ไหปีศาจ - บทที่ 368 ธุรกิจ
บทที่ 368 ธุรกิจ
บทที่ 368
ธุรกิจ
ในคืนเดียวกันนั้นเอง
ทุกคนในสำนักโล่พิทักษ์ต่างตื่นขึ้นมากลางดึก บุคลากรทุกคนทั่วทั้งร้านต่างทำงานอย่างขยันขันแข็งในเวลากลางคืนนี้
เหตุผลนั้นง่ายมาก ประตูห้วงมิติที่นายน้อยสั่งให้พวกเขาคอยดูแล ทันใดนั้นก็เปิดออกพร้อมกับแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกส่งเข้ามา ทว่านี่อยู่ภายในกลับไม่ใช่สัตว์วิญญาณ แต่เป็นแร่วิญญาณ
หลังจากตรวจแล้ว มันคือหินเจาะกระดูกที่ล้ำค่ามาก
ยิ่งไปกว่านั้นในนี้ยังมีหินเจาะกระดูกมากกว่า 4000 ก้อน!
ทั่วทั้งสำนักโล่พิทักษ์สั่นสะเทือน
พวกเขาหายใจไม่ออก เกรงว่าแม้แต่ในเมืองหลวงเองก็คงมีเพียงคฤหาสน์ชวนเทียนและศาลาไป่หยู่เท่านั้นที่สามารถผลิตหาหินเจาะกระดูกมาได้มากมายเช่นนี้
โอ้พระเจ้าเขาไปเจอเหมืองแร่วิญญาณรึไง!
“ไปที่คฤหาสน์ชวนเทียน แล้วเรียกเซาฉางกับหวังฉีมาคุยถึงเรื่องนี้”
“เจ้าของร้านมีจดหมายอีกฉบับขอรับ!” ผู้ชายคนหนึ่งพบจดหมายที่มากับแหวนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเต็มไปด้วยแร่วิญญาณ
หลังจากอ่านจดหมาย อาฟู และ เสี่ยวชา ก็เริ่มออกคำสั่งทันทีอย่างรวดเร็ว นี่คือความต้องการของนายน้อยและมันต้องได้รับการตอบสนองโดยเร็ว
“ซื้ออาหารมาให้ข้า ข้าไม่สนว่าร้านข้าวจะเปิดหรือไม่ ในอีก 1 ชั่วโมงข้าอยากเห็นอาหารพอสำหรับคนหนึ่งพันคนให้ใช้ชีวิตอยู่รอดได้เป็นเวลาหนึ่งปี”
“ไม่เพียง แต่ข้าวและเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเหล้า ผักและเครื่องปรุงรสทุกชนิดด้วย ข้าต้องการพวกมันทั้งหมด นำมันมาให้ข้าตามมาตรฐานงานเลี้ยงของจักรวรรดิ”
“รวมถึงอาวุธทุกชนิดด้วย ข้าต้องเตรียมอาวุธและชุดเกราะในจำนวนที่เพียงพอสำหรับทหารหนึ่งพันคน!”
“ ตำราสำหรับผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้โบราณด้วย ยิ่งแข็งแกร่งยิ่งดี”
คำสั่งซื้อที่พวกเขาได้รับ ทำให้เหล่าคนงานต่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“เจ้าของร้าน พวกข้าเกรงว่าคงจะทำแบบนั้นไม่ได้ พวกเราจะบุกเข้าไปในร้านอาหารโดยมันยังไม่เปิดไม่ได้ขอรับ” คนงานที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขากำลังยิ้มอย่างขมขื่น
“เจ้ามีปัญหากับการบุกเข้าไปในร้านอาหารงั้นเหรอ?” ดวงตาของอาฟูจับจ้องไปที่เขา “อย่ากลัวว่าจะไปทำให้คนขุ่นเคือง เอาเงินไปให้เขาซะ ใครมีอารมณ์โกรธให้เอาเงินฟาดมัน เดี๋ยวอีกฝ่ายก็หายเอง”
เหล่าคนงานใต้บังคับบัญชาต่างก็เงียบลง
ในคืนนั้นหน้าประตูของร้านข้าว ร้านขายเนื้อ ร้านขายอาวุธและร้านค้าสำคัญอื่น ๆ ในถนนหลายแห่งรอบ ๆ ถูกเหล่าคนงานเข้าบุกรุกพร้อมด้วยหินวิญญาณจำนวนมาก
ว่ากันว่าพวกเขามาจากร้านค้าชื่อ สำนักโล่พิทักษ์
อาวุธ และอาหารทุกชนิดถูกนำออกไปในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดสามหรือสี่เท่า ร้านค้ารายใหญ่ทั้งหมดทำเงินได้มหาศาลมาก ไม่มีใครบ่นและเจ้าของร้านค้าใหญ่ ๆ เองต่างก็หัวเราะจนปากเบี้ยว มีแม้กระทั่งร้านขายอาวุธที่ตื่นมาตีอาวุธกลางดึก เพื่อที่จะส่งไปให้สำนักโล่พิทักษ์
นอกจากนี้สำนักโล่พิทักษ์ยังได้ซื้อตำราทักษะศิลปะการต่อสู้โบราณระดับสูงห้าเล่มมาจากคฤหาสน์ชวนเทียนในราคาสูงถึง 30 ล้านหินวิญญาณ
สิ่งนี้ทำให้ร้านค้าทั้งหมดตกใจ
ปฏิบัติการชุดนี้ให้หลาย ๆ คนคิดว่าสำนักโล่พิทักษ์บ้าไปแล้ว พวกเขาใช้จ่ายเงินมากมายขนาดนี้ไม่กลัวถังแตกเหรอ?
ทว่าเพียงหนึ่งชั่วโมงต่อมา สำนักโล่พิทักษ์ก็ได้ออกข่าวเรียกว่าจะหินเจาะกระดูกจำนวนมากในราคา 80% ของราคาตลาด
หินเจาะกระดูก!
ลด 20 %!
จำนวนมาก!
สามคำนี้กระตุ้นประสาทของผู้คนในเมืองหลวงเป็นอย่างมาก ทันใดนั้นตัวแทนของร้านค้าหลายแห่งต่างก็หลั่งไหลเข้ามา เริ่มคุยธุรกิจกับสำนักโล่พิทักษ์ในคืนนั้น
สำนักโล่พิทักษ์ ไม่สนใจว่าใครจะสนใจมันรึเปล่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องขายพวกมันโดยเร็วที่สุด เพราะนายน้อยนั้นต้องการหินวิญญาณ
ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงสำนักโล่พิทักษ์ก็ได้ขายหินเจาะกระดูกทั้งหมดให้กับเหล่าร้านค้ารายใหญ่ โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 300 ล้านหินวิญญาณ
คืนนี้เหล่าร้านค้านับไม่ถ้วนต่างตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
……
……
บริเวณบ้านพักของลั่วอู๋นั้นเงียบมาก จนทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างสัมผัสได้ถึงพลังของห้วงมิติทั้งหมด
แต่ด้วยข้อจำกัดกฎระเบียบของสำนักเฉียนหลง บุคคลภายนอกจึงไม่สามารถฝ่าฝืนเข้ามาในบริเวณนี้ได้ ไม่งั้นคงมีหลายคนเข้ามาส่องดูติดตามหาข่าว
ทว่ามันกลับเป็นเรื่องยากสำหรับองค์หญิงเจียโรวที่ต้องการจะนอน
นางด่าอย่างโกรธ ๆ ในใจ “ทดลอง ทดลองอะไรของเจ้าอยู่นั่นแหละ ก่อความวุ่นวายเช่นนี้ กลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้รึไง?!”
