ไหปีศาจ - บทที่ 450 ข้าให้เจ้า
บทที่ 450 ข้าให้เจ้า
บทที่ 450
ข้าให้เจ้า
หวังซานในขณะนี้เหมือนกับไก่ที่โดนบีบคอ เขากลัวจนพูดไม่ออก
หลังจากผ่านการต่อสู้มาบรรยากาศของ ลั่วอู๋ นั้นได้ไปถึงระดับสูงสุดจนเลือดแห่งการต่อสู้ในร่างของเขาเดือดระอุ นอกจากนี้ยังมีคราบเลือดจำนวนมากบนร่างกายของเขา และคลื่นพลังวิญญาณสีแดงอันเข้มข้นของดาบระบำแห่งความตาย
นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว
“ท่านลั่ว … ” หวังซาน ต้องการขอความเมตตา แต่ในวินาทีต่อมาดาบของลั่วอู๋ ก็มาถึงตัวเขา
ดาบแห่งวันพิพากษา
เปลวไฟแห่งความว่างเปล่าแลบออกมาจากใบดาบอย่างไร้ที่ติ
จากนั้นดาบก็ฟันลงไปที่ร่างของหวังซาน
“ฉัวะ”
จากด้านบนลงล่างหวังซานถูกตัดออกเป็นสองส่วนก่อนที่เขาจะมีเวลาแสดงออก จากนั้นเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ก็เผาร่างของเขาและกลายเป็นฝุ่นทันทีและกระจัดกระจายบนพื้น
หวังซานตายในพริบตา
ลั่วอู๋หันหน้าไปมองคนอื่น ๆ พร้อมเม้มริมฝีปาก “คนต่อไปใคร”
ฉากนี้ทำเอาทุกคนขนหัวลุก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เซาเสี่ยวเจีย ความแข็งแกร่งของเขาและหวังซานนั้นเกือบจะเท่ากัน แต่ลั่วอู๋ กลับสามารถฆ่าหวังซาน ได้ในพริบตา เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถฆ่าเซาเสี่ยวเจียได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
ผู้ที่รู้ว่าควรทำอย่างไรในเหตุการณ์ปัจจุบัน นั้นคือผู้เหลือรอด
เขารีบตรงไปคุกเข่าต่อหน้าลั่วอู๋
“ท่านลั่ว ข้าไม่ได้ต้องการทำร้ายท่าน หรือทำร้าย ฮวงเสี่ยวหยวน ข้าแค่ต้องการหนี ข้าผิดไปแล้ว ได้โปรดให้โอกาสข้า ข้าไม่กล้าที่จะทรยศท่านเลยแม้แต่น้อย” เซาเสี่ยวเจียขอร้องด้วยเสียงต่ำ
สมาชิกทีมทะลวงน้ำแข็งและทีมหมีขาวเองต่างก็ไม่สนใจใบหน้าของพวกเขา พวกเขาคุกเข่าลงและร้องขอความเมตตา
ลั่วอู๋ขมวดคิ้วมองพวกเขาด้วยสายตาอันเย็นชาโดยไม่พูดอะไรสักคำ
บรรยากาศที่หดหู่นี้ทำให้หัวใจของผู้คนสั่นสะเทือน
สิ่งที่ทำให้พวกเขากลัวที่สุดคือการที่เรือเริ่มกลับมาทรงตัวเป็นปกติ เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้ภายนอกนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว การที่ลั่วอู๋อยู่ที่นี่นั้นหมายความว่า สัตว์วิญญาณทะเลระดับทองขั้นสูงนั้นถูกกำจัดไปแล้วงั้นเหรอ ?
ทันใดนั้นนี้ทั้งห้าคนคนที่เหลือรวมทั้ง ฉูจงฉวน ก็ได้กลับมา
พวกเขาทั้งหมดต่างมีจิตสังหารอันรุนแรง แม้แต่หลี่หยินก็ยังดูดุร้าย เพราะนางได้เข้าร่วมในการต่อสู้ในระดับสูง ทำให้เงาของฝันร้ายที่อยู่เบื้องหลังนางดูมั่นคงมากขึ้นเรื่อย ๆ
เสื้อผ้าของพวกเขาทุกคนเปียกโชกไปด้วยเลือด ทำให้พวกเขาดูน่ากลัวและแผ่แรงกดดันออกมามากขึ้น
“ฮ่าฮ่า เป็นเวลานานแล้วที่ข้าไม่ได้ต่อสู้อย่างมีความสุขเช่นนี้” ฉูจงฉวนคำรามและหัวเราะออกมา เขายังคงดูอิสระและสบาย ๆ เฉกเช่นปกติ
ฮวงเสี่ยวหยวน คลานลงไปด้วยความกลัว เขาเกือบจะถูกฆ่าโดย หวังซาน ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงมาก จนเขาไม่สามารถสงบลงได้ชั่วขณะ
“พวกท่านทุกคนปลอดภัยดีใช่ไหม?” ฮวงเสี่ยวหยวน ถามอย่างระมัดระวัง
หลินยูหลัน กล่าวด้วยความเฉยเมย “แน่นอนสิว่า พวกเราต้องปลอดภัย เจ้าควรถามว่าสัตว์วิญญาณทะเลข้างนอกสภาพเป็นอย่างไรมากกว่า”
ฮวงเสี่ยวหยวน แอบปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าแล้วมองออกไป เขาเห็นเพียงร่างมหึมาที่จมลงไปในทะเลย้อมน้ำทะเลบริเวณนั้นให้เป็นสีเลือด
พวกเขาฆ่ามันไปแล้ว ฆ่ามันไปแล้วงั้นเหรอ?
