ไหปีศาจ - บทที่ 428 ลูกบอลและหนังสือสามเล่ม
บทที่ 428 ลูกบอลและหนังสือสามเล่ม
บทที่ 428
ลูกบอลและหนังสือสามเล่ม
ผู้รอดชีวิตจากตระกูลหยางทั้งสี่คนถูกพาเข้าสู่โลกไหโดยลั่วอู๋
อาการบาดเจ็บของพวกเขาร้ายแรง
บาดแผลใหม่ซ้อนทับกับแผลเก่าหลายชั้น บาดแผลของพวกเขานั้นดูสยองจนสะดุดตา และแม้แต่แสงศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ลั่วอู๋พยายามใช้ทักษะธาตุน้ำระดับ SS [เพลงสรรเสริญเทพเจ้าแห่งท้องทะเล] ด้วยวงล้อแห่งธาตุน้ำ ทักษะนี้ไม่ใช่ทักษะการรักษาที่เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีพลังต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
แต่ถึงอย่างนั้น ก็สามารถรักษาบาดแผลของพวกเขาได้
มันสมแล้วที่เป็นทักษะระดับ SS
เนื่องจากวงล้อแห่งธาตุนั้นใช้พลังวิญญาณมากเกินไป จึงเหมาะจะใช้เป็นครั้งคราว การหลีกเลี่ยงที่จะใช้มันในต่อสู้นั้นไม่ใช่เรื่องน่าตลกอะไร
สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดคือพวกเขาถูกทำลายทะเลความรู้และกลายเป็นคนโง่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทักษะการรักษาสามารถแก้ไขได้
ลั่วอู๋จึงต้องปล่อยให้พวกเขาอยู่โลกไหและฝึกฝนตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่าพวกเขาจะโง่ แต่กู่ฉวนก็ไม่มีปัญหา และเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นจะดูแลพวกเขา
ยังมีห้องว่างในโลกไห
แล้วพวกเขาก็ยังสามารถปลูกดอกไม้วิญญาณและหญ้าวิญญาณได้อีกด้วย ได้ใช้ประโยชน์จากไร่พลังวิญญาณที่ลั่วอู๋ไม่มีเวลาดูแล
กู่ฉวนพาลั่วอู๋เข้าไปในตำหนักตระกูลหยาง พามาที่ห้องโถงบรรพบุรุษ
เพราะไม่มีใครเสียสละมาดูแลมัน สภาพจึงเละเทะไปหมด มีใยแมงมุมอยู่ทุกที่ กู่ฉวนทำความสะอาดห้องโถงบรรพบุรุษอย่างระมัดระวัง
จากนั้นลั่วอู๋ก็เห็นกู่ฉวนคุกเข่าเคารพ หลังจากก้มคำนับสามครั้งเขาก็มองไปที่แผ่นควบคุมสัตว์วิญญาณที่สูงที่สุดและพูดด้วยเสียงดัง “บรรพบุรุษข้าที่อยู่บนสวรรค์ เชื้อสายของท่าน กู่ฉวนจะดูแลตระกูลให้เอง”
“ตระกูลเราประสบภัยพิบัติร้ายแรง แต่เชื้อสายที่ได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้าตระกูลในช่วงเวลาวิกฤต ณ ที่นี้คนคน นั้นเต็มใจที่จะเป็นหัวหน้ารุ่นที่ 73 ของตระกูลหยาง”
“นับจากนี้ไปหยางกู่ฉ่วนยินดีที่จะรับผิดชอบในการฟื้นฟูตระกูล”
ทันทีที่คำพูดจบลงมีออร่าเล็กน้อยบนคิ้วของ กู่ฉวนและมีตราลึกลับเจ็ดตราปรากฏขึ้นในห้องโถงบรรพบุรุษ
ตราทั้งเจ็ดนั้นล่องลอยอยู่รอบกู่ฉวนราวกับมีชีวิต หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะจำตัวตนของกู่ฉวนได้และลอยขึ้นไป
เจ็ดตราลวงตาลอยออกมาตลอด
จากนั้นตราก็ถูกประทับลงบนออร่าและตราลึกลับทั้งเจ็ดก็หายไป สัตว์วิญญาณบินกลับมาอีกครั้งโดยไม่เข้าไปที่คิ้วของกู่ฉวน
