ไหปีศาจ - บทที่ 330 คำสาป
บทที่ 330 คำสาป
บทที่ 330
คำสาป
องค์จักรพรรดิหยุดลง
ลั่วอู๋เก็บหินทะลวงมิติกลับมา นี่เป็นของล้ำค่าที่สามารถใช้ในการอัญเชิญผู้บัญชาการหลิงหลงออกมาได้
หากเขาไม่ต้องใช้มันและเก็บมันเอาไว้ก่อนได้ เขาก็ควรเลือกที่จะเก็บมันเอาไว้
“ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?” องค์จักรพรรดิขมวดคิ้ว
องค์หญิงเจียโรวจ้องมองไปที่บิดาของนางแล้วรุดเข้ามาด้วยความงุนงง โดยไม่ได้สนใจลมปราณอันน่ากลัวของ องค์จักรพรรดิเลยแม้แต่น้อย
องค์จักรพรรดิรีบกลั้นลมปราณออกไป เพื่อไม่ให้ลูกสาวสุดที่รักบาดเจ็บ
“ท่านพ่อ” องค์หญิงเจียโรวสัมผัสใบหน้าอันเหี่ยวย่นขององค์จักรพรรดิเบา ๆ นางรู้สึกคุ้นเคยกับชายชราที่อยู่เบื้องหน้าของนางในตอนนี้มาก
ดวงตาขององค์หญิงเจียโรวกลายเป็นสีแดงแล้วนางก็ร้องไห้ออกมา “ท่านพ่อ ท่านกลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?”
สีหน้าขององค์จักรพรรดิดูซับซ้อน จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมา
เขาซ่อนความลับนี้มานานหลายปีแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับถูกคนถึงสองคนล่วงรู้ภายในวันเดียว
ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเขาจะลดลงไปมากจริงๆ กระทั่งพลังวิญญาณที่ใช้ในการระงับคำสาปก็ยังหายไปบางส่วน ทำให้เผลอปลดปล่อยคำสาปออกมาให้เห็น
“ไม่ต้องเป็นห่วงไป” องค์จักรพรรดิลูบหัวขององค์หญิงเจียโรวด้วยความรัก จากนั้นก็หายใจเข้าลึก ๆ ดึงพลังวิญญาณทั้งหมดที่อยู่รอบตัวหลั่งไหลกลับเข้าไปในร่างของเขา พลังวิญญาณมหาศาลถูกกักเก็บลงไปในร่างเล็ก ๆ โดยไม่มีการสั่นไหวเอนเอียงใด ๆ
จากนั้นผมสีขาวขององค์จักรพรรดิก็ค่อยๆเปลี่ยนกลับเป็นสีดำและริ้วรอยบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ หายไปกลับคืนสู่ลักษณะเดิมอย่างรวดเร็ว
คำสาปได้ถูกระงับหายไป
“เห็นมั้ยล่ะ ว่าไม่เป็นไรแล้ว” องค์จักรพรรดิกล่าวด้วยรอยยิ้ม
องค์หญิงเจียโรวมองไปที่องค์จักรพรรดิด้วยความสับสน ใบหน้าของนางยังคงเต็มไปด้วยน้ำตา “ท่านพ่อกลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?”
“ก็แค่มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นในการฝึกฝนเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก” องค์จักรพรรดิกล่าวอย่างใจเย็น “ทีนี้ให้ข้าแก้ปัญหาโดยการจัดการเจ้าเด็กคนนี้ก่อน”
ลั่วอู๋กลอกตาแล้วหยิบหินทะลวงมิติออกมา
ดูเหมือนว่าองค์จักรพรรดิจะเป็นปัญหาใหญ่ของเขา
“หยุดเลยท่านพ่อ!” องค์หญิงเจียโรวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าขององค์จักรพรรดิด้วยท่าทางจริงจัง “เขาเป็นเพื่อนของข้า ทำไมท่านถึงต้องการฆ่าเขาล่ะ?”
