ไหปีศาจ - บทที่ 205 แก่นวิญญาณ
แก่นวิญญาณ
มันเป็นห้องโถงที่เหมือนกับแท่นบูชาขนาดใหญ่ ที่ทั้งกว้างและเรียบง่าย ประดับประดาไปด้วยทองแดงโบราณและหินสีฟ้าตามฝาผนัง ซึ่งทำให้ดูน่าขนลุก
ตรงกลางแท่นบูชานั้นมีรูปปั้นหญิงสาวตั้งอยู่ รูปปั้นนั้นดูมีความอ่อนโยน สง่างาม และอยู่ในท่าทางของการระบำเพลงดาบ มีสีหน้าที่แสดงถึงความรู้สึกที่ไม่ยอมแพ้ แต่บรรยากาศนั้นกลับแสดงให้เห็นถึงความเศร้า ต่อผู้คนที่ได้พบเห็น
ราชาวิญญาณนั้นโกรธมาก เพราะทนอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีนางสนมมาคอยอารักขา
ฉูจงฉวนค่อย ๆ คลานอย่างระมัดระวังที่มุมห้องโถง พร้อมกับเปลวไฟสีเขียวที่มีพลังงานอันน่ากลัว
ด้านหน้าของเข้าคือถ้ำที่มืดสนิท
มันแปลกมากทำไมถึงมีถ้ำอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่นี้ได้ แต่ผีทหารระดับนายพลที่ล่องลอยอยู่ในห้องโถงนั้นกลับเมินเฉิยต่อเขา
“ขออนุญาตนะครับ นายหญิง” ฉูจงฉวนมองไปที่รูปปั้นและพูดในใจ
ถ้าหากภูตไฟไม่ต้องการพลังในสุสาน เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องรบกวนภูตผีหรือวิญญาณชั่วร้ายแล้ว
โดยเฉพาะแม่นางคนนี้
ถ้าไม่ผิดพลาดอะไร พื้นที่ของแม่นางคนนี้กำลังถูกคุกคาม
ไม่ใช่เพราะว่านางอ่อนแอ แต่เป็นเพราะนางไม่อยากทำร้ายผู้คน
เมื่อพิจารณาจากรูปปั้นและข้อมูลจากด้านหน้าของหลุมฝังศพ พบว่าผู้หญิงคนนี้ถูกล้อมไปด้วยกองทัพศัตรูและในระหว่างที่กำลังขัดขืนจากการถูกจับ นางก็ได้ชักดาบออกมาและฆ่าตัวตายลงในที่สุด
ในสมัยโบราณ ผู้ที่มีจิตใจดีงามได้เสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก
“ข้อขอชื่นชมความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ของท่าน” ฉูจงฉวนโค้งคำนับให้กับรูปปั้น
เวลาได้ผ่านไป
หลังจากเวลาผ่านไป 2 เดือน ในที่สุด ภูตไฟก็ได้ดูดซับความแข็งแกร่งที่มันต้องการ จากนั้นลมปราณของมันก็ระเบิดทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้น หลุมฝังศพก็สั่นสะเทือนทันที
ใบหน้าของฉูจงฉวนเปลี่ยนไป เขาใช้ประโยชน์จากที่นี่เพื่อเสริมพลังของภูตไฟ เพื่อรวบรวมลมปราณของมัน เขาจึงเข้ามายังสุสานขนาดใหญ่นี้อย่างเงียบ ๆ แต่ว่าตอนนี้ เขาไม่สามารถหลบซ่อนตัวได้อีกต่อไป
นี่มันกลายเป็นเรื่องวุ่นวายขึ้นเสียแล้ว
“เจ้าปีศาจที่กล้าเข้ามาบุกรุกสุสานของท่านราชาวิญญาณ มันอยู่ที่ไหน?”