กู่ฉวนยืนขึ้นและกระซิบกับลั่วอู๋ “พิธีแต่งตั้งสิ้นสุดลงแล้ว ข้าสามารถเปิดกล่องได้แล้ว”
นั่นคือสิ่งที่ลั่วอู๋เข้าใจ
ไม่แปลกใจที่กู่ฉวนบอกว่าต้องเป็นหัวหน้าตระกูลก่อนถึงจะเปิดกล่องได้ ไม่แปลกใจที่เขาบอกว่าพ่อของเขาตายแล้ว เขาจึงเป็นหัวหน้าตระกูลหยางคนปัจจุบัน
ด้วยออร่านี้ จึงเป็นหัวหน้าตระกูลที่สามารถรับรองได้อย่างสมบูรณ์
ในความเป็นจริง สมาชิกตระกูลหยางหลายคนรู้วิธีเปิดกล่อง แต่มีเพียงสมาชิกตระกูลหยางที่ผ่านการรับรองหัวหน้าตระกูลเท่านั้นที่สามารถเปิดกล่องได้
ไม่น่าแปลกใจที่หนิงหยินจิวทรมานจนได้วิธีเปิดกล่องมา แต่ก็ไม่สามารถเปิดกล่องได้อยู่ดี
เพราะมีเพียงหัวหน้าเท่านั้นที่รู้เรื่องออร่า
กู่ฉวนถือกล่องและพูดอะไรบางอย่างออกมา ออร่าบนคิ้วของเขาสั่นไหว กล่องเกิดเสียงกลไกและเปิดขึ้นในที่สุด
“นายท่านขอรับ” กู่ฉวนก้มหัวลงและยื่นกล่องให้
เขาไม่ได้ดูสิ่งที่อยู่ในกล่องเลย
เพราะเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่มีค่าใดๆ
ลั่วอู๋มองดูใกล้ ๆ
ในกล่องมีหนังสือสามเล่มและลูกบอลโลหะ
วัสดุมีความเรียบเนียนมาก ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
หนังสือเล่มแรกดูเรียบง่ายมาก หน้าปกเป็นสีเหลืองเล็กน้อยเขียนด้วยอักขระตัวใหญ่สี่ตัว “ทักษะดาบไคเทียน”
“ทักษะ?” ลั่วอู๋ตกใจมาก
เมื่อเห็นคำว่าไคเทียน ลั่วอู๋ก็นึกถึงจักรพรรดิดาบ หยาง ไคเทียนโดยทันที
เป็นไปได้ว่าอาจเป็นทักษะระดับจักรพรรดิ?
ลั่วอู๋ดูเนื้อหาอย่างเร่งรีบ แต่ก็ผิดหวังหลังจากอ่านจบ มันเป็นทักษะที่หยางไคเทียนจักรพรรดิแห่งดาบทิ้งไว้ แต่มันถูกเขียนขึ้นอย่างลวกๆ
เป็นเพียงทักษะระดับเพชรเท่านั้น
นอกจากนี้ หากเป็นทักษะระดับจักรพรรดิในตำนานจริง ๆ มันก็ไม่น่าจะตกอยู่ในมือของหยางหยุนหัวบรรพบุรุษของตระกูลหยาง อย่างไรก็ตามแม้ว่าทักษะจะเป็นเพียงระดับเพชร แต่ก็มีข้อมูลเชิงลึกของทักษะดาษอยู่มากมาย น่าเสียดายที่มันเป็นทักษะศิลปะการต่อสู้โบราณและเขาไม่สามารถใช้มันได้ด้วยตัวเอง
เก็บมันไว้ก่อน มันอาจมีประโยชน์ในภายหลังก็ได้
หนังสือเล่มที่สองมีชื่อว่า “การหลอมอาวุธที่สมบูรณ์”
เป็นชื่อที่ธรรมดามาก แต่ดูเหมือนว่าการที่หนังสือทั่วไปจะมาอยู่ในนี้นั้นดูเหมือนจะผิดปกติมาก
ลั่วอู๋เปิดมันและดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง
“มี 37 วิธีในการหลอมอาวุธวิญญาณ” มือของลั่วอู๋สั่นอย่างผิดธรรมชาติ
ศิลปะการต่อสู้แบบโบราณไม่มีอีกแล้ว
เนื่องจากการฝึกจิตวิญญาณส่วนใหญ่นั้นพึ่งพาอาวุธน้อยมาก
ยิ่งมีจำนวนน้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสรอดชีวิตได้มากเท่านั้น
วิธีการตีอาวุธส่วนใหญ่นั้นสูญหายไปเป็นเวลานานแล้ว โดยเฉพาะวิธีของสมัยโบราณ
อาวุธวิญญาณ อย่างน้อยต้องไปถึงระดับปฐพีถึงจะมีคุณสมบัติพอที่จะเรียกว่า อาวุธวิญญาณ
