ไหปีศาจ - บทที่ 379 วงล้อแร่วิญญาณบริสุทธิ์ 5 สี
บทที่ 379 วงล้อแร่วิญญาณบริสุทธิ์ 5 สี
บทที่ 379
วงล้อแร่วิญญาณบริสุทธิ์ 5 สี
หนิงฮัวได้พ่ายแพ้
หลังจากนั้น เล่กุยสัตว์วิญญาณของเขาก็ได้พัฒนาขึ้นสู่มิติระดับเพชร จนในที่สุดความแข็งแกร่งระหว่างการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษย์และสัตว์วิญญาณก็ไม่มีปัญหาเมื่ออยู่ในมิติระดับทองคำอีกต่อไป
ผู้คนต่างรู้สึกได้ว่า พวกเขานั้นคู่ควรกับการขึ้นไปเป็นระดับต้น ๆ ของรายชื่อเฉียนหลง พวกเขาสามารถใช้การเคลื่อนไหวทั้งสามครั้งของเอ๋าเฉียนจุน และเข้าไปโจมตีเขาได้
แม้ว่าหลินยูหลันจะได้รับบาดเจ็บ แต่อาการบาดเจ็บก็ไม่ได้ร้ายแรงแต่อย่างใด นางรู้สึกประหลาดใจ “ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า พลังของเจ้าจะแข็งแกร่งขนาดนี้”
“ไม่เห็นจะน่าแปลกใจไปเลย ก็ข้าเป็นถึงอันดับหนึ่งของรายชื่อของมังกรเร้นกายนี่” ลั่วอู๋หัวเราะ
หลินยูหลันกะพริบตา “มันน่าแปลกมาก เพราะฉูจงฉวนบอกว่าเจ้าไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร และความสามารถในการต่อสู้ก็ไม่ได้มากไปกว่าเขาเลย”
ลั่วอู๋ถูกปกคลุมไปด้วยควันสีดำ
ไอ้หมอนั่น
“ฮ่าฮ่า แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้ว ว่าเจ้านั้นแข็งแกร่งกว่าเขามาก” หลินยูหลันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เขาแค่โอ้อวดต่อหน้าข้าเท่านั้น”
ลั่วอู๋รู้สึกยินดี เจ้ามีแววตาที่ดีมาก
“แต่คู่หมั้นของข้าเป็นคนที่อัจฉริยะที่ดีที่สุดในโลก ตอนนี้เขาได้สัตว์วิญญาณตัวที่สามที่เป็นเผ่าอสูรแล้ว และข้าเชื่อว่าเขาจะต้องเหนือกว่าเจ้าอย่างแน่นอน”
หลินหยูหลันเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวของฉู จงฉวน
ลั่วอู๋ถึงกับพูดไม่ออก
เจ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่เยี่ยมจริง ๆ
หลินยูหลันได้จากไป เพราะลูกสาวของโจรไม่ใช่คนที่มีจิตใจอ่อนแอ หลังจากพ่ายแพ้ นางได้ตระหนักถึงข้อบกพร่องของตัวเอง และฝึกฝนให้หนักยิ่งขึ้น
แสงเทพห้าสีของนกยูงฮัวเที่ยน ถ้าหากสามารถเพิ่มระดับได้สำเร็จละก็ มันก็จะเป็นท่าสังหารที่น่ากลัวมากอย่างแน่นอน
หนิงฮัวจากไปด้วยความไม่พอใจ
เขาเพิ่งจะตกอยู่ในความเข้าใจผิดว่า เขาสามารถควบคุมมิติระดับสูง ด้วยทักษะระดับสูงของเขา
นั่นคือสิ่งที่หลายคนคิด
แต่ความจริงแล้ว มันมีหลายด้านที่คอยกำหนดประสิทธิภาพในการต่อสู้
ความสมบูรณ์ของทักษะ ความแข็งแกร่งที่ครอบคลุมทั้งหมดเมื่ออยู่ในระหว่างการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันทั้ง ทักษะการต่อสู้ ทักษะการรวมเป็นหนึ่ง การประสานกัน ความเร็วในการร่าย ฯลฯ
