ไหปีศาจ - บทที่ 378 ลูกแก้วมังกร
บทที่ 378 ลูกแก้วมังกร
บทที่ 378
ลูกแก้วมังกร
ผู้คนต่างตกตะลึงกับทั่วท้องฟ้าที่มีแต่ความว่างเปล่า จนมืดมิด
สวรรค์ถูกกลืนกินไปหมดแล้วงั้นเหรอ?
หมายความว่าอะไรกัน?
แน่นอนว่า มันดูเหมือนว่าได้กลืนกินท้องฟ้าไป แต่ความจริงแล้ว มันได้กลืนกินเพียงแค่พื้นที่อวกาศเล็ก ๆ เหนือศีรษะของทุกคนเท่านั้น
พื้นที่อวกาศนั้นมีความสามารถในการรักษาตัวเองที่แข็งแกร่ง ดังนั้น ในไม่ช้า พื้นที่อวกาศรอบด้านก็จะถูกบีบเข้ามาเติมเต็มพื้นที่ที่ว่างเปล่านี้ทันที
มันเหมือนกับการขุดหลุมลงไปบนทราย หลังจากนั้นทรายรอบ ๆ ก็จะยุบตัวลงอย่างรวดเร็วไหลลงไปจนเต็มหลุม
ความว่างเปล่าได้หายไป แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าวันนี้ก็ไม่ใช่วันเดียวกับวันก่อน
ที่ปากของลั่วอู๋ก็มีร่อยรอยของสายฟ้าที่เหลืออยู่เล็กน้อย แต่ในไม่ช้ามันก็สลายหายไป เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก “มันช่างเป็นพลังที่มหาศาลจริง ๆ”
มันช่างน่าเสียดาย ที่อีกฝ่ายยังไม่ได้ออกแรงเพื่อใช้พลังที่แท้จริงของพลังนี้เลย
“มันเกิดอะไรขึ้น?” มันเป็นสิ่งที่ยากจะเชื่อ
พลังที่แท้จริงของข้า กลับโดนกลืนกินได้แบบนี้เนี่ยนะ?
“เป็นไปไม่ได้!”
“มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?”
หนิงฮัวไม่สามารถยอมรับความจริงตรงหน้าได้
ลั่วอู๋พูดอย่างใจเย็นว่า “ถึงจะฝึกฝนมาหนัก แต่ระดับมิติก็ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดของทุกสิ่ง การฝึกฝนตัวเองก็จะไม่มีวันกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งได้”
ลั่วอู๋เป็นคนจริงใจ แต่สำหรับหนิงฮัวนั้นมันเหมือนกับการดูถูกเย้ยหยัน
“เจ้าไม่ต้องมาพล่ามมากนัก” หนิงฮัวคำรามอย่างดุร้าย และรีบวิ่งไปข้างหน้า ทั่วร่างของเขากลายเป็นสายฟ้า และมีแรงดันวิญญาณที่น่าทึ่งอยางมาก
เขาสงบนิ่ง มั่นใจในตัวเอง ความสบายใจของเขาล้วนสร้างขึ้นมาจากความมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง
เมื่อเขาได้พบว่าความแข็งแกร่งที่เขาภาคภูมิใจของเขาไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิด ความสงบนิ่งของเขาได้ก่อตัวขึ้นเป็นปราสาทกลางอากาศต่อหน้าเขา จากนั้นเขาก็ได้ล้มลงจากแรงผลักดัน
ลั่วอู๋ส่ายหัว
หนิงฮัวแข็งแกร่งจริงๆ พลังของเล่กุยนั้นทำให้เขาเหนือกว่าผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงส่วนใหญ่ แต่เขากลับใช้มันไม่ได้
หนิงฮัวเกิดในตระกูลทหาร เขารู้จักวิธีการต่อสู้ด้วยความกล้าหาญ แต่เขากลับไม่ได้เรียนรู้ทักษะการต่อสู้เลย
“ฉีกกระชากสายฟ้า!” หนิงฮัวตะโกนออกไป
สายฟ้าก่อตัวเป็นรูปร่างเขี้ยวขนาดใหญ่บนอากาศ ราวกับกำลังจะบดขยี้ทุกสิ่ง
ลั่วอู๋ไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด แต่เขาก็ใช้งานทักษะฉีกกระชากสายฟ้าสวนกลับไป
สายฟ้ารูปเขี้ยวขนาดใหญ่ทั้งสองเข้าปะทะกัน เกิดผลกระทบอันรุนแรงและน่ากลัวกระจายไปทั่วทั้งสนาม พื้นที่รอบข้างเกิดการแตกร้าว จนกลายเป็นเม็ดทรายจำนวนนับไม่ถ้วน
ด้วยความประหลาดใจ ลั่วอู๋ได้ก้าวถอยหลังไปกว่าสิบก้าว ถึงแม้จะดูน่าอับอายเล็กน้อย
พลังจากการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันของหนิงฮัวและเล่กุยเพื่อในการปราบลั่วอู๋นั่นคือพลังที่แท้จริง หากทักษะเดียวกันเข้าปะทะกัน พวกมันจะหยุดยั้งซึ่งกันและกันและจางหายไป
“ฮ่าฮ่า เจ้ามีทางทำได้เหมือนข้าหรอก” หนิงฮัวรู้สึกมีความสุข
ลั่วอู๋หัวเราะเบา ๆ “มันช่างเป็นคู่ที่ธรรมดาเสียจริง ”
แต่เมื่อฝุ่นได้จางหายไป หนิงฮัวก็แสดงรอยยิ้มอันเยือกเย็นออกมา
ที่ด้านข้างของลั่วอู๋ ภูตแห่งปัญญาได้ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับดวงตาที่งดงาม มันได้แสดงความเคารพต่อลั่วอู๋อย่างสง่างาม
เมื่อหนิงฮัวกำลังใช้ทักษะเดียว แต่ในขณะเดียวกันลั่วอู๋ก็ได้ใช้ไปถึงสองทักษะแล้ว และในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็ได้เรียกภูตแห่งปัญญาออกมา
ลั่วอู๋สูดหายใจเข้าลึก ก่อตัวเป็นพลังของมังกรที่มีพลังทำลายล้างอันมหาศาล เริ่มสั่นไหวขึ้นในร่างกายของเขา
ลมหายใจมังกรได้พร้อมแล้ว
ผู้คนต่างประหลาดใจเมื่อมองไปที่ลั่วอู๋ เขามีทักษะนี้อยู่ที่เก็บเอาไว้เป็นความลับงั้นเหรอ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ใช้มันในการต่อสู้ในครั้งนี้
แต่ มันทำงานได้เร็วแค่ไหนกัน
มันไม่มีการตอบสนองต่อความเร็วเลย
หนิงฮัวได้ก้มตัวลงเล็กน้อย และใช้งานทักษะสายฟ้าผ่าพิภพอีกครั้งหนึ่ง
แต่ภูตแห่งปัญญากลับไม่ให้โอกาสเขาได้ทำ
ภูตแห่งปัญญาได้เปิดหนังสือทองคำในมือของมัน จากนั้นมันก็ได้อ่านหนังสือด้วยท่าทีเคร่งเครียด และร่างกายของมันก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์อันเจิดจ้า
ระดับ S [ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์? พันธนาการ]
คลาส A [เนรเทศวิญญาณ]
ระดับ S [ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์? บทสวดสวรรค์]
ระดับ S [ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์? ขัดขวางการทำลายล้าง]
ระดับ S [ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์? ความสง่าอันศักดิ์สิทธิ์]
มันคู่ควรกับคำว่าสัตว์วิญญาณภูตที่มีทักษะมากที่สุด และมีความเร็วในการร่ายทักษะเร็วที่สุด เมื่ออีกฝ่ายกำลังใช้งานทักษะ ภูตแห่งปัญญาก็ได้ใช้งานทักษะไปกว่า 5 ทักษะแล้ว
ลำแสงขนาดใหญ่สาดส่องลงมา
พื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งรอบ ๆ ตัวของหนิงฮัวแตกกระจายออกไป และแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ห่อหุ้มร่างกายของเขา เขาหยุดนิ่งอยู่กับที่ หูของเขาสั่นไหวดั่งกับการเต้นของหัวใจ จากนั้นเขาของไม้กางเขนขนาดใหญ่ก็ได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของหนิงฮัว
เขาสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไป
และลมหายใจมังกรก็กำลังพุ่งตรงมาดั่งพลังแห่งการทำลายล้าง
ตูม
เสาพลังงานพุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า
พลังวิญญาณอันรุนแรงผันผวนกระจัดกระจายออกไปทั่วท้องฟ้า
ดวงตาของหนิงฮัวหรี่ลงเล็กน้อย ลำแสงอันทรงพลังได้จางหายไป และเขาก็มองไปที่หลุมขนาดใหญ่ที่พื้นด้านข้างของเขา จนทำให้หน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
พลาดงั้นหรือ?