องค์จักรพรรดิพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เขารู้ความลับของข้า และความลับนี้จะต้องไม่ถูกเปิดเผยออกไป”
“ท่านบอกว่าก็แค่มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นในการฝึกฝนเท่านั้นไม่ใช่เหรอ ความลับอะไรกัน” องค์หญิงเจียโรวกำลังสับสน
“พอแค่นั้นแหละ” ลั่วอู๋พูดด้วยความโกรธ “เจ้านี่มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย”
องค์จักรพรรดิมองไปที่ลั่วอู๋ด้วยสายตาอันเย็นชา
ลั่วอู๋รู้ตัวดีว่าเขาต้องหุบปาก มันถึงเวลาแล้วที่เขาควรจะเลิกเติมเชื้อไฟ
ใบหน้าขององค์จักรพรรดิทั้งสับสนและลังเล
มันง่ายมากที่เขาจะฆ่าลั่วอู๋ แต่เขาไม่สามารถฆ่าลูกสาวของเขา เพื่อปกปิดความลับได้
ใบหน้าขององค์หญิงเจียโรวเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด “ท่านพ่อ ท่านไม่สบายรึเปล่า?”
“ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่แล้วที่ขันทีและสาวใช้รอบตัวท่านมักจะตายโดยไม่มีเหตุผล” องค์หญิงเจียโรว ดูเหมือนจะเข้าใจถึงบางสิ่งบางอย่างและอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำ “และเมื่อผ่านไปช่วงระยะหนึ่งก็ต้องเปลี่ยนคนรับใช้เป็นคนใหม่ทิ้งหมดกันยกชุด”
เหล่าเป็นคนที่คอยดูแลรับใช้องค์จักรพรรดิอย่างใกล้ชิดในชีวิตประจำวัน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะไม่พบสิ่งผิดปกติ ฉะนั้นแล้วในทันทีที่พวกเขาพบสิ่งผิดปกติ ขันทีและสาวใช้เหล่านั้นก็จะถูกฆ่า
องค์จักรพรรดินั้นกำลังป่วยหนักและข่าวนี้จะต้องไม่ถูกแพร่กระจายออกไป
เนื่องจากจักรวรรดิราชวงศ์มังกรเร้นกายนั้นยังไม่พร้อมสำหรับการมีองค์จักรพรรดิองค์ใหม่
องค์ชายต่าง ๆ เหล่านั้น แม้กระทั่งลูกชายแท้ ๆ ขององค์จักรพรรดิต่างก็ไม่ได้มีคุณสมบัติอันเหมาะสมสำหรับการรับช่วงต่อตำแหน่งขององค์จักรพรรดิ
พวกเขาไม่สามารถปกครองอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้แน่
“อา … ” องค์จักรพรรดิถอนหายใจ “ใช่ เจ้าเดาถูก แต่มันไม่ใช่โรคร้ายแรงแต่อย่างใด มันคือคำสาป คำสาปที่หลอกหลอนข้ามานานกว่าสิบแปดปี”
องค์หญิงเจียโรว ประหลาดใจ
คำสาปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ? นั่นมันปีที่นางเกิดไม่ใช่เหรอ ?
“เพราะคำสาปนี้ ข้าจึงได้สูญเสียพลังชีวิตของตัวเองไป” องค์จักรพรรดิกล่าวอย่างใจเย็น “ตอนนี้ไม่มีพี่น้องของเจ้าคนใดที่สามารถรับภาระหน้าอันหนักอึ้งนี้ได้ ข้าไม่มีเวลาฝึกฝนพวกเขามากพอ แต่ข้าก็ไม่สามารถเฝ้าดูการล่มสลายของราชวงศ์มังกรเร้นกายได้”