ทำไมเอ๋าเฉียนจุนถึงต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่อยู่ในมิติระดับเดียวกันด้วย? เขาสามารถเอาชนะได้อย่างเสร็จสิ้นด้วยการเคลื่อนไหวทั้งสามครั้ง เพราะเขาสำเร็จลุล่วงได้ดีในทุกด้าน
ดังนั้น เขาจึงเป็นสัตว์ประหลาด
คนอื่น ๆ จึงเป็นเพียงแค่อัจฉริยะธรรมดา
ลั่วอู๋ต้องการเดินทางกลับไปยังบ้านของเขา และองค์หญิงเจียโรวก็ตามเขาไปด้วย
หลังจากความโดดเดี่ยวร่วมสองเดือนของลั่วอู๋ องค์หญิงเจียโรวกับหลี่หยินมักจะเล่นด้วยกันเสมอ ซึ่งมันเหมือนกับการกลับมาพบกันของพี่สาวและน้องสาว
“หลี่หยิน พวกเรากลับมาแล้ว” องค์หญิงเจียโรวเปิดประตูและตรงเข้าไปข้างใน เหมือนกับว่านางนั้นเป็นเจ้าของบ้านมากกว่าลั่วอู๋ยังไงยังงั้น
หลี่หยินออกมาจากห้อง เมื่อได้เห็นลั่วอู๋ นางก็กระโดดขึ้นด้วยความดีใจ “นายน้อย กลับมาแล้วเหรอเจ้าคะ”
ลั่วอู๋บีบหน้าหลี่หยิน แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว”
องค์หญิงเจียโรวเม้มริมฝีปากของนางด้วยความโกรธเคือง และดูไม่พอใจอย่างมาก
“เฮ้ ข้ามาก่อนนะ” องค์หญิงเจียโรวกล่าว
หลี่หยินหัวเราะอย่างเขินอาย “องค์หญิงเจียโรว ท่านกลับมาแล้ว ดูเหมือนว่าวันนี้ท่านจะมาสายนะเจ้าคะ ข้าได้เตรียมอาหารและรอดูท่านทำอาหารแล้วเจ้าค่ะ”
ลั่วอู๋ถึงกับตกใจ “ทำอาหารเหรอ”
“อะไรกัน เจ้ามีปัญหากับการทำอาหารขององค์หญิงคนนี้งั้นเหรอ?” องค์หญิงเจียโรวกล่าวด้วยความอับอาย และโมโห
“ไม่ ไม่มีปัญหาหรอก”
ลั่วอู๋ไม่กล้าที่จะออกความเห็น
องค์หญิงเจียโรวตะตอก และตรงเข้าไปยังห้องครัว “เจ้าช่างโชคดีนะ วันนี้เจ้าจะได้ชิมอาหาร”ฝีมือขององค์หญิงคนนี้
หลังจากที่องค์หญิงเจียโรวจากไป ลั่วอู๋ก็ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นทันที
ปรากฏว่าองค์หญิงเจียโรวได้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของลั่วอู๋เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมีหลี่หยินอยู่เป็นเพื่อน
โดยปกติแล้วหลี่หยินจะเป็นคนทำอาหารเอง แต่องค์หญิงเจียโรวมักจะไม่ทำ หลังจากได้ชิมอาหารเพียงครั้งเดียว นางก็หลงใหลอาหารของบ้านหลังนี้ทันที
มันอร่อยมาก
องค์หญิงเจียโรวได้ขอร้องให้หลี่หยินทำอาหารบางอย่างให้นาง และขอให้นางมากินด้วยกัน
หลี่หยิน ผู้ที่เป็นคนคุยเก่งมาตลอดกลับปฏิเสธคำขอนั้น เหตุผลเพราะนายน้อยบอกว่านางต้องไม่รับใช้ใครอีก
องค์หญิงเจียโรวทำอะไรไม่ถูก
นางจึงขอให้หลี่หยินช่วยสอนนาง
หลี่หยินรู้สึกมีความสุขมาก
