ไหปีศาจ - บทที่ 345 ช่องว่างห้วงมิติ
บทที่ 345 ช่องว่างห้วงมิติ
บทที่ 345
ช่องว่างห้วงมิติ
ลั่วอู๋เดินกลับไปที่บ้านพักของเขา
หลี่หยินอยู่ข้าง ๆคู่กับเสี่ยวไป่ แม้ว่าเสี่ยวไป่นั้นกำลังนอนหลับอยู่ แต่ลมปราณของมันก็ยังไม่คงที่ สีเงินบนร่างกายของมันสว่างไสวและดับมืดไปมา ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก
ลั่วอู๋รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
แก่นวิญญาณต้นกำเนิดของมันอุดมสมบูรณ์ขึ้น มิติวิญญาณมีเสถียรภาพและลมปราณก็กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าหญ้าพระจันทร์สีเงินจะไม่ได้ไร้ประโยชน์ไปซะทีเดียว
เสี่ยวไป่ ได้รับประโยชน์มากมายจากหญ้าพระจันทร์สีเงินอย่างแน่นอน แต่มันคงต้องนอนพักก่อนสักพักหนึ่งเพื่อย่อยพลังวิญญาณของหญ้าพระจันทร์สีเงิน
ลั่วอู๋เดินกลับไปที่ห้องของเขา
แม้ว่าก้อนกลมสีเงินจะไม่มีกลิ่นของอุจจาระ ไม่สกปรก และบริสุทธิ์มาก แต่ท้ายที่สุดท้ายแล้ว,มันก็ยังออกมาจากก้นของกระต่าย
ดังนั้นลั่วอู๋จึงระมัดระวังไม่ให้ตัวเองไปสัมผัสกับก้อนกลมสีเงินมากเกินไป
“สามารถใช้เพื่อสร้างช่องว่างมิติ สำหรับเพื่อขนส่งสิ่งไม่มีชีวิตได้งั้นเหรอ” ลั่วอู๋นึกถึงคำพูดของเจ้าของร้านคฤหาสน์หวู่หยู่
หากเขาสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ มันก็อาจมีประโยชน์กับเขามากในอนาคต
แต่จะให้เรียกว่าขี้กระต่ายก็คงไม่ดี เขาสจึงจะเรียกมันว่ายากระต่ายหยก
ลั่วอู๋เปลี่ยนชื่อของก้อนกลมสีเงินและมอบหญ้าพระจันทร์สีเงินที่เหลือให้กับหลี่หยินที่เป็นคนเลี้ยงเสี่ยวไป่ และสั่งว่าถ้ามียากระต่ายหยก “ออกมา” เขาจะไปเก็บในทันที
หลังจากนั้น ลั่วอู๋ ก็ตรงไปที่ห้องโถงหวันฝา
ในตอนแรกเขาต้องการที่จะตั้งใบประกาศรับหญ้าพระจันทร์สีเงิน แต่โชคดีที่เขาได้พบกับเซาฉางอีกครั้งเสียก่อน
“อ้าว น้องลั่ว ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้” เซาฉางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เราจะมีรองเท้าเหินฟ้ามาเติมคลังได้เมื่อไหร่ ร้านค้าใหญ่ ๆ ต่างกระตือรือร้นที่จะได้ขายมันอีก ตอนนี้ความขุ่นเคืองของผู้คนที่อยากได้มันเริ่มเยอะแล้ว”
ลั่วอู๋ทำอะไรไม่ถูก “ข้าทำอะไรไม่ได้จริงๆ แต่ตอนนี้ข้าต้องการซื้อหญ้าพระจันทร์สีเงิน จำนวนหนึ่งข้าไม่รู้ว่า ทางคฤหาสน์ชวนเทียนมีมันรึเปล่า”
“น้องชายลั่ว สิ่งที่เจ้าต้องการมันไม่ใช่ของธรรมดา ๆ เลยนะ มันก็พอมีอยู่บ้างแหละ แต่คงไม่สามารถให้สินค้านี้กับเจ้าเป็นจำนวนมากในคราวเดียวได้ล่ะนะ” เซาฉางหัวเราะอย่างขมขื่น
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้ต้องการมันในจำนวนมากขนาดนั้น” ลั่วอู๋กล่าว
เขาต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งในการผลิตยากระต่ายหยก และระหว่างนั้นก็จะไม่มีวัตถุดิบที่ต้องเสีย
“งั้นก็ตกลง ตอนนี้ข้าสามารถให้มันกับเจ้าได้เพียงแค่ 25 ต้นเท่านั้น และแต่ละต้นจะมีราคาอยุ่ 800000 หินวิญญาณ” เซาฉางให้ราคาต่ำที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้แล้ว
แม้ว่าขอบเขตการใช้งานของหญ้าพระจันทร์สีเงินจะน้อยมาก แต่มันก็เป็นของหายาก ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการกลั่นยารวบรวมพลังวิญญาณหลายชนิด ราคามันจึงสูงขึ้นตามธรรมชาติ
ลั่วอู๋รู้ว่าราคาที่เซาฉางเสนอนั้นเป็นราคาที่ถูกมาก เขาจึงทำข้อตกลงในทันที
แน่นอนว่าเขาไม่ได้มีเงินติดตัวมากนัก แต่เขามีสำนักโล่พิทักษ์อยู่เบื้องหลัง ดังนั้นบัญชีนี้จึงถูกบันทึกไว้ในบัญชีค่าใช้จ่ายของสำนักโล่พิทักษ์
ลั่วอู๋ติดหนี้เขา แต่นี่ทำให้เซาฉางมีความสุขมาก
เพราะมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่พวกเขาจะได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
“ข้ายังมีอีกอย่างหนึ่งที่ต้องการขอความช่วยเหลือจากท่าน ผู้บริหารเซาฉาง” ลั่วอู๋ กล่าว
เซาฉางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตราบเท่าที่ข้าสามารถทำได้ ข้าจะยอมผ่านทั้งไฟและน้ำเลย”
“มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรอก มันเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ โปรดนำสิ่งนี้กลับไปที่สำนักโล่พิทักษ์ให้ข้าที ตอนที่ท่านออกจากสำนักเฉียนหลงแล้ว” ลั่วอู๋หยิบห่อเล็ก ๆ ออกมา
มียากระต่ายหยกและจดหมายฉบับหนึ่ง
เหตุผลที่เซาฉาง มักปรากฏตัวขึ้นในสำนักเฉียนหลง นั่นก็เพราะคฤหาสน์ชวนเทียนและสำนักเฉียนหลงนั้นได้ร่วมมือกันทางการค้า ทำให้คฤหาสน์ชวนเทียนสามารถเข้าถึงสำนัก เฉียนหลงได้โดยตรง
ช่องทางนี้ไม่ได้เป็นที่รู้จักของบุคคลภายนอก ไม่ว่าเซาฉางจะให้ความสำคัญกับลั่วอู๋มากแค่ไหน เขาก็จะไม่อาจจะเปิดเผยช่องทางนี้ได้
“มันเป็นเรื่องง่ายมาก” เซาฉางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ลั่วอู๋ป้อนพิกัดที่อยู่อาศัยของเขาลงในยากระต่ายหยก สำนักโล่พิทักษ์เพียงแค่ต้องเปิดใช้งานมันเท่านั้น จากนั้นลั่วอู๋ก็จะสัมผัสได้ถึงมันในสำนักเฉียนหลง
ตราบใดที่การเชื่อมต่อทางมิติถูกสร้างขึ้น เขาก็จะสามารถเปิดช่องว่างมิติหยาบ ๆ ขึ้นมาได้
สามวันต่อมาเซาฉางได้ออกไปจากสำนักเฉียนหลง
ในวันนั้นลั่วอู๋ก็เริ่มรู้สึกได้ว่ามีความผันผวนของมิติเล็กน้อย เกิดขึ้นในที่พักของเขาก่อนจะหายวับไป
ลั่วอู๋หยิบยากระต่ายหยกออกมาทันที เขาใช้งานมันออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยพลังวิญญาณของมันทำให้เกิดเป็นช่องว่างมิติเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า
“นี่มันเล็กมาก” ลั่วอู๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ทิ้งยากระต่ายหยกสามเม็ดลงไปและปลดปล่อยพลังวิญญาณห้วงมิติออกมา
ตูม
ช่องว่างถูกฉีกออกกลายเป็นประตูขนาดเท่าศีรษะมนุษย์
ลั่วอู๋รู้ได้ในทันทีว่าช่องว่างมิติได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว
อย่างไรก็ตามช่องว่างมิตินี้ยังหยาบเกินไปสำหรับสิ่งมีชีวิตที่จะสามารถต้านทานพลังอันวุ่นวายของห้วงมิติได้ ดังนั้นเขาจะสามารถขนส่งได้เฉพาะสิ่งของที่ไม่มีชีวิตเท่านั้น
ลั่วอู๋คาดว่าเขาคงจะต้องเสียยากระต่ายหยก ครั้งละหนึ่งเม็ดในการส่งสิ่งของกลับไปที่สำนักโล่พิทักษ์
แต่ถ้าเขาต้องการเพียงแค่รักษาการทำงานขั้นต่ำของช่องมิติ เพื่อที่มันจะได้ไม่ปิดลง ยากระต่ายหยกเพียงเดือนละ 1 เม็ดก็เพียงพอแล้ว
“ต้องแน่ใจว่ามันสามารถส่งสิ่งของได้จริง ๆ โดยไม่มีปัญหา ดูเหมือนว่าจะต้องเริ่มส่งสินค้าระดับขยะๆ ไปก่อนในช่วงแรก ๆ ล่ะนะ”
ลั่วอู๋ทิ้งสิ่งของที่เขาเก็บเอาไว้บางส่วนลงไปพร้อมจดหมายและรองเท้าบูทธรรมดา ๆ คู่หนึ่งลงไปในช่องว่างมิติ
ประมาณสองชั่วโมงต่อมาก็มีจดหมายปรากฏขึ้นมาจากช่องว่างมิตินั้น
ลั่วอู๋รู้สึกตื่นเต้น
มันเป็นจดหมายตอบกลับจากสำนักโล่พิทักษ์
สำนักโล่พิทักษ์ได้รับจดหมายและรองเท้าบูทของเขา นี่เป็นการพิสูจน์ว่าช่องว่างมิตินี้มีประโยชน์ มันได้กลายเป็นช่องว่างมิติที่เชื่อมต่อระหว่างสำนักโล่พิทักษ์และสำนักเฉียนหลงจริง ๆ แล้ว
“ นี่ข้าต้องใช้ยากระต่ายหยกเจ็ดเม็ดเลยนะเนี่ย นี่มันช่างเจ็บปวดจริงๆ” ลั่วอู๋คิด
เขามีมันเพียงแต่ 15 เม็ดเท่านั้น
ยากระต่ายหยกนี้ หากเขานำไปขายให้กับคฤหาสน์ หวู่หยู่ มันก็คงจะมีมูลค่าหลายหมื่นแต้มเลยทีเดียว แต่ลั่วอู๋จะเลือกที่จะใช้มันเพื่อสร้างช่องว่างมิติของตัวเอง
เรื่องแบบนี้มักจะถูกทำโดยกองกำลังที่มีอำนาจเสียมากกว่า
ลั่วอู๋ในตอนนี้ถูกกดดันทางการเงินเป็นอย่างมาก
“ด้วยช่องว่างนี้ข้าจะไม่เพียงแต่สามารถส่งรองเท้าเหินฟ้ากลับไปที่สำนักโล่พิทักษ์เป็นจำนวนมากได้ แต่ข้ายังสามารถรับรู้สถานการณ์ของสำนักโล่พิทักษ์ และข้อมูลในเมืองหลวงของจักรวรรดิได้ทันเวลาอีกด้วย มันก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่หรอก”
หลังจากลองคำนวณเวลาแล้ว เขาเพิ่งออกมาจากเมืองหลวงของจักรวรรดิมาได้เพียงสองถึงสามวัน
เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับรองเท้าเหินฟ้า
ให้พวกร้านการค้าจัดการกันเองไปก่อน
สองสามวันต่อมา ลั่วอู๋เก็บตัวอยู่ในบ้านของเขาและฝึกฝนทักษะ “รวมพลเทวดา”
จนในที่สุดระดับความเชี่ยวชาญของเขาก็เพิ่มขึ้นมาจาก 15% เป็น 18%
ยิ่งมีความเชี่ยวชาญมากขึ้น ระยะเวลาที่สามารถเรียกได้ก็มากขึ้น
สามเปอร์เซ็นต์นี้ไม่ใช่อะไรที่สามารถประมาทได้ ตอนนี้หากเขาเรียกภูตแห่งปัญญาออกมา ภูตแห่งปัญญาจะสามารถคงรูปร่างอยู่ได้ถึงราว ๆ 1นาที
ซึ่ง 1 นาทีนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการทำสิ่งต่างๆมากมาย
ในที่สุดก็ถึงวันเริ่มต้นของการฝึกอบรมในมิติ
ลั่วอู๋บอกกับ หลี่หยิน “เจ้าต้องเก็บเรื่องช่องมิติเป็นความลับนะ ห้ามให้ใครรู้ถึงเรื่องนี้โดยเด็ดขาดเจ้าต้องคอยปกป้องมันอย่างระมัดระวัง และถ้าข้าไม่กลับมาภายในหนึ่งเดือน เจ้าสามารถใช้ยากระต่ายหยกเพื่อทำให้ช่องมิติเสถียรด้วยตัวเองได้เลย”
“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” หลี่หยินพยักหน้าอย่างจริงจัง “นายน้อยท่านควรรีบกลับมานะเจ้าคะ”
ลั่วอู๋ลูบหัวของหลี่หยินแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ได้ แล้วข้าจะรีบกลับมา”
นี่เป็นครั้งแรกที่ลั่วอู๋และหลี่หยินต้องแยกจากกันเป็นเวลานาน
ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก
ทั้งสองคนต่างไม่เคยชินกับสถานการณ์นี้
แต่มันไม่มีทางเลยที่หลี่หยินจะสามารถมีส่วนร่วมในการฝึกอบรมในมิติ ลั่วอู๋ไม่แน่ใจว่าสถานที่ที่เขากำลังจะไปอย่างนรกมนตรานั้นเขาจะสามารถปกป้องหลี่หยินได้ไหม
“ข้าไปก่อนนะ ฝากด้วยล่ะ ” ลั่วอู๋หันหลังและเดินออกจากบ้านพักไป
หลี่หยินรู้สึกใจหาย
แต่ไม่นานนางก็รู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง นางตำหนิตัวเองที่ฝึกฝนได้ช้าและอ่อนแอ ถ้านางไม่ได้อ่อนแอเช่นนี้ นางก็คงจะได้นางติดตามนายน้อยเข้าร่วมการฝึกอบรมในมิติไปแล้ว
นางจะฝึกฝนให้หนักขึ้น
อย่างน้อย ๆ หลังจากนี้นางก็จะต้องไม่เป็นตัวถ่วงของนายน้อย
มีความแน่วแน่ปรากฏขึ้นในแววตาของหลี่หยิน