“ดังนั้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้าจึงได้อนุญาตให้หลี่ซวนซงบ่มฝึกฝนพลังวิญญาณของตัวเอง ผูกมิตรกับองค์ชายและขุนนางต่าง ๆ ปล่อยให้เขาได้พัฒนาตัวเองอย่างอิสระ”
“เขานั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สำหรับว่าที่องค์จักรพรรดิคนต่อไป อย่างน้อย ๆ เขาก็เป็นสมาชิกของตระกูลหลี่ของเรา”
“ แต่ข้าก็ยังไม่ชอบใจ”
“ เพราะเขาไม่ใช่ลูกหลานของข้า”
มีร่องรอยของความไม่เต็มใจบนใบหน้าขององค์จักรพรรดิ
เขามีความทะเยอทะยาน สิ่งที่เขาต้องการนั้นไม่เพียงแค่ความเจริญรุ่งเรืองของจักรวรรดิเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการผนวกอาณาจักรภูเขาแห้งแล้งเข้ากับจักรวรรดิ รุกรานของอาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะ ทำลายหุบเขามรณะ และแม้แต่ยึดครองทะเลเหนือสุดขอบในตอนเหนือของแผน เพื่อที่จะทำให้จักรวรรดิของราชวงศ์มังกรเร้นกายกลายเป็นอาณาจักรอันรุ่งโรจน์ที่สุดในประวัติการณ์และคงอยู่ตลอดไป
แม้ว่าเขาจะทำมันไม่ได้ แต่ลูกชายของเขาก็ควรที่จะได้เป็นคนสานต่อความทะเยอทะยานนี้
ซึ่งหลี่ซวนซงนั้นไม่ใช่
หลานชายของเขาไม่ถือว่าเป็นลูกชาย
หากหลี่ซวนซงได้บรรลุเป้าหมายนี้ สิ่งที่จะถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ ก็คือองค์ชายเฉินนั้นได้ให้กำเนิดบุตรชายที่เยี่ยมยอด
นี่จึงเกิดเป็นความขัดแย้งที่เขามักจะอนุญาตให้ หลี่ซวนซง สามารถพัฒนาทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างอิสระ แต่ก็มักจะหาโอกาสห้ามปรามเขา
“ข้าอยากจะชะลอเขาไปเรื่อย ๆ ๆ จนกว่าพี่ชายของเจ้าที่ไร้ความสามารถจะให้กำเนิดผู้มีพรสวรรค์คนใหม่ขึ้นมาสักสองสามคนที่ควรค่าแก่การใช้งาน”
“ แต่มันสายไปแล้ว” องค์จักรพรรดิมีสีหน้าอันซับซ้อน
เขารู้สึกตัวแล้วว่าเขาคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานเท่านั้น
ไม่มีทางที่เขาจะปราบปรามหลี่ซวนซงได้อีกแล้ว
ซึ่งหลี่ซวนซงก็รู้เรื่องนี้ดีเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงพร้อมที่จะแต่งงานกับองค์หญิงเจียโรว และกลายเป็นลูกเขยขององค์จักรพรรดิแทน หลังจากที่องค์จักรพรรดิสิ้นพระชนม์
หลี่ซวนซงจะได้อ้างอำนาจในนามของลูกเขยขึ้นเป็นผู้รักษาการณ์เพื่อความมั่นคงของราชสำนัก
องค์ชายคนอื่น ๆ ไม่สามารถเทียบเคียงหรือข่มเขาได้เลย
ผู้มีอำนาจระดับสูงหลายคนในราชสำนักของจักรวรรดิ รู้บางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาจึงเริ่มขยับเข้าไปตีสนิทกับ หลี่ซวนซง รอคอยวันเปลี่ยนถ่ายบัลลังก์โดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามใด ๆ
องค์หญิงเจียโรวถามอย่างใจจดใจจ่อ “คำสาปนี้ไม่สามารถแก้ได้เลยงั้นเหรอ ?”
