ไหปีศาจ - บทที่ 351 หินเจาะกระดูก
บทที่ 351 หินเจาะกระดูก
บทที่ 351
หินเจาะกระดูก
ทันทีที่พวกแซคกลับมาถึง พวกมันก็ได้รับการต้อนรับจากสหายนับไม่ถ้วน
ลั่วอู๋ประเมินว่ามีคนในเผ่านี้อย่างน้อยหลายพันคน จึงควรจะมีทีมล่าสัตว์อย่างกลุ่มของกูระมากกว่าหนึ่งทีม
ทันทีที่กลุ่มแซคเห็นลั่วอู๋และพรรคพวกทั้งสามคน พวกมันก็หยุดลงในทันที ใบหน้าของพวกมันเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
แม้แต่แซคที่ดูฉลาดหลายสิบตัวก็ยังหวาดกลัว บางตัวก็พยายามรวบรวมความกล้าออกมาเข้าล้อมราวกับว่าพร้อมที่จะโจมตี
ลมปราณของพวกมันแข็งแกร่งกว่าแซคทั่วไปมาก ราว ๆ ระดับทองแดง 8 -9
“พวกมันอ่อนแอเกินไปแล้ว” ลั่วอู๋ถอนหายใจ
มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่ชนเผ่าแซคสามารถอยู่รอดได้ในสถานที่ที่อันตรายอย่างนรกมนตรา บางทีพวกมันคงจะมีความสามารถในการผสมพันธุ์ที่น่าทึ่งเหมือนกับหนูวิญญาณล่ะมั้ง?
กูระ รีบเข้ามาช่วยอธิบายและแสดงอาหารมากมายที่มันได้รับมา
กลุ่มแซคจึงปล่อยให้พวกลั่วอู๋ผ่านไปได้
ขณะนั้นจากในกลุ่มของเหล่าแซค ก็ได้มีแซคที่ดูแก่มากเดินออกมา “ท่านผู้สูงส่ง ไม่ทราบว่าพวกท่านมาจากที่ไหน เผ่ายักษา, เผ่าอสูร หรือเผ่าปีศาจ”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้แล้ว พวกลั่วอู๋ก็พอจะเดาได้ว่าสัตว์วิญญาณทั้งสามเผ่าพันธุ์นั้น น่าจะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์
แซคเฒ่าตัวนี้ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าเผ่าที่แท้จริง แซคที่อยู่รอบ ๆ แซคเฒ่ามองมันด้วยความเคารพ
ลั่วอู๋ตอบ “ข้าไม่ได้มาจากนรกมนตรา ข้าเป็นมนุษย์”
กลุ่มของแซคดูสงสัยและอยากรู้อยากเห็นมาก พวกมันกระซิบด้วยเสียงต่ำราวกับว่าพวกมันกำลังถามว่าพวกเขาเป็น แซคประเภทไหน มีเพียงใบหน้าของแซคเฒ่าเท่านั้นที่เปลี่ยนไป
“มนุษย์!” แซคเฒ่าโพล่งออกมา
สิ่งที่เขาพูดภาษาของแซค แต่เป็นภาษามนุษย์
ฉูจงฉวน จ้องมองไปที่มัน “ในที่สุดก็มีคนที่พูดภาษาเดียวกันซะที ข้าไม่ได้เข้าใจที่พวกเจ้าพูดกันมานานแล้ว”
เขาไม่เข้าใจคำพูดของพวกแซคเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถสนทนาอะไรได้เลยตลอดการเดินทาง เขาหดหู่มาก แต่ในที่สุดเขาก็ได้พบกับแซคที่สามารถสื่อสารกับเขาได้แล้ว รึเปล่า?
ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว “เจ้าพูดภาษามนุษย์ได้สินะ แสดงว่าพวกเจ้าคงจะเป็นมนุษย์จริงๆ”
แซคเฒ่าดูแปลก ๆ ไป ตาของมันฉายแววแห่งความเกลียดชัง จากนั้นก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
“ เฮ้ย อย่าเพิ่งไปสิ” ฉูจงฉวน ตะโกน
แต่แซคเฒ่าก็ไม่ได้สนใจเขา
บรรยากาศนี้น่าอึดอัดเล็กน้อย
ชาวแซคไม่ได้ขับไล่พวกเขาออกไป แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ค่อยต้อนรับพวกเขาเท่าไหร่ กูระ จึงได้ขอให้พวกลั่วอู๋ทั้งสามไปอาศัยอยู่ในที่พักคล้าย ๆ มุ้งที่ดูเรียบง่ายมาก ๆ แทน
“ไม่จริงน่า พวกเราจะพักที่นี่จริง ๆ งั้นเหรอ?” เมื่อมองไปรอบ ๆ ฉูจงฉวนไม่เห็นอะไรเลยนอกจากวัชพืชมากมาย เขาพูดด้วยความทุกข์ใจ “ไม่ถูกใจเท่าไหร่เลยแฮะ พวกเราไปกันต่อ ไหม ? แม้ว่าสัตว์ประหลาดพวกนี้จะดูลึกลับ แต่เรามาที่นี่เพื่อการฝึกฝน เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อถอดรหัสพวกมันซะหน่อย”
แม้ว่าลั่วอู๋จะสับสนกับท่าทีของแซคเฒ่า แต่เขาก็เห็นด้วยกับคำพูดของ ฉูจงฉวน “ตกลง พวกเราไปกันต่อเถอะ”
ทั้งสามเดินออกจากมุ้ง
ข้างนอกชาวแซคกำลังรวมตัวกัน พวกมันสวดมนต์และกล่าวคำอวยพรแปลก ๆ ออกมาจากปากของพวกมัน จากนั้นพวกมันก็เริ่มรับประทานอาหาร สิ่งที่พวกมันกินก็คือเนื้อแมลงที่มีกลิ่นแปลก ๆ มีเพียงผู้สูงอายุ เด็กและแซคนักสู้ ที่มีพลังมากที่สุดเท่านั้น ที่จะสามารถกินเนื้อไฮยีน่าได้
นี่เป็นเนื้อทั้งหมดที่ลั่วอู๋ช่วยล่ามา
เนื้อเหล่านี้กินได้ยากมาก เนื่องจากเนื้อและเลือดของสัตว์วิญญาณในนรกมนตรานั้นถูกปนเปื้อนไปด้วยพลังวิญญาณชั่วร้าย จนกลายเป็นสิ่งที่เหม็นและยากเกินกว่าที่จะกินได้
แต่พวกมันก็ยังคงกินเข้าไปอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีเครื่องเคียงเป็นดอกไม้กัดกระดูกเล็กน้อย พวกมันกินมากไม่ได้ เพราะจะป่วยหากกินมันเข้าไปมากเกิน
มีร่องรอยของความเห็นอกเห็นใจในดวงตาของลั่วอู๋
การเอาชีวิตรอดของพวกมันนั้นยากมาก สัตว์วิญญาณที่อ่อนแอจำนวนมากดูเหมือนจะสามารถฆ่าพวกมันทั้งหมดได้สบาย ๆ ตราบเท่าที่มิติวิญญาณของมันถึงระดับเงินหรือสูงกว่า
ทีมล่าสัตว์ที่อ่อนแอของพวกมัน ต้องรับผิดชอบต่ออาหารของทั้งเผ่า พวกมันสามารถกินอาหารได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
ถ้าพวกมันเป็นมนุษย์จริงๆล่ะก็…
อา
ลั่วอู๋คิดเรื่องนี้แล้วจึงหยิบน้ำและอาหารแห้งออกมาจากมิติไห
เขาเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้สำหรับตัวเอง
ตอนนี้เขาไม่ได้หิวและยังห่างไกลจากความต้องการในการกิน แต่เขาก็ควรกินอาหารบ้าง เพราะการกินนั้นสามารถกระตุ้นพลังวิญญาณและช่วยทำให้ขวัญกำลังใจดีขึ้น
พวกแซคมองไปที่อาหารแห้งด้วยสีหน้าสงสัย
นั่นมันคืออะไรกัน?
