ไหปีศาจ - บทที่ 447 ทุ่งน้ำแข็ง
บทที่ 447 ทุ่งน้ำแข็ง
บทที่ 447
ทุ่งน้ำแข็ง
ฝูงชนเข้ามารวมตัวกันรอบ ๆ อสูรทะเลทั้งเจ็ดตัวที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
“ความแข็งแกร่งของพวกมันไม่ได้สูงมาก แต่พลังในการเอาตัวรอดของพวกมันนั้นค่อนข้างสูง ขนาดข้าใช้ไฟแห่งความว่างเปล่ากับมัน พวกมันก็ยังไม่ตายเสียที” ฉูจงฉวน กล่าว
หลี่หยิน, องค์หญิงเจียโรว และ หลินยูหลัน ยืนห่างออกไปเล็กน้อย
เนื่องจากพวกมันน่าเกลียดมาก และก็น่ากลัวด้วย
ทั่วร่างกายของอสูรทะเลนั้นเต็มไปด้วยเมือกเหนียว ดูน่ารังเกียจมาก.
พวกนางไม่กลัวที่จะต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวนี้ แต่โดยสัญชาตญาณแล้ว พวกเขาต้องการที่จะอยู่ห่าง ๆ พวกมัน
“ ข้าต้องการจับเงือกแห่งห้วงลึก เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับพระราชวังเป่ยหมิงของทะเลเหนือสุดขอบ แต่ดูเหมือนว่าจะทำแบบนั้นไม่ได้เสียแล้ว” ลั่วอู๋ครุ่นคิดสักครู่แล้วจึงพูด “นี่หมายความว่า พวกเราไม่จำเป็นต้องกังวลงั้นหรือ ?”
ใบหน้าของ เหวินเสี่ยว ดูเคร่งเครียดเล็กน้อย” อสูรทะเลเองก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ทะเลนี้ พวกมันเองก็เป็นสัตว์วิญญาณที่อาศัยอยู่ในทะเลเหนือสุดขอบส่วนลึกเช่นกัน ”
ทุกคนต่างตอบรับในทันที
เนื่องจากการปรากฏตัวของเงือกแห่งห้วงลึก พวกเขาจึงกังวลว่ามีบางอย่างผิดปกติกับพระราชวังเป่ยหมิง
แต่การปรากฏตัวของ อสูรทะเลเองก็แสดงให้เห็นถึงปัญหาเดียวกัน มันต้องมีความปั่นป่วนบางอย่างเกิดขึ้นในส่วนลึกของทะเลเหนือสุดของแน่ มิฉะนั้นอสูรทะเลคงไม่ออกมาจากที่อยู่อาศัย มาถึงน่านน้ำภายนอกแบบนี้
“ข้าอยากจะถามพวกมัน”
เหวินเสี่ยวเรียกสัตว์วิญญาณตัวที่สองของเขา ภูตน้ำ ออกมา
มันเป็นสัตว์วิญญาณระดับ ทอง ที่มีพลังในการควบคุมน้ำ รูปร่างเหมือนเสือสีขาวสง่างาม มันมีปีกสีขาว และดวงตาเหมือนกับไพลิน ล่องลอยอยู่ในอากาศ ความสามารถในการควบคุมน้ำของมันยอดเยี่ยมมากและมีทักษะสนับสนุนมากมาย
เป็นภูตที่มีคุณค่ามาก
ทักษะ สายน้ำเยียวยา ระดับ A
ลูกบอลน้ำลอยอยู่ในอากาศ จากนั้นหยดน้ำขนาดเล็กก็หยดลงบนร่างของอสูรทะเล ทำให้อาการบาดเจ็บของพวกมันก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
ทักษะนี้มีผลอย่างดีเยี่ยมในการฟื้นฟูสัตว์วิญญาณที่มีคุณสมบัติธาตุน้ำ
อสูรทะเลตื่นขึ้นมา
มันดูตื่นตระหนกมาก ปากส่งเสียงฮึดฮัด ร่างกายพ่นพิษออกมาเหมือนอยากจะหนีไปให้พ้น ๆ แต่มันก็ถูกเหวินเสี่ยวกดลงกับพื้น
เหวินเสี่ยวนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เขาได้กลายเป็นผู้ใช้เทพตกสวรรค์ ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของเขาอยู่ในอันดับต้น ๆ ของเพื่อน ๆ ทั้งหมด
เขาใช้ทักษะสื่อสารวิญญาณในทันที
“บอกมาซะว่าทำไมพวกเจ้าถึงออกมาที่นี่” ดวงตาของ เหวินเสี่ยวดูเย็นชา ความมืดพรั่งพรูออกมาจากร่างกายของเขาราวกับจะกลืนกินทุกสิ่ง
