ไหปีศาจ - บทที่ 408 เจ้าเป็นใคร
บทที่ 408 เจ้าเป็นใคร
บทที่ 408
เจ้าเป็นใคร
ในมิติไห
พลังวิญญาณของลั่วอู๋กำลังพลุ่งพล่าน กระแสลมปราณนับร้อยเส้นก่อตัวขึ้น พวกมันไหลเวียนรอบตัวเขา ดึงดูดพลังวิญญาณจำนวนมากให้หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของลั่วอู๋
กระบวนการนี้ดำเนินไปเป็นเวลาห้าวันติดต่อกัน
จนในที่สุดลมปราณของเขาก็สงบลง
มิติวิญญาณของ ลั่วอู๋ ได้รับการยกระดับขึ้นเป็นระดับทอง มิติ 5
การพยายามย่อมนำไปสู่หนทางสู่ความพัฒนาในชีวิตนั้นเป็นความจริงนิรันดร์
หากทุ่มเทให้กับการฝึกฝนอย่างหนัก ย่อมช่วยให้มิติวิญญาณดีขึ้นอย่างช้าๆ เสริมด้วยประสบการณ์ในการต่อสู้บ่อยครั้ง โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน การพัฒนามิติวิญญาณก็จะง่ายกว่าเดิมมาก
หลังจากการขึ้นสู่สถานะเสร็จสิ้น ลั่วอู๋ ก็เดินออกจากห้องฝึกอบรม
นอนอยู่อย่างสบาย ๆ ในมิติไหที่เป็นดั่งแดนสวรรค์ เพื่อรับแสงแดดครั้งแรก ทันใดนั้นต้าหวงก็วิ่งเข้ามากระดิกหาง แลบลิ้นแล้วเหวี่ยงตัวไปที่แขนของลั่วอู๋
“ฮ่าฮ่า เจ้านี่มาหาข้าคนแรกก่อนใครทุกครั้งเลยนะ”
ลั่วอู๋ลูบหัวและคางของต้าหวงจากนั้นจึงหยิบ ยาหวงฉวน ออกมาสองสามเม็ด “อย่ากินโดยตรงเชียวล่ะ ใช้ กลืนกินสวรรค์กินมันเข้าไปซะ”
ยาระดับแปด ยาหวงฉวน
มันเป็นยาที่มีพลังวิญญาณชั่วร้ายอันบริสุทธิ์ สัตว์วิญญาณธรรมดาจึงไม่สามารถย่อยมันได้ แต่ต้าหวงนั้นสามารถกลืนมันได้ด้วยการใช้ทักษะ กลืนกินสวรรค์
แม้ว่าความเข้มข้นของพลังวิญญาณที่ได้จะลดลงไปมาก แต่นั่นก็ทำให้พลังวิญญาณชั่วร้ายนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อตัวของต้าหวง
ต้าหวง เปิดปากของมันแล้วกลืน ยาหวงฉวน ทั้งหมด ลงไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
จากนั้นผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะ และ ตวนซี ก็มาที่นี่เช่นกัน
“เจ้าผีเสื้อนี่ส่วนของเจ้า” ลั่วอู๋ส่งยาให้กับผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะเช่นกัน
ผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะได้ดูดซับพลังวิญญาณชั่วร้ายมามากก่อนที่มันจะถือกำเนิด นอกจากนี้มันยังมีคุณสมบัติธาตุมืด ดังนั้นมันจึงสามารถย่อย ยาหวงฉวน ได้