อาหารแห้งของ ลั่วอู๋ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยแพนเค้กและเนื้อแห้ง พวกมันไม่เคยเห็นแพนเค้กและเนื้อแห้งไม่มีรสชาติแปลก ๆ พวกนี้มาก่อน
“ลองเอาไปกินสิ” ลั่วอู๋ กล่าว
กูระหยิบอาหารแห้งด้วยความต้องการของมันเอง จากนั้นก็ลองกัดลงไปดูเล็กน้อย เหมือนการทดสอบว่ามีพิษรึเปล่า จากนั้นดวงตาของมันก็เปิดกว้าง มันก็ตะโกนออกมาด้วยเสียงที่ไม่ต่อเนื่องดูตื่นเต้น
ฉูจงฉวน ถามอย่างสงสัย “มันกำลังพูดอะไร?”
“มันบอกว่านี่มันอร่อยมาก มันไม่เคยกินอะไรที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย” ลั่วอู๋ถอนหายใจ
แพนเค้กนี้ในความเป็นจริงมันไม่ได้อร่อยมากขนาดนั้น มันเป็นเพียงแค่อาหารที่ทำให้เขาไม่หิวและ เนื้อแห้งเองก็เกือบจะไม่มีรสชาติ หลังจากการอบแห้งด้วยอากาศร้อน
แต่ถึงกระนั้นมันก็เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดที่พวกมันเคยได้กินมา
กูระ ไม่ได้ซ่อนมันเอาไว้คนเดียวเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด มันแจกจ่ายอาหารออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกมันทุกคนที่ได้ลิ้มรสอาหารแห้งต่างก็แสดงสีหน้ามึนเมาออกมา
มีของอร่อยแบบนี้ในโลกด้วยเหรอเนี่ย?
น่าเสียดายที่ลั่วอู๋ไม่ได้มีอาหารแห้งมากนัก พวกมันทุกคนจึงกัดแย่งกัน และแซคส่วนใหญ่ก็ไม่มีโอกาสได้กินมัน
แซคส่วนใหญ่ต่างมีดวงตาที่เศร้าสร้อย ใบหน้าที่เคยดูดุร้ายกลายเป็นน่าสังเวช
ฉูจงฉวน เกาหัวของเขา “ลืมไปเลยว่า ข้าฉูจงฉวน ก็เป็นคนดีเช่นกัน ข้ากินอาหารแห้งไปเยอะแล้ว ขอแจกให้พวกเจ้าด้วยคนก็แล้วกัน”
โดยไม่ลังเลเหวินเสี่ยวเองก็ทำเช่นเดียวกัน
ในที่สุดพวกมันแต่ละตัวก็ได้รับประทานอาหารแห้งและน้ำสะอาด พวกมันบางตัวรู้สึกสะเทือนใจมากจนถึงกับหลั่งน้ำตา
ฉากนี้ทำให้หัวใจพรรคพวกลั่วอู๋ทั้งสามคนรู้สึกสะเทือนใจ มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“รอข้าสักเดี๋ยวนะ” ลั่วอู๋เข้าไปในมิติไห
เขาไปที่ภูเขาเพื่อจับสัตว์วิญญาณระดับเงินตัวอ้วน ๆ มาสองสามตัวเช่นเม่นดิน จากนั้นก็เก็บผลไม้ป่าที่ปลอดสารพิษจำนวนมากลงมาบนภูเขา
เมื่อเขานำสิ่งเหล่านี้ไปให้เหล่าแซค พวกมันทั้งเผ่าก็บ้าคลั่ง
เนื้อสะอาดที่ไม่ได้ปนเปื้อนพลังวิญญาณมนตราอันชั่วร้าย!