ลมหายใจมังกรไม่ได้โดนที่ร่างของเขา แต่กลับพุ่งตรงไปที่พื้นอย่างเดียว
ลั่วอู๋ปัดฝุ่นที่มือของเขาออก “มันจบแล้ว”
“เจ้าทำไมไม่ฆ่าข้า” ใบหน้าของหนิงฮัวซีดลง ราวกับว่าเขาได้เดินผ่านเทพแห่งความตายมา ซึ่งมันทำให้เขาสูญเสียความกล้าที่จะต่อสู้อีกครั้ง
ลั่วอู๋เหลือบมองไปที่เขา “ข้าไม่ได้มีความแค้นกับเจ้า ถ้าเจ้าต้องการพาองค์หญิงเจียโรวกลับไป มันก็ต้องอยู่ภายใต้คำสั่งขององค์จักรพรรดิเท่านั้น ทำไมข้าจะต้องฆ่าเจ้าด้วย?”
หนิงฮัวหยุดหายใจไปชั่วขณะ และเขาก็ยอมรับถึงความต่างชั้นระหว่างพวกเขา
ข้าไม่คาดคิดว่าระดับมันจะต่างกันขนาดนี้
แม้ว่าพลังของเขาจะถูกปราบโดยอีกฝ่ายก็ตาม แต่อีกฝ่ายก็สามารถเอาชนะตัวเขาหรือแม้แต่จะฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย
นี่คือพลังของผู้ที่อยู่บนสุดของรายชื่องั้นหรือ?
ในที่สุดเขาก็เข้าใจในสิ่งที่ลั่วอู๋พูด และได้รู้ว่าสิ่งที่เขาทุ่มเทฝึกฝนมาตลอดนั้นมันไม่มีประโยชน์เอาเสียเลย
แต่เขาก็ยังมีความลังเลอยู่ และต้องการจะพูดอะไรออกไป
“ช่างดื้อด้านมากนะ? ” ขณะนั้น หนิงหลิงหลิงได้วิ่งเข้ามาหาเขา จนทำให้เขาแทบจะตัวสั่น จากนั้นเธอก็กล่าวขอโทษลั่วอู๋ทันที “นายน้อย ไม่ต้องไปสนใจหรอก”
ลั่วอู๋พยักหน้า
หลังจากความพ่ายแพ้ หนิงฮัวก็ถูกหนิงหลิงหลิงลากออกไป
“ยังไงซะ ตอนนี้พี่สาวของเจ้าก็กลับมาแล้ว” ลั่วอู๋กล่าว
เฉินหมิงหยูค่อย ๆ ลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับวิหคกระจกเงาอมตะ เธอได้ชมสงครามต้องหน้า เธอยังคงตกใจกับความแข็งแกร่งของลั่วอู๋
ข้าหายไปนานแค่ไหนแล้วกัน? ทำไมนายน้อยถึงได้เป็นคนรุนแรงเช่นนี้
“พี่สาว! ท่านกลับมาแล้ว” เหล่าผู้หญิงทุกคนในกลุ่มปีศาจลุกขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น และพูดอย่างไม่หยุดหย่อน
ไม่มีทาง เฉิน หมิงหยูได้ถูกเหล่าผู้หญิงดึงตัวไป
“นายน้อย ท่านจำได้ไหม เรื่องที่ข้าจะท้าทายท่าน” เฉิน หมิงหยูพูดออกมาจากระยะไกล ในขณะที่กำลังถูกเหล่าผู้หญิงดึงตัวออกไป