“ไม่มีทางเลย”องค์จักรพรรดิส่ายหัวอย่างใจเย็น” ข้าได้ลองมาหลายวิธีแล้ว มีเพียงแก่นพลังชีวิตอันบริสุทธิ์จำนวนมากเท่านั้น จึงจะสามารถระงับคำสาปนี้ได้ ”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็จะควบคุมคำสาปให้อยู่หมัด” เมื่อคิดว่าบิดาของนางอาจจะตายได้ในไม่ช้าองค์หญิงเจียโรวก็กังวลจนจะร้องไห้
องค์จักรพรรดิส่ายหัว “มันไร้ประโยชน์น่า ข้าได้ลองใช้วัตถุพลังวิญญาณทั้งหมดที่มีแก่นพลังชีวิตมหาศาลแล้ว นั้นเป็นสาเหตุที่ข้าสามารถระงับคำสาปได้นานถึงขนาดนี้”
ด้วยอำนาจในฐานะองค์จักรพรรดิ วัตถุพลังวิญญาณดังกล่าวล้วนถูกส่งมอบมาให้เขาอย่างต่อเนื่อง
น่าเสียดายที่วัตถุพลังวิญญาณประเภทนี้สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น และในครั้งที่สองที่ใช้มันก็จะไม่มีผลใด ๆ อีก
มีเพียงโฉวหยวนกัวเท่านั้นที่ใช้ซ้ำได้ แม้ว่าผลของมันจะลดลง แต่ก็สามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง
โฉวหยวนกัวที่ทางราชวงศ์มังกรเร้นกายสามารถหาได้นั้นถูกส่งมาให้เขาอย่างลับๆ แต่พวกมันก็ยังห่างไกลจาก โฉวหยวนกัวที่มีประสิทธิภาพพอสมควร
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาพาลั่วอู๋เข้ามา
ด้วยความที่เขามีผลโฉวหยวนกัวถึงสิบลูก แม้ว่าคำสาปจะล้นออกมา แต่ผลของมันก็น่าจะสามารถระงับคำสาปได้อย่างน้อยหนึ่งหรือสองปี
เวลา ตอนนี้องค์จักรพรรดิต้องการเวลามากกว่านี้
เป็นเพราะเขารู้สึกว่าเขาอาจจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกหนึ่งถึงสองปี ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธคำขอของหลี่ซวนซงที่จะขออยู่ในพระราชวัง
เพราะเขาต้องการยืดระยะเวลาการแต่งงานระหว่างองค์หญิงเจียโรวกับหลี่ซวนซงออกไป
มันอาจมีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆเกิดขึ้นก็ได้
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่มีโอกาสนั้นแล้ว
ผลไม้ โฉวหยวนกัวถูกขโมยไปและองค์จักรพรรดิก็กำลังสงสัยว่าหลี่ซวนซงเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถกล่าวหาสุ่มสี่สุ่มห้าได้
หากองค์ชายคนใดคนหนึ่งมีความสามารถในการปกครองราชวงศ์มังกรเร้นกาย
ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลง องค์จักรพรรดิก็จะไม่ลังเลที่จะให้เขาคนนั้นได้แบกรับตำแหน่งของจักรพรรดิไป อีกทั้งยังพร้อมที่จะกวาดล้างอุปสรรคทั้งหมดให้กับเขาด้วย ตำหนักขององค์ชายและองค์ชายคนอื่น ๆ ที่คิดจะคุกคามบัลลังก์จะต้องถูกกำจัดให้สิ้นซาก
แต่น่าเสียดายที่มันคงไม่น่าจะได้เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดีที่สุดก็คือ
อย่างน้อย ๆ จักรพรรดิยังคงมีสกุลหลี่
ต่อให้เขาไม่เต็มใจนักก็เถอะ
“ท่านพ่อ … ” องค์หญิงเจียโรวไม่สามารถทนต่อไปได้อีกต่อไป ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยน้ำตา
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมในตอนที่นางสงสัยว่าองค์ชายเล็กน่าจะมีปัญหา ท่านพ่อของนางจึงโกรธหนักมากและเลือกที่จะกักบริเวณนางไว้
เขาไม่ต้องการให้องค์หญิงเข้าสู่อยู่ในวังวนของการแย่งชิงอำนาจ พ่อของนางอยากให้นางได้มีช่วงเวลาอันไร้กังวลมากกว่านี้
นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมการหลบหนีออกจากวังจึงเป็นเรื่องง่าย
“ดีแล้ว ไม่เป็นไรๆ ตราบใดที่พ่อยังอยู่ เจ้าก็ไม่ต้องเกรงกลัวอะไร” องค์จักรพรรดิลูบหัวขององค์หญิงเจียโรวและลูบไล้ใบหน้าของนาง
ดูเหมือนว่าองค์จักรพรรดิจะไม่ได้ไร้ความปรานีไปซะทีเดียว ลั่วอู๋อดที่จะรู้สึกแบบนั้นไม่ได้เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้
“ในเมื่อ เจ้าเข้าใจถึงเจตนาของพ่อแล้ว ก็อย่าได้หยุดพ่อ ความลับนี้จะต้องไม่ถูกเผยแพร่ไปสู่สาธารณะ” ใบหน้าขององค์จักรพรรดิเปลี่ยนเป็นสีหน้าอันน่าสะพรึงกลัว
ลั่วอู๋แปลกใจ เดี๋ยวก่อนนะ ไหงจู่ ๆ เจตนาฆ่าถึงกลับมุ่งเป้ามาที่เขาอีก
อีกฝ่ายไม่ได้มีความรู้สึกนึกคิดอารมณ์ร่วมอะไรเลย นี่นา ? อีกฝ่ายก็แค่กำลังวิเคราะห์สถานการณ์ และแค่อยากที่จะฆ่าเขาไม่ใช่เหรอ?