ทว่าทุกคนไม่ได้แสดงความประหลาดใจใด ๆ ต่อหน้าฉากนี้
พวกเขาไม่ได้โง่ การที่คนที่มีนิสัยรักใคร่เปลี่ยนไปอย่างมาก ย่อมส่งผลให้สัตว์วิญญาณมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นกัน
แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเดาเหตุผลที่แท้จริงได้ แต่เราทุกคนก็รู้ดีว่าเหวินเสี่ยวน่าจะประสบกับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ทราบสาเหตุ
อสูรทะเล ตัวสั่นด้วยความกลัวจากนั้นก็ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด
ลั่วอู๋เองก็ใช้ทักษะสื่อสารวิญญาณเช่นกัน
เขาได้ยินอสูรทะเล กล่าวคำพูดมากมายเพื่อขอความเมตตา
ต่อมาพวกมันก็บอกว่า พวกมันถูกส่งออกไปเพื่อมองหาที่อยู่อาศัยใหม่เนื่องจากที่อยู่อาศัยเดิมกำลังจะเปลี่ยนไป และพวกมันต้องหาพื้นที่ทะเลใหม่ที่ปลอดภัยเพื่อให้พวกมันทั้งหมดสามารถอาศัยอยู่ได้ ดังนั้นพวกมันจึงว่ายข้ามทะเล มายังสถานที่แห่งนี้
หัวใจของลั่วอู๋ขยับ
กำลังเปลี่ยนไป?
เมื่อฟังต่อไปเรื่อย ๆ ในที่สุดอสูรทะเลก็พูดถึงสถานที่ที่สำคัญที่สุด
ร่างของสัตว์วิญญาณขนาดยักษ์ในส่วนลึกของทะเลเหนือหลุดออกไปจากตำแหน่งเดิมมาก มีแนวโน้มว่ามันจะตกไปในเวลาอันรวดเร็ว ทะเลเหนือกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สัตว์วิญญาณที่อ่อนแอเช่นพวกมัน จึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่นี้
ลั่วอู๋สับสนเล็กน้อย
ทว่าเหวินเสี่ยวกลับมีใบหน้าที่เคร่งเครียดกว่าเดิม เขาตะโกนถามต่อไป “เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่เจ้าออกมาข้างนอกนานแค่ไหนแล้ว บอกข้าที!”
“สาม สามเดือน” อสูรทะเล ตอบด้วยความหวาดกลัว
เหวินเสี่ยวกำหมัดแน่นและทุบหัวของอสูรทะเลลง
“ไม่มีเวลาแล้ว พวกเราต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด” เหวินเสี่ยวหายใจไม่ออก เขาแทบรอไม่ไหว
ซึ่งทุกคนต่างเข้าใจดี
ดูเหมือนว่าอาจมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับพระราชวังเป่ยหมิง
หวังซาน ถาม “ข้าควรจะทำอย่างไรกับ อสูรทะเล เหล่านี้”
“ ฆ่ามันซะ” เหวินเสี่ยวโบกมือด้วยความรังเกียจ
แม้ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในส่วนลึกของทะเลเหนือสุดขอบ แต่พวกมันก็อยู่ในประเภทของสัตว์วิญญาณที่มักจะโจมตีมนุษย์ในพระราชวังเป่ยหมิง ไม่มีทางที่ชาวทะเลเหนือสุดขอบจะใจอ่อนกับพวกมัน
หวังซาน และ เซาเสี่ยวเจีย ลับคมดาบของพวกเขา แน่นอนว่าลั่วอู๋เองก็รีบเก็บมันเข้าไปปลดผนึกหนังสือสัตว์วิญญาณไว้ก่อนด้วย
เรือแล่นไปข้างหน้ามุ่งสู่ส่วนลึกของทะเลเหนือ
อุณหภูมิต่ำลงเรื่อย ๆ จนเริ่มมีน้ำแข็งลอยอยู่รอบ ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ บางครั้งก็มีเป็นธารน้ำแข็งเล็ก ๆ ลอยอยู่บนผิวน้ำทะเลให้เห็น แม้ธารน้ำแข็งพวกนั้นจะมีขนาดเล็ก แต่ก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาขนาดของน้ำแข็งที่ซ่อนอยู่ในก้นทะเลได้
ในที่สุดหลังจากสามวันของแล่นเรือ
