ไหปีศาจ - บทที่ 411 มันไม่ได้เกี่ยวกับฝันร้าย
บทที่ 411 มันไม่ได้เกี่ยวกับฝันร้าย
บทที่ 411
มันไม่ได้เกี่ยวกับฝันร้าย
หลินยูหลันไม่ได้ทำตามที่เฉินหมิงหยูบอก อีกทั้งนางยังโวยวายด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว “อย่ามาล้อเล่นน่า บอกให้ข้าทิ้งคู่หูแล้วหนีเนี่ยนะ เรื่องแบบนั้นข้าทำไม่ได้หรอก”
หลินยูหลันหยุดลงและหันกลับไปโจมตีเหล่าค้างคาวด้วยพลังวิญญาณแสงห้าสี
เปลวไฟนกอมตะและพลังวิญญาณแสงห้าสีสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า พลังอันน่าสยดสยองพลุ่งพล่านโจมตี สังหารฝูงค้างคาวโลหิตทิ่มแทง สังหารพวกมันหลายสิบตัวในทันที
ทว่าค้างคาวโลหิตทิ่มแทงเหล่านี้นั้นไม่ได้อ่อนแอ พวกมันจึงรวมตัวกันแล้วใช้ทักษะระดับ A [ลมปราณโลหิต]
พลังวิญญาณสีแดงหลอมรวมกัน พวยพุ่งออกมา
ลมปราณโลหิตเพียงหนึ่งอาจจะไม่มีอันตรายอะไรเท่าไหร่ แต่เมื่อรวมพลังลมปราณโลหิตของพวกมันหลายร้อยตัวเข้าด้วยกัน มันก็ได้กลายเป็นการโจมตีที่แม้แต่สัตว์วิญญาณระดับทองก็ไม่อาจต้านทานได้
เปลวไฟนกอมตะและแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีถูกดันกลับไปจนพ่ายแพ้ในพริบตา
หลี่หยินหยุดและพึมพำ “ข้าเองก็จะช่วยด้วยเช่นกัน”
แสงสีขาวสว่างวาบบนร่างของนาง ขณะเข้าไปที่สนามรบ
ทักษะ [ก้าวย่างเหยียบเงา] และ [กรงเล็บกระดูกผี] ถูกใช้งานพร้อมกัน นางกลายเป็นเหมือนกับมือสังหารที่หลบอยู่ในเงามืด ภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียวนางก็สามารถฆ่าค้างคาวโลหิตทิ่มแทงได้ถึงสามตัว
แต่นั่นคือทั้งหมดที่นางทำได้แล้ว ยังมีค้างคาวโลหิตทิ่มแทงอีกตัวหลุดรอดไปข้างหน้า
หลี่หยินใช้ทักษะ ทะลวงมิติ พุ่งตามออกไปอย่างรวดเร็ว หัวใจของนางนั้นเย็นชาขึ้นมา การหนีไปด้วยและการต่อสู้ไปด้วยได้ใช้พลังวิญญาณของนางไปกว่าครึ่ง นางจึงไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี
เฉินหมิงหยู กล่าวด้วยความโกรธ “พวกเจ้ายังอยู่ที่นี่เพื่ออะไร ข้ามีเดรัจฉานแห่งความว่างเปล่า ข้าหนีด้วยตัวเองได้น่า”
“ ที่นี่คือนรกมนตรา เจ้าไม่มีพิกัดห้วงมิติของที่นี่ เจ้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากกลับไปที่สำนักเฉียนหลง แต่นั่นจะทำได้ก็ต่อเมื่อเจ้าหลบหนีเข้าไปในความว่างเปล่า อย่างไรก็ตามความว่างเปล่านั้นไร้ขอบเขตและเป้าหมายเองก็อยู่ห่างออกไปมาก เจ้าจะต้องหลงทางในความว่างเปล่านั้นแน่” หลินยูหลัน คำราม
เฉินหมิงหยู ตกตะลึง
