ไหปีศาจ - บทที่ 276 การทดสอบผู้ปรับแต่ง
บทที่ 276 การทดสอบผู้ปรับแต่ง
บทที่ 276 การทดสอบผู้ปรับแต่ง
อาณาจักรภูเขาแห้งแล้ง
ประเทศโบราณที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจักรวรรดิและมีอำนาจไม่น้อยไปกว่าราชวงศ์มังกรเร้นกาย
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในรูปแบบของชนเผ่า แต่ระบบโดยรวมของอาณาจักรภูเขาแห้งแล้งก็ไม่ได้แตกต่างไปจากที่อื่น
ระหว่างอาณาจักรภูเขาแห้งแล้งและเขตของราชวงศ์มังกรเร้นกายนั้นถูกกั้นด้วยทะเลทรายขนาดใหญ่
คนจากภูเขาแห้งแล้งคนเดียวที่ลั่วอู๋รู้จัก คือหยู่เฮาผู้ที่เดินทางร่วมกับเขาและพรรคพวกเพื่อตามหาภูตทะเลทรายในส่วนลึกของป่าหวงชา
เผ่าของหยู่เฮาดูเหมือนจะถูกเรียกว่าเผ่าเที่ยนหวู่
เนื่องจากหยู่เฮามีขวานขนาดใหญ่ที่ทำมาจากแร่เหล็กแห่งความโกลาหลซึ่งทำให้ลั่วอู๋ค่อนข้างประทับใจ
พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดี
หยู่เฮาเคยมาอาศัยอยู่ที่สำนักโล่พิทักษ์ระยะหนึ่ง
“เจ้ามาจากภูเขาแห้งแล้งงั้นเหรอ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้กัน?” ลั่วอู๋แปลกใจ
หยู่เสี่ยวฉางขมวดคิ้วและย่นจมูก“ มันมีอะไรแปลกเกี่ยวกับการที่ข้ามาอยู่ที่นี่รึไง ? ถ้าไม่ใช่เพราะคำเชิญของท่านรองประธานของพวกเจ้า พวกข้าก็ไม่ถ่อมาถึงที่นี่หรอก นอกจากนี้สำนักเฉียนหลงเองก็ถูกสร้างขึ้นโดยท่านหม่าเฉินของพวกเรา ทำไมข้าจะมาที่นี่ไม่ได้ล่ะ หืม? ”
หยู่เสี่ยวฉางดูโกรธเล็กน้อย
นางเริ่มคิดว่าผู้คนของอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกายเหล่านี้ ช่างไม่เป็นมิตรเสียจริง นางไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงต้องควรส่งพวกนางมาที่นี่ด้วย ทั้งที่อะไรต่างก็ไม่ได้ดูดีมากเท่าไหร่
“ท่านรองประธานงั้นเหรอ? เกิดอะไรขึ้น?” ใบหน้าของลั่วอู๋ว่างเปล่าสับสน
หยู่เสี่ยวฉางมองไปที่ลั่วอู๋อย่างสงสัย “นี่เจ้าไม่รู้เหรอ?”
ลั่วอู๋ส่ายหัว “ข้าอยู่ใน คฤหาสน์สุตรามาสามวัน ข้าไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
หยู่เสี่ยวฉางเห็นการแสดงออกของลั่วอู๋ดูเหมือนจะไม่สับสนจึงเริ่มอธิบาย
ปรากฏว่าสองวันที่ผ่านมาประตูของสำนักเฉียนหลงได้ถูกเปิดออก และกลุ่มคนจากภูเขาแห้งแล้งก็ได้เดินเข้ามา
รองประธานาสำนักรับบุคคลเหล่านี้เข้ามาเป็นการส่วนตัว
เนื่องจากบุคคลเหล่านี้เป็นเยาวชนผู้มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นที่สุดในภูเขาแห้งแล้ง และพวกเขาเป็นกลุ่มผู้มีพรสวรรค์ที่ราชวงศ์มังกรเร้นกายให้ความสำคัญเป็นอย่างมากมาก
นอกจากนี้ที่อาณาจักรภูเขาแห้งแล้งเองก็มีสำนักที่คล้ายกันกับสำนักเฉียนหลง ซึ่งที่นั่นเรียกกันว่า สำนักหม่าเฉิน
ในตำนานของพวกเขามันถูกสร้างขึ้นโดยเทพผู้พิทักษ์และเทพเจ้าแห่งราชวงศ์มังกรเร้นกายเช่นเดียวกันกับสำนักเฉียนหลง
อัจฉริยะเหล่านี้มาจากสำนักหม่าเฉิน
จุดประสงค์ของการมาของพวกเขาคือ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความสามารถที่พวกเขามีและเติบโตไปด้วยกัน
ลั่วอู๋จำได้ว่าในวันที่มีการประกาศการศึกชิงอันดับรายชื่อ รองประธานได้กล่าวว่าจะมีกลุ่มนักเรียนใหม่เข้ามาสู่สำนักเฉียนหลง
กลุ่มนักเรียนที่ว่าเขาหมายถึงผู้คนจากอาณาจักรภูเขาแห้งแล้งนี่เอง
“นี่มันนักเรียนแลกเปลี่ยนชัด ๆ” ลั่วอู๋อดไม่ได้ที่จะโพล่งออกไป
หยู่เสี่ยวฉางอยากรู้อยากเห็น “เจ้าพูดถึงอะไร?”
