ไหปีศาจ - บทที่ 432 ความบ้าคลั่งของอินฟินิตี้
บทที่ 432 ความบ้าคลั่งของอินฟินิตี้
บทที่ 432
ความบ้าคลั่งของอินฟินิตี้
“ อธิบายให้ข้าฟังหน่อยสิ” ฉูจงฉวนเลิกคิ้ว
แน่นอนว่าลั่วอู๋ไม่สามารถพูดบทความข้างในออกมาอย่างผลีผลาม ดังนั้นเขาจึงหยิบ “ตำราวิชาดาบของจักรพรรดิดาบหยางไคเทียน” ส่งให้กับฉูจงฉวน
“ลองเอาไปอ่านดู แต่อย่าสนใจกับมันมากเกินไป มิฉะนั้นมันจะเป็นอันตราย และไม่เกิดผลดีกับเจ้า” ลั่วอู๋เตือน
ฉูจงฉวนมองไปที่หน้าแรก “หยางไคเทียน? ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย หนังสือเล่มนี้ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นของผู้ใช้พลังวิญญาณสินะ”
“ใช่ มันเป็นของผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้โบราณ” ลั่วอู๋กล่าว
ฉูจงฉวน ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่ในไม่ช้าใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ดวงตาของเขาจ้องไปที่เนื้อหาราวกับถูกดูดเข้าไป ในขณะที่เหงื่อเย็นเริ่มไหลลงมาจากหน้าผาก
ครู่ต่อมา ฉูจงฉวน ก็พยายามบังคับตัวเองให้ละสายตาไปจากมัน เขาปาดเหงื่อ สิ่งสกปรกบนร่างกายและเสื้อผ้าของเขาออกไป
“โอ้ ดาบงั้นเหรอ ช่างน่าสะพรึงกลัวอะไรเช่นนี้” ฉูจงฉวน กล่าวอย่างจริงใจ “อย่างน้อยนี่ก็เป็นทักษะระดับเพชร คนที่เขียนตำรานี้ต้องแข็งแกร่งมากอย่างแน่นอน”
“เจ้าพูดถูก” ลั่วอู๋หัวเราะ
ฉูจงฉวน ส่ง “ตำราวิชาดาบของจักรพรรดิดาบ หยางไคเทียน” กลับไป “เข้าเอามันกลับไปเถอะ ข้าไม่กล้าอ่านมันอีกแล้ว ข้าเกรงว่ามันจะส่งผลต่อการฝึกฝนมิติวิญญาณของข้า ถ้าข้าอ่านไปมากกว่านี้”
ฉูจงฉวน ยังคงควบคุมตนเองให้ห่างจากวิชาในหนังสือได้อยู่
ในที่สุดทุกคนก็มารวมตัวกัน และช่องว่างมิติสู่สำนักเฉียนหลงก็ถูกเปิดออกให้ทุกคนได้เข้าไป
เมื่อเข้ามาสู่สำนักเฉียนหลง ฝูงชนต่างก็แยกย้ายกันไปตามทางของตนเอง ส่วนเหวินเสี่ยวก็ได้มายืนรอลั่วอู๋และพรรคพวกอยู่ก่อนแล้ว
“ตอนนี้ เจ้าไปที่ทะเลเหนือสุดขอบกับข้าได้รึยังล่ะ” เห็นได้ชัดว่าเหวินเสี่ยวเป็นคนที่ใจร้อนมาก
ลั่วอู๋ไม่สนใจน้ำเสียงที่ไม่ดีของอีกฝ่าย เขาพูดอย่างใจเย็น “ใช่ แต่เจ้าต้องจำไว้ว่า เจ้าได้ให้สัญญาอะไรไว้กับข้า”
ทำลายบุคลิกด้านมืดของตัวเอง แล้วให้เหวินเสี่ยวอีกคนกลับมา
นั่นคือเงื่อนไขของ ลั่วอู๋
“ไม่ต้องห่วงน่า ข้าทำแน่” เหวินเสี่ยวกัดฟันและพูดอย่างดุเดือด
ฉูจงฉวน มองไปที่ เหวินเสี่ยว ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เหวินเสี่ยวจึงหันไปหาเขาด้วยอารมณ์ที่ดูไม่ดีเท่าไหร่แล้วจึงพูด “สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ”