วันต่อมา
ลั่วอู๋มองอย่างเบื่อหน่ายไปที่ช่องว่างห้วงมิติอันขรุขระที่เขาเพิ่งเปิดขึ้นมาใหม่ พลางถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
นรกมนตราช่างควรค่าแก่การถูกปิดผนึกจริง ๆ
แม้แต่รองเจ้าสำนัก หลี่หวู่หยวน ผู้ที่มีความสามารถและพิกัดห้วงมิติ ยังต้องใช้พลังมหาศาลในสร้างประตูมิติไปสู่ที่นั่น
จึงไม่ต้องพูดถึงเทคนิคระดับมือใหม่อันหยาบกร้านของลั่วอู๋เลย
โชคดีที่ช่องว่างห้วงมิตินั้นได้ถูกสร้างขึ้นจนสำเร็จ โดยมีค่าใช้จ่ายเป็นยากระต่ายหยกถึง 30 เม็ด เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนจำนวนมากมหาศาลในช่วงแรก
อย่างไรก็ตาม มันยังไม่สามารถใช้ส่งสัตว์วิญญาณได้ พลังห้วงมิตินี้ยังคงไม่เสถียรเป็นอย่างยิ่ง มันจึงพร้อมที่จะฉีกร่างของสัตว์วิญญาณเป็นชิ้น ๆ
โดยอีกด้านหนึ่งของช่องว่างห้วงมิติ ก็คือห้องโถงบรรพบุรุษของชาวแซคในนรกมนตรา
ของจากสำนักโล่พิทักษ์ถูกส่งผ่านมาทางช่องว่างมิติ ก่อนจะถึงรุ่งสาง
“พวกเขาจัดการได้เร็วมาก!” ลั่วอู๋แปลกใจ เพราะใจจริงเขาไม่ได้อยากให้อีกฝ่ายรีบร้อนกันเท่าไหร่ น่าเสียดายที่เขาไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจนในจดหมายของเขา
มันเป็นกล่องขนาดใหญ่ ซึ่งพอลั่วอู๋เปิดมันออกมาเขาก็พบว่ามีแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์อย่างน้อย 40 หรือ 50 วงอยู่ข้างในนั้น โดยทั้งหมดนี้ไม่ใช่สินค้าราคาถูกแต่อย่างใด พวกมันมีค่าสูงมาก
แต่เมื่อเปิดแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ออก ลั่วอู๋ ก็ยิ่งตกใจมากยิ่งขึ้น
มีเมล็ดพืชมหาศาลกองเป็นภูเขา แม้แต่อาหารที่ไม่สะดวกในการเก็บรักษาก็ถูกทำให้เป็นอาหารแห้ง มีอาวุธและชุดเกราะอันยอดเยี่ยม อีกทั้งยังมีตำราทักษะศิลปะการต่อสู้โบราณ 5 เล่ม กับ แร่วิญญาณอีก 200 ล้านก้อน ที่ทำให้ไม่ว่าใครมาเห็นก็ต้องตกใจจนเวียนหัว
แม้ว่าผู้คนของสำนักโล่พิทักษ์จะใช้เวลาไปไม่นาน แต่ประสิทธิภาพที่ได้มานั้นน่ากลัวเกินไป
เพราะลั่วอู๋ได้รับความสามารถใหม่ของไหปีศาจมา แร่วิญญาณเหล่านี้จึงสามารถนำไปกลั่นให้กลายเป็นแร่วิญญาณบริสุทธิ์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการฝึกฝนมิติวิญญาณได้
ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่เหมือนกับการใช้ความสามารถอื่น ๆ ของไหปีศาจในการฝึกฝนมิติวิญญาณ ซึ่งสามารถใช้ได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ตอนนี้เขาสามารถมอบแร่วิญญาณบริสุทธิ์ให้กับผู้อื่นเพื่อช่วยในการฝึกฝนมิติวิญญาณได้