ทว่าในสมัยโบราณมีความเข้มงวดมากกว่า อย่างมากอาวุธระดับปฐพีถูกเรียกว่าเป็นแค่ต้นแบบของอาวุธวิญญาณ แต่ยังสามารถเลื่อนระดับไปเป็นอาวุธวิญญาณได้
เมื่อพวกเขาไปถึงระดับสวรรค์เท่านั้นพวกเขาถึงจะถูกเรียกว่าอาวุธวิเศษ
ดาบระบำแห่งความตายของลั่วอู๋ เป็นของระดับกลางของระดับปฐพี อย่างไรก็ตามเขาเดาว่าดาบเลทอดเดือดของผู้บัญชาการหลิงหลงได้ไปถึงระดับสวรรค์แล้ว
“ของดีนี่ เจ้ารู้วิธีการหลอมอาวุธไหม?” ลั่วอู๋ถามกู่ฉวน
กู่ฉวนส่ายหัว “ข้าไม่รู้ ข้าไม่ได้สนใจเรื่องการหลอมอาวุธตั้งแต่ข้ายังเด็ก แต่ปู่สี่ของข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการหลอมอาวุธ”
ปู่สี่ของกู่ฉวน เป็นหนึ่งในสี่ผู้รอดชีวิตจากตระกูลหยางไม่ผิดแน่
ลั่วอู่ทำอะไรไม่ถูก
เฉพาะช่างหลอมอาวุธระดับสูงเท่านั้นที่มีคุณสมบัติพอจะลองใช้วิธีการหลอมอาวุธวิญญาณนี้
แต่ในสมัยนี้จะไปหาเตาหลอมดี ๆ ได้ที่ไหน
“เราต้องคิดหาวิธีให้ตระกูลหยางกลับมาเป็นปกติ” ลั่วอู๋ยื่น “การหลอมอาวุธที่สมบูรณ์” ให้กับกู่ฉวน “เจ้าเก็บสิ่งนี้ไว้”
ลั่วอู๋ดูเล่มที่สาม
“ขออันที่เป็นประโยชน์ให้ข้าเถอะได้โปรด”
เล่มสามนี้ไม่มีปกด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่าจะเป็นบันทึก ถ้าลองเปิดดูก็จะรู้ได้เลย
ลายมือในนั้นขดเป็นงู
เห็นได้ชัดว่าคนเขียนนั้นไม่ใขข่คนธรรมดา
แต่สิ่งที่เขียนมันธรรมดาเกินไป
วันนี้กินก๋วยเตี๋ยวมาชามนึง รสชาติดี
ทิวทัศน์ของเจี๋ยงหนานนั้นงดงามมาก ไม่ผิดแน่ ฮ่า ๆ
เค้กในหยุนเฟิงไห่ก็อร่อยเช่นกัน ซื้อกลับบ้านไปเยอะ ๆ เลย
มีแต่เนื้อหาแบบนี้
นี่ไม่ใช่แค่บันทึกเท่านั้น แต่ยังเป็นบันทึกการเดินทางอีกด้วย มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการฝึกฝนเลย
“ไม่คิดเลยว่าจักรพรรดิดาบในตำนานจะทำตัวผ่อนคลายเช่นนี้” ลั่วอู๋หมดคำจะพูด
นี่ควรจะเป็นบันทึกที่เขียนโดยหยางไคเทียนจักรพรรดิแห่งดาบ มิฉะนั้นบันทึกนี้คงจะถือว่าเป็นสมบัติและใส่ลงในกล่องไม่ได้
“น่าแปลกที่ตระกูลสามารถเปิดกล่องได้เมื่อเกิดวิกฤตเท่านั้น อะไรควรอยู่ในกล่องถึงจะทำให้วิกฤตสงบลงได้ทันทีล่ะ?” ลั่วอู๋คิด
แน่นอนว่าหนังสือทั้งสามเล่มนั้นไม่มีอะไรให้สงสัยแล้ว
งั้นก็คงเป็นลูกบอลโลหะสีเงิน
ลั่วอู๋หยิบลูกบอลขึ้นมาและมองมันอย่างระมัดระวัง เขาไม่พบสิ่งผิดปกติดังนั้นเขาจึงพยายามใส่พลังวิญญาณเข้าไปในนั้นเล็กน้อย
แน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
ลูกบอลยืดออกช้า ๆ ราวกับมีชีวิตจากนั้นก็กลายเป็นดาบสีเงิน
ดาบยาวสามถึงสี่ฟุต มันไม่มีด้ามจับ ตัวดาบเรียบเนียน ไม่มีตราใด ๆ แต่มีความรู้สึกที่รุนแรงของดาบแผ่ออกมาช้า ๆ
ลั่วอู๋ใจสั่น
เขารีบหยุดถ่ายพลังวิญญาณ จิตวิญญาณของดาบสลายไปและดาบก็กลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิมอย่างรวดเร็ว นั่นคือลูกบอลสีเงินขนาดเล็ก
“ลูกบอลดาบ”