ผลไม้ป่ารสเปรี้ยวหวานสดชื่น
เรื่องแบบนี้แม้แต่ ปรมาจารย์ปีศาจแห่งนรกมนตราทั้งเก้าก็คงจะไม่มีโอกาสได้สัมผัส แต่แซคระดับต่ำเหล่านี้กลับสามารถได้สัมผัสและได้กินสมบัติเหล่านี้
ฉูจงฉวน รู้สึกสงสัย “เจ้าเอาของมากมายขนาดนี้ติดตัวออกมาข้างนอกด้วยได้อย่างไรกัน?”
“ ข้าก็แค่กลัวว่าข้าจะหิวน่ะ”
“ ……”
เม่นดินถูกฆ่าอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้ปรุง มันถูกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วแจกจ่ายไปทั้ง ๆ ที่ยังมีเลือดสีแดงสด
ราวกับว่าพวกมันได้เห็นปาฏิหาริย์ พวกมันแทบจะกลืนกินเนื้อของเม่นดินในทันทีที่ได้รับมา
ผลไม้ป่าถูกหั่นออกจากกันอย่างรวดเร็วใบหน้าของแซค เต็มไปด้วยความตื่นเต้น พวกมันมองไปที่ดวงตาของลั่วอู๋อย่างเต็มไปด้วยความเคารพ
การได้รับความเคารพนั้นกลายเป็นเรื่องง่ายๆขึ้นมาในทันที
จู่ ๆ เหวินเซียวก็พูดด้วยเสียงต่ำ “พวกเจ้าสังเกตหรือไม่ว่าจานและตะเกียบที่พวกมันใช้ดูเหมือนจะทำมาจากหินเจาะกระดูก”
ลั่วอู๋แปลกใจ เขาลองมองดูอย่างระมัดระวัง
จริงด้วย
หินเจาะกระดูกเป็นแร่ชนิดพิเศษ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกระดูกสีขาว มันเป็นแร่วิญญาณหายาก
เนื้อของมันไม่แข็งและการบดมันเป็นผงจะสามารถนำมาใช้ในการปรุงหรือเสริมพลังของยาได้การเพิ่มผงหินเจาะกระดูกลงไปเล็กน้อยในยา จะสามารถปรับปรุงอัตราในการขึ้นรูปเป็นเม็ดยาได้
หากเพิ่มหินเจาะกระดูกหินเล็กน้อย เมื่อทำการหลอมอาวุธก็จะสามารถรวมแร่ทุกชนิดให้เข้ากันได้มากขึ้นและเพิ่มความหนาแน่นของอาวุธนั้น ๆ ได้เช่นกัน
กล่าวกันว่าในยุคของศิลปะการต่อสู้โบราณ หินเจาะกระดูกหินชนิดนี้เป็นหนึ่งในวัสดุที่ขาดไม่ได้ในการทำอาวุธ มนตรา
มันมีการใช้งานหลากหลายและราคาที่สูงมาก
หินเจาะกระดูกขนาดเท่ากำปั้น มีราคาอย่างน้อย ๆ เท่ากับ 100,000 หินวิญญาณ
ลั่วอู๋ ถาม กูระ “พวกเจ้าเอาหินที่ใช้ทำจานพวกนี้มาจากที่ไหน”
“บนภูเขาด้านหลังเผ่าของพวกเรา มีหินสีดำและสีขาวจำนวนมาก หินสีดำแข็งเกินกว่าจะทำเป็นชามและตะเกียบได้ ส่วนสีขาวมันแข็งกำลังพอดีพวกเราเลยใช้มัน” กูระตอบ
ลั่วอู๋มองไปที่ภูเขาด้านหลังที่อยู่อาศัยของชนเผ่า
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโอกาสที่ดี
แร่ธาตุหายากในโลกมนุษย์ บางทีเมื่ออยู่ในนรกมนตราอาจจะเป็นเพียงหินธรรมดาที่ไม่มีใครต้องการก็เป็นได้