CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ไหปีศาจ - บทที่ 333 รองเท้าเหินฟ้าเป็นที่นิยมในเมืองหลวง ของจักรวรรดิ

  1. Home
  2. ไหปีศาจ
  3. บทที่ 333 รองเท้าเหินฟ้าเป็นที่นิยมในเมืองหลวง ของจักรวรรดิ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 333 รองเท้าเหินฟ้าเป็นที่นิยมในเมืองหลวง ของจักรวรรดิ
บทที่ 333
รองเท้าเหินฟ้าเป็นที่นิยมในเมืองหลวง ของจักรวรรดิ

ในมิติไห
ลั่วอู๋มีภูเขารองเท้าเหินฟ้าอยู่ตรงหน้าเขา
ประเมินด้วยสายตาคร่าวๆแล้วน่าจะมีประมาณ 12000 คู่

ลั่วอู๋ทำดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้แล้ว
ทันทีที่พลังวิญญาณของเขาหมดลง เขาก็ไปนั่งสมาธิและฝึกฝนรวบรวมพลังวิญญาณ หลังจากฟื้นตัวแล้วเขาก็กลับไปสังเคราะห์รองเท้าต่อ

ความรู้สึกของใช้พลังวิญญาณจนถึงขีดสุดนั้นทรมานมาก แต่ก็เป็นผลดีต่อการฝึกฝนมิติวิญญาณ ช่วงวันที่ผ่านมานี้ลั่วอู๋จึงได้ประสบความสำเร็จในการทะลุไปถึงมิติวิญญาณระดับทอง มิติ 2

“จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราลองเสริมความแข็งแกร่งให้กับรองเท้าเหินฟ้า?” ลั่วอู๋ตัดสินใจที่จะทดลองอะไรใหม่ ๆ ดู

ตามการสันนิษฐานของเขาเองลั่วอู๋ได้เลือกแร่วิญญาณคุณภาพสูงหลายชิ้นและนำมาสังเคราะห์กับรองเท้าเหินฟ้า

เนื่องจากพลังวิญญาณในรองเท้าเหินฟ้านั้นน้อยกว่าแร่วิญญาณชั้นดีเหล่านั้น หลังจากผ่านการพยายามสังเคราะห์หลายครั้ง รองเท้าเหินฟ้าคุณภาพสูงก็ถูกสังเคราะห์ออกมา

รองเท้าเหินฟ้าคุณภาพสูงนั้นมีความแข็งแรงกว่ารองเท้าเหินฟ้าปกติและทนต่อการสึกหรอได้ดีกว่ามาก

ยิ่งไปกว่านั้นมันสามารถดูดซับพลังวิญญาณได้ในปริมาณที่มากขึ้นและอัตราการใช้งานของมันก็สูงขึ้นมาก ดังนั้นผู้ที่ใช้มันจะสามารถบินได้สูงขึ้นและกระโดดไปได้ไกล หากสวมรองเท้าเหินฟ้าคุณภาพสูง
“ไม่เลวเลยนี่นา” หลังจากนั้นลั่วอู๋ก็ออกจากมิติไหไป
เขามอบรองเท้าให้กับคฤหาสน์ชวนเทียนโดยที่ฝากให้หวังฉีและเซาฉางช่วยเป็นผู้ค้าตัวแทนให้กับสำนัก โล่พิทักษ์ เพื่อเจรจากับกลุ่มร้านค้ารายใหญ่

นอกจากนี้เขายังมีรองเท้าเหินฟ้าคุณภาพสูงอีกจำนวน 50 คู่

ลั่วอู๋ ส่งมอบ 30 คู่ให้แบ่งไปตามร้านค้าหลัก ๆ ต่าง ๆ โดยประมาณว่าแต่ล่ะร้านค้าจะได้รองเท้าเหินฟ้าคุณภาพสูงเพียงหนึ่งหรือสองคู่เท่านั้น

ลั่วอู๋ นั้นเป็นผู้จัดหาสินค้าและได้ตั้งราคาต้นของรองเท้าเหินฟ้า กำหนดไว้ที่ 5,000 หินวิญญาณ รองเท้าเหินฟ้าจำนวนมากนี้ทำให้เขาได้กำไรหลายสิบล้านมาในทันที

ส่วนรองเท้าเหินฟ้าคุณภาพสูงหนึ่งคู่นั้นมีมูลค่าอยู่ที่ ราว ๆ หนึ่งแสนหินวิญญาณ

อย่างไรก็ตาม ราคาที่เหล่าร้านค้ารายใหญ่เป็นคนกำหนดหลังจากที่ได้ซื้อรองเท้าไปแล้ว ลั่วอู๋นั้นไม่สามารถควบคุมได้

แม้จะมีราคาสูงก็ไม่ได้หมายความว่ามูลค่าของผลิตภัณฑ์จะคุณภาพสูงไปกว่าแบบธรรมดาหลายเท่าไปด้วย

แต่ของที่หายากย่อมมีค่าในสายตาของเหล่า “ผู้ดี” เนื่องจากพวกเขาหลายคนนั้นรังเกียจที่จะสวมรองเท้าเหินฟ้าแบบเดียวกับคนทั่ว ๆ ไป เงินที่จ่ายซื้อรองเท้าเหินฟ้าคุณภาพสูงล้วนเป็นเงินของบุคคลเหล่านี้

ยังมีรองเท้าเหินฟ้าคุณภาพสูงเหลืออีก 20 คู่ในสำนักโล่พิทักษ์ ไม่ว่าพวกเขาจะมีความร่วมมือกันอย่างไร ลั่วอู๋ก็ควรจะรักษาข้อได้เปรียบเช่นพวกมันเอาไว้เพื่อดึงดูดลูกค้า

ซึ่งแน่นอนว่าร้านค้ารายใหญ่ต่างก็ได้รับคำชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รองเท้าเหินฟ้าชุดแรกไม่ควรจะมีมากจนเกินไป อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ควรขายมันในปริมาณมากเกินไป และควรเว้นช่วงให้สำหรับชุดที่สองซึ่งจะวางขายในเวลาอย่างน้อย ๆ ครึ่งปีต่อจากนี้

ร้านค้าที่ทราบข่าวต่างรู้สึกงงงวย เหตุผลเป็นเพราะการผลิตมันลำบากเกินไปหรือเปล่า?

แต่ที่จริงแล้วช่วงเวลาระหว่างสินค้าสองชุดนั้นไม่ควรจะนานถึงครึ่งปี

การเปิดตัวของรองเท้าเหินฟ้าอย่างเป็นทางการได้กระตุ้นความคลั่งไคล้ของผู้คนจากทั่วทั้งอาณาจักร ทุกคนต่างโหยหาสัมผัสของท้องฟ้า

เป็นผลให้เพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นราคาของรองเท้าเหินฟ้าก็พุ่งทะยานขึ้นจากเดิมที่อยู่ราว ๆ 8000 สูงขึ้นถึง 450000 หินวิญญาณ

และมีแนวโน้มว่าราคานั้นยังคงพุ่งสูงต่อไปได้อีกอย่างไม่มีหยุดนิ่ง
ถ้าปล่อยให้มีราคาสูงเพียงแค่ร้านสองร้าน ก็จะไม่มีกลไกราคาตลาด

อีกทั้งสินค้ายังมีจำนวนจำกัด และธุรกิจเองก็กำลังอยู่ในช่วงร้อนแรง ร้านค้ารายใหญ่นั้นไม่ได้โง่พวกเขาจึงเริ่มขึ้นราคาตามไปอย่างต่อเนื่อง

หลายคนล้มเลิกความคิดที่จะซื้อ เนื่องจากมันเหมือนกับการฉ้อโกง น่าเสียดายที่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องซื้อมัน

ราคานี้ถือว่าแพงไปมากสำหรับผู้ใช้พลังวิญญาณทั่วไป แต่ก็ยังมีหลายคนที่อยากได้รองเท้าเหินฟ้าเป็นของตัวเองสักคู่

ร้านค้าเหล่านั้นต่างเริ่มเข้าใจเจตนาของสำนักโล่พิทักษ์ พวกเขาต่างชื่นชมวิธีการของสำนักโล่พิทักษ์

หากมีสินค้าเพียงพอกับอุปทานราคาของรองเท้าเหินฟ้าคงไม่สามารถพุ่งสูงเกินจริงได้ถึงขนาดนี้แน่

ถ้าทุกคน “บินได้” การบินจะยังเป็นสิ่งพิเศษต่อไปได้อย่างไร? หากไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับการบิน ความต้องการของผู้คนต่อรองเท้าเหินฟ้าก็คงจะไม่สูงมากถึงขนาดนี้

ในช่วงเวลาหกเดือนหลังจากเปิดตัว ความต้องการของเหล่าผู้ที่ยังไม่มีรองเท้าเหินฟ้าจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆและถึงจุดสูงสุด หลังจากผ่านไปเป็นเวลาครึ่งปี

จากนั้นเมื่อไปถึงเวลาครึ่งปีตามกำหนด รองเท้าเหินฟ้าชุดใหม่ก็จะออกมา ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดความต้องการในการซื้อขายอย่างบ้าคลั่งและน่ากลัวอีกครั้ง

ราคามันสูง!
ราคาของพวกมันสูงมาก
ถ้าลั่วอู๋รู้ความคิดของเหล่าร้านค้า เขาคงจะไม่สามารถหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาได้แน่

เขาไม่ได้ต้องการจะใช้การตลาดนี้เพื่อสนองความโลภ เขาแค่ไม่สามารถหาผลิตพวกมันได้จริงๆ เนื่องจากเขากำลังจะกลับไปที่สำนักเฉียนหลงในเร็ว ๆ นี้และกว่าจะได้กลับมาอีกในครึ่งปีให้หลัง

เสี่ยวชาพร้อมด้วยสินค้าและกำลังคนจำนวนมากได้เข้ามาที่เมืองหลวง หลิวหูเองก็ได้พาพี่น้องจากทีมคมมีดมาเป็นกลุ่มใหญ่ด้วย

จากนั้นบนถนนหย่งเก๋ามีการเปิดร้านใหม่ที่มีชื่อว่าสำนักโล่พิทักษ์ แม้ว่าจะมีขนาดไม่ใหญ่ แต่ก็สามารถโอ้อวดได้ด้วยความเอิกเกริก

ร้านค้ารายใหญ่ทั้งหมดต่างส่งตัวแทนไปแสดงความยินดีให้กับสำนักโล่พิทักษ์ แม้แต่ทางคฤหาสน์ชวนเทียน และ ศาลาไป่หยู่ เองก็ส่งตัวแทนระดับสูงไปถึงสองคน

นี่ทำให้ทุกคนต่างตกใจ
เบื้องหลังของสำนักโล่พิทักษ์คืออะไรกันแน่?
ทำไมร้านค้าในเมืองหลวงมากกว่า 80% ถึงต้องส่งตัวแทนมาร่วมฉลองการเปิดตัวของร้านเล็ก ๆ ร้านนี้

ทันทีที่ได้เปิดตัวสำนักโล่พิทักษ์ก็มีชื่อเสียงดังว่อนไปทั่ว
อย่างไรก็ตามจะเปิดได้นานหรือไม่นั้นก็ยังขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้าและการบริการของร้านค้า ซึ่งลั่วอู๋ก็ได้ฝากเรื่องเหล่านี้ให้อาฟูและเสี่ยวชาเป็นคนจัดการ

ด้วยที่พวกเขามีความสัมพันธ์อันดีกับร้านค้ารายใหญ่ พวกเขาจึงสามารถหาแหล่งสินค้าที่ดีที่สุดได้ไม่ยาก ตอนนี้ที่สำนักโล่พิทักษ์ต้องการมีแค่การพัฒนาสะสมไปเรื่อย ๆ อย่างช้าๆ

อย่างไรก็ตามลั่วอู๋นั้นไม่ได้เก็บหินวิญญาณนับสิบล้านที่เขาได้รับจากการขายรองเท้าเหินฟ้าไว้กับตัวเอง แต่ส่งไปเป็นเงินทุนให้กับสำนักโล่พิทักษ์

สำนักโล่พิทักษ์ได้ให้สิ่งดี ๆ กับ ลั่วอู๋ มากมาย
อย่างไรก็ตามสำนักโล่พิทักษ์ในเมืองหลวงของจักรวรรดิ ยังอยู่ในช่วงการพัฒนาและแม้ว่ามันจะมีพื้นฐานที่ดี แต่ก็อาจจะสามารถพัฒนาได้ช้า เนื่องจากมันอาจจะยังขาดเงินทุนเริ่มต้น ซึ่งลั่วอู๋ไม่ต้องการเห็นเหตุการณ์นั้น

ลั่วอู๋เชื่อว่าเมื่อเขากลับมาในครั้งต่อไปสำนักโล่พิทักษ์จะทำให้เขาประหลาดใจมากขึ้นกว่านี้

ในที่สุดเวลาพักหนึ่งเดือนก็มาถึงจุดจบ
ลั่วอู๋และหลี่หยินเตรียมที่จะเดินทางออกจากสำนักโล่พิทักษ์ไปยังสำนักเฉียนหลง

ก่อนที่จะออกไปลั่วอู๋ได้สั่งทิ้งท้ายไว้ว่า “จากนี้ไปตระกูลลั่วจะไม่มีความขัดแย้งกับพวกเราอีก และในอนาคตสำนักโล่พิทักษ์สาขาเมืองแห่งความพินาศจะกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง”

“ใช่แล้ว” ความตื่นเต้นเล็กน้อยแวบเข้ามาในสายตาของเขา

ถึงแม้ว่าธุรกิจขนาดเล็กของเขตหวงชาจะไม่คู่ควรกับสำนักโล่พิทักษ์อีกต่อไปแล้ว

แต่ที่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับพวกเขาทุกคน และยังเป็นบ้านเกิดของเพื่อน ๆ หลายคน มันจึงความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพวกเขา ที่จะได้กลับไปเปิดสำนักโล่พิทักษ์ในเขตหวงชาอีกครั้ง
เมื่อเวลาผ่านไปลั่วอู๋และหลี่หยินก็ได้มาถึงจุดรอที่กำหนดไว้สำหรับเข้าไปยังสำนักเฉียนหลง เมื่อทุกคนมากันครบแล้วทูตเฉียนหลงก็จะมารับตัวพวกเขากลับไปยังสำนัก

“ไม่รู้ว่าข้าจะได้เจอกับท่านเจ้าสำนัก หลังจากที่กลับไปถึงสำนักรึเปล่านะ” ลั่วอู๋มีความคาดหวังบางอย่างในใจ

เพราะมันคือรางวัลของเขาสำหรับการคว้าอันดับหนึ่งของรายชื่อเฉียนหลงได้สำเร็จ

ไม่ไกลนักลั่วอู๋เห็นฉูจงฉวนบินพุ่งมาที่นี่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความประหลาดใจ

ใช่แล้วเขากำลังบิน
เขากำลังสวมรองเท้าเหินฟ้าอยู่
แม้ว่า ฉูจงฉวน จะไปถึงมิติวิญญาณของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่เขาไม่มีสัตว์วิญญาณคู่พันธสัญญาที่มีความสามารถในการบิน ดังนั้นแม้ว่าเขาจะใช้การผสานพลังวิญญาณระหว่างผู้ใช้พลังวิญญาณและสัตว์วิญญาณได้ แต่เขาก็ยังไม่สามารถบินได้อยู่ดี
แน่นอนว่าเขาความสามารถในการลอยตัวของภูตไฟ แต่ความสามารถในการลอยตัวนั้นก็แทบจะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการบิน เพราะความเร็วของมันนั้นช้ามาก

“ข้ากลับมาแล้ว” ฉูจงฉวนบินมาหาลั่วอู๋ด้วยรอยยิ้ม
ลั่วอู๋มองไปที่ฉูจงฉวนอย่างสงสัยและพบว่ามีรอยแส้บนใบหน้าของเขา แม้ว่ามันจะเกือบหายดีแล้ว มันแต่ก็ยังคงมีร่องรอยตื้น ๆอยู่

“เจ้าถูกใครถูกทุบตีมางั้นเหรอ ?” ลั่วอู๋อยากรู้อยากเห็น
ใบหน้าอันยิ้มแย้มของฉูจงฉวนหยุดนิ่งไป สีหน้าของเขาดูแย่ลงในทันที ดูเหมือนว่าเขาจะนึกถึงความทรงจำอันไม่พึงประสงค์ที่ไม่อยากจำขึ้นมาได้

จู่ๆลั่วอู๋ก็เหมือนจะนึกออกเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต
ก่อนหน้านี้ ฉูจงฉวน เคยกล่าวว่าเขาถูกผู้หญิงที่บ้าคลั่งคนหนึ่งปล้นเงินทั้งหมดของเขาไป

ตอนนั้นเองฉูจงฉวนก็มีรอยแส้บนใบหน้าและลำคอของเขา จากนั้นเขาก็นึกถึงพฤติกรรมแปลก ๆ ของ ฉูจงฉวน หลังจากที่เขาออกจากสำนักเฉียนหลงได้

ลั่วอู๋ มองดูเขาด้วยสายตาแปลก ๆ จ้องมองไปที่ฉูจงฉวน
“ไม่มีอะไรให้เจ้าดูซะหน่อย” ฉูจงฉวนรู้สึกถึงรอยแส้บนใบหน้าของเขา และเริ่มหายติดขัด “ข้าโดนอิจฉา เลยถูกทุบตีมันก็แค่นั้นแหละ เจ้าเข้าใจไหม?”

ลั่วอู๋ถาม “เจ้าเนี่ยนะโดนคนอิจฉา ? ข้าไม่เชื่อหรอก ข้าเดาว่าเจ้าคงถูกผู้หญิงทุบตีมา ซึ่งก็น่าจะเป็นผู้หญิงบ้าคลั่งที่เจ้าเคยพูดถึงก่อนหน้านี้ใช่ไหมล่ะ ?”

“เจ้ารู้ได้อย่างไร?” ฉูจงฉวน ตกใจและโพล่งออกมา

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 333 รองเท้าเหินฟ้าเป็นที่นิยมในเมืองหลวง ของจักรวรรดิ"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์