แต่มันก็ไม่สามารถกินได้มากวันละหนึ่งเม็ด ซึ่งก็เพียงพอแล้ว เพราะอัตราการพลังวิญญาณที่ได้จากการกลืนตรง ๆ นั้นสูงมาก
ด้วยดวงตาสีฟ้ากลมโตของตวนซีมองไปที่ลั่วอู๋อย่างน่าสงสาร ท้องกลมเล็ก ๆ ของมันกระเด้งไปกับพื้นเหมือนลูกบอลขนาดเล็ก
มันเองก็อยากกินด้วยเช่นกัน
ลั่วอู๋ทำอะไรไม่ถูก“ นี่มันไม่ใช่ของว่างนะ เจ้าไม่ควรกินมัน”
ตวนซีตกตะลึงจากนั้นร่างกายของมันก็บิดไปชั่วขณะ มันก็กลายเป็นผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะแล้วขอ ยาหวงฉวน อีกครั้ง
“เจ้าลองดูก็ได้” ลั่วอู๋หัวเราะ
ตวนซี พยายามกิน ยาหวงฉวน เข้าไป แต่แล้วร่างกายของมันก็สั่นสะท้านเปลี่ยนกลับไปเป็นรูปลักษณ์เดิมอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของมันดูขมขื่นและอาเจียนยาหวงฉวนออกมา
มันคิดว่ายานี้จะรสชาติเหมือนขนม มันจึงไม่ได้คิดว่ารสชาติจะแย่ได้ขนาดนี้
“ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
ลั่วอู๋ รู้สึกขบขันกับท่าทางตลก ๆ ของ ตวนซี
ตวนซีไม่ชอบการฝึกฝนและยาอายุวัฒนะมหัศจรรย์ทุกชนิด ก็ดูเหมือนจะไม่มีผลกับมัน การยกระดับมิติวิญญาณของมันจึงขึ้นอยู่กับไหปีศาจ
แค่ว่าตอนนี้ก็ถือว่าดีแล้ว แม้ว่ามิติวิญญาณจะไม่สูงนัก
เนื่องจากยิ่งมิติวิญญาณสูงก็ต้องการแต้มเซียนเยอะขึ้น
หากอยู่ในมิติวิญญาณระดับทองขั้นสูง การยกระดับมิติวิญญาณเล็ก ๆ ก็มีค่าใช้จ่าย หลายหมื่นแต้มเซียน เขาจึงต้องสะสมแต้มเซียนให้มากพอเสียก่อน
มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ หลี่หยิน กลับมาแล้วงั้นเหรอ?” ลั่วอู๋ออกมาจากมิติไห
เมื่อเขาเปิดประตูออกไป เขาก็พบกับคนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะมาหา อย่างเหวินเสี่ยว
ที่แปลกก็คือเหวินเสี่ยวนั้นดูเหมือนว่าจะอารมณ์ไม่ดี ใบหน้าของเขาไม่มีรอยยิ้มอ่อนโยนที่มีอยู่เสมออีกต่อไป แม้แต่ภูตปีกแสงก็ไม่อยู่ใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาดูรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
“ เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไรงั้นเหรอ ?” ลั่วอู๋ ถาม
เหวินเสี่ยวยิ้ม “ถ้าไม่มีอะไร ข้าก็มาหาเจ้าไม่ได้รึไง?”