หลินยูหลัน ไม่พอใจกับท่าทีนั้น
แต่ฉูจงฉวนก็พาหลินยูหลันออกไปและส่ายหัว ร่องรอยของความเห็นอกเห็นใจไหลออกมาจากดวงตาของเขา “ไม่เป็นไรเขาคงได้รับการกระตุ้นบางอย่างมามาก อารมณ์ของเขาจึงเปลี่ยนไปมากเช่นนี้ พวกเราควรแสดงความรักของเรา เพื่อส่งอิทธิพลต่อเขาด้วยความรัก”
ลั่วอู๋อดไม่ได้ที่จะปิดปากยิ้ม
ใบหน้าของเหวินเสี่ยวเปลี่ยนเป็นสีฟ้า เขาต้องการจะต่อสู้กับฉูจงฉวนในทันทีทันใด แต่เขาก็รู้ดีว่าลั่วอู๋ไม่มีทางเห็นด้วยแน่
หลินยูหลัน พยักหน้า
แต่นางก็คิดว่ามันคงยากสำหรับเขาที่จะได้รับอิทธิพลจากความรัก
ต่อจากนี้ลั่วอู๋ต้องไปขอให้รองเจ้าสำนักช่วยส่งพวกเขาไปยังทะเลเหนือสุดขอบ
เนื่องจากทะเลเหนือสุดขอบนั้นอยู่ห่างไกลจากอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกายมาก นอกจากนี้ระหว่างทางยังมีอุปสรรคต่าง ๆ ที่อันตราย พวกเขาคงจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามเดือนเพื่อไปยังทะเลเหนือสุดขอบหากเดินทางจากอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกาย
ถ้าเดินทางไปโดยตรงแบบนั้น เขาเกรงว่าตัวเองจะเหนื่อยมากจนเกินไป
วิธีที่ดีที่สุดคือการเดินทางผ่านช่องว่างมิติของสำนักเฉียนหลง
แม้ว่าทะเลเหนือสุดขอบอยู่ไกล แต่มันก็ไม่ได้ถูกซ่อนเอาไว้แต่อย่างใด หากเดินทางขึ้นเหนือตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะไปถึงมันได้ตามปกติ ดังนั้นสำนักเฉียนหลงน่าจะมีพิกัดเชิงพื้นที่ที่นำไปสู่ทะเลเหนือสุดขอบด้วยอย่างแน่นอน
รองเจ้าสำนักหลี่หวู่หยวนให้ความสำคัญกับลั่วอู๋เป็นพิเศษ และคงจะยินดีช่วยเหลือเขาอย่างแน่นอน
ทันใดนั้นเสียงระฆังอันไพเราะก็ดังขึ้นมา
ในเวลานี้มีใครบางคนเพิ่งเดินทางกลับมา
“ข้าจำได้ว่าทุกคนที่ไปยังนรกมนตราต่างกลับมากันหมดแล้วนี่นา?” ลั่วอู๋ถามอย่างสงสัย
หลี่หยินพยักหน้า”ใช่แล้วเจ้าค่ะ ทุกคนต่างกลับมากันหมดแล้ว เพราะหากอยู่ที่นั่นนานเกินไปจะได้รับผลกระทบจากพลังวิญญาณชั่วร้ายได้เจ้าค่ะ”
แล้วคนที่เพิ่งกลับมาเป็นใครกันล่ะ?
ฉูจงฉวน ตบต้นขาของเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “จะเป็นใครได้อีกเล่า แน่นอนสิว่ามันต้องเป็น เจ้าโง่นั่นที่ติดอยู่ในนรกมนตราและไม่สามารถกลับมาได้ไงล่ะ”
แม้ว่าทั้งสองคนจะมีท่าทางเกลียดกันอยู่เสมอ แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ยังเป็นคู่หูที่คู่กัดที่สนิทกัน
ถ้าหยู่เฮา กลับมาแล้วจริงๆ ฉูจงฉวน ย่อมมีความสุขกับมัน
“ไปดูกันเถอะ” ลั่วอู๋ กล่าว
มีเพียงเหวินเสี่ยวเท่านั้นที่ดูไม่พอใจมาก “จะมีอะไรดีเล่า ไปดูอะไรกัน รีบไปทะเลเหนือสุดขอบก่อนแล้วค่อยกลับมาหาเขาก็ได้!”