ลั่วอู๋อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
จากนั้น ลั่วอู๋ก็ตรงเข้าไปหาองค์หญิงเจียโรวทำกำลังบาดเจ็บ ภูตแห่งปัญญาก็ค่อย ๆ ลอยตามเขาไป จากนั้นมันก็ใช้ทักษะลำแสงศักดิ์สิทธิ์เพื่อรักษาบาดแผลให้กับนาง
“เหนื่อยหน่อยนะ” ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ภูตแห่งปัญญาโค้งคำนับอย่างสง่างามก่อนที่จะสลายหายไป
หลังจากที่ถูกเรียกมายาวนาน อย่างน้อยก็สามนาที
องค์หญิงเจียโรวมองไปที่ลั่วอู๋ด้วยใบหน้าที่แดงฉ่ำ และพูดเบา ๆ ว่า “ขอบคุณนะ”
“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะเอาชนะหนิงฮัว แต่ทำไมองค์จักรพรรดิถึงต้องการจะพาเจ้ากลับไปด้วยวิธีนี้กัน” ลั่วอู๋พูดด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ถ้าเจ้าต้องการที่จะกลับไป เจ้าก็ควรไปทักทายท่านรองเจ้าสำนักด้วย”
องค์หญิงเจียโรวส่ายหัว “ข้าไม่รู้ว่าทำไมกัน”
ที่แห่งนี้คือสำนักเฉียนหลง องค์จักรพรรดิได้ส่งนักเรียนเพื่อไปพาองค์หญิงเจียโรวกลับไป แทนที่เขาจะเข้าไปหาผู้บริหารระดับสูงของสำนักด้วยตัวเอง มันผิดปกติเกินไป
องค์หญิงเจียโรวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่านางกำลังตัดสินใจอะไรสำคัญบางอย่าง จากนั้น ร่างของนางก็เต็มไปด้วยพลังวิญญาณและนางก็พ่นลูกประคำออกมาจากปาก
ลูกประคำมีประมาณขนาดใหญ่ มันมีความใสและส่องสว่าง ด้านในของมันมีความสลัวแต่กับส่องสว่าง มันดูมีความล้ำค่าและแปลกหลาด
องค์หญิงเจียโรวมองไปที่ลั่วอู๋ด้วยสายตาที่จริงจังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “นี่สำหรับเจ้า เจ้าต้องพกติดตัวเอาไว้ตลอด จะทิ้งมันไปไม่ได้นะ”
“นี่มันคืออะไรกัน? นี่มันเครื่องประดับแบบไหนอะไรกัน?” ลั่วอู๋ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ไม่มีอัญมณีที่ล้ำค่ามากขนาดนี้บนโลกแล้ว” องค์หญิงเจียโรวกระซิบ “เจ้าต้องพกมันติดตัวเอาไว้ตลอด”
“ข้าเอามันไปเก็บเอาไว้ได้ไหม?”
“ไม่ได้!”
