ไหปีศาจ - บทที่ 446 โค่นอสูรทะเล
บทที่ 446 โค่นอสูรทะเล
บทที่ 446
โค่นอสูรทะเล
“กรร กรร กรร”
อสูรทะเล ส่งเสียงเกรี้ยวกราดในมือของพวกมันกำตรีศูลที่ทำจากหินทะเลพร้อมคำรามใส่ลั่วอู๋ด้วยความโกรธ
พวกมันโกรธมากที่ถูกบังคับให้ต้องออกมาจากน้ำทะเล
อสูรทะเลที่ถูกดึงขึ้นมามีด้วยกันเจ็ดตัว
มิติวิญญาณของพวกมันทั้งหมดอยู่เหนือกว่าระดับทอง มิติ 5
ไม่น่าแปลกใจที่พวกมันสามารถโจมตีอย่างอุกอาจได้ในพื้นที่แห่งนี้ทะเลเหมือนเป็นบ้านของพวกมัน ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้นั้นไม่มีทางเลยที่ทีมล่าสัตว์ทั่ว ๆ ไปจะสามารถรับมือได้
“ ไม่มีเงือกแห่งห้วงลึกงั้นเหรอ?” ฉูจงฉวน หันศีรษะไปถาม
เซาเสี่ยวเจีย บ่นแล้วถามกลับไป “เจ้าตาบอดรึไง มันไม่มีเงือกแห่งห้วงลึกที่นี่หรอกนะ ตรงนี้น่ะมีเพียงแค่เจ้าสัตว์อัปลักษณ์พวกนี้เท่านั้นแหละ”
“ อย่าโอหังน่า” หวังซาน ตะโกน “รู้ตัวไหม ว่าพวกเจ้าอยู่ที่นี่ได้ในฐานะเชลยนะ”
“ล้อกันเล่นน่า ข้าไม่ใช่เชลยของใคร!” เซาเสี่ยวเจีย โกรธมาก
หวังซาน เข้ามาขวางทาง “ยังคงหยิ่งได้อีกนะ พี่น้องล้อมพวกเขาไว้ซะ”
ทีมทะลวงน้ำแข็งทั้งหมดออกมาข้างหน้า เพื่อควบคุมล้อมคนของทีมหมีขาวทั้งหมด สมาชิกทีมหมีขาวนั้นทั้งหมดแรงและได้รับบาดเจ็บพวกเขาจึงไม่สามารถต่อต้านอะไรได้ในขณะนี้
เซาเสี่ยวเจีย และพวกพ้องของเขาหลายคนถูกมัดเอาไว้
“ฮึ่ม ข้าขอประกาศว่าตอนนี้พวกเจ้าทุกคนเป็นเชลยแล้ว” หวังซาน ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ราวกับคิดถึงตัวตนของเขาเอง จากนั้นจึงกล่าวเสริม “เป็นเชลยชั้นต่ำที่สุดด้วย”
“อย่าได้ตั้งคำถามใด ๆ อีก”
ฝูงชนต่างหัวเราะ
หวังซานนั้นได้กลายเป็นเชลยอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงต้องการเลื่อนขั้นตัวเองด้วยการกดอีกฝ่ายลง
แต่พวกลั่วอู๋ก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะตราบใดที่พวกเขาไม่สร้างปัญหาอะไร ก็ปล่อยให้เขาทำตามใจไปก็ได้
ฉูจงฉวน หายใจเข้าลึก ๆ แล้วจึงมองไปที่อสูรทะเลด้วยสายตาอาฆาต “พวกเจ้ามันน่าเกลียดสิ้นดี คืนเงือกแห่งห้วงลึกมาให้ข้านะ!”
เขาเต็มไปด้วยความหวังที่จะได้เห็นเงือกแห่งห้วงลึก แต่ตอนนี้เขากลับได้เห็นสัตว์ประหลาดอันน่าเกลียดแทนเสียอย่างนั้น อารมณ์โกรธของฉูจงฉวนจึงพุ่งขึ้น
เขาเปิดฉากเริ่มโจมตีก่อนในทันที
เงาของอาชูร่าปรากฏขึ้นข้างหลังเขาอย่างช้าๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงพลังที่แท้จริงของอาชูร่าออกมาต่อหน้าคนอื่น ๆ ในความสับสนนั้นเองฉูจงฉวนดูเหมือนจะกลายเป็นอาชูร่าสามหัวและหกแขน เหมือนปีศาจอันบ้าคลั่งที่ดุร้ายและน่ากลัว
“ปีศาจฟาดฟัน!”
ทักษะระดับ s [ปีศาจฟาดฟัน]
ใบดาบพลังวิญญาณของฉูจงฉวนเต็มไปด้วยจิตสังหาร พลังของอาชูร่านั้นเต็มไปด้วยความเฉียบคมและชั่วร้าย มันสามารถปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและฆ่าล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ในรัศมีการโจมตีได้
เงาของดาบสีเลือดขนาดใหญ่ตกลงมา ในขณะที่มันถูกห่อหุ้มด้วยเปลวไฟสีเขียวอันน่ากลัว ดูเหมือนว่าดาบพลังวิญญาณของอาชูร่านั้นถูกปกคลุมด้วยไฟอีกชั้น
ฉูจงฉวน ได้รวมพลังของภูตไฟและอาชูร่าเข้าด้วยกัน
“กรร กรร กรร!”