“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร” ลั่วอู๋ขอโทษ “ข้ามัวอยู่แต่ในคฤหาสน์สุตราเลยไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ ดังนั้นข้าอาจจะพูดล่วงเกินเจ้าทำให้เจ้าไม่พอใจ ขอโทษด้วย”
หยู่เสี่ยวฉางยิ้มอย่างตรงไปตรงมา “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เจ้าเองก็มารับการทดสอบใช่ไหมล่ะ ?”
ลั่วอู๋พยักหน้า
“งั้นก็เข้าไปข้างในกันเถอะ” หยู่เสี่ยวฉางพูด
จากนั้นทั้งสองก็เดินเข้าไปในสำนักย่อยการปรับแต่งด้วยกัน
“เจ้าเองก็เป็นผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณงั้นเหรอ?” ลั่วอู๋สงสัยอยากรู้อยากเห็น
หยู่เสี่ยวฉางส่ายหัว “ที่ภูเขาแห้งแล้งเราไม่ได้เรียกกันว่าผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณ แต่เรียกว่าหมอผี มันเป็นคำเรียกของผู้ที่สามารถช่วยให้สัตว์วิญญาณเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น”
พวกเขาเดินมาที่จุดทดสอบ
เมื่อมาถึงเขาก็ได้พบกับจางฉีฮงที่คุ้นเคย เขาเป็นผู้รับผิดชอบในการทดสอบ
“อืม ลั่วอู๋ เจ้ารู้ไหมว่า เจ้าอยู่ด้านล่างสุดของลำดับรายชื่อน่ะ” จางฉีฮงกล่าวทักทายอย่างอบอุ่น
ลั่วอู๋ตอบด้วยรอยยิ้ม “ช..ช่วงนี้ข้างานยุ่งมาก..”
หยู่เสี่ยวฉางมองไปที่ลั่วอู๋ “อันดับล่างสุดหรือไม่นั่นไม่สำคัญหรอก ข้าจะไม่ดูถูกเจ้า ตราบใดที่เจ้าทำงานหนัก เจ้าจะกลายเป็นหมอผีที่ทรงพลังได้อย่างแน่นอน”
“ขอบคุณสำหรับกำลังใจ” ลั่วอู๋เกาหัวของเขา
จางฉีฮงปิดปากและหัวเราะเยาะ จากนั้นเขาก็พูดอย่างเคร่งขรึม ” ยินดีต้อนรับ นักเรียนจากสำนักหม่าเฉิน เจ้าต้องการท้าทายบททดสอบระดับไหน ?”
