ไหปีศาจ - บทที่ 396 ปิดผนึก
บทที่ 396 ปิดผนึก
บทที่ 396
ปิดผนึก
ดาบสังหารเก็งจิน
มันคือ ทักษะระดับ SS ดาบสังหารเก็งจินนั้นเป็นทักษะการโจมตีอันเยี่ยมยอดที่สร้างใบดาบพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งขึ้นมา โดยทุกส่วนของใบดาบล้วนมีพลังในการโจมตีอันรุนแรง มันมีคลื่นพลังวิญญาณอันเข้มข้นทรงพลังอย่างไร้ขอบเขตและไม่สามารถแตกหักได้
ทันทีที่ดาบถูกฟาดฟันกวาดผ่านไป ลั่วอู๋ก็ได้เห็นพลังทำลายล้างอันรุนแรงที่ทำให้เขาต้องตกตะลึง
นี่คือพลังการใช้ทักษะระดับ SS ของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้น ๆ ของอาณาจักร
ไม่ มันไม่ใช่แค่นั้น
ความเชี่ยวชาญในทักษะนี้ของผู้บัญชาการหลิงหลงนั้นสูงมากจนไม่มีใครเทียบได้ ดูเหมือนว่าความเชี่ยวชาญในทักษะนี้ของนางจะสูงถึง 90% ซึ่งเป็นสถิติที่น่ากลัวมาก
แม้ว่าลั่วอู๋จะทราบและมั่นใจในความแข็งแกร่งของผู้บัญชาการหลิงหลง แต่เมื่อเขาได้เห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขาก็ไม่อาจเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงได้อยู่ดี
นางแข็งแกร่งเกินไป
องค์หญิงเจียโรว และ เหวินเสี่ยว เองก็ได้แต่ยืนอ้าปากค้าง และไม่สามารถสงบสติลงได้ไปพักใหญ่ ๆ
องค์หญิงเจียโรวมองไปที่ผู้บัญชาการหลิงหลง นางดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก “ท่านคือผู้บัญชาการหลิงหลงแห่งหน่วยสยบมังกรงั้นเหรอ?”
“หืม?” ผู้บัญชาการหลิงหลงเหลือบมองไปที่นาง “เจ้ารู้จักข้าด้วยรึ ?”
ตลอดเวลาที่นางเป็นผู้บัญชาการของหน่วยสยบมังกร นางแทบไม่เคยปรากฏตัวและไปร่วมงานเลี้ยงอันน่าเบื่อใด ๆ จึงไม่มีทางที่คนนอกจะได้รับรู้ถึงใบหน้าที่แท้จริงของนาง
“ห้าปีก่อน ข้าได้ยินท่านพ่อคุยกับท่าน” ใบหน้าขององค์หญิงเจียโรวเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ
ทันใดนั้นผู้บัญชาการหลิงหลงก็นึกออก “เจ้าคือ องค์หญิงเจียโรวสินะ ”
แม้แต่องค์หญิงก็ยังไม่คู่ควรได้รับความเคารพจากนาง
ลั่วอู๋สงบสติอารมณ์ของเขาแล้วกล่าวชื่นชม “สมกับเป็นผู้บัญชาการของหน่วยสยบมังกรจริงๆ ทั้งที่มีสัตว์ประหลาดมากมายขนาดนี้ แต่ท่านผู้บัญชาการหลิงหลงกลับสามารถจัดการพวกเขาทั้งหมดได้ในดาบเดียว”
“อย่ามาประจบข้า มันไม่ใช่ว่าข้าเก่งอะไรหรอก แต่เป็นพวกมันต่างหากที่อ่อนแอ” ผู้บัญชาการหลิงหลงมองซากดูกระดูกสีขาวที่กระจายไปทั่วสถานที่ พลางขมวดคิ้วของนาง
“พวกมันว่างเปล่าเกินไป ไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะเทียบกับข้าได้เลย มันแปลกมากที่พวกมันอ่อนแอขนาดนี้ นี่มันอ่อนแอเกินไปจริงๆ”
“ แล้วทำไมพวกมันถึงมีแต่กระดูกกระจายไปทั่ว ไม่มีเลือดสักหยด” ผู้บัญชาการหลิงหลงดูไม่พอใจ “ดาบเลือดเดือดของข้า ต้องการเลือดของพวกเขาเพื่อยกระดับไปอีกขั้นแท้ ๆ”
ลั่วอู๋รู้สึกละอายใจ
นางฆ่าพวกมันทั้งหมดในดาบเดียว แน่นอนว่าการพูดถากถางแบบนี้มันไม่ดี
แต่ทำไมพวกเขาทุกคนถึงมีแต่กระดูกสีขาวทั้งร่าง? ร่างกายของพวกเขาที่ซ่อนอยู่ภายใต้อาภรณ์สีดำนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากกระดูกสีขาวอย่างนั้นเหรอ?