สองสาวจึงผลัดกับทำอาหารซึ่งกัน
สิ่งนี้ทำให้ลั่วอู๋รู้สึกว่านี่คือองค์หญิงจริง ๆ ซึ่งมันแทบจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำตัวเป็นกันเองเช่นนี้
ไม่นานนักอาหารก็พร้อมแล้ว
ลั่วอู๋โชคดีมาก ที่เป็นคนที่สองที่ได้ชิมอาหารของที่องค์หญิงเป็นคนทำเอง
มันไม่ได้ดีเลิศมาก แต่มันก็สุดยอดมากแล้ว
ทั้งสามคนได้รับประทานอาหารร่วมกัน ในบรรยากาศที่เข้ากันได้ดี
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ พวกเขาก็แยกตัวกันไปฝึกซ้อม
มันเป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา หลี่หยิน ประสบความสำเร็จในด้วยการพัฒนาขึ้นไปถึงระดับทองคำ โดยอาศัยหญ้าพระธาตุที่ลั่วอู๋ได้ทิ้งเอาไว้
ลั่วอู๋กลับไปที่ห้องของเขา และเข้าสู่มิติไห
ระดับมิติของเขาได้พัฒนาขึ้นไปเป็นระดับทองคำ มิติที่ 4 ในเวลาไม่ถึงเดือน เขาก็พร้อมที่จะใช้งานค่าประสบการณ์ของเขา
ลั่วอู๋ไม่เพียงแต่จับปีศาจมาจำนวนมาก แต่ยังรวมไปถึงสมุนไพรวิญญาณด้วย
หลังจากทำการสังเคราะห์แล้ว เขายังได้ปรับแต่งสิ่งแปลก ๆ มากมาย
ในที่สุด เขาก็ได้มีเวลาที่จะศึกษาสิ่งเหล่านี้
“มาเริ่มกันเลย”
ลั่วอู๋ใช้แต้มเซียน 5,000 แต้มเพื่อเปิดใช้งานหอคอยสีขาว
แสงสีขาวสว่างวาบ จากนั้นลั่วอู๋ก็ได้เรียกใช้งานส่วนต่อประสานการสังเคราะห์
ลั่วอู๋หลับตาลงและใช้ความรู้สึก
แน่นอนว่า แม้ว่าจะใช้สิ่งมีชีวิตที่หายากและมีทรงพลังแค่ไหน ก็มีโอกาสน้อยมากที่จะสามารถสังเคราะห์สิ่งใหม่ได้
ไม่มีวัตถุวิญญาณที่มีความสัมพันธ์กันมากนัก
มันถูกสังเคราะห์จากดอกไม้ฮงหัวและหญ้าแปลกปลอม
[ได้รับ ยาหวงฉวน ระดับมิติที่ 8 หนึ่งเม็ด (ระดับตำนาน), แต้มเซียน + 40]
ลั่วอู๋มีความสุขมาก ระดับตำนานมิติที่ 8 ยาชนิดนี้ไม่ธรรมดา แต่ก็น่าเสียดายที่เขารู้สึกถึงพลังของยานี้ จนทำให้เขารู้สึกผิดหวัง
มันมีพลังวิญญาณที่ชั่วร้ายบริสุทธิ์มาก ดูเหมือนว่ามันจะเป็นยาเม็ดในช่วยในการปรับแต่ง แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่มันใช้ได้เฉพาะกับปีศาจเท่านั้น
มันเหมือนกับซี่โครงไก่
ยาชนิดนี้ดูเหมือนว่าจะมีค่าอย่างมาก อันที่จริง มันก็ไม่มีใครที่อยากจะขายมันในราคาต่ำ ลั่วอู๋คิดเกี่ยวกับมัน และใช้มันในการได้รับแต้มเซียนเพียงอย่างเดียว
สุดท้าย มันก็ยังคงเป็นเป้าหมายลำดับที่ 40
และใช้พลังวิญญาณในการสังเคราะห์ยานี้ก็ต่ำมาก
“ข้าหวังว่าหญ้าวิญญาณทั้งสองชนิดนี้จะมีอยู่ทั้วไปนะ” ลั่วอู๋บันทึกชื่อและลักษณะของหญ้าวิญญาณทั้งสองชนิดเอาไว้ และเตรียมส่งให้คนรวบรวมพวกมันมา
ทำการสังเคราะห์ต่อไป
