ไหปีศาจ - บทที่ 388 ความเป็นอยู่
บทที่ 388 ความเป็นอยู่
บทที่ 388
ความเป็นอยู่
ในสายตาของหลาย ๆ คนภูตคือสัตว์วิญญาณชนิดหนึ่งที่ลึกลับและสูงส่ง
ตัวอย่างเช่น ภูตดอกไม้, ภูตหญ้า, อาชูร่า, เทพพิทักษ์, ภูตปีกแสง, ภูตน้ำ, ภูตไฟ, ภูตลม และภูตธาตุอื่น ๆ แม้แต่เทพตกสวรรค์ หรือ ภูตราตรีก็คือภูต
พวกมันอาจจะไม่มีร่างกายเหมือนมนุษย์ แต่พวกมันทั้งหมดล้วนให้ความรู้สึกอันสูงส่งและสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ภูตทุกชนิดล้วนเป็นที่ต้องการของมนุษย์
แต่สัตว์นรกพิษห้าสีตัวนี้เนี่ยนะคือภูต?
มันมีลักษณะเป็นคางคกตัวใหญ่ที่มีถุงพิษหลากสี ผิวของมันหยาบและเหนียวทำให้เกิดเสียงอันน่าขยะแขยงที่รุนแรง
แม้ว่ามันจะแข็งแกร่งมาก แต่ก็คาดว่าคงมีน้อยคนนักที่จะชอบมันลง
เป็นเรื่องยากมากที่จะเปรียบสัตว์นรกพิษห้าสีตัวนี้กับเหล่าภูต
องค์หญิงเจียโรว กล่าวว่า “ในการตัดสินว่ามันเป็นภูตหรือไม่ เจ้าต้องตัดสินว่ามันมีตัวตนก่อนที่มันจะกำเนิดขึ้นมาหรือไม่ มันเกิดขึ้นมาจากหมอกพิษ มันจึงไม่ใช่สัตว์วิญญาณประเภทคางคก”
ลั่วอู๋ลองคิดดูแล้ว
ที่นางพูดคือเรื่องจริง
ตามข้อมูลที่เขาได้รับจากไหปีศาจ ต้นกำเนิดของสัตว์นรกพิษห้าสี นั้นคือหมอกพิษในสถานที่ที่มีพิษร้ายแรงที่สุด มันจึงเป็นสัตว์วิญญาณที่ได้รับการกำเนิดขึ้นมาตามธรรมชาติจากหมอกพิษ
ลั่วอู๋นึกถึงภูตทะเลทรายของ ฉูจงฉวน และ หยู่เฮา
พวกมันเกิดในทะเลทราย
และพวกมันทั้งคู่ต่างก็เป็นสัตว์วิญญาณประเภทภูต
ภูตทะเลทรายของหยู่เฮามีรูปร่างเป็นยักษ์ที่ประกอบขึ้นจากทรายและดิน ดูเหมือนสัตว์ประหลาดที่ถูกสร้างขึ้นจากทรายและหิน แต่จริงๆแล้วมันคือภูต
ในแง่ของคำจำกัดความ สัตว์นรกพิษห้าสีนั้นถือเป็นภูตจริงๆ
ลั่วอู๋มองไปที่ องค์หญิงเจียโรว “ข้าคิดว่าเจ้าชอบภูตเพราะมันสวย ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะชอบภูตทั้งหมดทุกรูปแบบ”
“ใช่” องค์หญิงเจียโรวจับคางของนางไว้ในมืออย่างสับสน “ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมข้าใกล้ชิดกับเหล่าภูตโดยธรรมชาติ”
เนื่องจากการดูดซึมหมอกพิษมาหล่อเลี้ยงร่างกาย สัตว์นรกพิษห้าสีที่ถูกผ่าครึ่งจึงค่อยๆกลับมารวมตัวกัน แต่มันก็ยังอ่อนแอลงมากและดูเหมือนว่าจะต้องตายลงอยู่ดีในภายหลัง
ลั่วอู๋ใช้ทักษะสื่อสารวิญญาณจ้องมองไปที่คางคกตัวใหญ่ “พวกเราควรจะเป็นศัตรูกัน แต่เจ้านั้นน่าสงสารมาก หากเจ้าไม่คิดจะกลับไปหาหยีเทียนเฉินอีก พวกข้าก็จะปล่อยเจ้าไป”
สัตว์นรกพิษห้าสีส่งคลื่นวิญญาณออกมา
มันเปี่ยมไปด้วยความสิ้นหวัง ความเศร้าโศก แม้กระทั่งร่องรอยของความไม่พอใจ
นี่คือสภาพจิตใจที่เป็นอยู่ของมันในตอนนี้
พันธสัญญาระหว่างมันกับหยีเทียนเฉินนั้นยังคงอยู่ แต่คาดว่ามันคงจะไม่มีวันย้อนกลับไปหาเขา พันธสัญญาสัตว์วิญญาณนั้นตั้งอยู่บนความเท่าเทียมกันจึงไม่มีผลบังคับให้เป็นทาส
“ไปซะ” ลั่วอู๋เก็บดาบระบำแห่งความตายกลับไป
สัตว์นรกพิษห้าสีตัวมีท่าทางเหนื่อย ๆ มันกระโดดออกไปยังระยะไกล ร้องเสียงออกมาเบาและเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความเศร้า
ทันใดนั้น องค์หญิงเจียโรว ก็วิ่งขึ้นมาหามันรอยยิ้มของนางอบอุ่นและอ่อนหวานมากเช่นเดียวกับแสงแดดที่ปัดเป่าหมอกควันรอบตัวนาง
“ เฮ้ สัตว์นรกพิษห้าสี” องค์หญิงเจียโรว ร้องออกมา
สัตว์นรกพิษห้าสีหันหัวอย่างระมัดระวังพลางขดตัวอย่างหวั่นเกรง แต่ก็ยังมีความหวังและความปรารถนาในแววตา