ต้องบอกว่าเหวินเสี่ยวไม่มีจิตสำนึกในการเป็นแขกเลย เขาเปิดประตูและเดินเข้าไปโต่ง ๆ
ลั่วอู๋ตะลึง
รอยยิ้มของเขาแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
มันเหมือนกับเป็นคนละคน
ลั่วอู๋นึกถึงชายลึกลับที่ปรากฏตัวในการทดสอบการต่อสู้จริง แต่เขาก็ยังคงมีข้อสงสัยใจบางอย่างอยู่ ลั่วอู๋จึงปล่อยแมลงกินวิญญาณอย่างเงียบ ๆ
แมลงกินวิญญาณส่งข้อความกลับมาอย่างรวดเร็ว ข้อมูลลักษณะของพลังวิญญาณนั้นเหมือนกันทุกประการ
รูปลักษณ์หรือลมปราณนั้นสามารถเปลี่ยนไปหรือปลอมแปลงได้ แต่พลังวิญญาณนั้นเป็นอะไรที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปลอมแปลง ทุกคนต่างมีลักษณะพลังวิญญาณที่แตกต่างกันแม้ว่าพวกเขาจะฝึกฝนทักษะเดียวกันหรือมีมิติวิญญาณระดับเท่ากันก็ตาม
“เจ้าอยู่คนเดียวสินะ องค์หญิงเจียโรวไปไหนแล้วล่ะ ?” เหวินเสี่ยวถามอย่างเป็นกันเอง
ลั่วอู๋ปิดประตูด้วยความงงงวยบนใบหน้าของเขา “องค์หญิงเจียโรวอยู่ที่ไหน ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรกันเล่า ? เอาเถอะแต่นางก็คงกำลังไปชิงอันดับรายชื่อสำนักเฉียนหลงอยู่ล่ะมั้ง”
“เจ้าไม่รู้งั้นเหรอ ? ข้าคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเจ้า น่าจะไปถึงจุดนั้นแล้วเสียอีก” เหวินเสี่ยวกล่าว
“ความสัมพันธ์อะไร ?”
“คู่ชีวิต”
ลั่วอู๋สับสนเล็กน้อย “อย่ามาล้อเล่นน่า ข้ากับองค์หญิงเจียโรวเป็นแค่เพื่อนกัน”
“แค่เพื่อน?” เหวินเสี่ยวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นางรู้สึกวู่วามมากตอนที่เจ้าตาย และให้เจ้าเอาลูกแก้วมังกรออกมา ถ้าข้าเดาไม่ผิดองค์หญิงเจียโรวน่าจะให้ลูกแก้วมังกรที่นางปรับแต่งไว้กับเจ้า ความสัมพันธ์นี้เป็นแค่เพื่อนจริง ๆ งั้นเหรอ?”
ลูกแก้วมังกร?
ลั่วอู๋สับสนเล็กน้อย เหวินเสี่ยวนั้นดูจะรู้ถึงบางอย่างเกี่ยวกับพลังวิญญาณจักรพรรดิมังกรและลูกแก้วมังกร ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้มากขนาดนี้
ลั่วอู๋ตกใจ “เป็นอย่างนั้นหรอกเหรอ..”
“ไม่จริงน่า องค์หญิงเจียโรวกำลังไล่ตามเจ้างั้นสิ” เหวินเสี่ยวหัวเราะออกมา“ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็คงทำเงินได้มากมายในฐานะพระสวามีของนาง”
ลั่วอู๋สับสนเล็กน้อย
เขาไม่ได้คาดหวังว่าองค์หญิงเจียโรวจะมอบลูกแก้วมังกรอันล้ำค่าให้กับเขาด้วยเหตุผลแบบนั้น
ดังนั้นเขาจึงไม่สังเกตว่าเหวินเสี่ยวเริ่มปล่อยพลังวิญญาณออกมาเหมือนกับความมืด เริ่มกลั่นตัวเป็นสสารห่อหุ้มบ้านพักทั้งหลัง
“ไม่ใช่สินะ งั้นก็ดูเหมือนว่านี่จะเป็นเวลาอันเหมาะสมแล้ว คงจะไม่มีใครเข้ามายุ่งกับข้าตอนที่ฆ่าเจ้า” เหวินเสี่ยวเริ่มจุดไฟสีดำอันลึกลับเย็นชาและทรงพลังออกมา
