ไหปีศาจ - บทที่ 242 การปรับแต่งเสร็จสิ้น
บทที่ 242
การปรับแต่งเสร็จสิ้น
ลั่วอู๋นำม้าผีกลับเข้าไปในห้องด้านในอีกครั้ง
ม้าผีนั้นมีศักยภาพระดับทอง แต่มันก็ยังไม่ได้อยู่ในวัยที่เติบโตเต็มที่ ศักยภาพที่แท้จริงของมันจึงเป็นเพียงแค่ระดับเงิน 7
แม้ว่ารูปร่างของมันจะสูงกว่าม้าธรรมดาถึงสองเท่าแล้วตามธรรมชาติของมัน แต่มันก็ยังไม่ได้จุดไฟสีฟ้าและงอกกระดูกพิเศษบนกีบอันเป็นเอกลักษณ์ของมันออกมา
“มันเป็นสัตว์วิญญาณที่ทรงพลังมาก”
เป็นเรื่องปกติที่สัตว์วิญญาณจะไม่เข้าใจทักษะเฉพาะบางอย่างเมื่อมันยังอยู่ในวัยเด็ก แต่การจะมีเพียงทักษะเดียวก็ยังน่าเสียดายเกินไป
ลั่วอู๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วมีบางอย่างผุดขึ้นมาในใจของเขา
หากเขาใช้การลงตราเอาทักษะของม้าผีมา ทักษะของมันก็อาจจะหายไป แต่ถ้าเขาใช้ความสามารถการแก้ไขคุณสมบัติของไหปีศาจ ทักษะที่หายไปนั้นจะปรากฏขึ้นอีกครั้งรึเปล่า?
นี่เป็นคำถามที่น่าคิด
เพราะยิ่งทักษะระดับสูงเท่าไหร่มันก็ยิ่งยากที่จะทำให้สัตว์วิญญาณเรียนรู้ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามการลงตราทักษะสามารถใช้ได้เพียงแค่ร้อยครั้ง มันจึงเสี่ยงเกินไปที่จะสูญเสียทรัพยากรและได้รับทักษะที่ดี
“มาลองกันดีกว่า”
ลั่วอู๋เลือกไปที่ทักษะของม้าผี ไฟทมิฬ ระดับ S
ทักษะนี้ดูเหมือนจะเป็นทักษะที่อ่อนแอกว่าทักษะไฟที่ทรงพลังที่สุดในทักษะธาตุมืด ไฟโลกันตร์
ลงตรา
ทักษะ: ไฟทมิฬ
ระดับ: S
ค่าใช้จ่าย: 500 แต้มเซียน
ด้วยที่การลงตราประสบความสำเร็จ ลั่วอู๋จึงได้รับตราทักษะของม้าผีมา ในขณะเดียวกันม้าผีก็ได้สูญเสียทักษะนั้นไป
เนื่องจากตราทักษะหากไม่นำไปใช้ก็จะไม่หายไปดังนั้น ลั่วอู๋จึงไม่กังวลกับมัน แต่เลือกที่จะไปลองใช้การแก้ไขคุณสมบัติก่อน
การแก้ไขคุณสมบัติเสร็จสิ้น
ลั่วอู๋ตรวจดูสถานะของม้าผี
เผ่าพันธุ์: ม้าผี
ระดับ: ทอง
มิติวิญญาณ : ระดับ เงิน 7
ทักษะ: ทลายสรวงสวรรค์ (ระดับ A) กัดกินความชั่วร้าย (ระดับ A)
พื้นเพ: หลังจากการตายของม้าที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ มันก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นม้าวิเศษ เนื่องจากดวงวิญญาณของมันได้รับการยกย่องจากมวลชน วิญญาณของมันจึงไม่สลายไปและได้รับพลังจากโลกใต้พิภพหวนคืนกลับมาอีกครั้ง
“มันไม่กลับมา ?”
ลั่วอู๋ส่ายหัวเพราะทักษะที่มันมีอยู่ตอนนี้ไม่ดีเท่าไหร่ สิ่งที่เขาต้องการรู้มากที่สุดก็คือม้าผีจะเอาทักษะไฟทมิฬกลับมาอีกครั้งได้หรือไม่ หลังจากการแก้ไขคุณสมบัติแล้ว
เขาใช้การแก้ไขคุณสมบัติต่อไป
หลังจากรีเซตสามครั้งติดต่อกัน “ไฟทมิฬ” ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในแถบข้อมูลทักษะของม้าผี
ลั่วอู๋สูดหายใจ
ปรากฏว่ามันทำแบบที่เขาคิดได้
ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายในการแก้ไขคุณสมบัติจะสูงเกินไปหน่อยก็ตาม
“ต่อไป” ดวงตาของลั่วอู๋ท่วมท้น
ลั่วอู๋ตราไฟมืดจากนั้นก็มีคุณสมบัติเป็นม้าผี
วัฏจักรนี้.