ทันใดนั้นกระดูกทั้งหมดก็เริ่มขยับ
กระดูกสีขาวเหล่านี้ต่างเคลื่อนที่เหมือนสิ่งมีชีวิต พวกมันเริ่มประกอบร่างของตัวเองขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด จนสามารถทำให้ผู้คนที่เห็นรู้สึกขนลุก
“ มือข้าอยู่ไหนใครเห็นมือข้าบ้าง”
“ อย่าเอาไป อย่าเอาไปน่า นี่มันขาของข้า”
“ เจ้ามันพิการทางสมองรึไง อย่ามาเดินชนหัวข้าสิ ปล่อยข้า!”
กลุ่มกระดูกสีขาวชนกันอย่างไม่เป็นระเบียบ และบางครั้งก็มีบทสนทนาที่น่าอัศจรรย์
ในไม่ช้าโครงกระดูกที่สมบูรณ์หลายร้อยร่าง ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้า พวกเขาทั้งสี่และ ฉิงชา ที่ถูกเตะออกไปก็เดินกลับเข้ามา
อย่างไรก็ตามเสื้อคลุมสีดำของเขานั้นเละเป็นชิ้น ๆ เผยให้เห็นร่างโครงกระดูกสีขาวของเขาและเปลวไฟสีเขียวเข้มสองดวงกำลังลุกไหม้ในตำแหน่งของดวงตา
“ วีรบุรุษกระดูกขาว?” ใบหน้าของลั่วอู๋จมลง
วีรบุรุษกระดูกขาวเป็นสัตว์วิญญาณชนิดหนึ่งที่เกิดจากวิญญาณที่มารวมกันหลังความตาย
อย่างไรก็ตาม สัตว์วิญญาณ แบบนี้นั้นหายากมาก และไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับความแข็งแกร่งของร่างต้นก่อนที่จะตาย มันมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้นมา ดังนั้นมันจะมีเยอะมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร
ฉิงชา พูดด้วยเสียงต่ำ: “อย่าเอาพวกเราไปรวมกับสัตว์วิญญาณ ขยะแบบนั้น”
ในสายตาของหลาย ๆ วีรบุรุษกระดูกขาวที่ไม่สามารถเสริมความแข็งแกร่งได้ด้วยการฝึกฝนหรือปรับแต่งใด ๆ นั้นถือว่าเป็นสัตว์วิญญาณระดับขยะ
ครั้งหนึ่งพวกเขาเหล่านี้เคยเป็นผู้ที่แข็งแกร่งและมีชื่อเสียงในอาณาจักร การที่พวกเขาถูกเรียกว่าเป็นวีรบุรุษกระดูกขาว มันจึงไม่แปลกอะไรที่พวกเขาจะรู้สึกว่าเหมือนโดนดูถูก
“มีความเคารพตัวเองมากใช้ได้เลยนี่นา” ผู้บัญชาการ หลิงหลงเย้ยหยัน “เจ้ามันก็ไม่ได้ดีไปกว่าวีรบุรุษกระดูกขาวเท่าไหร่หรอก ก็แค่ซากศพที่ยังมีชีวิตอยู่”
นางเข้าใจสภาพของคนเหล่านี้แล้ว
พวกเขาตายครึ่งไม่ตายครึ่งด้วยวิชาพิเศษเพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
ดวงตาของโครงกระดูกนับร้อยเปล่งแสงสีเขียวออกมา พวกเขาล้วนโกรธจัด แม้ว่าผู้บัญชาการหลิงหลงจะมีพลังอำนาจมาก แต่นางก็ไม่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
“ข้าจะให้โอกาส เจ้ามาร่วมงานกับพวกเรา” ฉิงชา กล่าวช้าๆ
ผู้บัญชาการหลิงหลงหัวเราะอย่างดุเดือด: “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าคิดว่าข้าเนี่ยนะจะไปร่วมกับพวกเจ้า”