ทักษะระดับ SS [ราตรีนิรันดร์]
ความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดของเทพตกสวรรค์ ถูกใช้งาน
ความเชี่ยวชาญของเขาต่อทักษะนี้นั้นเกือบจะถึง 50% แล้ว
กระแสพลังวิญญาณแห่งความมืดเข้ามาราวกับยักษ์ที่มีร่างเป็น “ความมืด” อ้าปากขึ้นแล้วกลืนลั่วอู๋ลงไปในท้อง
ปากของเหวินเสี่ยวเลิ่กขึ้นเล็กน้อย
นี่มันไม่ง่ายไปเหรอเนี่ย? เขาไม่ขัดขืนอะไรเลย
ตราบใดที่สามารถกวนใจให้เสียสมาธิได้เพียงเล็กน้อย ลั่วอู๋ก็จะไม่สามารถต้านทานทักษะของเขาได้
“อันดับหนึ่งของรายชื่อเฉียนหลง ? หึ ไม่ได้จัดการยากเท่าไหร่เลยนี่นา” เหวินเสี่ยวหัวเราะเยาะ
ขั้นตอนต่อไปก็เหลือแค่นำร่างของ ลั่วอู๋ ไปซ่อน แล้วออกไปจากสำนักเฉียนหลง ในตอนที่มันเปิดประตูในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
ส่วนสำหรับวิธีการค้นหาตัวภูตไห
ด้วยความสามารถของเขาในตอนนี้ เขาน่าจะหาอีกฝ่ายพบด้วยตัวเองได้ไม่ยาก
แต่เดี๋ยวก่อน
ในความมืดอันเงียบงันไร้ซึ่งเสียง
“น่าจะประมาณนี้” เหวินเสี่ยวโบกมือและเปิดพลังวิญญาณความมืดออกเหมือนเปิดม่าน
ในราตรีนิรันดร์ พลังวิญญาณแห่งความมืดกลืนกินและดูดกลืนทุกสรรพสิ่งให้กลายเป็นความว่างเปล่า
แต่ เหวินเสี่ยวนั้นต้องการร่างกายของลั่วอู๋ เพื่อให้ภูตไหรู้สึกโล่งใจ
ทว่าใครจะไปคิดว่า เมื่อความมืดจางลงแสงสีขาวสว่างไสวก็ผลิบานออกมา จากนั้นลั่วอู๋ก็ค่อยๆเดินออกมาจากความมืด
ทักษะ ราตรีนิรันดร์ ไม่ได้ทำร้ายเขาเลย
มีเงาของภูตปีกแสงปรากฏขึ้นด้านหลังลั่วอู๋
“ความมืดมิดที่แท้จริง ย่อมต้องใช้แสงสว่างในการยับยั้งมันใช่ไหมล่ะ ?” ลั่วอู๋ยิ้ม
แม้ว่าภูตปีกแสงจะไม่เก่งในการต่อสู้
แต่พลังวิญญาณของมันก็บริสุทธิ์อย่างหาที่เปรียบมิได้ ถึงมันจะไม่ได้มีพลังมากพอหากเทียบกับสัตว์วิญญาณอื่น ๆ แต่มันนั้นก็มีคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมในการรับมือกับพลังวิญญาณแห่งความมืด
“ภูตปีกแสง! นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?” เหวินเสี่ยวตกใจ “สัตว์วิญญาณของเจ้าเป็นภูตปีกแสงไปได้ยังไง เห็นได้ชัดว่าเป็นภูตสงครามไม่ใช่เหรอ ?”
“ภูตปีกแสง ตัวนี้ก็คือ ภูตแห่งสงคราม ด้วยเช่นกัน” ลั่วอู๋พูดติดตลก
เงาข้างหลังเขาเริ่มเปลี่ยนไป
ทันใดนั้นดาบแห่งการพิพากษาก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
เหวินเสี่ยว ตกใจจนแทบคลั่ง “มันเปลี่ยนไป เปลี่ยนได้ยังไงกัน ? ทำไมกัน ?”
ลั่วอู๋จ้องไปที่เหวินเสี่ยวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา “ตอนที่เจ้าเข้ามาข้าคิดว่าเจ้าทักคนผิดด้วยซ้ำ เจ้าไม่ใช่ เหวินเสี่ยว เจ้าเป็นใครกัน?”