“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำร้ายเจ้า” องค์หญิง เจียโรว แตะที่ศีรษะของสัตว์นรกพิษห้าสีอย่างเบามือโดยไม่สนใจเมือกเหนียว ๆ บนผิวของมัน “แม้เจ้าจะถูกทอดทิ้ง แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของเจ้า อย่าเสียใจไป อย่าโทษตัวเองและจงไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งเถอะ”
“กูกู … ” สัตว์นรกพิษห้าสีร้องเสียงต่ำ
มีของเหลวที่มันไม่รู้จักไหลลงมาที่มุมดวงตาของมัน
องค์หญิงเจียโรว กล่าวด้วยรอยยิ้ม “นั่นคือทั้งหมดที่ข้าอยากจะพูด”
ร่างกายของนางสั่นเทิ้มเล็กน้อย
“ลาก่อน”
องค์หญิงเจียโรว หันหลังและจากไป
หลังจากทำพันธสัญญาแล้วสัตว์วิญญาณจะไม่สามารถยอมรับพันธสัญญาใหม่กับคนอื่นได้ แม้ว่าองค์หญิงเจียโรวจะสงสารมัน แต่นางก็ไม่สามารถรับมันมากับนางได้
องค์หญิงเจียโรว เดินกลับมา
“อืม พวกเราไปกันต่อเถอะ หัวหน้าจะได้ไม่เสียเวลา” องค์หญิงเจียโรว กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ลั่วอู๋พูดอย่างช่วยไม่ได้ “มันไม่สำคัญว่าเจ้าต้องการจะพูดอะไร แต่อย่าไปแตะต้องสุ่มสี่สุ่มห้า มันง่ายมากที่เจ้าจะติดพิษของมัน ให้ข้าดูมือของเจ้าหน่อย”
“ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้โดนพิษ” องค์หญิงเจียโรว แสดงมือขาวของนางแล้วถาม “เราจะไปที่ไหนต่อดี?”
“ น่าเสียดายที่หยีเทียนเฉิน หนีไปแล้ว” ลั่วอู๋ถอนหายใจ
หุบเขามรณะนั้นกว้างใหญ่เกินไป การที่พวกเขาเดินทางแบบไม่มีจุดหมายก็ไม่ต่างอะไรไปจากแมลงวันหัวขาด
เหวินเสี่ยวคิดพลางชี้ไปทางมือที่ขาดอยู่บนพื้นพร้อมกัยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ เลือดนี้เป็นของหยีเทียนเฉินใช่ไหม”
ดวงตาของลั่วอู๋สว่างขึ้น
ใช่แล้วมันมีวิธีอยู่
เขาเรียกต้าหวงและฝูงแมลงกินวิญญาณออกมาในทันที แมลงกินวิญญาณสามารถติดตามร่องรอยพลังวิญญาณของ หยีเทียนเฉิน ส่วนต้าหวงก็สามารถติดตามกลิ่นของเขาได้
พวกเขารีบมุ่งไปตามหาทิศทางหลบหนีของหยีเทียนเฉิน
พวกเขามาที่หุบเขามรณะในครั้งนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพบภูตไห ไม่ใช่หาประสบการณ์ การเดินทางแบบไร้จุดหมายนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน
เนื่องจากหยีเทียนเฉิน รู้เรื่องภูตไห พวกเขาจึงต้องตามหาตัวเขาอีกครั้ง
หยีเทียนเฉินต้องเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญในหุบเขามรณะแน่ และสถานที่ที่เขาหนีไปเพื่อเอาชีวิตรอดจะต้องเป็นสถานที่ที่อันตรายสำหรับพรรคพวกลั่วอู๋
แต่เขาจะต้องซ่อนตัวอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอน
สัตว์นรกพิษห้าสีมองไปที่พรรคพวกลั่วอู๋สามคนที่เดินห่างออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ มันนอนอย่างไม่มีพลังนอนและท้อแท้กระโดดไปตามพื้นที่ของหุบเขามรณะ
……
……
ณ ส่วนที่ลึกที่สุดของหมอกพิษ คือห้องโถงที่มีบรรยากาศมืดมน
ในห้องโถงนั้นมีผู้ใช้พลังวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนแต่บรรยากาศนั้นหดหู่มาก
พวกเขาบางคนที่สวมชุดคลุมสีดำและมีท่าทางว่ากำลังศึกษาอะไรบางอย่างอยู่
มีเพียงไฟสลัวในห้องโถง ซึ่งดูเหมือนว่ามีเพียงสภาพแวดล้อมแบบนี้เท่านั้นที่จะทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจได้
จู่ ๆ พื้นที่ห้วงมิติก็ได้แยกออกและหยีเทียนเฉินที่มีท่าทางอ่อนแอมากก็หลุดออกมาจากห้วงมิติ นี่คือจุดปลายทางของหินทะลวงมิติ
ร่างของเขาอาบไปด้วยเลือดลมปราณของเขาอ่อนล้าพลังวิญญาณของเขาแห้งผากและดูเหมือนว่าเขากำลังจะตายได้ทุกเมื่อ
“ฮ่าฮ่าเจ้าเป็นอะไรไปงั้นเหรอ ? เจ้าสัตว์ประหลาดตัวน้อย”
“เพียงแค่ไปลองวิชาสองสามวิชาทำไมเจ้าถึงเสียมือไปข้างได้กัน?”