“ใช่” ฉิงชา ไม่ได้โกรธ “เนื่องจากเจ้าค้นพบความลับของพวกเราแล้ว หากเจ้าไม่ต้องการเข้าร่วมกับพวกเรา เจ้าก็ต้องตายอยู่ที่นี่”
โครงกระดูกหลายร้อยตัวขยับลุกขึ้นมาอีกครั้ง
พลังวิญญาณอันน่ากลัวพลุ่งพล่านไปทั่ว
“ข้าอยากเห็นจริง ๆ ว่าพวกเจ้าจะคืนชีพกลับมาได้อีกสักกี่ครั้ง!” ผู้บัญชาการหลิงหลงพุ่งเข้าไปพร้อมกับดาบของนาง ลมปราณอันรุนแรงระเบิดออกมาราวกับจะกลืนกินโลกทั้งใบ
ดาบสังหารเก็งจิน
บรรยากาศของการฟาดฟัน ตัดเฉือนกระจายไปทั่วห้องโถง
มันคือเจตจำนงของสงคราม
“ฆ่านาง ฆ่านาง”
ดาบพลังวิญญาณฟาดฟัน และโครงกระดูกหลายร้อยชิ้นก็หักกระจายออกไปอีกครั้ง
ทว่าเพียงครู่ต่อมาพวกเขาก็กลับมาขึ้นมีชีวิตอีก
ฆ่า! ฆ่า!
ผู้บัญชาการหลิงหลงตวัดดาบเพื่อสังหารพวกเขาอีกครั้ง
แต่พวกเขาก็ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ราวกับว่าไม่รู้สึกถึงเจ็บปวด ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ค่อย ๆ เดินเข้าหาผู้บัญชาการ หลิงหลงอีกรอบ
เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์อันเลวร้ายนี้ ผู้คนทั่วไปคงจะหัวใจวายตาย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ผู้บัญชาการหลิงหลงกลับไม่มีสีหน้าใด ๆ นางมีหัวใจที่แข็งแกร่งราวกับเหล็ก และยังคงกวัดแกว่งดาบฟาดฟันศัตรูซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แม้พวกเขาจะยังคงสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ แต่หลังจากโดนทำลายไปฆ่ามากกว่า 300 ครั้งติดต่อกัน
เหล่าสัตว์ประหลาดที่ถูกฆ่าก็เริ่มเกิดความกลัวเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดรึยังไง ? เหตุใดนางถึงใช้ทักษะระดับ SS อย่างต่อเนื่องได้มากกว่า 300 ครั้ง โดยที่พลังวิญญาณของนางยังคงเต็มเปี่ยมได้
ผู้บัญชาการหลิงหลงขมวดคิ้ว
นางเคยคิดว่าการฟื้นคืนชีพของพวกเขามีจำกัด แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีที่สิ้นสุด
มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก
“ถ้าข้าฟันพวกเจ้าไม่ได้ ข้าก็จะกลืนกินพวกเจ้าแทน” ผู้บัญชาการหลิงหลงเก็บดาบเลือดเดือดไปจากนั้นก็มีแสงสีทองก็สว่างวาบในดวงตาของนาง
ในความอลหม่านนั้นดูเหมือนว่าจะมีเงาคลุมเครือขนาดใหญ่อยู่ข้างหลังนาง
กลืนกินสวรรค์
ลั่วอู๋ไม่คาดคิดมาก่อนว่านางจะสามารถใช้ทักษะนี้ได้เหมือนกัน
จู่ๆผู้บัญชาการหลิงหลงก็กลืนกินโครงกระดูกเหล่านั้นลงไปทั้งหมด
ถ้าถูกกลืนร่างกายเข้าไปทั้งหมดก็ไม่น่าจะสามารถคืนชีพกลับมาได้
แต่ในไม่ช้านางก็รู้สึกแปลก ๆ “แปลกจริง ๆ ไม่รู้สึกว่าได้รับพลังวิญญาณเข้ามาเลย เป็นไปได้อย่างไร”
