ไหปีศาจ - บทที่ 369 วิวัฒนาการ
บทที่ 369 วิวัฒนาการ
บทที่ 369
วิวัฒนาการ
หลี่หยินซึ่งกำลังเตรียมตัวกลับเข้าไปพักผ่อนในห้อง จู่ๆก็รู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่
ด้วยการเชื่อมต่อระหว่างจิตใจของผู้ใช้พลังวิญญาณและสัตว์วิญญาณ นางรู้สึกถึงความเจ็บปวดของ เสี่ยวหลวน
“นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ?”
หลี่หยินรีบเปิดประตูออกไปอย่างไม่สบายใจแล้วมองหาเสี่ยวหลวน
……
……
“เหมียว!”
เสี่ยวหลวนกลิ้งไปมาบนพื้น ขนของมันร่วงไปทั้งตัว แขนขากระตุกอย่างเจ็บปวด หน้าท้องยกขึ้นเล็กน้อยราวกับว่ามีอะไรกำลังจะระเบิดออกมาจากท้อง
ลั่วอู๋ตื่นตระหนก
เขาแค่อยากจะแกล้งมันนิดหน่อยเท่านั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนี้ เขาต้องพยายามไม่กังวล!
เสี่ยวหลวน เสี่ยวหลวนเป็นอะไรไป? ทำใจดี ๆ ไว้
ถ้าเสี่ยวหลวนตายขึ้นมาด้วย “ยาพิษ” หลี่หยิน คงจะต้องเสียใจเป็นอย่างมาก
เมื่อเขานึกถึงหลี่หยินในสภาพกำลังสะอื้น น้ำตาไหล และพยายามกลั้นความเศร้าใจของนาง หัวใจของลั่วอู๋ก็พลันถูกดึงให้ดิ่งลง
ไม่ ไม่ เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ตายที่นี่
ลั่วอู๋รีบใส่เสี่ยวหลวนลงไปในไหปีศาจทันที จากนั้นเขาก็ตามเข้าไปในมิติไห
เขาตรวจสอบสถานะของเสี่ยวหลวนอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าพลังวิญญาณที่อยู่ในแร่วิญญาณบริสุทธิ์นั้นอุดมสมบูรณ์เกินกว่าที่ เสี่ยวหลวนจะดูดซึมเข้าไปได้
“ เสริมแกร่ง!”
ลั่วอู๋ใช้พลังของไหปีศาจ
เสี่ยวหลวนไม่สามารถรับพลังวิญญาณจำนวนมากนี้ได้ จึงทำให้ร่างกายของมันเริ่มแตกออก
ลั่วอู๋ใช้แต้มเซียน 3000 แต้ม เพื่อขับพลังวิญญาณอันทรงพลังในไหปีศาจ แต่เขาไม่ได้เทมันลงไปในเสี่ยวหลวน เขาเพียงแต่แนบมันไปกับร่างเล็ก ๆ ของเสี่ยวหลวน
แค่พลังวิญญาณที่อยู่ในร่างของเสี่ยวหลวนก็มากเกินพอแล้ว หากเขาเพิ่มมันเข้าไปอีกครั้ง มันคงจะตายลงในอีกไม่กี่อึดใจแน่
ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือการระงับพลังวิญญาณในร่างกายของมัน ไม่ให้มันระเบิดออกมา แต่ให้มันหลอมรวมไปกับร่างของเสี่ยวหลวน
พลังของไหปีศาจนั้นเป็นพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์ที่สุด มันจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อสัตว์วิญญาณแน่ มันจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ในการระงับและขับไล่พลังวิญญาณในร่างของมัน ด้วยพลังวิญญาณนี้
