ไหปีศาจ - บทที่ 410 ล่วงหน้าไปก่อน
บทที่ 410 ล่วงหน้าไปก่อน
บทที่ 410
ล่วงหน้าไปก่อน
ในนรกมนตรา
พลังวิญญาณอันชั่วร้ายและขุ่นมัวมีอยู่ไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
ท้องฟ้านั้นมืดสลัว มีเพียงแสงจากดาวสีดำเก้าดวง ที่แทบไม่สามารถบอกทิศทางใดๆได้เลย
มีผู้เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยทั้งหมด 50 คนโดยแบ่งออกเป็นเก้าทีมตามลมปราณของศิลานำทาง แยกย้ายกันไปค้นหาร่องรอยของหยู่เฮา
อย่างไรก็ตามพวกเขาพบว่าหินนำทางของหยู่เฮาอยู่ในเหว แต่ตัวหยู่เฮาเองนั้นกลับหายตัวไป
พวกเขาจึงต้องสุ่มค้นหาเท่านั้น โดยหวังว่าจะได้พบกับเบาะแสอื่น ๆ ที่หยู่เฮา ทิ้งไว้
เฉินหมิงหยู, หลินยูหลัน และ หลี่หยิน ได้ก่อตั้งทีมขึ้นเพื่อสำรวจนรกมนตรา
พวกเขาอยู่ในนรกมนตรามานี้มาเกือบหนึ่งเดือน จนสามารถรีดเร้นพลังวิญญาณบริสุทธิ์จากอากาศของนรกมนตราได้อย่างชำนาญ นอกจากนี้ยังผ่านการต่อสู้หลายสิบครั้ง ทั้งศึกใหญ่และเล็ก
สามสาวต่างพยายามกันหนักมาก
เฉินหมิงหยู นั้นเป็นสมาชิกของตระกูลเฉิน นางจึงถูกปลูกฝังความคิดให้เป็นคนเข้มแข็งมาตั้งแต่เด็ก นางย่อมต้องการออกไปสัมผัสการต่อสู้จริง และควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้สงบ
ด้านหลินยูหลัน นางแข็งแกร่งมาตั้งแต่เริ่ม แต่หลังจากที่ได้พ่ายแพ้ให้กับหนิงฮัว นางก็สูญเสียความมั่นใจ ซึ่งตอนนี้นางก็ได้ตามทันระดับความแข็งแกร่งของเขาแล้ว
ส่วน หลี่หยิน นางมักจะได้รับความช่วยเหลือจากลั่วอู๋ นางจึงเป็นคนที่อ่อนแอที่สุด แต่ก็มักจะมีผลกระทบที่ไม่คาดคิดในช่วงเวลาสำคัญ
ต้องขอบคุณทักษะของ เสี่ยวหลวน และ เสี่ยวไป่
ข้อได้เปรียบและเอกลักษณ์ในการต่อสู้ของแมวผีถูกแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ในนรกมนตรา มันเป็นเหมือนเงาที่ซ่อนตัวอยู่ในเวลากลางคืน มันสามารถฆ่าศัตรูได้โดยไม่มีใครมองเห็น วิ่งผ่านความมืดไปมาอย่างอิสระ
ส่วนราชากระต่ายแห่งแดนสาบสูญ นั้นมีทักษะ ทะลวงมิติ และทักษะห้วงมิติที่หลากหลาย ทำให้มันมีข้อได้เปรียบที่ไม่มีใครเทียบได้ในการหลบหนี
หญิงสาวทั้งสามเดินอยู่ในนรกมนตราเหมือนดั่งดอกไม้แห่งจิตวิญญาณสามดอกที่เบ่งบานในความมืด ดอกหนึ่งสว่างและสดใส อีกดอกบอบบางและเต็มไปด้วยด้วยหนาม และอีกดอกอ่อนโยนและแข็งแกร่ง
ในเวลานี้ฝั่งตรงข้ามของพวกนางคือ สัตว์วิญญาณ ระดับ ทอง – ค้างคาวโลหิตทิ่มแทง
มันไม่ใช่แค่สัตว์วิญญาณที่มีขนาดเล็กเหมือนค้างคาวทั่ว ๆ ไป มันไม่ได้ตัวเล็กเลยสักนิด