อสูรทะเล ไม่ได้ตระหนักถึงอันตรายเลย
พวกมันอ้าปากและสร้างฟองน้ำอันน่ากลัวขึ้นมาในปากเหม็น ๆ ของมัน ปล่อยสารพิษที่น่ากลัวเต็มไปด้วยผลกระทบอันรุนแรงออกมา
มันคือทักษะ ระดับ s [ปืนใหญ่น้ำพิษ]
“กะอีแค่ฟองพิษ ข้าจะทำลายมันให้ราบเลย!” แม้จะต้องรับมือกับอสูรทะเลเจ็ดตัวพร้อม ๆ กันแต่ฉูจงฉวนไม่ได้รู้สึกกลัวเลย เขายกมือขึ้นและเปลี่ยนพลังวิญญาณให้เป็นเกราะทรายสูงปัดป้องการโจมตีของอสูรทะเลทั้งเจ็ดตัวได้อย่างง่ายดาย
ทักษะระดับ s [เกราะทราย]
นี่คือการใช้ทักษะอันยอดเยี่ยม เกราะทรายถูกทำมาใช้สร้างชั้นทรายมาขวางกั้น
แม้ว่าฟองอากาศเหล่านี้จะมีพลังมาก แต่มันก็ถูกดูดซับได้ง่ายด้วยทราย ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณสมบัติยับยั้งน้ำ
ฉูจงฉวน นั้นเป็นอัจฉริยะด้านการต่อสู้
“โดนสับซะ!”
ฉูจงฉวนตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว
เขาตัดอสูรทะเลด้วยใบดาบของอาชูร่า
อสูรทะเลต่างหวาดผวาไปตาม ๆ กัน
จากนั้นก็มีบาดแผลฉกรรจ์ปรากฏขึ้นที่หน้าท้องของพวกมันและเลือดสีน้ำตาลดำก็เริ่มไหลทะลักออกมา
“กรร กรร กรร” อสูรทะเลนั้นยังไม่ได้สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ พวกมันเริ่มบ้วนน้ำลาย ทาลงบนบาดแผล
ของเหลวข้นถูกดูดซับอย่างรวดเร็วจากนั้นบาดแผลบิดลงในทันที
น้ำลายของอสูรทะเลมีผลวิเศษในการรักษา ซึ่งเป็นหนึ่งในความสามารถทางเชื้อชาติของพวกมัน
อย่างไรก็ตามฉากนี้นั้นน่าขยะแขยงมาก และคนส่วนใหญ่ก็รับไม่ได้ที่จะใช้น้ำลายของอสูรทะเลในการรักษาบาดแผล
“เฮ้ มันอึดใช่ได้เลยนี่” ฉูจงฉวน ยกมือขึ้น จากนั้นเงาของดาบอาชูร่าก็หายไป เปลี่ยนเป็นไฟวิญญาณสีเขียวอันเย็นยะเยือกก็ลุกขึ้นจากมือทั้งสองข้างของเขาแทน
ระดับ S [ไฟแห่งความว่างเปล่า]
เปลวไฟที่แผดเผาแก่นวิญญาณได้โดยตรง
ภายใต้ความสามารถในการควบคุมที่ยอดเยี่ยมของ ฉูจงฉวน เปลวไฟสีเขียวเข้มถูกจุดขึ้นบนอสูรทะเลแต่ละตัว ทำให้พวกมันร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกและเจ็บปวด
พวกมันยังคงพยายามถ่มน้ำลายใส่ร่างของตัวเอง แต่ในขณะที่พวกมันยับยั้งบาดแผลได้เพียงเล็กน้อย ไฟแห่งความว่างเปล่าก็เผาไหม้รุนแรงขึ้น
“กรร!”