จากนั้นลั่วอู๋ก็ได้ไปที่คฤหาสน์สุตราเพื่อหาหนังสือชื่อ “การรวบรวมแร่วิญญาณฉบับสมบูรณ์” ซึ่งบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับแร่วิญญาณทั้งหมดที่มี
ลั่วอู๋ส่งอาหาร อาวุธ ตำราศิลปะการต่อสู้ และสำเนาหนังสือการรวบรวมแร่วิญญาณฉบับสมบูรณ์ให้ชาวแซคในนรกมนตราผ่านช่องห้วงมิติ
แม้ว่าบรรพบุรุษของชาวแซคจะทรยศมวลมนุษยชาติ แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าสังเวชเกินไปหากจะปล่อยให้พวกเขาต้องชำระบาปนั้นกันต่อไปหลายพันชั่วอายุคน
พวกเขาต้องอาศัยอยู่ในความอันตรายภายใต้การคุกคามของปีศาจต่าง ๆ และต้องแสดงให้สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เห็นในภาพของตัวเองเป็นสัตว์ประหลาดเสมอ
การลงโทษดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าสังเวชมาก ลั่วอู๋ไม่ได้คิดจะขัดต่อคำพูดของปราชญ์ในอดีต เขาเพียงแต่จะส่งบางสิ่งบางอย่างมาช่วยให้พวกแซคได้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นบ้างเล็กน้อย
ประมาณสองชั่วโมงต่อมา
มีของถูกส่งมาจากช่องมิติสู่นรกมนตรา
แน่นอนว่าสิ่งของทั้งหมดในแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ถูกแทนที่ด้วยแร่วิญญาณจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินเจาะกระดูกอย่างน้อย 5,000 ชิ้น
มีการขุดหินเจาะกระดูกครั้งใหญ่ในภูเขาด้านหลังถิ่นที่อยู่ของชาวแซค แต่ตอนนี้พวกเขายังมีเวลาไม่เพียงพอ พวกเขาจึงขุดออกมาได้เพียงเท่านี้ และทั้งหมดได้ถูกส่งมาให้กับ ลั่วอู๋
นอกจากนี้ยังมีจดหมายแนบมาจากชาวแซค
มีคำขอบคุณเขียนเอาไว้ อีกทั้งชาวแซคยังกล่าวว่าพวกเขาจะพยายามมองหาเหมืองแร่วิญญาณอันมีค่าในหนังสือการรวบรวมแร่วิญญาณฉบับสมบูรณ์ เพื่อตอบแทนให้กับลั่วอู๋
แน่นอนมันเป็นเพียงข้อตกลง พวกเขาได้รับสิ่งที่ตนเองต้องการแล้ว
เพื่อรักษาความมั่นคงของช่องห้วงมิติทั้งสอง ลั่วอู๋ ที่ไม่มีวัตถุพลังวิญญาณห้วงมิติเช่นยากระต่ายหยกมากเท่าไหร่จึงต้องตรงไปที่คฤหาสน์หวู่หยู่
ลั่วอู๋มีฐานะทางการเงินที่ดี เขาแลกคะแนนมา 5 ล้านคะแนนด้วย หินเจาะกระดูก 5000 ชิ้น ซึ่งทำให้เจ้าของร้านของคฤหาสน์หวู่หยู่ต้องมองเขาอย่างตกตะลึง
“ ข้าต้องการวัตถุวิญญาณทั้งหมดที่มีความสามารถรักษาสภาพของประตูห้วงมิติ ขอมากที่สุดเท่าที่เจ้าจะหามาได้” ลั่วอู๋ กล่าวด้วยน้ำเสียงอันกดดัน
เจ้าของร้านของคฤหาสน์หวู่หยู่กลอกตา “เจ้ามีเงินไม่พอ”
“ม… ไม่มี ไม่มีทางน่า”
“ เจ้าคิดว่าข้าเป็นร้านขายของชำรึไง เจ้าไม่สามารถเดารายละเอียดของสินค้าในคฤหาสน์หวู่หยู่ได้หรอก เจ้ามีเพียงแค่ห้าล้านคะแนนเองนะ มีคะแนนแค่นี้ก็มั่นใจในตัวเองว่าจะซื้อได้ทุกอย่างแล้วเรอะ คฤหาสน์หวู่หยู่น่ะมีขายทักษะที่เกี่ยวกับ ห้วงมิติด้วยและราคาของพวกมันก็สูงมาก รับความจริงไปซะเจ้าเด็กโง่ ”