ค้างคาวโลหิตทิ่มแทงตัวนี้มีขนาดใหญ่ราว ๆ สาม ถึง สี่ช่วงคน ลมปราณของมันรุนแรง ดวงตาของมันเป็นสีแดงเข้ม มีไอความรุนแรงน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง มิติวิญญาณของมันอยู่ในระดับ ทอง มิติ 10 ค้างคาวโลหิตทิ่มแทงตัวนี้ถือเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าเดียวกัน
อย่างไรก็ตามด้วยการโจมตีร่วมกันของหญิงสาวทั้งสามคน ค้างคาวโลหิตทิ่มแทงจึงถูกทุบตีปราบปรามจนพ่ายแพ้ และในที่สุดก็ตายด้วยแสงห้าสีของ หลินยูหลัน
“จนถึงบัดนี้ข้าไม่รู้เบาะแสเลยว่า หยู่เฮา ไปอยู่ที่ไหนกัน” หลินหยูถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกที่กำจัดศัตรูลงได้ โดยไม่สนใจสิ่งสกปรกบนเสื้อผ้าของนาง นางนั่งลงบนพื้นฟื้นพลังวิญญาณและบ่น
เฉินหมิงหยู กล่าว “ลองมองหาดูช้าๆก็ได้ ยังไงซะเราก็มาที่นี่เพื่อหาประสบการณ์กันอยู่แล้ว”
หลี่หยินพยักหน้า
ระหว่างการเดินทางความแข็งแกร่งของนางนั้นเพิ่มขึ้นมามาก
นรกมนตราตกนั้นเป็นสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยอันตราย ต้องขอบคุณเฉินหมิงหยู และหลินยูหลัน เพราะหากเป็นคนอื่น ๆ ก็คงจะไม่มาดูแลหลี่หยินเช่นนี้ พวกเขาคงจะคิดว่าหลี่หยินเป็นภาระ
ดังนั้นจึงไม่มีใครอยากมาเข้าร่วมทีมของพวกนาง
แม้จะไม่สามารถทำให้ทั้งมีแต่คนที่แข็งแกร่งได้ แต่ก็ไม่นำภาระมาด้วย
หลี่หยินจึงรู้สึกขอบคุณทั้งสองคนในเรื่องนี้มาก
ไม่ไกลนักมีร่างอันน่ากลัวแกว่งไปมา
“ ยังติดตามพวกเราอยู่สินะ” หลี่หยินยิ้มและมองไปทางฝันร้ายที่ซ่อนอยู่ไม่ไกลนัก “เฮ้ เจ้าหนูเหนื่อยหรือยัง? ออกมาเล่นกับพี่สาวหน่อยไหม?”
ดวงตาสีเขียวของ ฝันร้าย กะพริบราวกับกลัวอะไรบางอย่าง จากนั้นก็รีบกลายเป็นกลุ่มเงาดำวิ่งหนีไป
แน่นอนว่ามันไม่ได้หนีไปไกลมาก มันแค่ซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหิน เพื่อสังเกตพวกนางทั้งสามคน
“พอเถอะ เจ้าคนขี้ขลาด” หลินยูหลัน กลอกตาของนาง
ฝันร้ายนั้นติดตามพวกนางทันทีที่พวกเขาเดินทางลงสู่เหว แต่มันก็ไม่ได้อยู่ใกล้พวกนางมากเท่าไหร่ เพียงแค่ติดตามจากระยะไกล
ต่อมา หลี่หยิน จึงได้หยิบดอกไม้แห่งพันธนาการสีดำออกมา ทำให้ฝันร้ายกลายร่างเป็นเงาดำพยายามฉกมันไป แต่โชคดีที่ความเร็วของหลี่หยินนั้นสูงมาก นางจึงสามารถรักษาและเก็บดอกไม้แห่งพันธนาการสีดำไปได้
เดิมทีหลี่หยินต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อพิชิตฝันร้าย แต่นางก็ทำไม่สำเร็จ