นางเกือบลืมเรื่องนั้นไปแล้ว
แม้นางจะมีพิกัดเชิงพื้นที่ของสำนักเฉียนหลงแต่ที่นี่นั้นคือนรกมนตรา
ทันใดนั้นค้างคาวโลหิตทิ่มแทงก็บินกรูกันเข้ามาอีกครั้ง พวกมันอ้าปากเหมือนอยากจะกัด แต่ก็ถูกเปลวไฟนกอมตะและแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีปิดกั้น
พลังวิญญาณของ เฉินหมิงหยู และ หลินยูหลัน ถูกใช้ลงไปอย่างรวดเร็ว แต่ความเสียหายที่ฝูงค้างคาวได้รับนั้นยังน้อยยิ่งกว่า 50 % ด้วยซ็ำ
เฉินหมิงหยู กัดฟันของนางแล้วพูดว่า “ถ้าพวกเจ้าหนีไปมันดีกว่าการถูกกินกันหมดทั้งสามคนแน่ ๆ หนีกันไปก่อนเลย ข้าจะช่วยสกัดพวกมันไว้เอง”
“ไม่ แสงศักดิ์สิทธิ์ของข้าปิดกั้นพวกมันได้นานกว่า ข้าจะเป็นคนตามไปทีหลังเอง” หลินยูหลัน กล่าว
“ อย่าหุนหันพลันแล่นน่า”
“เจ้าเริ่มทำให้ข้าอารมณ์เสียแล้วนะ! ความเร็วของนกยูงฮัวเที่ยนของข้าเร็วกว่า วิหคกระจกเงาอมตะของเจ้ามากบางทีข้าอาจจะหนีพ้นก็ได้”
หลี่หยินพูดด้วยเสียงอันอ่อนแอ “ความเร็วของข้าเร็วที่สุดให้ข้า … ”
เฉินหมิงหยู และ หลินยูหลันมองหน้ากันแล้วพูดเป็นเสียงเดียว “ไม่เจ้าอ่อนแอเกินไปที่จะหยุดค้างคาวโลหิตทิ่มแทงพวกนี้ได้”
ทั้งสามคนทะเลาะกันไม่รู้จบ ในขณะที่เปลวไฟนกอมตะและแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีเริ่มอ่อนลงเรื่อย ๆ และพลังวิญญาณของพวกเขานั้นไม่เพียงพอที่จะสกัดพวกมันไว้ ในอีกไม่ช้าฝูงค้างคาวโลหิตทิ่มแทงก็คงจะต้องฝ่าการป้องกันมาได้แน่
เฉินหมิงหยู พูดอย่างโกรธ ๆ “หลี่หยินเจ้าหนีไปก่อน”
“ใช่ เจ้าหนีไปก่อนเลย” หลินยูหลัน ยังกล่าว
หลี่หยินส่ายหัวอย่างดื้อดึง “ไม่ข้าจะอยู่ที่นี่”
“เจ้าจะทำอะไรที่นี่ได้ เจ้าไม่มีทักษะในการโจมตีแบบกลุ่ม เจ้าไม่สามารถหยุดการโจมตีของพวกมันได้ ตรงกันข้ามเจ้าทำให้พวกเราเสียสมาธิด้วยซ้ำ” เฉินหมิงหยู กล่าวอย่างโกรธเคือง
หลินยูหลัน กัดฟันของนางและแสดงให้เห็นแสงศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าสี “เจ้ากำลังถ่วงพวกเราอยู่ เจ้าหนีไปก่อนเถอะ พวกเราสองคนมีหนทางที่จะหนีออกไปกันอยู่แล้ว”
ใบหน้าของหลี่หยินซีดลง
นางเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดจริงๆ นางนั้นไม่มีทางหยุดค้างคาวโลหิตทิ่มแทงจำนวนมากจากการโจมตีได้ การมีอยู่ของนางเป็นเพียงแค่การเพิ่มความสับสนให้พรรคพวกเท่านั้น
หลี่หยินรู้ดีว่าทั้งสองคนตั้งใจจะบังคับให้นางหนีไปก่อน แต่ด้วยเหตุนั้นเองนางจึงไม่อยากหนีไปคนเดียว
“ถ้าข้ามีพลังมากกว่านี้ก็คงจะดี”