แน่นอนองค์จักรพรรดิไม่ได้มีความหมายแค่นั้น
อันที่จริงเขาก็อยากหาโอกาสพูดสิ่งเหล่านี้กับองค์หญิงเจียโรวมานานแล้ว น่าเสียดายที่เขาไม่เคยได้มีโอกาส มิฉะนั้นเขาคงจะไม่พูดสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดออกมาอย่างเรียบง่ายแน่
“ไม่นะ ท่านพ่อ” องค์หญิงเจียโรวดึงแขนเสื้อขององค์จักรพรรดิและร้องไห้ฟูมฟายว่า “อย่าฆ่า พวกเรามาคุยกันดีๆก่อนเถอะ เขาไม่กระจายข่าวออกไปหรอก”
องค์หญิงเจียโรว มองไปที่ ลั่วอู๋
เขาเคยช่วยชีวิตนางมาก่อนเมื่อนานมาแล้ว แม้ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของจักรวรรดิแต่นางก็ไม่อยากให้คนที่เคยช่วยนางต้องตาย
ลั่วอู๋รู้สึกซาบซึ้งมาก
ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เรื่องไร้สาระที่เขาเคยจ่ายเงินมากมายมหาศาล เพื่อเป็นค่าคุ้มครองโยองค์หญิงเจียโรว
องค์จักรพรรดิปฏิเสธอย่างราบเรียบด้วยหัวใจอันยึดมั่น “ไม่ ข้าจะไม่ยอมให้เรื่องนี้ได้มีโอกาสรั่วไหลออกไป”
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่างน้อย ๆ ก็มีองค์ชายเฉินและผู้มีอำนาจระดับสูงหลายคนของราชสำนัก แต่พวกเขาไม่มีทางพูดเรื่องนี้ออกไปแน่ เพราะพวกเขาต่างก็ต้องการให้อาณาจักรนี้ยังมั่นคงต่อไป
องค์หญิงเจียโรว กัดฟันของนางแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ท่านก็ต้องฆ่าข้าเช่นกัน ข้าเองก็อาจจะเผยแพร่เรื่องนี้ออกไปไม่ใช่เหรอ”
“เจ้า” องค์จักรพรรดิโกรธมาก”เจียโรว เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? ”
สังหารลูกสาวสุดที่รัก เขาจะทำแบบนั้นได้อย่างไร
องค์หญิงเจียโรว กัดริมฝีปากของนางพลางร่ำไห้หลั่งน้ำตาออกมา นางไม่มีทางยอมให้องค์จักรพรรดิสังหารลั่วอู๋แน่
“โอ้ เจียโรว อย่ากล่าวโทษข้าเลย” น้ำเสียงขององค์จักรพรรดิเบาลง แต่ท่าทีของเขาก็ยังคงหนักแน่นเช่นเดิม “งั้นข้าคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำให้เจ้าสลบไป”
องค์หญิงเจียโรวกล่าวตกตะลึง “ไม่นะ ไม่”
องค์จักรพรรดิไม่ได้ขยับ เขาเพียงแต่เตรียมที่จะใช้ฝ่ามือของเขาทำให้องค์หญิงเจียโรวหมดสติไป
ทันใดนั้นลั่วอู๋ก็พูดว่า “ท่านอาจจะยังมีวิธีอื่นก็ได้นะ?”
ทั้งองค์จักรพรรดิและองค์หญิงเจียโรวต่างมองไปที่ลั่วอู๋พร้อมกัน
“ข้ายังจะทำอะไรได้อีกงั้นเหรอ ?” องค์จักรพรรดิกล่าวอย่างเย็นชา
ลั่วอู๋หยิบผลไม้ลึกลับออกมาจากแขนเสื้อของเขา “ทำไมข้าไม่ใช้เจ้านี่ ช่วยท่านระงับคำสาปและซื้อเวลาชีวิตให้ท่านล่ะ ด้วยวิธีนี้มันก็ไม่สำคัญแล้วใช่ไหมล่ะ ว่าข่าวเรื่องคำสาปจะรั่วไหลออกมาไหม?”
ตราบใดที่องค์จักรพรรดิยังมีชีวิตอยู่ ก็จะไม่มีใครส่งผลกระทบใด ๆ ต่อจักรวรรดิได้ ต่อให้จะมีคนแบบหลี่ซวนซงหนึ่งร้อยคนก็ตามที
ผลไม้ลึกลับเปล่งแสงสีแดงจาง ๆ และมีหมอกสีขาวขุ่นห่อหุ้ม ดูเหมือนว่ามันจะมีพลังชีวิตปกคลุมอยู่รอบ ๆ มันเป็นวัตถุพลังวิญญาณที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง
“ โฉวหยวนกัว!” แสงแห่งความประหลาดใจฉายผ่านดวงตาขององค์จักรพรรดิ
ลั่วอู๋ส่ายหัวและแก้ไขคำพูดของเขา “ไม่ นี่คือ ผลไม้ลึกลับที่ดูดซับพลังวิญญาณจากต้นของมัน”
“นี่มันเรื่องจริงใช่ไหม!” องค์จักรพรรดิตกใจจนหายใจไม่ออกเล็กน้อย
“ก็ลองกินเข้าไปดูก่อนสิ” ลั่วอู๋พูด
องค์จักรพรรดิรีบหยิบผลไม้ลึกลับในมือของลั่วอู๋ไปจากนั้นก็กลืนมันลงไป ทันใดนั้นพลังวิญญาณมหาศาลก็หลั่งไหลเข้าไปในร่างกายของเขา
“มันได้ผล!” องค์จักรพรรดิประหลาดใจมาก
เขาจำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณทั้งหมด เพื่อระงับคำสาปอยู่เสมอ พลังวิญญาณของเขาจึงถูกใช้ไปในปริมาณมากอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นระดับมิติวิญญาณของเขาจึงถูกลดลง
แต่พลังวิญญาณอันยิ่งใหญ่ที่เขาได้กินเข้าไปนี้นั้นไม่เพียงแต่จะสามารถระงับคำสาปได้แล้ว มันยังช่วยลดความกดดันทางการไหลเวียนพลังวิญญาณของเขา ทำให้เขาสามารถรวบรวมพลังวิญญาณได้อีกครั้งเพื่อชดเชยต้นตอของพลังวิญญาณที่สูญเสียไป
ผลไม้ลึกลับนี้น่าจะมีผลต่อร่างกายของเขาอย่างน้อย ๆ ก็สองปี
“เจ้ามีผลไม้ลึกลับนี่กี่ผลกันแน่?” องค์จักรพรรดิตกตะลึงจนแทบขาดอากาศหายใจ
ลั่วอู๋หัวเราะและพูดคำที่ทำให้องค์จักรพรรดิไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไป “ข้าจะหามันมาเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ข้าต้องการ”
ตราบใดที่มีผลไม้ลึกลับนี้มากเพียงพอ องค์จักรพรรดิรู้สึกว่าเขาน่าจะสามารถระงับคำสาปนี้ไปได้เรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะตายด้วยสาเหตุอื่น
ถ้าเขาทำแบบนั้นได้ล่ะก็
การมีอยู่ของคำสาปก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
หัวใจขององค์จักรพรรดิซึ่งสงบอยู่เสมอ ไม่สามารถขัดขืนความตื่นเต้นได้อีกต่อไป มันเต้นอย่างรุนแรง จนเขาต้องพยายามอดกลั้นความดีใจและแสร้งทำเป็นไม่สนใจ “เอามันมาให้ข้า แล้วข้าจะให้อะไรก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ”
“องค์จักรพรรดิ ดูเหมือนว่าท่านจะเข้าใจอะไรผิดไปสักหน่อยนะ ตอนนี้สถานะของท่านได้กลายเป็นผู้ขอความช่วยเหลือจากข้าแล้ว” ลั่วอู๋ยิ้ม