ต่อมาพื้นดินก็แยกออกจากนั้นโครงกระดูกหลายร้อยร่างก็ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน
พวกเขาคืนชีพกลับมาอีกครั้ง
ฉิงชา หัวเราะเยาะ “เปล่าประโยชน์น่า พวกเราจะไม่มีวันตาย ลองวิธีไหนก็เปล่าประโยชน์”
“ไร้สาระน่า นี่เจ้าจะบอกว่าต่อให้ จอมมารผู้ยิ่งใหญ่ เฮา มาที่นี่ก็ฆ่าเจ้าไม่ได้งั้นหรือ” ผู้บัญชาการหลิงหลงหัวเราะเยาะ
โครงกระดูกมากมายต่างหยุดลงครุ่นคิด
“ใครคือจอมมารผู้ยิ่งใหญ่ เฮา? เขาแข็งแกร่งมากงั้นเหรอ”
โครงกระดูกบางคนตอบกลับไป “ก็นักบุญอุปถัมภ์ของราชวงศ์มังกรเร้นกายไง ตอนนี้เขาเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในอาณาจักร”
“เราเคยเจอเขาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ประมาณหนึ่งพันปีแล้ว”
“โอ้ ไม่น่าแปลกใจที่ข้ารู้สึกเหมือนไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน”
เมื่อได้ฟังบทสนทนาของโครงกระดูกเหล่านี้ ผู้บัญชาการหลิงหลงก็ตกตะลึงสัตว์ประหลาดพวกนี้มันหมายความว่ายังไง สถานการณ์นี้คืออะไร? พวกเขาไม่รู้จักจอมมารผู้ยิ่งใหญ่งั้นเหรอ?
ผู้บัญชาการหลิงหลงหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา “เนื่องจากพวกเจ้าไม่สามารถถูกฆ่ามันได้ง่าย ๆ เจ้าจะมาลองรับนี่ดูไหมล่ะ?”
ร่างของผู้บัญชาการหลิงหลงลอยขึ้นไปอยู่เหนือท้องฟ้า
จากนั้นมีดาบคมจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง ดาบเหล่านั้นแทงเหล่าสัตว์ประหลาดตอกพวกมันลงกับพื้น
“ ดาบผนึก!”
ทักษะระดับ A [ดาบผนึก]
เป็นทักษะที่พบได้ไม่ยาก แต่ความรุนแรงก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลที่ใช้
ผู้บัญชาการหลิงหลงใช้ทักษะดาบสังหารเก็งจินเพื่อควบคุมพลังวิญญาณให้สเถียร ทำให้ทักษะดาบผนึก ซึ่งเป็นทักษะระดับ A ของนางได้รับการยกระดับขึ้นอย่างมาก จนกลายเป็นทักษะพิเศษของนาง
เหล่าสัตว์ประหลาดทั้งหมดถูกตอกลงกับพื้นจนไม่สามารถเคลื่อนไหวใด ๆ ได้จากนั้น เส้นพลังวิญญาณลึกลับก็ปรากฏขึ้นเข้าพันธนาการร่างของพวกมัน
หลังจากนั้นร่างของพวกเขาส่วนใหญ่ก็ละลายลงสู่พื้นและถูกผนึกเอาไว้
“อา “ เหล่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นกรีดร้อง พยายามที่หลุดออกมา แต่ก็ไม่สามารถทำลายผนึกได้
ผู้บัญชาการหลิงหลงล้มลงด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจ “ชิ ข้าเสียพลังวิญญาณไปมากโดยเปล่าประโยชน์ซะเยอะเลย”
ถึงนางจะพูดแบบนั้น แต่ตัวนางก็ยังเต็มไปด้วยพลังวิญญาณและเรี่ยวแรง ไม่มีวี่แววว่านางใช้พลังวิญญาณมากเกินไปเลยแม้แต่น้อย
พรรคพวกลั่วอู๋ทั้งสามคน ได้แต่ชื่นชม โค้งคำนับ
นางพึ่งพาได้จริง ๆ