มาเรียส, นอกจากทหารกองกำลังเสริมที่ใช้หอกแหลนแล้ว ก็ไม่มีอาวุธระยะไกลอื่นอีกเลย. ไม่มีธนูในกองทัพด้วย. พวกเขาเลยทำได้แค่โจมตีระยะประชิดด้วยดาบสั้นและป้องกันตัวเองด้วยโล่ใหญ่ๆเท่านั้นเอง.
หน้าไม้กล – อาวุธนี้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาโดยจูเก้อ เหลียง (จูกัดเหลียง/ขงเบ้ง) สมุหนายกแห่ง ชูก๊ก (จ๊กก๊ก) ในยุคสามก๊กนั่นเอง. มันสามารถยิงศรได้มากสุด10ลูกและมันก็ทรงพลังมาก สามารถใช้ในระยะไกลๆได้.
ในยุคราชวงศ์ใต้นั้น, ซ่งเป่ยซ่ง ผู้เขียน “ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงของเหว่” เคยพูดไว้ว่า “มันเป็นที่รู้จักในนาม หน้าไม้แห่งกำไรและการขาดทุน, หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ หยวนหลง” (ผมไม่มั่นใจมากนะครับ)
แปลนหน้าไม้กลนั้นสาบสูญไปหลังจากนั้นแต่ระบบยังมีแปลนหน้าไม้นี้โดยละเอียดอยู่ ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ เทรดดิ้งเวาเชอร์800ใบ.
และยังมีหน้าไม้อีกคันหนึ่งเรียกว่า เชนบิ นู๋หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “หน้าไม้ศักดิ์สิทธิ์”, เป็นหน้าไม้มือเดียวที่ถูกสร้างขึ้นในราชวงศ์ซ่ง. ความกว้างของคันธนูคือ3ฟุตและความยาวของสายเท่ากับ2.5ฟุต. มันสามารถยิงได้ไกลถึง300เมตรเลยทีเดียว. ทั้งมันยังเป็นอาวุธระยะไกลที่ราชวงศ์ซ่งใช้ต่อสู้กับ ต้าเหลียว, ซิเซียและไต้ขิน.
ในยุคราชวงศ์ซ่งเหนือ, เทพธนูเฮกวนยิงพวกซิเซียด้วยหน้าไม้ศักดิ์สิทธิ์และมีครั้งหนึ่งเคยยิงทหารเกราะหนาทะลุไปได้2คน.
เห็นได้ชัดเลยว่าพลังของหน้าไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้นน่ากลัวแค่ไหน. ยิ่งไปกว่านั้นหน้าไม้ประเภทนี้นอกจากจะยิงศรได้แล้วมันยังสามารถใช้ยิงหอกได้ด้วย, มันสามารถใช้ยิงทะลุกำแพงเมืองเก่าๆและทหารก็สามารถใช้มันปีนขึ้นกำแพงไปได้ด้วย. เป็นอาวุธยิงที่น่ากลัวจริงๆ.
แปลนของหน้าไม้นี้นั้นค่อนข้างแพงไปหน่อย, ต้องใช้เวาเชอร์ตั้ง5พันใบเพื่อซื้อ.
ยังมีหน้าไม้อีกประเภทหนึ่งที่เป็นอาวุธทำลายล้างของจริงอยู่!
นั่นก็คือบาลิสต้าหรือจะเรียกว่าปืนใหญ่ก็ได้! มันคืออาวุธระยะไกลที่แข็งแกร่งที่สุด ที่เกิดขึ้นมาในช่วงยุครณรัฐ.
หน้าไม้ประเภทนี้จะอยู่บนรถม้าศึกที่ขับเคลื่อนด้วยม้าสองตัว. มันมีดีไซน์ที่ยืดหยุ่นทำให้สามารถยิงได้แม้กระทั่งตอนที่เคลื่อนไหวอยู่. บาลิสต้านี้สามารถยิงศรหน้าไม้ได้7ลูกและศรหน้าไม้นี้ก็หนาพอๆกับไข่นกกระจอกเทศเลย. ศรตรงกลางนั้นใหญ่ที่สุดส่วนอีก3ดอกข้างๆก็เล็กลงมานิดหน่อย.