น้ำแข็งจำนวนมากเริ่มปรากฏขึ้นข้างหน้า
พวกเขาได้มาถึงดินแดนทุ่งน้ำแข็งของทะเลเหนือ ที่นี่มีสัตว์วิญญาณอาศัยอยู่ในทุ่งน้ำแข็งไม่มากนักและพวกมันก็น่าจะสามารถต้านทานพวกเขาได้ นี่เป็นข่าวดีเลยทีเดียว
สัตว์วิญญาณที่น่ากลัวจริงๆทั้งหมดที่นั้นซุ่มซ่อนอยู่ใต้ทะเลลึกที่นี่จึงไม่มีปัญหาอะไร
เรือถูกนำไปจอดทิ้งไว้
เรือประเภทนี้มักจะขอให้ผู้แข็งแกร่งระดับทองขั้นสูงที่รู้ทักษะห้วงมิติ ยอมสละเวลาลงตราห้วงมิติเอาไว้ให้มันสามารถลดขนาดลงได้
เมื่อผู้ใช้พลังวิญญาณไปถึงระดับทองขั้นสูง พวกเขาจะสามารถเริ่มเข้าใจพลังวิญญาณบางรูปแบบได้ จนสามารถเชี่ยวชาญเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับความสามารถทางพลังวิญญาณต่าง ๆ
ในความเป็นจริงสิ่งที่พวกเขาสามารถเข้าใจ นั้นนับว่าเป็นความเข้าใจในพลังที่แท้จริงของทักษะเพื่อปลดปล่อยทักษะออกมาเป็นความหลากหลาย
ตัวอย่างเช่นรองเจ้าสำนัก หลี่หวู่หยวน
เดิมทีเขาไม่มีทักษะในการ ทะลุห้วงมิติ
อย่างไรก็ตาม สัตว์วิญญาณ ของเขาสามารถเข้าใจทักษะห้วงมิติได้ เนื่องจากเขาก็สามารถขุดคุ้ยพลังของมัน และเข้าใจกฎของห้วงมิติเชิงพื้นที่
ดังนั้น หลี่หวู่หยวน จึงสามารถทำลายช่องว่างมิติ หรือสร้างช่องว่างมิติได้ในทันทีทันใด
ยิ่งระดับทักษะและระดับความเชี่ยวชาญสูงขึ้น พลังของทักษะที่สามารถค้นคว้าได้ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
นี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้ใช้พลังวิญญาณ ที่ทำให้พวกเขาเหนือกว่าผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ เพราะพวกเขาสามารถขุดค้นพลังวิญญาณและทักษะออกมาได้หลายชนิด ต่อให้ประสบความล้มเหลวในระยะเริ่มต้น แต่ในภายหลังก็จะสามารถแข็งแกร่งได้เรื่อย ๆ
สุนัขลากเลื่อนสิบตัวถูกปล่อยออกมา
หากต้องการจะข้ามทุ่งน้ำแข็งวิธีที่เร็วที่สุดคือการใช้เลื่อน แม้ว่าจะเป็นผู้มีพลังวิญญาณที่มีมิติวิญญาณสูงพอจนสามารถบินได้ตลอดทาง แต่วิธีนี้ก็ยังดีกว่า
เพราะให้บินไปตลอดทางมันก็ยากเกินไปสักหน่อย
ทุ่งน้ำแข็งนั้นปลอดภัยกว่าทะเลมาก ทีมล่าสัตว์จำนวนมากจึงพยายามข้ามพื้นที่ผจญภัยแล้วมาที่พื้นที่น้ำแข็งเพื่อจับสัตว์วิญญาณ แม้ว่ามันจะลำบาก แต่ก็ปลอดภัยกว่ามาก
ดังนั้นถึงจะมีเรือลากอวนไม่กี่ลำในพื้นที่ผจญภัย แต่ก็มีร่องรอยการจอดเทียบท่าของพวกมันอยู่ทั่วทุ่งน้ำแข็ง
“ถ้าพวกเราข้ามทุ่งน้ำแข็งเข้าสู่พื้นที่ทะเลพิเศษ อุณหภูมิจะลดลงอีกมาก และในทันทีที่พวกเราไปถึงจุดที่ไม่มีน้ำแข็ง ตรงนั้นก็หมายความว่าพวกเราได้ไปถึง พื้นที่ต้องห้าม แล้ว นักล่าสัตว์อย่างพวกเราจะไม่เข้าไปตรงนั้น เพราะหากเข้าไปแล้วพวกเราอาจจะไม่ได้กลับมาอีก” หวังซาน แนะนำ “ถ้าเราต้องการจับ สัตว์วิญญาณ พวกเราควรจะทำตั้งแต่ที่นี่ สัตว์วิญญาณทองขั้นสูงที่มีชื่อเสียงที่สุดของแถบนี้คือ คือหมีขาวหิมะและเพนกวินจักรพรรดิ แต่ถ้าพวกเจ้าต้องการจับมันก็ต้องใช้โชคหน่อย เพราะหมีขาวหิมะนั้นจะมีระดับทองขั้นสูงเมื่อโตเต็มวัย มันจึงแข็งแกร่งมาก ”