ด้วยการปรับปรุงความแข็งแกร่ง ทำให้สิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับลั่วอู๋มีน้อยลงเรื่อย ๆ
หลังจากทำการสังเคราะห์หลายต่อหลายครั้งต่อเนื่อง ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้ลั่วอู่รู้สึกพึงพอใจได้
แต่หลังจากพยายามมาหลายครั้ง ในที่สุดลั่วอู๋ก็ได้ผลผลิตใหม่ได้
สองสอ่งที่ใช้ในการสังเคราะห์นั้นเป็นสิ่งที่มีความแปลกมาก
เช่นเดียวกับหยดน้ำที่ได้รับการสังเคราะห์จากม้าน้ำราชันสัตว์วิญญาณทะเล และอุตสาหกรรมเคมี หยดน้ำนี้ถูกเรียกว่า อีจูชงชุย ซึ่งมันมีน้ำหนักมากว่าหนึ่งพันจิน และมันสามารถถล่มพื้นดินได้
ชิ้นต่อมาคือ ดอกไม้กัดกระดูกที่สามารถพบได้ทั่วไปในนรกมนตรา
มันเป็นเรื่องยากที่สองสิ่งที่มีความแตกต่างกันอย่างมาก จะนำมาสังเคราะห์เพื่อสร้างสูตรได้
[ได้รับ วงล้อแร่วิญญาณบริสุทธิ์ 5 สี (น้ำ), แต้มเซียน + 80 แต้ม]
มันคือวงล้อที่ทำด้วยไม้ มันดูมีความเรียบง่าย ซึ่งมันเหมือนกับมีเพชรเม็ดงามฝังอยู่
“นี่มันอะไรกัน?”
ลั่วอู๋ออกไปนอกหอคอย และพยายามที่จะใช้งานมัน
ในพริบตานั้น ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างถูกจุดชนวน เกิดการดึงดูดอย่างบ้าคลั่ง และกลืนกินพลังวิญญาณในร่างของลั่วอู๋ไป
แม้ว่าลั่วอู๋จะรู้สึกประหลาดใจ แต่เขาก็ไม่ได้มีความกระวนกระวาย เพราะวงล้อแร่วิญญาณบริสุทธิ์ 5 สีนั้นได้ดูดกลืนพลังวิญญาณของเขาออกไปเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้น
สิ่งที่ทำให้ลั่วอู่ประหลาดใจคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป
เพราะเขาได้พยายามใช้งานวงล้อแร่วิญญาณบริสุทธิ์ 5 สีอีกครั้ง คลื่นพลังงานลูกใหม่ก็เริ่มก่อตัวขึ้นในหัวของเขา วงล้อที่อยู่ในมือของเขาดูเหมือนว่าจะกระตุ้นให้เขาเลือกทำบางอย่าง
มันช่างเป้นความรู้สึกที่มหัศจรรย์
วงล้อนี้กำลังกระตุ้นให้ข้าใช้งานทักษะ
ลั่วอู๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็กระซิบออกมาว่า “คลื่นนำทางงั้นเหรอ?”
ทักษะระดับ B คลื่นน้ำนำทาง
มันสามารถทำให้คลื่นน้ำเข้าไปกระทบกับศัตรูได้ พลังของมันอยู่ในระดับปานกลาง
ลั่วอู๋ไม่รู้จักทักษะนี้
แต่ด้วยเสียงของเขา คริสตัลสีฟ้าที่อยู่บนวงล้อบนมือเขาก็สว่างขึ้น จากนั้นก็ปรากฏคลื่นเบาบางบนอากาศ มันค่อย ๆ ขยับและไหลไปข้างหน้า
ตึก
ก้อนหินที่อยู่ไม่ไกลนัก ได้ถูกคลื่นพัดออกไป
ลั่วอู๋มองไปที่วงล้อด้วยความตกใจ
สิ่งนี้ทำให้ผู้คนที่ใช้งานทักษะของพวกเขา โดยไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากพลังของสัตว์วิญญาณงั้นหรือ?!