ระยะยิงของบาลิสต้านั้นสามารถไปได้ถึง700เมตร. ลูกศรนั้นสามารถทำให้บ้านเรือนพังทลายได้เลย ถึงแม้ว่าบ้านสมัยโบราณนั้นจะสร้างจากหญ้าก็ตาม พลังของมันก็ยังคงน่ากลัวอยู่ดี.
และแน่นอนว่าแปลนบาลิสต้านี้ก็แพงมากด้วย!
ใช้เวาเชอร์ตั้ง15,000 ใบแหนะ!
แต่ทว่าถ้าเย่เทียนจะทำอาวุธที่น่ากลัวนี้จริงๆแล้วล่ะก็, เขาจะวางไว้รอบๆบ้านซักโหลนึงแล้วให้พวกยักษ์เป็นคนคุม, ต่อให้กองทัพโรมันก็ไม่อาจจะมารุกรานบ้านของเขาได้.
พวกยักษ์เหมาะกับการคุมบาลิสต้าจริงๆ!
แน่นอนว่า หน้าไม้ที่น่ากลัวแบบอื่นๆก็มีอยู่แต่แค่ไม่คลาสสิคเท่า3อย่างด้านบน.
พอมองดูคำแนะนำของหน้าไม้ต่างๆในมอลล์ของระบบแล้ว, เย่เทียนก็รู้สึกมีไฟขึ้นมา. แต่เขาก็ทำได้แค่มองไปที่ทะเลแล้วก็ถอนหายใจเท่านั้น. สุดท้ายเขาก็แลกเวาร์เชอร์800ใบไปกับแปลนหน้าไม้กล.
พอใช้เวาเชอร์ไป800ใบ กระเป๋าเย่เทียนก็โล่งทันที. นั่นคือเหตุผลที่เขาถอนหายใจ.
แต่ทว่าแค่มีหน้าไม้กลก็เพียงพอแล้วตอนนี้. พอเขาสร้างมันเสร็จเขาจะให้นักรบสปาตั้นทุกคนใช้พวกมันจนชินมือ.
เมื่อนักรบสปาตั้นได้ใช้หน้าไม้กลของจูเก้อและถังโม๋เต๋าอย่างชินมือแล้วล่ะก็พวกเขาก็จะพัฒนาไปเป็นนักรบที่แท้จริงและไม่มีใครจะหยุดพวกเขาได้.
โชคไม่ดีนักที่ตอนนี้จำนวนทาสสปาตั้นนั้นน้อยเกินไป.
“เราต้องหาเวลาไปขอท่านหญิงฉินน่าและยูเลียเรื่องนักรบสปาตั้นซักหน่อยแล้ว”
เย่เทียนยิ้มกว้าง.
ถ้าหากค่าความภักดีของทาสนักรบสปาตั้นเขาถึง100แล้วล่ะก็ เขาก็จะยิ่งผยองมากขึ้นไปอีก.
“แองเจล่า ไดอาน่า, ไปกันเถอะ, ข้าจะพาพวกเจ้าไปตลาดทาส, เอ้อแล้วก็พาโฟบี้มาด้วย!”
หลังจากเก็บแปลนหน้าไม้กลแล้ว เย่เทียนก็เรียกไดอาน่ากับแองเจล่ามา.
เขาต้องการทาสช่างฝีมือซักหน่อยจากนั้นเขาก็แค่รอให้หน้าไม้กลสร้างสำเร็จ.
นี่แหละคือข้อดีของการมีทาส. แค่ล็อคพวกมันไว้แล้วพวกมันก็จะไปปากโป้งไม่ได้.
ยิ่งไปกว่านั้นเย่เทียนก็มั่นใจมากว่าค่าความภักดีของพวกทาสจะต้องเพิ่มขึ้น เพียงแค่ให้อาหารและที่นอน.
“ค่ะเจ้านายผู้ทรงเกียรติของข้า!”
สาวทั้งสองคนรีบมาหาเขาจากนั้นไดอาน่าก็เรียกยักษ์สาวโฟบี้มา.
“ข้าขอคำนับเจ้านายผู้ทรงเกียรติของข้า…”
โฟบี้นั้นสามารถพูดรู้เรื่องมากขึ้นเรื่อยๆ, เธอเข้ามาหาเย่เทียนแล้วเอามือขวาวางไปที่หน้าท้องแล้วก้มลงเล็กน้อยเพื่อคำนับเย่เทียน.