“เชิญวิญญาณ” ทักษะที่โดดเด่นที่สุดของม้าผี นั้นแทบจะเป็นทักษะเฉพาะตัว ต่อให้ลงตราทักษะไปก็คงเอาไปใช้กับสัตว์วิญญาณตัวอื่นไม่ได้ ส่วนทักษะอื่น ๆ นั้นธรรมดาเกินไป ลั่วอู๋จึงไม่เลือกที่จะลงตราทักษะอื่น ๆ พวกนั้น
นอกเหนือจากทักษะเชิญวิญญาณ แล้วม้าผียังได้รับการยกย่องมากที่สุดในเรื่องของความอดทนและความสามารถในการเปลี่ยนแปลงภาพกายหยาบเป็นร่างวิญญาณ
ทว่าในการใช้ทักษะผสานพลังวิญญาณระหว่างผู้ใช้พลังวิญญาณและสัตว์วิญญาณกลับไม่ได้เพิ่มเติมอะไรเท่าไหร่
เพราะข้อดีส่วนใหญ่ของมันไม่ได้อยู่ที่ทักษะ
หลังจากการแก้ไขคุณสมบัติ 37 ครั้งติดต่อกัน ลั่วอู๋ก็ได้รับเงาตราทักษะของไฟทมิฬมาแปดตรา พร้อมทั้งพัฒนาทักษะที่ดีที่สุดสำหรับม้าผีได้สำเร็จ
“ถึงแม้ตราทักษะเพียงแปดอันจะยังน้อยไปหน่อย แต่ทักษะที่ม้าผีมีในตอนนี้มันดีมาก จนข้าทำใจแก้ไขคุณสมบัติไม่ลงแล้ว” ลั่วอู๋ถอนหายใจและเดินออกไปจากมิติไหพร้อมกับม้าผี
……
……
“ข้ากลับมาแล้ว” หนิงหลิงหลิงวิ่งกลับเข้ามาจากด้านนอก ใบหน้าของนางแสดงสีหน้าตื่นเต้นมาก
เหล่าสาว ๆ จึงพากันถามนาง “มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?”
เฉินหมิงหยู่นั้นไม่สนใจเรื่องภายนอกเท่าไหร่ แต่นางก็ยังคงเงี่ยหูแอบฟังข่าวของหนิงหลิงหลิง
หนิงหลิงหลิงสูดหายใจและใบหน้าอันสวยงามของนางเปลี่ยนเป็นสีแดง “ข้าไปที่สำนักย่อยการปรับแต่ง เพื่อถามท่านอาจารย์จางว่า เขาสามารถกระตุ้นศักยภาพของม้าผีและช่วยให้มันเรียนรู้ทักษะเพิ่มขึ้นมาสองอย่างภายใน 3 ชั่วโมงได้ไหม ซึ่งเขาบอกว่าต่อให้เป็นตัวเขาเองก็อาจจะล้มเหลว ”
สำนักย่อยการปรับแต่งเป็นสถานที่ในสำนักเฉียนหลง สำหรับการปรับแต่งสัตว์วิญญาณ
ที่นี่นั้นได้รวบรวมผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณที่มีฝีมือจำนวนมากมาจากทั่วทุกมุมโลก พวกเขาต่างศึกษาและพูดคุยแลกเปลี่ยนแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ต่าง ๆ
สำนักย่อยการปรับแต่งของสำนักเฉียนหลงเป็นสถานที่ที่มีอำนาจมากที่สุดในการปรับแต่งพลังวิญญาณ
ซึ่งจางฉีฮงหรืออาจารย์จางเป็นผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณระดับสูงที่มีชื่อเสียงมาช้านาน
“ว้าว! ท่านพี่”
“แม้แต่ท่านอาจารย์จาง ก็ยังบอกว่ามันยากมากเลยนะเจ้าคะ”
“ท่านพี่ช่างมีพลังมากยอดเยี่ยมจริง ๆ ข้าเกรงว่าท่านจะเป็นผู้ปรับแต่งอายุน้อยที่แข็งแกร่งที่สุด ในไม่ช้าแน่ ๆ เจ้าค่ะ”
“เจ้าพูดอีกรอบได้ไหม ? ข้าว่าเจ้าไม่ต้องพูดว่า เกรงว่าแล้วล่ะจะมีใครมาเทียบเคียงท่านพี่สาวของพวกเราได้กัน?”
สาว ๆ ทุกคนต่างปรบมือยกยอเฉินหมิงหยู่กันใหญ่
เฉินหมิงหยู่กล่าวอย่างถ่อมตัว “อาจารย์จาง ท่านเป็นคนเจียมเนื้อเจียมตัว และข้าเองก็คงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ในทุกครั้ง ในแง่ของฝีมือในการปรับแต่ง ข้ายังเป็นคนรุ่นใหม่และยังต้องเรียนรู้อีกมาก”
สาว ๆ ทุกคนต่างมีประกายดวงดาวเล็ก ๆ ในแววตาของพวกนาง
ท่านพี่สาว ช่างเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่เพียงยอดเยี่ยมแค่ฝีมือเท่านั้นแต่บุคคลิกก็ด้วย
“มีอะไรกันเหรอ ? จู่ ๆ ก็คึกคักกันใหญ่” ลั่วอู๋เดินออกมาจากห้องพร้อมกับม้าผี ด้วยสีหน้าสับสนเล็กน้อย
ผู้คนต่างประหลาดใจ
เวลานั้นเพิ่งผ่านไปเพียงสองชั่วโมง เขาออกมาได้อย่างรวดเร็วเกินไปหรือเปล่า ?