“มันช่างกล้ายิ่งนัก คงจะแอบเข้ามาขโมยกระดูกขององค์ราชา ในขณะที่เรากำลังนอนหลับอยู่สินะ”
“ท่านหยู ท่านสามารถตามหาตัวผู้บุกรุก ด้วยกำลังอันแสนอ่อนแอของท่านได้ไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมถึงยังปล่อยให้พวกมันมีชีวิตอยู่ในดินแดนของท่านกัน?”
เสียงคำรามอันรุนแรงดังมาจากทุกทิศทุกทาง
ราวกับว่ากำลังตกลงไปในขุมนรกชั้นลึกสุดเลยก็ว่าได้ ต่างถูกล้อมรอบไปด้วยเสียงคำรามของวิญญาณอันชั่วร้าย ลมหายใจที่น่าขนลุก แม้จะห่างไปไม่ไกลก็ยังรู้สึกถึงความน่ากลัว
“มีบางอย่างกำลังเกิดขึ้น” ฉูจงฉวนรู้สึกไม่ค่อยดีอย่างมาก ขณะนั้นเขาเหมือนกับถูกตรึงเอาไว้ด้วยพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งของเหล่าผี
แม้ว่าเขาจะมีความสามารถมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถหลบหนีออกไปได้
สิ่งนี้เปรียบได้กับว่าเป็นพลังวิญญาณของราชาวิญญาณ
ทันใดนั้น ร่างกายของฉูจงฉวนนั้นอ่อนแรงลง
ราวกับว่าเขากำลังถูกโอบล้อมไปด้วยลมปราณของราชาวิญญาณ
“รีบหนีไปได้แล้ว” มีเสียงอันอ่อนโยนดังขึ้นมาในหูของ ฉูจงฉวน
นี่คือเสียงของท่านหยูอย่างงั้นหรือ?!
ฉูจงฉวนรู้ได้ทันทีว่านั้นคือเสียงของผู้ปกครองของพื้นที่แห่งนี้ – ท่านหยู
“ขอบคุณสำหรับน้ำใจของท่านครับ นายหญิง ข้าจะจดจำมันเอาไว้” ฉูจงฉวนกระซิบ
“ไม่เป็นอะไร ถ้าเจ้าเคารพข้า ข้าก็จะเคารพเจ้าเช่นกัน ข้าจะให้โอกาสเจ้า มันไม่ได้สำคัญอะไรมากนัก มันเป็นเพียงแค่ไขกระดูกจากหลุมฝังศพของราชาวิญญาณเท่านั้น ราชาวิญญาณตนอื่นเองก็ให้ความสำคัญกับมันเช่นกัน ข้าไม่สามารถเปลี่ยนใจพวกมันได้ แต่ข้าจะหยุดพวกเขาเอาไว้ให้ เจ้ารีบหนีไปซะ!”
เสียงของท่านหยูดังออกมา
“มันเอาไขกระดูกขององค์ราชาไปจากอาณาเขตของข้า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเจ้ากัน? เจ้ากล้าบุกเข้ามาในอาณาเขตของข้า เป็นเพราะว่าเจ้าต้องการจะต่อกรต่อสู้กับข้างั้นหรือ?”