“หุบปาก” ลั่วอู๋จ้องมองเขา “ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือจากข้า ได้โปรดซื่อสัตย์และรับฟังข้าบ้าง”
เหวินเสี่ยวกลั้นไว้ชั่วขณะ
คงเป็นการดีกว่าจริง ๆ ถ้าเขาฆ่าลั่วอู๋เพื่อแลกกับความช่วยเหลือของภูตไห
แต่เมื่อเขานึกถึงความแข็งแกร่งอันทรงพลังของลั่วอู๋ เหวินเสี่ยวก็ทำได้แค่หงุดหงิด
พวกเขารีบวิ่งไปที่ทางประตูห้วงมิติของนรกมนตรา
ในขณะนี้มีนักเรียนทั้งหมดมุงอยู่รอบ ๆ ที่แห่งนี้โดยเฉพาะคนของสำนักหม่าเฉิน พวกเขาทั้งหมดล้วนมารวมตัวอยู่ที่นี่ ซึ่งแม้แต่ทูตของเฉียนหลงทั้งสี่และรองเจ้าสำนักเองก็มาที่นี่เช่นกัน
นี่ถือเป็นการประหยัดเวลาในการตามหาตัวรองเจ้าสำนักไปด้วย
หยู่เฮา กลับมา ในสภาพที่ถูกอาจารย์สองคนนำออกมาจากนรกมนตรา
มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับเขา ลมปราณของเขาพุ่งสูงถึงระดับทอง มิติ 10 แต่มันค่อนข้างจะไม่เสถียรเท่าไหร่ เหมือนว่าจะตกลงได้ทุกเมื่อ
ตาของเขาเป็นสีแดงฉาน ในขณะที่กล้ามเนื้อของเขาปูดออกมา เหมือนเทพเจ้าผู้มีพลังในการทำลายล้างผืนปฐพี หรือสัตว์ร้ายที่ตื่นขึ้นมาในถิ่นทุรกันดาร เขาดูน่ากลัวมาก
ขวานขนาดใหญ่ที่ทำจากเหล็กแห่งความวุ่นวายบนหลังของเขาเปล่งแสงจาง ๆ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นตัวการที่คอยระงับเลือดอันพลุ่งพล่านและความดุร้ายของเขาเอาไว้
ลั่วอู๋ตกใจ “เกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาถูกพลังวิญญาณชั่วร้ายครอบงำงั้นเหรอ ?”
หยู่เฮาติดอยู่ในนรกมนตรามาเป็นเวลานานกว่าเจ็ดเดือน ซึ่งเป็นอะไรที่เป็นไปได้ยากมาก
แม้แต่ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นสูงที่แข็งแกร่งเอง โดยเฉลี่ยแล้วก็คงไม่สามารถอยู่ได้นานขนาดนั้น
อาจารย์สองคนที่มีมิตวิญญาณระดับทองขั้นสูงลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ไม่ เขาเป็นมีสภาพแบบนี้ในตอนที่พวกเราพบเขาก็จริง แต่หลังจากการตรวจสอบแล้วในร่างของเขาไม่มีวี่แววของการครอบงำจากพลังวิญญาณชั่วร้ายเลย ซึ่งดูเหมือนว่านี่จะเกิดจากการผิดพลาดในการใช้ทักษะเสียมากกว่า”
หยู่เฮาได้ยอมรับมรดกของท่านหม่าเฉิน และวิชาแห่งธรรมชาติซึ่งเป็นทักษะอันยอดเยี่ยมมาจากเขา
แต่เกรงว่าเนื่องจากทักษะดังกล่าวเกิดกลับตาลปัตรเรื่องแย่จึงเกิดขึ้นกับเขา
ตอนนี้สภาพของหยู่เฮาดูเหมือนเหลือความเป็นตัวของตัวเองเพียงเล็กน้อย มันดูยากมากที่เขาจะสามารถยับยั้งตัวเองจากการโจมตีคนรอบข้างได้ เห็นได้ชัดเลยว่าเขามาถึงขีดจำกัดแล้ว
“พวกเจ้าเจอพี่ชายของข้าที่ไหนกัน ?” หยู่เสี่ยวฉางถาม
“ เขาอยู่ในเหวลึกที่ปิดสนิท ซึ่งดูเหมือนจะเป็นรังของสัตว์วิญญาณระดับทองขั้นสูงที่แข็งแกร่งมาก แต่เมื่อเราลงไปพบเขา พวกเราก็เห็นเพียงร่างของพวกมัน ที่ถูกฟาดฟันจนตายด้วยขวาน ” อาจารย์ที่แบกหยู่เฮามากล่าวอย่างครุ่นคิด