โดยไม่รู้เลยว่าถ้าไม่ใช่เพราะว่าลั่วอู๋ต้องการจะสร้างตราทักษะเก็บไว้ ลั่วอู๋อาจจะออกมาเร็วกว่านี้ด้วยซ้ำ
“เจ้าออกมาเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?” หนิงหลิงหลิงรู้สึกไม่พอใจ นางเป็นห่วงว่าผู้ชายตรงหน้านางจะทำอะไรที่ก่อให้เกิดผลเสียกับม้าผีของนาง
ลั่วอู๋พูดด้วยรอยยิ้ม “ก็ข้าปรับแต่งมันเสร็จแล้ว ข้าก็ต้องออกมาสิ ”
“เร็วไปไหม?” หนิงหลิงหลิงและเด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ ต่างมีสีหน้าสงสัย เดิมทีพวกนางคิดว่าชายคนนี้น่าจะล้มเหลวในการปรับแต่ง จึงออกมายอมรับความพ่ายแพ้
มีเพียงเฉินหมิงหยู่เท่านั้นที่นึกถึงฉากคล้าย ๆ กันในศาลาไป่หยู่ และนางก็อดไม่ได้ที่จะตื่นกลัว
ตอนนั้นเองก็ดูเหมือนว่าเขาจะเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มอันมั่นใจที่เสร็จสิ้นการปรับแต่งด้วยความเร็วอันรวดเร็วมาก จากนั้นจึงพูดประโยคเดียวกันนี้ว่า ก็ข้าปรับแต่งมันเสร็จแล้ว ข้าก็ต้องออกมาสิ
“ม้าผีของข้ามีค่ามาก มันไม่สำคัญว่าเจ้าจะทำให้มันได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ไหม แต่ถ้าการปรับแต่งของเจ้าทำให้มันเกิดความเสียหายละก็ ข้าจะไม่ไว้ชีวิตเจ้าแน่” หนิงหลิงหลิงกำหมัดแน่นและโบกมือเป็นการเตือน
ลั่วอู๋หัวเราะ “ไปดูเอาเองเถอะ”
หนิงหลิงหลิงตรวจดูม้าผีอย่างประหม่าและรู้สึกโล่งใจ
โชคดีที่มันไม่มีปัญหาอะไร
“ไหนขอข้าดูหน่อยสิ ว่าเจ้านั้นได้เปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเจ้าไปบ้าง?” หนิงหลิงหลิงลูบคอของม้าผีจากนั้นก็เริ่มรู้สึกถึงสภาพของม้าผีที่เปลี่ยนไป
ต่อมาใบหน้าของหนิงหลิงหลิงก็ดูตื่นเต้น ราวกับว่านางได้พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิด
“หลิงหลิงมีอะไรงั้นเหรอ?”
“มีสิ่งผิดปกติกับการปรับแต่งรึเปล่า?”
“รีบบอกมาเร็วถ้ามีอะไรผิดพลาดฝั่งเราจะได้ชนะ”
สาว ๆ ต่างเร่งให้นางรีบพูดออกมา
เฉินหมิงหยู่ก้าวขึ้นไปด้วยตนเองอย่างรวดเร็วแล้วพูดด้วยเสียงทุ้ม “หนิงหลิงหลิง?”
“ท่านพี่ ดูด้วยตาของตัวเองเถอะ ข้าคิดว่าข้าอาจจะมองบางอย่างผิดไปก็ได้” หนิงหลิงหลิงกุมศีรษะและตกอยู่ในภวังค์ของความสับสน
เฉินหมิงหยู่เริ่มรู้สึกความไม่สบายใจ นางใช้วิชาลับของนางอย่างรวดเร็ว และเริ่มรู้สึกถึงสถานะของม้าผี
ม้าผีมีอะไรบางอย่างสีเข้มจาง ๆ อยู่ในตัวมัน
“ฮี้”
ม้าผีพึมพำสองสามครั้ง
เฉินหมิงหยู่หายใจเข้าลึก ๆ ดวงตาที่สวยงามของนางเผยให้เห็นร่องรอยของความตกตะลึง “มันมีถึงเจ็ดทักษะเลยเหรอ?”
ทลายสรวงสวรรค์ (ระดับ A), เชิญวิญญาณ (ระดับ S), กัดกินความชั่วร้าย (ระดับ A), ลมปราณแห่งนรกภูมิ (ระดับ S), ห่าฝนแห่งความตาย (ระดับ A), การแปลงร่างวิญญาณ (ระดับ S) สะเทือนปฐพี (ระดับ S)