นางไม่ได้รับการยอมรับจากฝันร้าย
แม้ว่านางจะเอาดอกไม้แห่งพันธนาการสีดำออกมา เพื่อหลอกล่อฝันร้ายแต่มันก็ไม่มีประโยชน์ ฝันร้ายไม่กล้าเข้าใกล้พวกนาง
“ให้มันอะไรก็ได้ที่มันต้องการเถอะ” หลี่หยิน กล่าว “นายน้อยบอกว่าฝันร้ายเคยติดตามพวกเขาเช่นกัน แต่ก็ไม่ทำให้เกิดปัญหาใด ๆ ฝันร้ายนั้นแค่ต้องการดอกไม้แห่งพันธนาการสีดำ”
หลินยูหลัน กัดฟันของนาง “อย่าให้อาหาร หมาป่าที่หิวโหย เว้นแต่เจ้าจะเลี้ยงมัน”
“ได้เลย” หลี่หยินพยักหน้า
ลั่วอู๋มอบดอกไม้เหล่านี้ให้กับนาง
นางจึงไม่มีทางเอามันออกมาให้ใครง่าย ๆ แน่
หลังจากพักผ่อนสักพักพลังวิญญาณของพวกนางก็ฟื้นตัว เฉินหมิงหยูจึงกล่าวขึ้นว่า “มาเดินทางกันต่อเถอะ ช่วยกันดูว่าสัตว์วิญญาณ แบบไหนเหมาะสมกับหลี่หยิน”
“ได้เลยไม่มีปัญหา” หลินยูหลัน พยักหน้า
ในเมื่อหลี่หยินไม่มีสัตว์วิญญาณตัวที่สาม ในสถานที่ที่มีตัวประหลาดมากมายอย่างนรกมนตรา จึงเป็นการดีที่จะหาสัตว์วิญญาณที่ทรงพลังให้กับนาง
เพียงเท่านี้พวกนางก็พร้อมที่จะเดินทางกันต่อ
จากในระยะไกลมีเสียงกระพือปีกดังสะท้อนมา
“เสียงอะไรน่ะ ?” เฉินหมิงหยูมองทางนั้นอย่างสงสัยจากนั้นใบหน้าของนางก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
เพราะนางเห็นค้างคาวจำนวนมากปกคลุมทั่วท้องฟ้า บินผ่านไป พวกมันทั้งหมดเป็นค้างคาวโลหิตทิ่มแทง แม้ว่าพวกจะไม่ใหญ่เท่าตัวที่พวกนางฆ่าไป แต่พวกมันก็มีขนาดเท่ากับมนุษย์ธรรมดา ๆ เลยทีเดียว พวกมันต่างส่งเสียงร้องฮือฮาอันรุนแรงก่อนจะบินจากไป
มันเป็นฝูงของค้างคาวโลหิตทิ่มแทง
“ไม่จริงน่า รีบไปจากตรงนี้กันเถอะ” เฉินหมิงหยู ร้องออกมาอย่างรีบร้อน
ฝูงของสัตว์วิญญาณเช่นนี้ไม่ควรจะไปยั่วยุ
ยิ่งไปกว่านั้นค้างคาวโลหิตทิ่มแทงเป็นสัตว์วิญญาณที่มีความดุร้าย และความสามารถในการไล่ล่าของพวกมันก็แข็งแกร่งมาก ความมืดในนรกมนตราสามารถทำให้พวกมันแสดงพลังได้อย่างเต็มกำลัง
เมื่อถูกล้อมรอบด้วยฝูงค้างคาวโลหิตทิ่มแทงการวิ่งหนีย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
หลินยูหลันร้องเสียงต่ำ “หลี่หยิน”
“อืม”
พวกนางได้พัฒนาความเข้าใจระหว่างกันขึ้นมาโดยปริยาย
หลี่หยินผสานพลังวิญญาณมนุษย์และสัตว์วิญญาณเข้าด้วยกันทันที นางใช้ทักษะทะลวงมิติพา เฉินหมิงหยู และ หลินยูหลัน หายตัวไปด้วยกัน
ทักษะ ทะลวงมิตินั้นสิ้นเปลืองพลังวิญญาณเป็นอย่างมาก แต่มันก็สามารถทำให้ทั้งสามคนเคลื่อนที่ออกจากจุดนั้นมาในระยะทางสามลี้ได้ในชั่วพริบตา