ผู้ใช้พลังวิญญาณที่เชี่ยวชาญทักษะห้วงมิติสามารถใช้พลังวิญญาณ เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า “การรวมตัวกันของห้วงมิติ” แม้มันจะไม่ช่วยให้ผ่านช่องห้วงมิติได้ แต่ก็สามารถรักษาเสถียรภาพของห้วงมิตินั้น ๆ ได้
อย่างไรก็ตามการผลิตทักษะเหล่านี้นั้นเป็นเรื่องยาก ดังนั้นราคาของพวกมันจึงแพงมาก
แต่หลายคนที่ซื้อไปก็มักจะสามารถสร้างรายได้มหาศาลกลับมาได้จากการใช้ทักษะดังกล่าว
ลั่วอู๋จ่ายสี่ล้านคะแนนเพื่อซื้อ การรวมตัวกันของห้วงมิติ สำเร็จรูปมามากกว่า 200 ชิ้น เขาจะได้ไม่ต้องกังวลว่าช่องว่างห้วงมิติจะถูกปิดลง
จากนั้นลั่วอู๋ก็กลับไปยังบ้านพักของเขา
แมวผีนอนอยู่บนหลังคาบ้านกลางแดด เหมือนกับพวกแมวขี้เกียจตัวใหญ่ ๆ ตอนนี้มิติวิญญาณของมันมาถึงระดับเงิน 10 หมายความว่าตามหลักศักยภาพของมัน มันได้มาถึงขีดจำกัดของมิติวิญญาณแล้ว
ทว่าดูเหมือนว่ามันจะไม่มีวี่แววของวิวัฒนาการออกมาเลย
สัตว์วิญญาณตัวแรกมักจะมีปัญหาเช่นนี้เสมอ เมื่อมันถึงขีดจำกัดของมิติวิญญาณ พวกมันจะไม่สามารถพัฒนาไปมากกว่านั้นได้อีก และมีเพียงไม่กี่ตัวที่สามารถวิวัฒนาการได้
สำหรับผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณแล้ว การแก้ปัญหานี้นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่มีราคาแพงมาก
“ ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาที่ข้าจะต้องยกระดับความสามารถของเจ้าแมวโง่ตัวนี้แล้ว ในฐานะมันเป็นสัตว์วิญญาณที่อยู่กับหลี่หยินมานานที่สุดล่ะนะ” ลั่วอู๋ ยกมือขึ้นแล้วเรียกมันเข้ามาหา “เสี่ยวหลวน มานี่สิ”
แมวผียกหัวขึ้น มันรู้จักกับลั่วอู๋ ดังนั้นมันจึงลุกขึ้นอย่างเฉื่อยชาแล้วเดินไปหา ลั่วอู๋ อย่างหยิ่งผยอง
แมวผีเป็นช่างสัตว์วิญญาณที่เย็นชาจริงๆ
นี่คือสิ่งที่ทุกคนเห็นยกเว้นหลี่หยิน
“มานี่ ๆ ข้าจะให้ขนมเจ้า” ลั่วอู๋ขว้างแร่วิญญาณบริสุทธิ์ที่เขากลั่นออกมาให้
เดิมทีลั่วอู๋วางแผนที่จะปรับปรุงแก่นวิญญาณของมันโดยตรง แต่เมื่อเห็นท่าทีของมันเป็นแบบนี้ เขาก็รู้สึกมีแรงกระตุ้นที่อยากจะแกล้งมัน
เสี่ยวหลวนสูดดมแร่วิญญาณบริสุทธิ์เข้าไป จากนั้นมันกลืนลงไปอย่างตื่นเต้น
ไม่มีสัตว์วิญญาณตัวไหนที่จะเกลียดวัตถุที่มีพลังวิญญาณบริสุทธิ์แบบนี้
ทันใดนั้นเสี่ยวหลวนก็ส่งเสียงคำรามต่ำอย่างเจ็บปวด มันนอนลงกับพื้นบิดตัวไปมาอย่างเมามันดูเหมือนถูกวางยาพิษ
หัวใจของลั่วอู๋เต้นรัว
ไม่จริงน่า