“เสียเปล่าจริง ๆ !”
“ เจ้าใช้หินทะลวงมิติก้อนสุดท้ายหมดไปแล้ว ตอนนี้ข้าเริ่มสงสัยว่าเจ้าคู่ควรได้รับฉายาสัตว์ประหลาดตัวน้อยจริง ๆ รึเปล่า?”
“ ขี้แพ้อะไรกันขนาดนี้”
“กล่องแห่งความตายเองก็ถูกใช้ไปแล้ว และหินทะลวงมิติก็ถูกใช้หมดเช่นกัน เจ้าจงอยู่แต่ในหุบเขามรณะและอย่าออกไปข้างนอกอีก”
เหล่าคนแก่แปลก ๆ เหล่านี้ต่างเยาะเย้ยและหัวเราะ ไม่มีใครเข้าไปช่วยห้ามเลือดและรักษาบาดแผลของหยีเทียนเฉิน ภายใต้แสงสลัวร่างเหล่านั้นต่างบิดเบี้ยวและกวัดแกว่งไปมาดั่งปีศาจเริงระบำ
หยีเทียนเฉินหยิบยาแปลก ๆ ออกมาและฟื้นกำลังขึ้นเล็กน้อยหลังจากกินมันเข้าไป
“ไม่ต้องกังวลไปน่า เจ้าพวกถังขยะเก่า ๆ !”
“ไหนลองบอกข้าสิว่าทำไม มันถึงมีราชาแมลงกินวิญญาณเหมือนกับข้าได้”
“พวกเจ้าบอกไม่ใช่เหรอว่า ไม่มีใครในโลกภายนอกที่จะสามารถปรับแต่งแมลงกินวิญญาณได้แบบพวกเรา” หยีเทียนเฉิน คำราม
บรรยากาศแข็งทื่อไปในทันที เหล่าชายชราแปลก ๆ ต่างมีสีหน้าตกใจ
“มันเป็นไปไม่ได้” เหล่าสัตว์ประหลาดชรากระซิบ
หยีเทียนเฉิน เย้ยหยัน “ชายคนนั้นอยู่ในหุบเขามรณะ ตอนนี้เขาควบคุมแมลงกินวิญญาณทั้งหมดของข้าไป เขาเกือบจะฆ่าข้า อีกทั้งยังทำให้ข้าต้องสูญเสียสัตว์นรกพิษห้าสีไปด้วยซ้ำ”
“ ……”
พวกเขาไม่สนใจเกี่ยวกับการตายของหยีเทียนเฉิน
พวกเขาไม่สนใจเกี่ยวกับการตายของสัตว์นรกพิษห้าสี
พวกเขาสนใจเพียงจุดเดียว ราชาแมลงกินวิญญาณที่พวกเขาเท่านั้นที่จะสามารถปรับแต่งมันขึ้นมาได้ มีคนจากโลกภายนอกปรับแต่งมันขึ้นมาได้อย่างนั้นเหรอ? นี่มันเป็นไปไม่ได้.
“พวกเจ้ามันแค่ถังขยะเก่า ๆ พวกเจ้าควรอยู่ในที่มืดแห่งนี้และศึกษาต่อไปด้วยภูมิปัญญาตื้น ๆ ของเจ้า”
“การทดลองของข้าประสบความสำเร็จ มันไม่สำคัญว่าจะไม่มีสัตว์นรกพิษห้าสีอยู่ไหม ข้ากำลังจะได้รับพลังใหม่ ”
หยีเทียนเฉินลากร่างที่บาดเจ็บออกไปอย่างช้าๆ
เสียงทุ้มแหบแห่งความไม่พอใจดังก้องไปทั่วห้องโถง
“ข้าจะฆ่าพวกมันด้วยศพมรณะของข้า!”
ร่างของเหล่าสัตว์ประหลาดชราต่างสั่นสะท้าน
การทดลองศพมรณะของหยีเทียนเฉินประสบความสำเร็จแล้วงั้นเหรอ!