การทดสอบความสามารถในการปรับแต่งพลังวิญญาณแบ่งออกเป็นสิบระดับ
มันไม่ใช่ระดับความยากที่ต้องค่อย ๆ ฝ่าไปตามลำดับ แต่เป็นตัวเลือกความท้าทายที่เลือกได้ตามอิสระ
ยิ่งระดับสูง คะแนนที่ได้รับก็ยิ่งสูง และแน่นอนว่าถ้าหากทำได้ดีมากกว่าที่ควรหรือเกินกว่าคะแนนเต็มก็จะมีคะแนนเพิ่มเติมให้
หากสามารถครองสามอันดับแรกในการทดสอบของหมวดการปรับแต่งได้ ก็จะได้รางวัลเป็นคะแนนของตารางอันดับ
คะแนนพื้นฐาน คะแนนเพิ่มเติม และคะแนนตารางอันดับ ล้วนหาได้จากการทดสอบที่นี่
แน่นอนว่าส่วนประเมินความสามารถกลางอาจจะเสริมคะแนนให้อีกเพิ่มเติมหรือตัดออกตามความถนัดของผู้เข้าทดสอบ
ยกตัวอย่างเช่นลั่วอู๋ เขาเป็นผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณ ดังนั้นเขาก็จะได้รับคะแนนอันดับ 100% จากบททดสอบนี้ ทว่าหากเขาเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณที่มุ่งเน้นการต่อสู้เป็นหลัก เขาก็จะได้รับคะแนนอันดับไปเพียง 40-60% เท่านั้น
นี่เป็นเกณฑ์การวัดความสมดุลเพื่อไม่ให้มีการปั่นคะแนนแบบไม่สมเหตุสมผล
ไม่อย่างนั้นหากคนที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ มาเอาแต้มอันดับจากที่นี่ มันก็จะส่งผลให้อันดับในด้านการปรับแต่งผิดพลาดได้
ระดับทั้ง 10 ของบททดสอบมีสำหรับตั้งแต่สำหรับผู้ปรับแต่งระดับล่างไปจนถึงระดับสูง
เมื่อเห็นว่าหยู่เสี่ยวฉางกำลังลังเล จางฉีฮงจึงพูดว่า “มันไม่ชัดเจนงั้นเหรอ ให้ข้าอธิบายให้เจ้าฟังไหม?”
“ไม่เป็นไร ที่สำนักของข้าเองก็มีระบบคล้าย ๆ กัน” หยู่เสี่ยวฉางส่ายหัว “ข้าแค่อยากเลือกว่าจะผ่านบททดสอบอะไรดี”
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง หยู่เสี่ยวฉางก็ถามว่า “ใครเป็นอันดับหนึ่งของรายการ และเขากำลังทดสอบอยู่ในระดับไหน มีคะแนนเท่าไหร่”
จางฉีฮงมองไปที่นางด้วยความประหลาดใจ
“เฉินหมิงหยูเป็นอันดับหนึ่ง นางเลือกระดับหกและได้คะแนนการประเมิน 13700 คะแนน” จางฉีฮง กล่าว
ข้อมูลนี้อยู่ในรายชื่อการจัดอันดับของฝ่ายประเมิน
นางนั้นสามารถผ่านบททดสอบระดับหก ซึ่งมีไว้สำหรับผู้ปรับแต่งระดับสูง
ส่วนอันดับที่สอง นั้นเป็นชายจากตระกูลใหญ่ เขาเองก็ผ่านระดับหกเช่นกัน แต่ได้คะแนนไปเพียง แค่ 98 คะแนนเท่านั้น
“น้อยกว่ามากขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ ?” ลั่วอู๋ไม่เข้าใจ
จางฉีฮงอธิบาย “ความแตกต่างในการจัดอันดับระหว่างอันดับหนึ่งและอันดับสองคือ 1000 ผลงานของเฉินหมิงหยูในการผ่านระดับหกนั้นดีกว่าอันดับสองมากดังนั้นคะแนนที่นางได้จึงเพิ่มขึ้นสูงมากเช่นกัน หากไม่นับคะแนนสำหรับจัดอันดับ คะแนนรวมในการประเมินของเฉินหมิงหยูนั้นจะอยู่ที่ 11700 คะแนน ”
ทันใดนั้นลั่วอู๋ก็เข้าใจ
สมควรแล้วที่นางจะได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณระดับปีศาจ
“เฉินหมิงหยู ข้าเคยได้ยินชื่อนี้ นางเป็นหมอผีที่ดีที่สุดในรุ่นของจักรวรรดิมังกรเร้นกายใช่ไหม?” ตาของหยู่เสี่ยวฉางเป็นประกายด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
จางฉีฮงมองไปที่ลั่วอู๋พลางคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพูดว่า “ใช่ มันควรจะเป็นแบบนั้น”
ทันใดนั้นหยู่เสี่ยวฉางก็กระแทกโต๊ะ “ดีแล้ว งั้นข้าเองก็ขอเลือกระดับหกด้วย ข้าต้องการคว้าตำแหน่งหมอผีอันดับหนึ่ง”
ดูเหมือนว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ จากภูเขาแห้งแล้งคนนี้จะไม่ใช่คนธรรมดา ๆ
ลั่วอู๋คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ นักเรียนแลกเปลี่ยนจะต้องเป็นคนที่เก่งที่สุดของอีกฝั่งอยู่แล้ว
ทันใดนั้นลั่วอู๋ก็นึกออก ถ้าผู้คนจากภูเขาแห้งแล้งเข้าร่วมการทดสอบด้วย ก็เท่ากับว่าจะมีคู่แข่งเพิ่มมาอย่างมากมายในการชิงอันดับนะสิ?