หลี่หยินกัดริมฝีปากกำหมัดแน่น พลางคิดในใจอย่างเงียบ ๆ ประโยคนี้ตราตรึงในใจของนางราวกับต้องมนต์สะกด
นางจำสิ่งที่เกิดขึ้นในมิติเหนือเมฆได้
มันเป็นจินตนาการที่เสมือนจริงมาก ปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลออกมา ทั่วทั้งอาณาจักรถูกยึดครองท้องฟ้ามืดมิด ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ถูกบดบัง มีการฆ่าและกลิ่นเลือดฟุ้งไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
มีทุกอย่างในจินตนาการ แต่กลับไม่มีนายน้อย ลั่วอู๋ อยู่
นางจะได้พบ ลั่วอู๋ ก็ต่อเมื่อสามารถทำลายภาพลวงตานั้นได้
ดังนั้นหลี่หยินจึงเริ่มฆ่า
นางใช้เลือกเส้นทางที่ทำให้ทั้งทวีปสั่นสะเทือน
เมื่อเมฆดำสลายไปทั้งอาณาจักรก็กลับสู่ความสงบ แสงอาทิตย์ส่องลงบนพื้นอีกครั้ง มนุษย์ต่างได้ออกมาจากเงา กอดกันและส่งเสียงแสดงความยินดี จากนั้นภาพลวงตาก็แตกสลายไป
บนผืนดินเสียนั้นมีเพียงภูเขาซากศพ
ศพที่กลายเป็นยอดเขาสูงขึ้นไปแตะท้องฟ้า
บนภูเขาศพมีเด็กหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่เงียบ ๆ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยเลือด พลางเช็ดกรงเล็บอันแหลมคมของนางมองไปที่ทะเลเลือดเฝ้ารอให้โลกพังทลาย
หลังจากนั้นจินตนาการนี้ก็ปรากฏขึ้นบ่อยครั้ง
บางครั้งฉากเหล่านี้ก็ปรากฏขึ้นในความฝัน แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด
ตอนนี้ความรู้สึกนั้นกำลังจะกลับมา
หลี่หยินมองไปที่ค้างคาวโลหิตทิ่มแทงข้างหน้านาง และค่อยๆสร้างเงี่ยงกระดูกอันแหลมคมซึ่งเป็นของแมวผีขึ้นมา จากนั้นเงาดำก็ปรากฏขึ้นใต้เท้าของนาง
“ไม่ต้องหนี ข้าจะไม่หนี” หลี่หยินพุ่งเข้าใส่ฝูงค้างคาวโลหิตทิ่มแทง ใบหน้าของนางดูสงบไม่มีความเศร้าหรือสุข ฝีเท้าของนางก็เบาเหมือนผีร้าย
เฉินหมิงหยู และ หลินยูหลันต่างตกใจ “หลี่หยินกลับมานี่เร็ว”
หลี่หยินทำเป็นไม่ได้ยิน
นางแค่หันหน้าไปมองฝันร้ายที่อยู่ไม่ไกลนัก
ฝันร้าย นั้นไม่ได้จากไปไหน มันติดตามพวกนางอยู่ตลอดเวลา และดูเหมือนว่ามันจะสังเกตเห็นแววตาของหลี่หยิน หลี่หยิน ฝันร้ายจึงไม่สามารถช่วยได้นอกจากเดินเข้าไปใกล้
“มาหาข้าสิ” หลี่หยินเอ่ยช้าๆ
ร่างกายของฝันร้ายสั่นสะท้าน ร่างของมันยกขึ้น ทันใดนั้นรูปร่างของเด็กน้อยคล้ายมนุษย์ก็เปลี่ยนไปเป็นอัศวินแห่งความมืด
หมอกสีดำปกคลุมปากและจมูกของมัน จากนั้นก็ปกคลุมร่างกายของมันจนเหลือเพียงแค่ดวงตาสีเลือดคู่หนึ่ง แสดงถึงจิตสังหาร ทั้งร่างเต็มไปด้วยแรงอาฆาตที่ทำให้หายใจไม่ออก
ทว่าหลี่หยินไม่ได้เกรงกลัวต่อสิ่งนี้ นางก้าวไปข้างหน้าด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา ที่เต็มไปด้วยการยืนยันอย่างไม่มีข้อกังขา “มาที่นี่ซะ”
ฝันร้าย คุกเข่าลงข้างหนึ่งลงช้าๆราวกับว่ามันได้พบกับจักรพรรดิของมันแล้ว
จากนั้นมันก็กลายเป็นหมอกสีดำเข้าสู่ร่างหลี่หยินอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นแสงสีขาวก็ระเบิดออกมา
มันคือการทำพันธสัญญาสัตว์วิญญาณ
คงไม่มีใครจินตนาการได้ว่าฝันร้ายจะยอมจำนนต่อ หลี่หยิน
หรือพันธสัญญาจะถูกสร้างขึ้นในขณะนั้น
หลี่หยินมองไปที่กลุ่มค้างคาวโลหิตทิ่มแทง ที่กำลังบ้าคลั่ง รังสีฆ่าฟันอันดุร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง
ทันใดนั้นเหล่าค้างคาวก็หยุดลง พวกมันไม่สามารถต่อต้านความกลัวจากใจของพวกมันได้ ความตื่นตระหนกเข้าครอบงำฝูงค้างคาวจากนั้นพวกมันก็เริ่มหนีไป
แต่ทว่ากลับมีเงาปรากฏขึ้นข้างๆพวกมัน เหมือนตัวอสรพิษตามติด จนดิ้นไม่หลุด เงานั้นยื่นกรงเล็บอันแหลมคมออกมาอย่างเงียบ ๆ
……
……
ชั้น 5 ของคฤหาสน์สุตรา
มีเพียงผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นสูง และมีส่วนร่วมอย่างมากในสำนักเฉียนหลงเท่านั้นที่จะสามารถเข้ามาดูหนังสือที่ชั้นนี้ได้
ขนาดของชั้นห้านั้นเล็กมากและมีหนังสือไม่มากนัก อย่างไรก็ตามหนังสือแต่ละเล่มมีมูลค่าสูงและบันทึกความลับที่หาได้ยากไว้มากมาย
รองเจ้าสำนักหลี่หวู่หยวนมีหนังสือสองเล่มอยู่ในมือ
“ปฏิทินมังกรเร้นกาย” หนังสือที่บันทึกเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์มังกรเร้นกายไว้ ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา และกล่าวถึงความสำคัญเบื้องหลัง
หนังสืออีกเล่มคือบันทึกประสบการณ์ในการเดินทางสู่ดินแดนเซียนโบราณหมื่นอมตะ มันเป็นหนังสือที่มีเพียงเล่มเดียวในโลก โดยผู้เขียนหนังสือเล่มนี้คือหลี่ชิ
ชื่อของหลี่ชิ นั้นเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่ความหมายเบื้องหลังนั้นยิ่งใหญ่มากเพราะเป็นชื่อของความสง่างามของเขาในปัจจุบัน
หลี่หวู่หยวน หยิบหนังสือทั้งสองเล่มและเดินออกจากคฤหาสน์สุตรา
ชายชราผู้ดูแลคฤหาสน์สุตราเห็นดังนั้นก็กล่าวขึ้น “รองเจ้าสำนักหลี่ เจอแล้วรึ ?”
“ใช่ ข้าเจออะไรบางอย่างที่ต้องการแล้ว” หลี่หวู่หยวน หัวเราะและพูดว่า “รู้สึกอย่างไรที่ได้ปกป้องคฤหาสน์สุตรา มันน่าเบื่อเกินไปสำหรับเจ้าหรือไม่?”