“เหมียว!” เสี่ยวหลวนดิ้นรนเบา ๆ พลังวิญญาณในร่างกายส่งผลกระทบต่อร่างกายของมันอย่างต่อเนื่องราวกับว่ามันกำลังจะแตกออกจากมาจากข้างในร่าง มีพลังวิญญาณอันทรงพลังกำลังครอบคลุมทั่วทั้งร่างของมันอยู่
“ ตูม … ”
ร่างกายของเสี่ยวหลวนดูเหมือนจะได้รับความปั่นป่วนครั้งใหญ่
มีเสียงดังก้องเล็กน้อย
ในที่สุดพลังวิญญาณในร่างของเสี่ยวหลวนก็ไม่อาละวาดอีกต่อไป มันกลายเป็นเหมือนสายน้ำอันอ่อนโยนค่อยๆไหลผ่านเส้นวงจรพลังวิญญาณแล้วไหลรวมเข้ากับมัน
เสี่ยวหลวน หลังจากได้รับพลังวิญญาณบริสุทธิ์ถึงสองครั้งในที่สุดมันก็แข็งแกร่งขึ้นมาก แม้ว่าขนจะยังยุ่งเล็กน้อย แต่ลมปราณก็หนาแน่นและมีพลังมาก
ลั่วอู๋ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “โอ้ โฮ ข้ากลัวแทบตายแน่ะ โชคดีจริง ๆ ที่ช่วยเจ้าไว้ได้”
ดวงตาสีเหลืองอำพันเล็ก ๆ ของเสี่ยวหลวนทอประกายแวววาวด้วยความสดใสแปลก ๆ ราวกับว่ามันเพิ่งตื่นขึ้นมาจากความฝัน จากนั้นมันก็เลียขนที่มือแล้วหันไปทางลั่วอู๋พร้อมร้องเมี้ยวสองครั้ง
มันคือเสียงโหยหา
สัตว์วิญญาณทุกชนิดล้วนมีความปรารถนาที่อยากจะแข็งแกร่งขึ้น อย่างไม่สามารถอธิบายได้
“ทำไม ?”
“เหมียว เหมียว”
“เจ้าอยากทำแบบนั้นอีกรอบงั้นเหรอ ?”
“เหมียวเหมียว” แมวผีพยักหน้า
ลั่วอู๋แปลกใจ “เจ้ามีงานอดิเรกเป็นพวกชอบโดนทรมานรึไง?”
ทันใดนั้นแมวผีก็ระเบิดกรงเล็บอันแหลมคมของมันข่วนที่พื้น ส่งเสียงคำรามใส่ ลั่วอู๋ แสดงความโกรธของมันออกมา
“อืม ในเมื่อเจ้าขอแบบนั้น” ลั่วอู๋หยิบแร่วิญญาณบริสุทธิ์ออกมาอีกก้อน
แมวผีกระโจนขึ้นเบา ๆ คว้าแร่วิญญาณบริสุทธิ์จากมือของลั่วอู๋ไปแล้วกลืนมันลงคอ พร้อมเลียริมฝีปากของมัน
อย่างไรก็ตามความสว่างไสวสดใสนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน พลังวิญญาณอันน่ากลัวโหมกระหน่ำในร่างกายของมันอีกครั้ง
เสี่ยวหลวนนอนลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวดทรมานร้องครวญครางไปมา
“ไหนเจ้าบอกว่า เจ้าไม่ชอบโดนทรมานไง” ลั่วอู๋ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็ใช้พลังวิญญาณจากไหปีศาจระงับพลังวิญญาณในร่างของเสี่ยวหลวนอีกรอบ
ในไม่ช้าพลังวิญญาณอันวุ่นวายในตัวเสี่ยวหลวนก็ลดลง พลังวิญญาณบริสุทธิ์จำนวนมากได้หลอมรวมเข้ากับร่างกายของมัน
ทันใดนั้นร่างของเสี่ยวหลวนก็เปล่งแสงสีขาวอันรุนแรงออกมา
นี่ทำให้ลั่วอู๋ตกใจมาก
มันกำลังวิวัฒนาการงั้นเหรอ?