“ไปเถอะ ข้าไม่คิดเลยว่าค้างคาวโลหิตทิ่มแทงพวกนั้นจะเคียดแค้นเรามากขนาดนี้” หลินยูหลัน กล่าว
ใบหน้าของ เฉินหมิงหยู ดูสง่างาม “ตัวที่พวกเราเพิ่งฆ่าไป ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้นำของพวกมัน ข้าคิดว่ามันเป็นแค่ค้างคาวโลหิตทิ่มแทงตัวเดียว ไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาแบบนี้”
“ เรายังหนีไม่พ้นอีกเหรอ?” หลี่หยินถาม
“ข้าเกรงว่าน่าจะยัง” เฉินหมิงหยู พูดด้วยเสียงต่ำ “ข้าไม่ได้รู้จัก สัตว์วิญญาณในนรกมนตราดีเท่าไหร่ แต่สัตว์วิญญาณประเภทค้างคาวนั้นจะใช้เสียงสะท้อนเพื่อไล่ตามศัตรู ดังนั้นระยะการติดตามของพวกมันจึงกว้างกว่าที่เราคิดไว้มาก ถ้าให้ประมาณระยะการไล่ตามของพวกมันก็คงจะกว้างถึงหลายสิบลี้ ”
ทันทีที่พูดจบกลุ่มค้างคาวโลหิตทิ่มแทงแห่มาอีกครั้ง
พวกมันส่งเสียงร้องอันแหลมคม เมื่อพบว่า เฉินหมิงหยู พรรคพวกอยู่ที่นี่
“ทำยังไงกันดี!” หลี่หยินประหลาดใจ
“วิ่งเถอะ”
เฉินหมิงหยู เรียก วิหคกระจกเงาอมตะ ส่วนหลินยูหลัน ก็เรียกนกยูงฮัวเที่ยนออกมา ทั้งสามหนีไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
พวกนางไม่คาดคิดมาก่อนว่าค้างคาวโลหิตทิ่มแทงเหล่านี้จะยังไม่ยอมแพ้ แม้ว่าพวกนางจะสามารถทิ้งระยะห่างและมีเวลาพักผ่อนบ้างเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าพวกมันก็แห่กันมาอีกครั้ง
“แย่แล้ว ฟื้นฟูพลังวิญญาณไม่ทันแน่ ” หัวใจของ เฉินหมิงหยู กำลังเต้นระรัว
ค้างคาวโลหิตทิ่มแทงเหล่านี้นั้นเป็นสัตว์วิญญาณของนรกมนตรา พวกมันจึงสามารถดูดซับ พลังวิญญาณอันชั่วร้าย เพื่อฟื้นฟูประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นพวกมันจึงสามารถไล่ตามและฆ่าศัตรูของพวกมันได้ตลอดเวลา
แต่ เฉินหมิงหยู และพรรคพวกทำเช่นนั้นไม่ได้
ถ้าพวกนางหนีอีกครั้ง พวกนางจะต้องถูกไล่ทันในไม่ช้าก็เร็ว ยิ่งพลังวิญญาณหมดลงมันก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้นไปอีก
“นรกมนตรานี่มันน่ากลัวจริง ๆ”
การดูดซับพลังวิญญาณอันชั่วร้ายจะทำให้สัตว์วิญญาณเสพติดการต่อสู้ และกระหายเลือด มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลย
เฉินหมิงหยู หายใจเข้าลึก ๆ และหยุดลง ร่างกายของนางเต็มไปด้วยเปลวไฟอันร้อนแรงของนกฟีนิกซ์ “พวกเจ้าล่วงหน้าไปกันก่อนเลย ข้าจะช่วยหยุดพวกมันไว้เอง”
นางหันกลับมาต่อสู้กับค้างคาวโลหิตทิ่มแทงทั้งฝูงเพียงลำพัง