สัตว์วิญญาณ ที่ทรงพลังและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในทุ่งน้ำแข็งสองตัวก็คือหมีขาวหิมะและเพนกวินจักรพรรดิ
มันเป็นเจ้าถิ่นของที่นี่
ดังนั้นทีมล่าสัตว์ทั่วไปจึงไม่กล้าที่จะยั่วยุพวกมัน
ที่นี่มีสัตว์วิญญาณที่อ่อนแออื่น ๆ มากมายเช่น หมาป่าน้ำแข็ง ลิงหิมะ นกหยุนชวน แมงมุมน้ำแข็ง ฯลฯ
โดยทั่วไปเมื่อมาถึงพื้นที่ทุ่งน้ำแข็งก็ย่อมจะได้รับบางอย่างกลับไป
“ พื้นที่ต้องห้าม?” ลั่วอู๋ หัวเราะ “อย่าใช้ชื่อที่น่ากลัวแบบนี้ มันก็แค่มีสัตว์วิญญาณทะเลมากกว่าที่อื่นเท่านั้นเอง”
หวังซาน ถามด้วยความตื่นตระหนก “ท่านลั่ว ท่านไม่ต้องการเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามนั้นหรอก ทีมล่าสัตว์ที่เข้าไปในนั้น ไม่เคยได้กลับมาสักราย”
“เพื่อหาเงินทีมล่าสัตว์จะต้องจับสัตว์วิญญาณ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติที่พวกเขาจะต้องประสบอันตราย แต่พวกข้าแค่ต้องการผ่านไป ไม่ได้มีความคิดจะสร้างความเดือดร้อน มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้เกิดหายนะกับพวกข้า” ลั่วอู๋ตอบ
ที่เขาพูดนั้นคือเรื่องจริง
ความแข็งแกร่งของทีมล่าสัตว์ที่เข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามนั้นย่อมแข็งแกร่ง มันเป็นเรื่องปกติที่ผู้แข็งแกร่งจะมีความโลภ แต่เมื่อโลภก็มันจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้ง่าย นี่เป็นเหตุผลสำคัญมากว่าทำไมถึงไม่มีใครเคยรอดกลับมา
นอกจากนี้ยังมี เหวินเสี่ยว ที่สามารถออกมาจากทะเลเหนือสุดขอบส่วนลึกได้โดยไม่มีอันตรายอะไร นี่แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ทะเลเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้
ขณะเดียวกันสุนัขลากเลื่อนสิบตัวยื่นลิ้นออกมาอย่างน่ารักวิ่งไปมาเหมือนกำลังจะกลับบ้านด้วยพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด
“จับไว้!” ฮวงเสี่ยวหยวนสั่งการอย่างเป็นระเบียบ
แม้จะยังเด็กแต่เขาก็มีความรู้มาก
ประกอบกับโชคดีที่สุนัขลากเลื่อนเหล่านี้อดอยาก มันจึงควบคุมได้ง่าย ผู้คนของทีมทะลวงน้ำแข็งจะดึงดูด ล่อพวกมันด้วยเนื้อชิ้นใหญ่ เพื่อให้พวกมันเชื่อฟัง
สุนัขลากเลื่อนถูกวางอานมัดเชือกให้ดึงเลื่อน ราวกับการควบม้าไปข้างหน้า
เลื่อนมีขนาดใหญ่พอสำหรับให้คนจำนวนหนึ่งนั่ง
ซึ่งเหล่าสุนัขเองก็สมกับชื่อสุนัขลากเลื่อนของพวกมัน มันไม่กลัวอุณหภูมิต่ำในน้ำแข็งและหิมะ มันมีพละกำลังมหาศาล จนจำเป็นต้องกัดหิมะเป็นครั้งคราวเพื่อลดความร้อนที่เกิดจากการวิ่ง
นี่เป็นประสบการณ์ใหม่อันน่าสนใจสำหรับพวกลั่วอู๋ การนั่งเลื่อนสัมผัสกับลมหนาวที่พัดเข้ามาในหู ล้อมรอบไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง ทั่วทุกด้านการมองเห็น
ประสบการณ์ในครั้งนี้ช่วยให้พวกเขาได้รู้สึกถึงสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน