ไหปีศาจ - บทที่ 349 สัตว์วิญญาณรูปร่างมนุษย์ที่แปลกประหลาด
บทที่ 349 สัตว์วิญญาณรูปร่างมนุษย์ที่แปลกประหลาด
บทที่ 349
สัตว์วิญญาณรูปร่างมนุษย์ที่แปลกประหลาด
“ อัญเชิญเทพเพลิง!”
ฉูจงฉวนคำรามจากนั้นร่างกายของเขากลายเป็นเทพเพลิงขนาดยักษ์ใหญ่โตเหมือนภูเขาสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าตระหง่าน มีสามหัวและหกแขนและมีเปลวไฟร้อนไหลลงมาเหมือนลาวา
นี่คือไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาและระดับความเชี่ยวชาญนั้นสูงถึง 43% พร้อมกับมิติวิญญาณระดับสูงที่หาคู่ต่อสู้ได้ยาก
นอกจากเอ๋าเฉียนจุนและลั่วอู๋แล้ว ร่างทรงสัตว์ประหลาดนี้เป็นไพ่ตายที่อยู่เหนือสามัญสำนึกอันไร้เทียมทาน
และดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่จบแค่นี้
“ทรายเอ๋ยจงกลายเป็นเกราะให้กับข้า!”
ทรายที่อยู่บนพื้นถูกดูดซับขึ้นมา จากนั้นพวกมันก็กลายเป็นเกราะทรายแข็งตัวเกาะติดกับเทพเพลิงขนาดยักษ์
เทพเพลิงที่สวมเกราะทรายเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและพลังอำนาจอันทรงพลังพร้อมจะแผดเผาสวรรค์และปฐพี
ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ
ดูเหมือนว่ารูปแบบในการต่อสู้ของเอ๋าเฉียนจุน ทำให้ ฉูจงฉวนได้ความคิดใหม่ ๆ มากมาย
เขาไม่เพียง แต่เริ่มหลอมรวมทักษะเขาด้วยกัน แต่ยังวิธีในการหลอมรวมทักษะ
เปลวไฟคือหอกและพื้นดินคือโล่
การโจมตีและการป้องกันถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน
ความเชี่ยวชาญในการควบคุมทักษะนี้นั้นไม่น้อยไปกว่าการหลอมรวมทักษะหมัดวายุสายฟ้าคำรนและเพลิงขาวของ เอ๋าเฉียนจุน
ช่างสมกับเป็นอัจฉริยะจริงๆ
ลั่วอู๋ มั่นใจว่าฉูจงฉวนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเหล่าบุคคลที่มีบทบาทและความสามารถอันโดดเด่นในประวัติศาสตร์เลย
“เท่ใช่ไหมล่ะ!” ฉูจงฉวนตะโกนออกมา
อย่ากลอกตา ลั่วอู๋ อย่ากลอกตา…
สัตว์วิญญาณระดับทองขั้นสูง มิติ 10 นั้นไม่ใช่อะไรที่ควรประมาท
“ไม่ต้องกังวลไป เทพเพลิงโจมตี!” ฉูจงฉวนคำรามอย่างดุเดือดจากนั้นแขนเปลวไฟทั้งหกข้างก็ส่งเสียงปรบมือลงและพุ่งเข้าไปสังหารด้วงนรกโรคจิตที่อยู่บนพื้น
แมลงปีศาจคำรามด้วยความเจ็บปวดร่างกายที่แข็งกระด้างของมันส่งเสียงของการถูกแผดเผาออกมา ซึ่งทำให้เห็นได้ชัดว่ามันไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นได้
อย่างไรก็ตามฉูจงฉวนเองก็ได้รับบาดเจ็บจากแรงต่อต้านการกระแทกสะท้อนกลับของด้วงนรกโรคจิต ท้ายที่สุดก็ยังมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างมิติวิญญาณของเขาและมัน
เหวินเสี่ยวที่อยู่อีกด้านใช้ทักษะของเขา เงาที่อยู่เบื้องหลังเขาตอนนี้คือปลาโลมาสีขาว วิญญาณพิทักษ์แห่งหยู่ซุย และภูตปีกแสง
เขาใช้ระดับ S [แสงศักดิ์สิทธิ์] อย่างเงียบ ๆ ร่วมกับทักษะอื่น ๆ อย่าง, ระดับ A [พรแห่งฝนและน้ำค้าง], ระดับ A [พรแห่งความเร็ว] และทักษะเสริมอื่น ๆ
หลายทักษะนั้นไม่ใช่ทักษะของภูตปีกแสง แต่เป็นทักษะที่เกี่ยวข้องกับสัตว์วิญญาณสองตัวแรกของเขาอย่างเห็นได้ชัด
สัตว์วิญญาณธาตุแสงอย่างเสือขาวและวิญญาณพิทักษ์แห่งหยู่ซุย ต่างเป็นสัตว์วิญญาณที่มีทักษะในการเสริมพลังมากมาย
ด้วยความช่วยเหลือของเหวินเสี่ยว ฉูจงฉวน และ ลั่วอู๋ สามารถเข้าต่อสู้กับด้วยนรกโรคจิตได้โดยที่ไม่ต้องกลัวโดยไม่ต้องกลัวว่าตัวเองจะได้รับบาดเจ็บ
การต่อสู้ดำเนินไปเกือบครึ่งชั่วโมง
ในที่สุดลั่วอู๋ก็ใช้ดาบระบำแห่งความตายฝ่าการป้องกันของด้วงนรกโรคจิต ด้วยทักษะดาบแห่งการลงทัณฑ์เจาะเข้าไปในหัวของมันทำให้ของเหลวที่มีกลิ่นเหม็นถูกพ่นออกมา
สิ่งที่ลั่วอู๋ไม่คาดคิดก็คือดาบระบำแห่งความตายได้ดูดซับน้ำเน่าเหม็นของด้วงนรกโรคจิตเขาไป เห็นได้ชัดว่ามันเป็น “เลือด” ของมัน
“เอ่อ … ” ลั่วอู๋มีอาการคลื่นไส้
มันเหม็นมาก
ทั้งสามคนนั่งหอบอยู่กับพื้น พยายามที่จะฟื้นคืนพลังวิญญาณของพวกเขา การต่อสู้นี้ทำให้พวกเขาสูญเสียพลังวิญญาณไปมาก
แม้แต่เหวินเสี่ยวเองก็ต้องใช้ทักษะแสงศักดิ์สิทธิ์ของเขาถึงเจ็ดครั้งติดต่อกัน ซึ่งทำให้พลังวิญญาณของเขาหมดลง ทุกคนต่างพยายามเต็มที่
ความเร็วในการฟื้นของพลังวิญญาณที่นี่นั้นช้ามาก
ร่างกายของด้วงนรกโรคจิตเภทสั่นสะท้าน บางทีมันอาจจะไม่ตาย ลั่วอู๋จึงเข้าไปเก็บมันลงในมิติไหนแล้วก็ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตามหลังจากปลดผนึกหนังสือสัตว์วิญญาณเรียบร้อยแล้ว ลั่วอู๋ ก็โยนมันออกจากมิติไหอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมันส่งกลิ่นเหม็นออกมามากจนแทบจะทำให้สิ่งแวดล้อมของมิติไหเป็นมลพิษ
พลังวิญญาณของพวกเขาค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้พวกเขาต่างถูกบังคับให้ปรับตัวเพื่อดึงพลังวิญญาณบริสุทธิ์มาจากอากาศ
“เจ้าตัวใหญ่นี่มันมีประโยชน์อะไรไหม?” ฉูจงฉวน ถาม
เหวินเสี่ยวส่ายหัว“ มันแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย เปลือกแข็ง ๆ ของมันเองก็ดูเหมือนจะอ่อนตัวลงหลังจากที่มันตาย มันไม่สามารถสร้างเกราะเมื่อไม่มีแก่นวิญญาณเหมือนกับแมลง แมลงฉีฉา ข้าเคยได้ยินมาว่าเนื้อของมันมีพลังวิญญาณอยู่มากมาย ซึ่งมีประสิทธิภาพมากในการฝึกกล้ามเนื้อและกระดูก … ”
“เนื้อ?” ฉูจงฉวน มองไปที่ด้วงนรกโรคจิตที่เต็มไปด้วยของเหลวเหมือนน้ำผลไม้เหม็น ๆ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะสะอิดสะเอียน “ข้าไม่ได้บ้าพอที่จะกินมันแน่ ๆ”
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเข้ามาในนรกมนตรา แต่พวกเขาก็ยังมีอาหารอยู่ในที่เก็บของ พวกเขาไม่จำเป็นจะต้องกินของแปลก ๆ เหล่านี้
อา ประโยชน์ที่ได้ตอนนี้คงมีเพียงแค่ได้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการต่อสู้
ผลกระทบของการต่อสู้นั้นมีขนาดใหญ่มาก จนสัตว์วิญญาณปีศาจรอบ ๆ หนีไปจนหมด และไม่กล้าที่จะเข้าใกล้พวกเขา และแถว ๆ นี้เองก็ไม่น่าจะมีสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งอยู่ ใกล้ ๆ
จุดเริ่มต้นของพวกเขา หรือประตูห้วงมิติ ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลออกไปของนรกมนตรา ที่ซึ่งสัตว์วิญญาณ มักไม่ได้มีความแข็งแกร่งมากจนเกินไป
นรกมนตรานั้นไม่ใช่นรกจริง ๆ ไปซะทีเดียว สัตว์วิญญาณที่นี่นั้นยังมีชีวิตและรักชีวิตของพวกมันอยู่ ดังนั้นการเดินในหุบเหวของลั่วอู๋จะไม่เกิดขึ้นปัญหาขึ้นมาง่าย ๆ โดยกะทันหันแน่
อย่างไรก็ตามสัตว์วิญญาณของนรกมนตรานั้นใช้พลังวิญญาณในอีกรูปแบบหนึ่ง มันเป็นพลังวิญญาณที่ขุ่นมัว พวกมันสามารถนำพลังวิญญาณที่ชั่วร้ายเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายแทนที่จะใช้พลังวิญญาณทั่ว ๆ ไปได้
มันคือพลังวิญญาณมนตรา พลังวิญญาณที่ไม่เหมือนที่ไหน ๆและเต็มไปด้วยความลึกลับ
ดูเหมือนว่าจะไม่มีสัตว์วิญญาณชนิดอื่นที่สามารถใช้ประโยชน์จากพลังวิญญาณอันชั่วร้ายนี้ได้ยกเว้นสัตว์วิญญาณมนตรา
ในเวลานี้มีร่างลึกลับสองสามร่างกำลังเข้ามาใกล้อย่างระมัดระวัง
ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ
ใครกำลังเข้าใกล้?