ท่านหยูไม่เกรงกลัวต่อราชาวิญญาณ
ฉูจงฉวนมองไปที่รูปปั้นของท่านหยู แล้วโค้งคำนับอีกครั้ง ก่อนที่จะหันหลังกลับและวิ่งหนีออกไปอย่างไม่ลังเล
“เจ้าหนู เจ้าจะหนีไปไหน!” ราชาผีตะโกนออกมา
แต่การได้พบกับเขา คือโชคร้ายของท่านหยู “จริง ๆ แล้วข้าไม่ใช้ท่านหญิงแต่อย่างใด ข้าเป็นเพียงแค่นางสนมผู้ต่ำต้อย ผู้ที่อยากรู้ว่าราชาวิญญาณนั้นมีทักษะอะไรบ้างตั้งแต่ในโบราณกาล”
พริบตานั้น พลังวิญญาณก็ได้ระเบิดออกมา
คลื่นวิญญาณอันแสนงดงามพริ้วไหวหมุนวนราวกับสายน้ำ
ทั่วทั้งสุสานดูเหมือนว่ากำลังจะพังทลายลง
คลื่นกระแทกอันน่ากลัวปะทุขึ้น ร่างฉูจงฉวนถูกพัดกระเด็นลอยออกมา จนร่างกายเต็มไปด้วยเลือด และอยู่ในสภาพที่ลำบากมาก
“แย่ละสิ มันกำลังจะมาฆ่าข้า” ฉูจงฉวนรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังถูกสัตว์ร้ายโบราณไล่ตาม
บางอย่างที่เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น
แม้ว่าราชาวิญญาณจะหยุดไล่ตามฉูจงฉวนแล้ว แต่ผีระดับนายพลและผีธรรมดาในสุสานต่างก็สังเกตุเห็นฉูจงฉวน
พวกมันเป็นผีที่แตกต่างจากราชาผี และพวกมันไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งของท่านหยู ดังนั้น พวกมันจึงต้องการไล่ตามฉูจงฉวน
“ฆ่ามัน!”
ผีทหารนับไม่ถ้วนและผีระดับนายพลวิ่งไล่ตามเขามาอย่างรวดเร็ว
“สวรรค์ล่มวิญญาณ!”
ฉูจงฉวนเข้าต่อสู้และรีบถอนกำลังออกไป ไฟสีเขียวเข้มพุ่งเข้าใส่ผีทหารและผีระดับนายพลอย่างแม่นยำ
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของผีระดับนายพลเหล่านั้นไม่ได้อ่อนแอ และมีจำนวนมาก การโจมตีระดับนี้ไม่สามารถยับยั้งพวกมันเอาไว้ได้
ฉูจงฉวนรู้สึกเหนื่อย และพลังวิญญาณของเขาก็กำลังจะหมดลง
นี่มันแย่มาก ข้าจะต้องจบชีวิตลงในที่แห่งนี้งั้นหรือ?
“ฉูจงฉวน!” เสียงที่คุ้นเคยดังมาแต่ไกล
ฉูจงฉวนมีความหวังขึ้นมาทันที
เสียงนั้นเป็นของลั่วอู๋
ฉูจงฉวนรู้สึกประหลาดใจที่เห็นสุนัขสีเงินตัวใหญ่ที่กำลังวิ่งมาหาเขา ในขณะที่ลั่วอู๋และหลี่หยินนั้นกำลังนั่งอยู่บนข้างหลังของมัน
“ฉูจงฉวน ไอ้เจ้าบ้านี่ รีบมาเร็วเราไม่มีเวลาแล้ว” ลั่วอู๋ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
ปรากฏว่าลั่วอู๋นั้น ถูกผีและผีระดับนายพลไล่ตามมาเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ฉูจงฉวนใช้พลังวิญญาณผ่านทางเส้นวงจรวิญญาณอีกครั้ง เขาใช้พละกำลังเฮือกสุดท้ายวิ่งตรงไปที่ ลั่วอู๋
“น้องชาย ข้าคิดไม่ผิดจริง ๆ ถ้าเกิดข้าเป็นผู้หญิงละก็ ข้าก็คงเข้ากับเจ้าได้ดีแน่” ฉูจงฉวนพูดด้วยความอ่อนแรง
ลั่วอู๋หายใจไม่ออก “เจ้าหุบปากไปซะ เจ้าโชคดีแค่ไหนรู้ตัวไหม การจะตามหาเจ้ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ ถ้าข้าไม่มาเจ้าก็คงตายไปแล้วแน่”
หลังจากนั้น หลี่หยินก็เรียกเสี่ยวไป่ออกมา
แสงสีขาวส่องสว่างวาบ
ลั่วอู๋และพรรคพวกหายตัวไปในชั่วพริบตา
ผีและผีระดับนายพลเหล่านั้นได้กระโดดขึ้นไปบนอากาศ และทิ้งตัวลงมาบนพื้น หลังจากนั้นไม่นาน พวกมันก็แยกย้ายออกไป
……
……
หลังจากแสงสีขาวส่องสว่างวาบ
ลั่วอู๋และพรรคพวกก็ไปปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่รกร้างห่างจากภูเขากุยโต
“ฟู่ว! ข้ากลัวแทบตาย” ลั่วอู๋มองไปที่ฉูจงฉวนและพูดว่า “ไอ้เจ้าบ้าเอ๊ย เจ้ามาทำอะไรในสถานที่อันตรายเช่นนี้กัน?”