สิ่งที่ลั่วอู๋ไม่รู้ก็คือพฤติกรรมนึกสนุกของเขาก่อนหน้านี้ เป็นพฤติกรรมแบบเดียวกันที่ทำให้อาชีพผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณขึ้นเมื่อหมื่นปีก่อน
เมื่อหมื่นปีก่อนมนุษย์ได้ค้นพบว่า สัตว์วิญญาณสามารถวิวัฒนาการได้อย่างอิสระและเริ่มศึกษาวิธีการปรับแต่งพัฒนาส่งเสริมการวิวัฒนาการของสัตว์วิญญาณ
โดยการค้นพบวิธีการปรับแต่งในครั้งแรกค่อนข้างจะดั้งเดิมและหยาบไปหน่อย
นั่นก็คือการบังคับให้สัตว์วิญญาณ กลืนวัตถุพลังวิญญาณที่มีพลังวิญญาณมหาศาล ซึ่งทำให้พลังวิญญาณในร่างของมันปั่นป่วนจากนั้นก็ใช้พลังวิญญาณบริสุทธิ์ภายนอกไล่มันออกไป เพื่อส่งเสริมให้สัตว์วิญญาณให้ดูดซับพลังวิญญาณนั้นเข้าไป
หากโชคดีพอ สัตว์วิญญาณตัวนั้นจะดูดซับพลังวิญญาณลงไปได้มาก และทำให้สัตว์วิญญาณตัวนั้นสามารถยกระดับแก่นวิญญาณได้อย่างสมบูรณ์ เกิดเป็นการวิวัฒนาการ
อย่างไรก็ตามอัตราความสำเร็จของวิธีนี้นั้นต่ำมาก ราว ๆ หนึ่งในหมื่นเท่านั้น
หากล้มเหลวละก็สัตว์วิญญาณตัวนั้นจะตาย มันจะถูกทำลายจากภายในโดยพลังวิญญาณ หรือไม่ก็ถูกบดขยี้ด้วยพลังวิญญาณภายนอก
แม้ว่าอัตราความสำเร็จจะต่ำมาก แต่มันก็ได้ดึงดูดผู้คนมากมายให้ทำตาม ใครเล่าจะไม่ต้องการทำพันธสัญญากับสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
นี่คือจุดเริ่มต้นของผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณ
ในเวลาต่อมาได้พัฒนาวิธีการปรับแต่งและวิชาลับขึ้นมา เพื่อช่วยให้สัตว์วิญญาณแข็งแกร่งขึ้นและอาชีพผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณก็เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ
ด้วยเหตุนี้ มนุษยชาติไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลย ว่าการเกิดขึ้นของอาชีพผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณนั้นมาพร้อมกับเลือดและหยาดน้ำตาของสัตว์วิญญาณนับไม่ถ้วน
วัตถุพลังวิญญาณที่ใช้ในการจุดพลังวิญญาณในร่างกายของสัตว์วิญญาณ มักจะมีความลึกลับโดยบางทีมันก็ไม่ได้บริสุทธิ์ เป็นเหตุให้มักจะเกิดความล้มเหลวในการวิวัฒนาการ
ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นเรื่องยากมากที่จะควบคุมพลังวิญญาณภายนอกที่ใช้ในการขับไล่พลังวิญญาณในร่างออก มันง่ายมากที่จะเกิดการขัดกันเองจนไม่สามารถควบคุมได้นำไปสู่ความล้มเหลวในการวิวัฒนาการและการตายของสัตว์วิญญาณเช่นกัน
นี่เป็นปัญหาสองประการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับวิธีการอันหยาบคายนี้
แต่ลั่วอู๋นั้นได้หลีกเลี่ยงปัญหาทั้งสองประการนี้ไปแล้วโดยไม่รู้ตัว
นั่นก็เพราะแร่วิญญาณบริสุทธิ์ที่เขาใช้ถูกกลั่นแล้วกลั่นอีกมาจากความสามารถของไหปีศาจ ทำให้เมื่อมันถูกในการจุดประกายพลังวิญญาณในร่างกายของสัตว์วิญญาณ มันจึงไม่มีสิ่งสกปรกใด ๆ เจือปนและบริสุทธิ์ถึงขีดสุด
