ไหปีศาจ - บทที่ 353 ปิดข้อตกลง

บทที่ 353 ปิดข้อตกลง

บทที่ 353
ปิดข้อตกลง

“ข้ารู้ว่าในนรกมนตรานั้นมีแร่วิญญาณมากมาย และพวกมันหายากมากในโลกมนุษย์ของพวกเจ้า พวกเราสามารถช่วยพวกเจ้าขุดหาแร่วิญญาณเหล่านั้นได้” แซคเฒ่ากล่าว

“เจ้าต้องการอะไร?” ลั่วอู๋ ถาม
“ อาหารและอาวุธ” “คนของข้าพร้อมจะขุดแร่วิญญาณอะไรก็ได้ที่ตามที่พวกเจ้าต้องการ แต่พวกเจ้าต้องแลกมันกับอาวุธและอาหาร” มันกล่าว

นี่เป็นโอกาสที่ดีในการทำธุรกิจ
หากพวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนสิ่งของกับเผ่าแซคใน นรกมนตราได้ พวกเขาจะได้กำไรมหาศาล

แต่ลั่วอู๋กลับส่ายหัว “ข้าขอโทษ ข้าคงทำแบบนั้นไม่ได้”
“ทำไมล่ะ!” แซคเฒ่าพูดด้วยความโกรธ “เป็นเพราะพวกเราเป็นคนชั่ว เจ้าเลยกลัวว่าพวกเราจะไปทำให้เจ้ามีมลทินงั้นเหรอ?”

เห็นได้ชัดว่าการถูกตราหน้าว่าเป็นคนชั่วร้ายนั้นได้กลายเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเปราะบางและรุนแรงของแซคเฒ่า

มันโกรธมาก มันยอมทิ้งความเป็นไปได้ในการออกจากที่นี่แล้วแท้ ๆ แต่มันก็ยังไม่สามารถแลกเปลี่ยนอาหารและอาวุธอยู่ดี เพราะอะไรกัน ? ทำไม! พวกมันทำอะไรผิด.

ฉูจงฉวน ส่ายหัว “ชายชรา ท่านอย่าเพิ่งโกรธเกรี้ยวไปสิ ไม่ใช่ว่าพวกเรามีปัญหากับเจ้า แต่พวกเราไม่สามารถนำอาหารกลับมาได้อีกแล้วต่างหาก พวกเราตื่นเต้นมากกับข้อเสนอของเจ้า แต่พวกเราไม่สามารถอยู่เป็นระยะเวลานานได้ นอกจากนี้พวกเรายังไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้อีกด้วย”

เมื่อพวกเขาออกจากนรกมนตราไปแล้ว ก็จะถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดของการฝึกฝนในมิติ

ใครจะรู้ว่าการฝึกฝนในมิติครั้งต่อไปจะมีอีกเมื่อไหร่
นอกจากนี้การฝึกฝนในมิติของนรกมนตรานั้นไม่ได้เปิดมากว่าเกือบร้อยปีแล้ว

ข้อตกลงนี้ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
“ หมายความว่ายังไง?”แซคเฒ่า ไม่ค่อยเข้าใจ
“พวกเราไม่สามารถเข้าและออกจากนรกมนตราได้อย่างอิสระ ถ้าเราจากไปเราจะไม่มีโอกาสกลับมาที่นรกมนตราได้อีก” ลั่วอู๋กล่าว

มันดูแก่ลงไปมากกว่าเดิม
มันไม่รู้ว่าการเปิดช่องว่างมิตินั้นเป็นเรื่องยากเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดช่องว่างมิติเข้ามาในนรกมนตรา

ดังนั้นมันจึงคิดว่ามนุษย์สามารถเข้าและออกนรกมนตราได้อย่างง่ายดาย

มันลังเลอยู่นานก่อนที่จะยอมลดความเกลียดชังตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษของมันลงมา และเจรจาเพื่อผลประโยชน์ของเผ่า มันไม่คาดคิดเลยว่าความจริงจะโหดร้ายขนาดนี้
“ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้”แซคเฒ่า รู้สึกท้อแท้
วันอันมืดมนของพวกมันจะต้องดำเนินต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งทำให้มันรู้สึกปวดใจหงุดหงิดและสิ้นหวัง

ลั่วอู๋ ส่ายหัว “ฉูจงฉวน, เหวินเสี่ยว พวกเจ้าออกไปก่อนข้าอยากคุยกับแซคเฒ่าเพียงลำพัง”

ทั้งสองคนแม้ว่าพวกเขาจะอยากรู้อยากเห็น แต่พวกเขาก็เลือกที่จะออกจากห้อง

“ เจ้ายังจะคุยอะไรอีกล่ะ ออกไปจากที่นี่ซะ!” แซคเฒ่าเริ่มโกรธ

เนื่องจากอีกฝ่ายไม่สามารถช่วยเหลือพวกมันได้ อีกทั้งระหว่างมนุษย์กับแซคก็ยังคงมีความเกลียดชังอยู่ ดังนั้นแซคเฒ่าจึงไม่ยอมคุยกับลั่วอู๋