ตอนนี้พลังวิญญาณของพวกเขายังไม่ได้รับการฟื้นฟู ความแข็งแกร่งของพวกเขาจึงลดลงไปอย่างมาก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ปัญหาใด ๆ ก็ตาม ด้วยสภาพของพวกเขาในเวลานี้
ลั่วอู๋จับจ้องไปที่สัตว์ประหลาดสองสามตัวนั้น
พวกมันมีรูปร่างเตี้ยและมีรูปร่างค่อนข้างคล้ายกับมนุษย์ พวกมันก้มตัวอยู่เสมอ มีใบหน้าและเขี้ยวสีน้ำเงินดูดุร้ายมาก ผิวของพวกมันเป็นสีน้ำเงินและสีดำเหมือนชนเผ่าราตรีในตำนาน
“ร่างมนุษย์ที่รวมเข้ากันกับพลังวิญญาณมนตรางั้นหรือ ? น่าเกลียดชะมัด” ฉูจงฉวนถอนหายใจด้วยความโล่งอก “อืม ข้ารู้สึกว่าลมปราณของมันอ่อนแอมาก ประมาณเดียวกับสัตว์วิญญาณระดับทองแดง”
เหวินเสี่ยวมองไปที่สัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายมนุษย์ด้วยความสงสัย “ไม่เข้าใจเลยแฮะ มันเป็นเรื่องแปลกมากที่ในสัตว์วิญญาณระดับทองแดงจะมีรูปร่างคล้ายมนุษย์”
สัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์เห็นพรรคพวกลั่วอู๋ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร พวกมันจึงคิดว่าพวกเขาไม่มีภัยคุกคามและเริ่มเดินเข้าไปใกล้ ๆ
“พวกมันกล้าหาญมาก ที่กล้าเข้าใกล้พวกเราแบบนี้ พวกมันไม่กลัวว่าจะถูกพวกเราฆ่ารึยังไงกัน?” ฉูจงฉวนยิ้ม
เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามของสัตว์วิญญาณระดับนี้ แม้พวกจะมีน้อยแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแรงกดดันอะไร
“ข้าจะจัดการพวกมัน แล้วจับมาสักตัว” ลั่วอู๋พูด
ฉูจงฉวนโค้งงอริมฝีปากของเขา ให้กับนิสัยแปลก ๆ ในการเก็บสัตว์วิญญาณของลั่วอู๋ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องเก็บสัตว์วิญญาณที่น่าเกลียดเช่นนี้ด้วย
เขาแตกต่างจากฉูจงฉวน ที่ต้องหาสัตว์วิญญาณที่สวยที่สุด เพื่อทำพันธสัญญาด้วย
เมื่อเหล่ามนุษย์ประหลาดเห็นลั่วอู๋เข้ามา พวกมันก็ถอยหนีด้วยความตื่นตระหนกและส่งเสียงแปลก ๆ ออกมาเช่น “โฮ อาลา”
สัตว์วิญญาณที่อ่อนแอแบบนี้เขาไม่จำเป็นต้องสยบมันเลยด้วยซ้ำ ลั่วอู๋ใช้ความสามารถของไหปีศาจเก็บพวกมันเข้ามาในทันที
แสงไฟหลากสีสว่างวาบ
เหล่าสัตว์วิญญาณรูปร่างมนุษย์ที่ถูกเลือก ดูสับสนเล็กน้อย
ตาของลั่วอู๋เบิกกว้าง? “มันล้มเหลวได้ยังไง? ”
อีกฝ่ายไม่ยอมแพ้เหรอ มันขัดขืนได้ยังไง?
“ฮูลา” หลังจากรุ้สึกเหมือนถูกโจมตีร่างนั้นก็รีบหันหัวกลับแล้ววิ่งหนีไป ลั่วอู๋สะบัดนิ้วของเขาและหยุดมันเอาไว้กับที่
ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรมันก็ไม่หนีเขาไปได้
ลั่วอู๋พยายามเก็บมันเข้าไปอีกครั้ง แต่ก็ล้มเหลวอีกครั้ง
นี่มันแปลกมาก มันเป็นครั้งแรกที่ลั่วอู๋เจอกับสถานการณ์แบบนี้
“นี่มันแปลกมากสัตว์วิญญาณทุกชนิดน่าจะถูกเก็บเข้ามาได้นี่นา พวกมันไม่ใช่มนุษย์ซะหน่อย” ลั่วอู๋สับสน
เดี๋ยวก่อนนะ
ไม่จริงน่า หรือว่า …!