ฉูจงฉวน อธิบายอย่างช่วยไม่ได้ “ภูตไฟของข้านั้นต้องการพลังจากสุสานแห่งนี้เพื่อวิวัฒนาการ”
ต่อมา ฉูจงฉวนได้เล่าสิ่งที่เขาพบเจอมาทั้งหมด
“ขอบคุณขอรับท่านหยู ข้าคิดว่าคงไม่สามารถหนีออกมาได้ถ้าเกิดท่านไม่มา” ฉูจงฉวนถอนหายใจ ก่อนที่พูดอย่างเสียใจ “น่าเสียดาย ที่ข้าไม่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของแม่นางคนนั้น”
ลั่วอู๋มองไปที่เขา
“เจ้ากำลังหมายความว่า ตอนนี้คุณสมบัติของภูตไฟของเจ้าได้ยกระดับขึ้นเป็นระดับเพชรแล้วยังงั้นหรือ?” ลั่วอู๋ถามด้วยความสงสัย
ฉูจงฉวนพยักหน้า “ใช่แล้ว แก่นวิญญาณนั้นมีพลังวิญญาณที่น่าทึ่ง และมันก็สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้”
การเพิ่มคุณสมบัติดั้งเดิมของสัตว์วิญญาณนั้น คือการเพิ่มศักยภาพของตนเองในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ดวงตาของลั่วอู๋หรี่ลง และพูดว่า”อันที่จริงแล้ว การวิวัฒนาการคือจุดประสงค์ของเจ้าใช่ไหม? การปรับปรุงคุณสมบัติดั้งเดิมเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น”
“แค๊ก แค๊ก! นี่มัน… ” “วันนี้อากาศดีจริง ๆ” ฉูจงฉวนกล่าว
“ใช่ ข้าก็ว่างั้น”
ลั่วอู๋นั้นโมโหฉูจงฉวนและต้องการที่จะดุด่าเขา นอกจากนี้เขายังสามารถปรับปรุงคุณสมบัติดั้งเดิมของเขาได้ โดยไม่จำเป็นต้องมายังสถานที่อันตรายเช่นนี้
ดังนั้น ไอ้เจ้าบ้าฉูจงฉวนดันเดินลึกเข้าไปยังในสถานที่ที่อันตราย เพื่อทำให้ภูตของเขาได้วิวัฒนาการ
เจ้ามีความหลงใหลในรูปลักษณ์ของสัตว์วิญญาณรูปร่างมนุษย์แค่ไหนกัน
ลั่วอู๋พูดไม่ออกเลย
“ได้โปรด อย่าโกรธข้าเลย” ฉูจงฉวนรู้สึกอายที่จะยิ้มออกมา จากนั้น เขาก็หยิบหินสีดำออกมาสองชิ้น “นี่คือสิ่งที่ข้าพบในหลุมฝังศพ มันดูเหมือนว่าจะเป็นหินที่เกิดจากการรวมตัวของไขกระดูกราชาวิญญาณ ข้าไม่แน่ใจว่ามันจะมีผลอะไรมากแค่ไหน แต่มันจะต้องมีค่าอย่างมาก ข้าให้มันกับเจ้าแล้วกัน”
ลั่วอู๋มองไปที่ฉูจงฉวนอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาก็หยิบหินแก่นวิญญาณทั้งสองก้อนขึ้นมา