ดวงตาของลั่วอู๋เต็มไปด้วยความเย็นชา เขาตะคอกออกมา “หัวหน้าเผ่า ข้าแนะนำให้เจ้าสำนึกรู้ถึงช่องว่างระหว่างเรา ข้าไม่รังเกียจที่จะช่วยเหลือพวกแซคเลยสักนิด แต่ก็ไม่ใช่ว่าเจ้าจะมาสั่งข้าได้ อย่าลืมว่าแซคทั้งเผ่านี้สามารถถูกทำลายได้ด้วยมือของข้าเพียงคนเดียว ”

ลมปราณอันแข็งแกร่งของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทอง มิติ 2 ถูกแผ่ออกมา

มันเป็นจิตสังหารอันน่ากลัว
ถึงแท้จริงแล้ว มันจะสามารถถูกหยุดได้ด้วยการเอามือบังตาก็เถอะ

ลั่วอู๋นั้นไม่จำเป็นต้องลงมือทำลายชนเผ่าแซคด้วยตัวเองด้วยซ้ำ เขาสามารถฆ่าชาวแซคทั้หมดได้โดยใช้สัตว์วิญญาณระดับทองที่เขามี

แซคเฒ่าหายใจอย่างยากลำบาก มันถูกลมปราณของลั่วอู๋ กดดันจนตัวสั่นไปทั้งตัว

พวกแซคไม่มีความสามารถในการฝึกฝนพลังวิญญาณ วิธีเสริมพละกำลังที่ดีที่สุดของชาวแซค มีเพียงการเสริมสร้างด้วยการออกกำลังกายและเสริมสร้างกล้ามเนื้อกระดูกเท่านั้น ดังนั้นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าจึงมีความแข็งแกร่งไม่เกินระดับทองแดง มิติ 7 -8

ไม่ว่าพยายามแค่ไหน พวกมันก็ไม่สามารถขึ้นไปได้มากกว่านี้

แซคเฒ่าไม่สามารถต้านทานลมปราณของลั่วอู๋ได้ ทันใดนั้นใบหน้าของมันก็เปลี่ยนเป็นสีขาวซีด ภายใต้หน้ากากนั้นลั่วอู๋มองไม่เห็น

“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าน่าสังเวช แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของข้า” ลั่วอู๋พูดเสียงเข้ม

แซคเฒ่าเป็นเหมือนลูกโป่งที่ปล่อยอากาศออกมา มันอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ใช่ ข้าผิดไปแล้วท่านผู้สูงส่ง”

เห็นได้ชัดว่ามันรู้สถานะของตนเองแล้ว
เพื่อความอยู่รอดในนรกมนตรา ความสามารถทางปัญญานี้ยังจำเป็นอยู่

ลั่วอู๋พยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ มาคุยกันเรื่องข้อตกลงกันดีกว่า”

“ข้อตกลงเหรอ?” แซคเฒ่าตกตะลึง
ลั่วอู๋ยกปากขึ้น “นอกจากอาหารและอาวุธ ข้ายังสามารถมอบทักษะวิชาศิลปะการต่อสู้โบราณให้กับพวกเจ้าได้อีกด้วย เพื่อแลกกับการที่พวกเจ้าจะทำงานขุดแร่วิญญาณให้กับข้า”

การฝึกฝนพลังวิญญาณไม่เหมาะกับชาวแซคที่อาศัยอยู่ในนรกมนตรา เพราะพันธสัญญากับสัตว์วิญญาณนั้นมีบทบาทค่อนข้างสูงในการฝึกฝนพลังวิญญาณ อย่างไรก็ตามพวกมันก็ได้พิสูจน์ตัวตนของตัวเองแล้ว ว่าเป็นมนุษย์ที่น่าจะสามารถทำ พันธสัญญากับสัตว์วิญญาณได้

“ แต่เมื่อกี้เจ้าบอกว่า … ”
“ ข้ามีความลับที่ไม่อยากให้ใครรู้แม้แต่เพื่อนสนิท” ลั่วอู๋หยิบยากระต่ายหยกออกมาสามเม็ดพวกมันมีพลังห้วงมิติอันแข็งแกร่ง

“จะให้ข้าฝากอาหารไว้ก่อนก็ได้ เมื่อข้ากลับมาแล้ว ข้าจะพยายามสร้างช่องห้วงมิติให้”

“ที่เหลือมันขึ้นอยู่กับเจ้าว่าจะตกลงหรือไม่”
ลั่วอู๋เล่าให้แซคฟังเกี่ยวกับวิธีการใช้ยากระต่ายหยก
หากเขาไม่สามารถสร้างช่องห้วงมิติได้ เขาจะต้องเสียยากระต่ายหยกไปสามเม็ด อย่างไรก็ตามถ้าสำเร็จกำไรที่ได้นั้นสูงมากและมันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง

นรกมนตราเป็นสถานที่ปิดผนึกเข้าได้ยาก ดังนั้นมันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับการสร้างช่องมิติ

เขามียากระต่ายหยกเหลืออยู่ไม่มากนัก แต่ถ้าหากเขาสามารถเริ่มค้าขายกับเผ่าแซคในนรกมนตราได้ ผลกำไรที่ได้นั้นจะสูงเกินจินตนาการมาก และสามารถใช้มันเพื่อซื้อวัตถุพลังวิญญาณเอามาทดแทนยากระต่ายหยกได้

……
……

แม้ว่าเผ่า แซค จะเรียบง่ายและหยาบคาย แต่ก็มีการวางตัวที่ดี พวกแซคทั้งหมดต่างทำสิ่งต่างๆซึ่งไม่ได้แตกต่างไปจากเผ่ามนุษย์

“ข้าไม่คาดคิดเลยว่าพวกมันจะเป็นมนุษย์” ฉูจงฉวน พิงกองหญ้าพลางถอนหายใจ “ใบหน้าของพวกมันไม่สามารถถูกเปิดเผยได้ และพวกมันต้องแสร้งทำตัวเป็นสัตว์ประหลาด นี่มันช่างน่าสังเวชจริงๆ”

“ใช่” เหวินเสี่ยวพยักหน้ามองไปที่เหล่าแซคตรงหน้าดวงตาของเขาแสดงความสงสาร

จู่ ๆ ก็เกิดการจลาจลที่ประตูถิ่นอาศัยของเผ่า
สัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนมนุษย์มีใบหน้าสีฟ้า มันมีเขี้ยวและมีหูที่เหมือนครีบ มันถือผ้าขี้ริ้วผืนยาวในมือก้าวเข้ามาในถิ่นอาศัยของชาวแซค ร่างของมันสูงประมาณหนึ่งเมตรครึ่ง ศีรษะของเหมือนกับเทียน ตาของมันอยู่สูงมากและมีตาอีกหนึ่งอยู่ตรงที่คางของมันรวมเป็น 3 ตา มันมีสี่แขน และมีฝ่ามือเป็นเหมือนใย ๆ กับลำตัวเป็นสีน้ำเงิน
มันเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่มีหน้าตาดูน่าเกลียดมาก

ลักษณะนั้นเหมือนกับชนเผ่าราตรีที่เป็นสัตว์วิญญาณระดับทอง

ยักษาตัวนั้นเดินเข้าไปในถิ่นของเผ่าแซค มันตะโกนออกมาสองครั้ง ชาวแซคทั้งหมดต่างเข้ามารวมตัวกันพร้อมตะโกนคำขวัญแปลก ๆ และคุกเข่าลงทีละคน

ฉูจงฉวน และ เหวินเสี่ยว มองหน้ากันพวกเขารู้สึก แปลก ๆ เล็กน้อย

สถานการณ์นี้คืออะไรกันแน่
“พวกมันตะโกนอะไรกัน” ฉูจงฉวน ถามด้วยเสียงต่ำ
“ดูเหมือนพวกมันจะพูดกับยักษาตัวนี้ในฐานะผู้สูงส่ง?” เหวินเสี่ยวรู้ความหมายได้ผ่านทักษะสื่อสารวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงสามารถเข้าใจทั้งคำพูดของแซคและยักษา

ผู้สูงส่ง?
ดูเหมือนว่าเหล่าแซคและยักษาจะมีความสัมพันธ์กัน ไม่แปลกใจที่พวกมันเรียกพวกเขาว่าท่านผู้สูงส่งเมื่อเห็นพวกเขา พวกมันคงคิดว่าพวกเขาเป็นยักษาด้วย

สิ่งนี้ทำให้ ฉูจงฉวน ก็ไม่มีความสุข
ข้ามีหน้าตาแบบนี้ที่ไหน?
ฉูจงฉวนนั้นหล่อเหลาและพิเศษไม่เหมือนกับยักษา
ยักษาคำรามออกมา จากนั้นก็ปล่อยลมปราณอันรุนแรงออกมาแล้วคว้าแซคเตรียมใส่ปากของมันเข้าไปกิน

มันคิดจะกินพวกแซคเหล่านี้
แซคที่ถูกจับได้แต่หลับตาลง ราวกับรู้ว่านี้คือจุดจบชีวิตของมัน

ขณะเดียวกันแซคตัวอื่น ๆ ก็ก้มหน้าลงราวกับว่าพวกมันไม่สามารถทนดูต่อไปได้อีก

ฉูจงฉวนไม่สามารถทนเห็นมนุษย์ถูกกินต่อหน้าต่อตาได้ คนอย่างฉูจงฉวนมีหรือที่จะยอมปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป? เขาจะกำจัดเจ้าสัตว์ประหลาดน่าเกลียดที่ปนเปื้อนดวงตาของเขาตัวนี้ให้หายไปพ้น ๆ หน้า

เขาหยุดลงแล้วจุดพลังไฟวิญญาณขึ้นมา