โอ้ ปัญหาเพิ่มมาอีกแล้วเยอะชะมัด
“โปรดเชิญ ผู้เข้าร่วมการทดสอบ” จางฉีฮงเริ่มการทดสอบ
หยู่เสี่ยวฉางเดินเข้าไป
ห้องสำหรับการทดสอบนั้นสามารถเปิดได้สำหรับคน ๆ เดียว ดังนั้นลั่วอู๋จึงต้องรอให้หยู่เสี่ยวฉางทำการทดสอบจนเสร็จสิ้นก่อนถึงจะเข้าไปได้
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมงหยู่เสี่ยวฉางก็ออกมาพร้อมกับรอยยิ้มอันมั่นใจบนใบหน้าของนาง
เนื่องจากการทดสอบนั้นเป็นจินตนาการจำลองไม่ใช่การปรับแต่งจริง ดังนั้นเวลาที่ต้องการจึงค่อนข้างสั้นและไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบใด ๆ
อย่างไรก็ตาม ด้วยวิธีนี้การทดสอบจึงสามารถสะท้อนความสามารถในการปรับแต่งของแต่ละบุคคลออกมาได้อย่างครบถ้วนถูกต้อง
จางฉีฮงประกาศผล “ผ่านการทดสอบ คะแนนพื้นฐาน 8000 คะแนน ผลงานดีมากจึงได้รับคะแนนเพิ่มเติมอีก 3300 คะแนนรวม 11300 คะแนนอยู่ในอันดับสอง ได้รับ 1,000 คะแนนสำหรับการจัดอันดับ”
หากไม่นับคะแนนอันดับหยู่เสี่ยวฉางอยู่ห่างจาก เฉินหมิงหยูเพียง 400 คะแนน
ช่องว่างนั้นห่างกันเพียงเล็กน้อย
จางฉีฮงได้แต่อุทานว่านางเองก็เป็นอัจฉริยะเช่นกัน
หยู่เสี่ยวฉางยังไม่พอใจ “ไม่คาดคิดเลยว่านางจะเหนือกว่าข้า ข้าอยากสมัครเข้ารับการทดสอบอีกครั้ง”
“ข้าเกรงว่า เจ้าจะต้องเข้าแถวตามลำดับ” จางฉีฮงชี้ไปที่ลั่วอู๋
เห็นได้ชัดว่าถึงตาของลั่วอู๋แล้ว
“เจ้ารอสักครู่ได้ไหม ให้ข้าได้รับการทดสอบอีกครั้งเถอะ” นางกล่าว “เพื่อเป็นการชดเชยหลังจากสิ้นสุดการทดสอบ ข้าจะสอนวิธีการปรับแต่งบางอย่างของข้าให้เจ้า รับรองว่าระดับของเจ้าจะดีขึ้นมากแน่ ”
“สอนข้า?” ลั่วอู๋รู้สึกแปลก ๆ
“นั่นยอมรับแล้วสินะ” หยู่เสี่ยวฉางตบลั่วอู๋ที่ไหล่
จางฉีฮงมองถามลั่วอู๋ด้วยสายตา ซึ่งลั่วอู๋ก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ปล่อยนางไปก่อนเถอะ ข้าไม่รีบอยู่แล้ว”
จางฉีฮงพยักหน้าและเปิดห้องการทดสอบให้นางอีกครั้ง