“ขอรับๆ” ลั่วอู๋ตอบกลับ
ลั่วอู๋คิดว่ามันเป็นเพียงแค่เครื่องประดับล้ำค่าขององค์หญิงเจียโรวเท่านั้น เลยคิดว่าไม่เป็นอะไร แต่ยังไงนางก็เป็นเจ้าหญิง และนางก็มีสมบัติที่ได้รับจากองค์ชายรุ่นต่าง ๆ จนกองรวมกันเป็นภูเขา
แต่สิ่งที่ลั่วอู๋ไม่รู้ก็คือ ลูกประคำนี้ถูกเรียกว่าลูกแก้วมังกร เฉพาะผู้ที่ฝึกฝนรูปแบบจักรพรรดิมังกรเท่านั้น ที่สามารถสร้างลูกแก้วมังกรได้
ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมามีลูกแก้มังกรเพียงแค่สามชิ้นเท่านั้น
เมื่อก้าวเข้าสู่มิติทั้งสามของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูง แต่ละคนจะต้องรวบรวมลูกแก้วมังกรเอาไว้
อิทธิฤทธิ์ของลูกแก้วมังกรนั้นไม่ยุ่งยากมาก – แทนที่ความตาย
ทุกครั้งที่ลูกแก้วแตกสลาย ความแข็งแกร่งของผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณจะลดลงไปถึงหนึ่งในสาม แต่ก็ยังสามารถปรับแต่งกลับคืนมาได้
แต่ถ้าแตกสลายทั้งสามส่วน ร่างกายก็จะตายลงและพลังวิญญาณก็จะสลายไป ความเป็นอมตะก็ยากที่ช่วยให้รอด
นี่เป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดสำหรับผู้ที่ฝึกฝนเพื่อจะกลายเป็นจักรพรรดิมังกร
อย่างไรก็ตาม องค์หญิงเจียโรวได้มอบลูกประคำนี้ให้กับลั่วอู๋ หลังจากที่นางได้ก้าวเข้าสู่ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูง
……
……
ณ ห้องโถงหลิงหยาน
รองเจ้าสำนักหลี่หวู่หยวนมองขึ้นไปด้านบนสุดของห้องโถง ดูเหมือนว่ากำลังเหม่อลอยอยู่
ทูตเฉียนหลงได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างช้า ๆ และค่อย ๆ แสดงความเคารพ “ท่านรองเจ้าสำนัก ”
“องค์หญิงเจียโรวได้ถูกพากลับไปแล้วอย่างงั้นหรือ?” หลี่หวู่หยวนถาม
ทูตเฉียนหลงส่ายหัว “ไม่ ความแข็งแกร่งของหนิงฮัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เขาสามารถขึ้นมาติดอันดับหนึ่งในสิบของนักเรียนระดับสูงได้ แต่น่าเสียดายที่เขาดันไปบังเอิญเจอกับลั่วอู๋”
ตามกฎแล้ว เราไม่อนุญาตให้ต่อสู้ภายในสำนักได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อหลินยูหลันและลั่วอู๋ได้เข้ามาขัดขวางหนิงฮัว ไม่มีผู้ใดเข้ามาขัดขวางการต่อสู้ของพวกเขาได้ เป็นเพราะได้รับคำสั่งมาจากหลี่หวู่หยวน
“แต่ว่า แล้วชื่อเสียงของท่านรองเจ้าสำนักล่ะ” ทูต เฉียนหลงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และถามขึ้นมา “ทำไมองค์หญิงเจียโรวถึงต้องเข้ามาที่สำนักเฉียงหลงด้วย? มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะอธิบายให้กับองค์จักรพรรดิ”
“ทำไมงั้นเหรอ” หลี่หวู่หยวนหัวเราะ “มันก็แค่สินบนเท่านั้นเอง”
คำพูดของเขาทำให้ทูตเฉียนหลงรู้สึกสั่นไปทั่วร่างกาย
สินบน? สินบนแบบไหนกัน
จะเกิดการก่อกบฏในสำนักเฉียงหลงงั้นเหรอ?
หลี่หวู่หยวนดูเหมือนว่าจะมองความคิดของเขาออก แต่เขาก็ไม่ได้อธิบายออกไป เขาเพียงแค่มองไปยังทิศทางอื่น และครุ่นคิด