หัวใจของทุกคนต่างมีความรู้สึกอันน่ากลัว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหยู่เฮา เป็นคนจัดการพวกมัน
“ยอมถูกกลืนกินโดยปีศาจ เพื่อที่จะไม่ถูกปีศาจกลืนกินงั้นเหรอ” หยู่เสี่ยวฉางกระวนกระวาย “ต้องรีบพาเขากลับไปที่ภูเขาแห้งแล้ง มีเพียงท่านหม่าเฉินเท่านั้นที่จะสามารถช่วยพี่ชายของข้าได้”
ความคลั่งไคล้ที่หยู่เฮาเป็นอยู่ในตอนนี้ เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของท่านหม่าเฉิน
นี่ไม่ใช่ทักษะ แต่เป็นวิชาที่ใช้ในการเพิ่มพลังวิญญาณที่ไหลเวียนในเลือด ซึ่งเกิดขึ้นจากการกระตุ้นพลังวิญญาณ หรือใช้ทักษะมากเกินไป ซึ่งสามารถเสริมความแข็งแกร่งขึ้นมาได้เป็นอย่างมาก
ว่ากันว่าสภาวะการเสริมพลังนี้ไม่มีระยะเวลาสิ้นสุด แม้แต่ท่านหม่าเฉิยนเองก็ยังเคยใช้วิชานี้ถึง 32ครั้ง ด้วยความบ้าคลั่ง พลังวิญญาณของเขาจะปะทุขึ้นราวกับภูเขาไฟราว ราวกับว่าจะละลายสวรรค์และปฐพีให้หายไป มันเป็นวิชาที่ทรงพลังมาก
แต่เมื่อความการเสริมพลังเกินขีดจำกัดของร่างกายไป มันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้ผู้ใช้สูญเสียสติจนกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่มีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่
อาจจะกล่าวได้ว่า นี่เป็นการทดสอบเจตจำนงอันยิ่งใหญ่ก็ว่าได้
แต่ถ้าผู้ใช้ผ่านมันไปได้ เขาจะได้รับการพัฒนาการทางร่างกายและกล้ามเนื้อเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในอนาคตแน่
“รีบส่งเขากลับไปยังภูเขาแห้งแล้งเร็ว” ลั่วอู๋ตะโกน
หลี่หวู่หยวน ถอนหายใจ “มันสายไปแล้วที่จะช่วยเขา ดูสภาพเขาตอนนี้สิ หากปราศจากขวานนั้นล่ะก็ เขาคงจะไม่สามารถคงตัวตนเอาไว้ได้ แต่ตอนนี้เขามาถึงขีดจำกัดแล้ว พลังวิญญาณที่กำลังไหลเวียนอย่างบ้าคลั่งในเส้นเลือดกำลังจะพุ่งออกมาในไม่ช้า นอกจากนี้เราต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวันในการส่งเขากลับไปยังภูเขาแห้งแล้ง มันไม่ทันการณ์แน่ ”
มันสายเกินไป นี่หมายความว่าหยู่เฮา อาจจะต้องกลายเป็นสัตว์ประหลาดกระหายเลือดไปตลอดกาล
มีร่องรอยแห่งความสลดใจบนใบหน้าของทุกคนจากสำนักหม่าเฉิน
ใครจะไปคิดว่าเขาจะมีจุดจบเช่นนี้กัน
หัวใจของลั่วอู๋ก็กระโจนพรวด ความคิดนับไม่ถ้วนฉายผ่านจิตใจของเขา ทันใดนั้นเขาก็นึกออก ความสุขกลับมาในหัวใจของเขา จากนั้นเขาก็รีบวิ่งขึ้นมาที่หยู่เฮาพร้อมชี้นิ้วออกมา
“ถอยไป! อย่าเข้าไปใกล้เขา” หลี่หวู่หยวน รู้สึกประหลาดใจมาก
หยู่เฮาในตอนนี้อันตรายเกินไปที่จะเข้าใกล้
การกระทำใด ๆ ก็ตามอาจจะกระตุ้นให้หยู่เฮาคลั่ง มันจึงไม่มีเหตุผลที่จะเดินเข้าไปเช่นนี้
ลั่วอู๋ไม่ได้ฟังคำเตือนแต่อย่างใด ปลายนิ้วของเขาเปล่งแสงสีขาวพร้อมกับแผ่พลังวิญญาณอันลึกลับออกมา “ชำระล้างบาป!”
เขาใช้พลัง ชำระล้างบาป ของภูตไห