“เฮ้ ไม่เป็นไร ๆ มันเป็นการดีที่ข้าจะได้ปลูกฝังคุณธรรมให้ตัวเองทุกวัน” ชายชรากล่าวอย่างมีความสุข
หลี่หวู่หยวน กล่าวว่า “ไม่คิดเลยว่า นักฆ่าลัทธิเต๋า ที่มีชื่อเสียงในอาณาจักรจะถูกบังคับให้เกษียณอายุที่นี่ คงเป็นเรื่องที่น่าสังเวชมากสินะที่เจ้าไม่สามารถลิ้มรสการฆ่าได้อีก”
“ไม่มีทางน่า ข้าไม่ได้บิดเบี้ยวขนาดนั้น” ชายชราดูไม่มีพิษมีภัย ดวงตาที่เหมือนเต็มไปด้วยโคลนของเขาหันไป ดูไม่มีทางเดินหายใจที่ดี
“เออ ข้ามีเรื่องอยากถามอะไรเจ้าหน่อย ก่อนหน้านี้มีนักเรียนคนหนึ่งเข้าไปในนรกมนตรา และได้เจอกับฝันร้าย แต่พวกเขาไม่สามารถทำให้มันยอมรับในตัวพวกเขาได้ ข้าอยากรู้ว่าต้องทำยังไงฝันร้าย ถึงจะยอมรับในตัวมนุษย์ได้?” หลี่หวู่หยวน ถามอย่างสงสัย
“มันยากที่จะบอกว่า มันเป็นเรื่องยาก แต่ก็ยากที่จะพูดว่ามันเป็นเรื่องง่าย”
“ ไม่ต้องพูดละเอียดก็ได้”
ชายชรานอนเหยียดยาวพิงเก้าอี้ไม้เท้าอย่างไม่ใส่ใจพูดว่า “จิตสังหาร การฆ่า”
“จิตสังหารที่อยากจะฆ่า?”
“ใช่ ฝันร้ายเป็นสัตว์วิญญาณที่แปลกประหลาด พวกมันเรียบง่ายมาก อย่างไรก็ตามพวกมันมักถูกดึงดูดโดยจิตสังหารการฆ่า”
“ ง่ายๆงั้นเลยเหรอ ?” หลี่หวู่หยวน ไม่เข้าใจวิธีการเท่าไหร่ “ตามที่เจ้า แสดงว่านักฆ่าที่ปราบฝันร้ายได้ก็ไม่ได้เยี่ยมยอดอะไรเลยงั้นสิ?”
“เจ้า จะด่าข้ารึไง?” ชายชราดูไม่มีความสุข
“ฮ่าฮ่าฮ่า อย่าไปสนใจ อย่าไปสนใจน่า อีกอย่างเจ้าก็พูดเองไม่ใช่เหรอ”
“ มันไม่ใช่แค่เจตนาฆ่าธรรมดา ๆ ไม่ใช่แน่นอน มันต้องเป็นเจตนาฆ่าที่บริสุทธิ์”
“ หมายความว่ายังไง?”
“มีเพียงความตั้งใจพร้อมที่จะฆ่าคนทั้งโลก เพื่อเป้าหมายง่ายๆเท่านั้นที่ฝันร้ายจะยอมรับได้”
หลี่หวู่หยวน ขมวดคิ้ว “เจ้า … ”
“ถูกต้องอย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละ ในตอนที่พ่อแม่ของข้าถูกฆ่า ข้าแค่อยากจะแก้แค้น ข้าฆ่าคนไปทั่วทั้ง 17 เมือง ฆ่าทั้งคนแก่และคนอ่อนแอ ผู้หญิงและเด็กทั้งหมด ปิดท้ายด้วยเผาพวกเขาจนตาย เพราะยังไงซะคนที่ฆ่าพ่อแม่ข้าก็ต้องเป็นคนที่อยู่ใน 17 เมืองนี้แน่ ๆ” ชายชราพยักหน้าโดยไม่สนใจใด ๆ
หลี่หวู่หยวนเงียบไป
ชายชรากล่าวต่อ “เมื่อพบกับความตั้งใจในการฆ่าอันรุนแรงเช่นนั้น ฝันร้ายก็จะสามารถแสดงรูปร่างที่แท้จริงออกมาได้”
“ดังนั้นจึงมีการกล่าวกันว่าทุกครั้งที่ฝันร้ายปรากฏตัว จะทำให้เกิดฝนเลือด แต่แท้จริงแล้ว การฆ่าและความชั่วร้ายทั้งหมดนั้น ล้วนเกิดขึ้นจากมนุษย์ทั้งนั้น มันไม่ได้เกี่ยวกับฝันร้ายเลยไม่ใช่เหรอ?”