ร่างกายของพวกมันกระตุกด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรงแล้วจึงล้มลงไป
ท้ายที่สุดพวกมันนั้นเป็นเพียงแค่สัตว์วิญญาณทะเลระดับทองที่ถูกบังคับให้ต้องอยู่บนดาดฟ้า ความแข็งแกร่งของพวกมันจึงลดลงอย่างมาก ดังนั้นประสิทธิภาพในการต่อสู้ของพวกมันจึงค่อนข้างแย่
อสูรทะเลนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลยักษาของนรกมนตรา แต่เป็นเพียงเพราะรูปลักษณ์อันน่าเกลียดและมีความคล้ายคลึงกับอสูร จึงถูกตั้งชื่อว่า อสูรทะเล
ทั้งสองเผ่าพันธุ์ไม่เกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิง
“จบแล้ว”ฉูจงฉวนผ่อนคลายเรี่ยวแรงของเขาพลางพูดด้วยความหดหู่ “ข้าเสียอารมณ์มาก ที่ดันจับมาได้เพียงอสูรทะเลไม่กี่ตัว”
หลินยูหลันยิ้มและเข้าไปปลอบโยนเขา
ส่วนหวังซานเองก็เข้าไปดูใกล้ ๆ ที่อสูรทะเล “อสูรทะเลแบบนี้เองก็ทำให้เกิดหมอกได้เช่นกัน พวกเราแทบไม่เห็นพวกมันในทะเลฝั่งเรามาก่อนเลย”
เขาแอบดีใจ เพราะถ้าหากพวกเขาไม่ถูก “จับ” มาเช่นนี้ พวกเขาคงจะต้องถูกพวกอสูรทะเลสังหารในทันทีที่พวกเขาถูกโจมตีแน่ ๆ
นี่เป็นพรที่ได้รับจากความล้มเหลว
หวังซาน ยึดแตรมาจากมือของ เซาเสี่ยวเจีย “เอามาซะ นี่เป็นของพวกเราแล้ว”
เซาเสี่ยวเจียผู้ถูกมัดอยู่อยากร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา
คราวนี้เขาสูญเสียแทบหมดตัวเลยจริง ๆ
ลั่วอู๋มองไปที่แตรเขาขนาดใหญ่อย่างสงสัย “นั้นมันอะไรกัน?”
“แตรที่ทำจากเขาของสัตว์สงครามทะเลเขาเดี่ยว” เหวินเสี่ยวกล่าวขึ้นมาจากอีกด้านหนึ่ง “ข้าไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าทีมล่าสัตว์จะมีสมบัติเช่นนี้ มันมีค่ามากกว่าเงือกแห่งห้วงลึกเสียอีก”
ลั่วอู๋แปลกใจเล็กน้อย เขาเองก็เคยได้ยินเกี่ยวกับสัตว์สงครามทะเลเขาเดี่ยวมาก่อน
มันเป็นสัตว์วิญญาณระดับสูงแห่งพื้นทะเล โดยมันมีเอกลักษณ์มาก ว่ากันว่าหากสัตว์สงครามทะเลเขาเดี่ยวตัวแรกยังไม่ตาย ทะเลจะไม่ให้กำเนิดสัตว์สงครามทะเลเขาเดี่ยวตัวถัดไปออกมา
สัตว์สงครามทะเลเขาเดี่ยวเองก็ถือว่าเป็นสัตว์วิญญาณภูต
โดยเขาของสัตว์สงครามทะเลเขาเดี่ยวนั้นสามารถปัดเป่าหมอก หรือทำให้จิตใจของศัตรูรู้สึกหวาดกลัวได้ มันสามารถกดดันสัตว์วิญญาณในทะเลได้ด้วยวิธีพิเศษบางอย่าง
แต่แน่นอนว่ามันทำได้เพียงแค่สามารถกดดันสัตว์วิญญาณในทะเลทั่ว ๆ ไป หากเป้าหมายในการทำให้ยอมจำนนแข็งแกร่งเกินไปก็จะไม่ได้ผล
อย่างไรก็ตามมันค่อนข้างถาวรและทั่วถึง
“ข้าไม่คาดคิดเลยว่าเราจะได้อะไรดี ๆ แบบนี้มา” ลั่วอู๋หยิบแตรที่ทำจากเขาของสัตว์สงครามทะเลเขาเดี่ยวมาดูอย่างมีความสุข
หวังซาน ก้มศีรษะแล้วถามเขา “ท่านลั่ว ท่านจะจัดการกับทีมหมีขาวอย่างไรดี ?”
“ ทำตามใจที่เจ้าชอบได้เลย” ลั่วอู๋กล่าว
หวังซาน รู้สึกยินดีมาก
เขาเดินไปหา เซาเสี่ยวเจีย และหัวเราะ “ฮ่าฮ่า เซาเสี่ยวเจีย ตอนนี้เจ้าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าแล้ว”
“เจ้ากำลังทำผิดครั้งใหญ่” เซาเสี่ยวเจีย จ้องมองเขาด้วยความโกรธ
“ท่านลั่วเขาไม่เชื่อฟังข้า ข้าฆ่าเขาได้ไหม” หวังซานหันหน้าไปถาม
“ ตามใจ … ”
เมื่อได้ยินดังนั้นเซาเสี่ยวเจียก็ตัวสั่นไปหมด เขาพูดด้วยความตกใจว่า “เดี๋ยวก่อน ข้ายอมแล้ว ยอมแล้ว”
ในที่สุดทีมหมีขาวก็เต็มใจที่จะเข้าร่วมทีมทะลวงน้ำแข็ง
นอกจากนี้ยังเรือของพวกเขาเมื่อได้แรงงานมาเพิ่ม ก็ทำให้เรือสามารถเดินสมุทรได้อย่างสมบูรณ์ความเร็วของเรือตอนนี้กลับมาสามารถเร่งได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งสัตว์ประหลาดทะเลแปดหนวดและสิงโตทะเลจักรพรรดิในการช่วยดึงเรืออีกต่อไปแล้ว