ประการที่สองลั่วอู๋ใช้พลังวิญญาณของไหปีศาจ ในการขับไล่พลังวิญญาณในร่างของมันออกไป
แม้ว่าการขับไล่พลังวิญญาณจะทำได้ยาก แต่ด้วยที่มันเป็นพลังวิญญาณของไหปีศาจ พลังวิญญาณนั้นจึงสามารถหลอมรวมเข้ากับร่างกายสัตว์วิญญาณได้ โดยที่จะไม่สร้างความเสียหายให้กับแก่นวิญญาณ
“ดูเหมือนว่าข้าจะพบการวิธีการใช้งานใหม่สำหรับไหปีศาจเข้าซะแล้ว” ลั่วอู๋พึมพำกับตัวเอง
ไหปีศาจนั้นไม่ได้ช่วยให้เกิดการวิวัฒนาการของสัตว์วิญญาณได้โดยตรง
แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ลั่วอู๋จะสามารถทำให้เกิดการวิวัฒนาการได้ด้วยวิธีนี้ซะแล้ว
ร่างกายของเสี่ยวหลวนเต็มไปด้วยแสงสีขาว รูปร่างของมันไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามเส้นสีดำบนร่างกายของมันมีความละเอียดมากขึ้น ดวงตาสีเหลืองอำพันของมันสว่างขึ้นและบรรยากาศของมันก็สง่าผ่าเผยมากขึ้น
นอกจากนี้มันยังมีเปลวไฟสีเขียวเข้มที่หาง มันมีพลังวิญญาณความมืดใต้เท้าของมัน ที่ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำ การก้าวขาของมันให้อารมณ์อันน่ากลัว ราวกับว่ามันกำลังจะกระโจนทะลุขึ้นไปบนท้องฟ้า
แสงสีขาวได้หลั่งไหลมาบรรจบกัน ทำให้รู้ว่าการวิวัฒนาการนั้นได้สิ้นสุดแล้ว
แมวผี
เผ่าพันธุ์: แมวผี
ระดับ: ทอง
มิติ: ระดับ ทอง มิติ 1
ทักษะ: กรงเล็บกระดูกผี (ระดับ s), ความเร็วเหนือความตาย (ระดับ s), ก้าวย่างเหยียบเงา (ระดับ s), ฉีกกระชากสูงสุด (ระดับ A), พิธีศพกางเขนคลั่ง (ระดับ A), ก้าวพริบตา (ระดับ A), ภาพลวงตาแห่งความเงียบ (ระดับ A)
พื้นเพ: วิญญาณที่วิวัฒนาการมาจากผีแมว มันมีอารมณ์อันเย็นชา และมีความสามารถในการต่อสู้อันทรงพลังในความมืด
ลั่วอู๋ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
มันวิวัฒนาการได้สำเร็จ
เขาไม่คาดคิดเลยว่าการใช้พลังวิญญาณของไหปีศาจจะมีความสำคัญมากถึงขนาดนี้
ในตอนนั้นเองลั่วอู๋ก็ได้ยินเสียงเรียกของหลี่หยิน เขาจึงออกจากมิติไห
“เสี่ยวหลวน เสี่ยวหลวน เจ้าอยู่ที่ไหนกัน ออกมาเร็ว ๆสิ ” หลี่หยินมองไปรอบ ๆ อย่างใจจดใจจ่อ
ลั่วอู๋ยืนอยู่ที่สนามหลังบ้านพัก
หลี่หยินรีบเข้ามาถามเขา “นายน้อยเห็นเจ้าเสี่ยวหลวนไหม? จู่ๆข้าก็ไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของมันเจ้าค่ะ”
“ไม่ต้องกังวลไป ก่อนหน้านี้ข้าอยู่กับเสี่ยวหลวน และข้าได้ทำการปรับแต่งพลังวิญญาณให้กับมันเล็กน้อยน่ะ” ลั่วอู๋พูดอย่างสบายใจ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่หยิน ก็โล่งใจ
“เสี่ยวหลวน เจ้าอยู่ที่ไหน?” หลี่หยินถาม
มือของลั่วอู๋ยื่นออกไปในความว่างเปล่า จากนั้นแมวผีที่ดูทรงพลังและมีแรงกดดันดั่งสิงโตตัวน้อยก็ปรากฏตัวขึ้น มันยกศีรษะสูง ขนของมันดูนุ่มฟูน่าหลงใหลมาก
การรับรู้และการเชื่อมต่อระหว่างหลี่หยินกับเสี่ยวหลวนกลับมาอีกครั้ง
“เจ้าคือเสี่ยวหลวนงั้นเหรอ ? นี่มันวิเศษมาก”