ช้างมังกรทะเลไม่ได้ทำให้พวกเขาเดือดร้อนเท่าไหร่นัก
แต่เปิดโอกาสให้พวกเขาปลดปล่อยความสามารถเสียมากกว่า
มันเป็นเป้าหมายในการฝึกที่ดี
ดังนั้นฉูจงฉวน จึงกล่าวออกมาว่าเขาได้ต่อสู้อย่างมีความสุข ที่จริงแล้วพวกลั่วอู๋ทุกคนต่างก็ได้ต่อสู้อย่างมีความสุข
สิ่งที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ ทำไมช้างมังกรทะเลที่พ่ายแพ้ ในตอนท้ายของการต่อสู้ ทำไมมันถึงไม่หนีไป แต่เลือกที่จะสู้จนถึงที่สุดแทน
ฮวงเสี่ยวหยวน คลานกลับมาและมองไปที่ดวงตาของลั่วอู๋ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกลัว
พวกเขาน่ากลัวมาก
พวกเขาฆ่าได้แม้กระทั่งฆ่าสัตว์วิญญาณร่างยักษ์ตัวนั้น
ผู้คนของทีมทะลวงน้ำแข็งและทีมหมีขาวต่างมองไปที่เหตุการณ์นี้ โดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้แรงกดดันนั้นมากมหาศาลเสียจนพวกเขาไม่สามารถทำอย่างอื่นได้นอกเสียจากขอความเมตตา
“มานี่สิ” ลั่วอู๋โบกมือ
ฮวงเสี่ยวหยวน วิ่งไปอย่างเร่งรีบ แต่เพราะเขาอาเจียนไปหลายครั้ง และกำลังตื่นกลัว เท้าของเขาจึงอ่อนแรงเล็กน้อย “ท่านลั่ว ท่านต้องการจะบอกอะไรข้างั้นเหรอ?”
“ข้าพอใจกับความกล้าหาญของเจ้า” จิตสังหารของลั่วอู๋ ค่อยๆ สงบลง จากนั้นเขาจึงกล่าวพลางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ก่อนหน้านี้คนของทีมทะลวงน้ำแข็งและทีมหมีขาวต่างก็อยากที่จะล่องเรือหนีออกไป เป็นผลให้ ฮวงเสี่ยวหยวน ต้องรวบรวมความกล้าหาญ ยืนขึ้นและดุด่าพวกเขา
ฮวงเสี่ยวหยวน เกาหัวอย่างเขินอาย “ข้าก็แค่โมโห ปกติแล้วข้าคงไม่กล้าทำแบบนั้น”
ความซื่อสัตย์ของเขายิ่งทำให้ลั่วอู๋พอใจในตัวเขามากขึ้น
“ความกล้าหาญบางครั้งมาจากความโมโห” ลั่วอู๋แสยะยิ้มแล้วชี้ไปที่กลุ่มคนที่ยังคุกเข่าอยู่บนพื้นร้องขอความเมตตา “ข้าจะให้ของขวัญแก่เจ้า”
ฮวงเสี่ยวหยวน กำลังสับสน และดูเหมือนจะไม่เข้าใจที่ลั่วอู๋พูด
จากนั้นลั่วอู๋ก็หยิบยาเม็ดสีดำออกมามากกว่า 20 เม็ด ยาเหล่านั้นต่างถูกหลอกหลอนด้วยลมปราณอันแปลกประหลาดราวกับว่ามันมีชีวิต
ยาพิษบาปิน
แม้แต่ภายใต้ระดับมิติวิญญาณทองขั้นสูง ก็ยังแทบไม่มีโอกาสในการรักษา มันเป็นหนึ่งในยาที่มีพิษร้ายแรงที่สุดที่ลั่วอู๋เคยสังเคราะห์ขึ้นมา
มีนักเล่นแร่แปรธาตุไม่กี่คนที่สามารถศึกษายาพิษตัวนี้ได้ เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีเลยบนโลก และลั่วอู๋เองก็ไม่ต้องการขายมันให้พวกเขา
ขณะนี้ถึงเวลาที่เขาจะเอามันมาใช้งานแล้ว
“ เจียโรวขอพลังจากสัตว์นรกพิษห้าสีให้ข้าหน่อย” ลั่วอู๋ กล่าว
องค์หญิงเจียโรว ดูเหมือนจะเข้าใจว่า ลั่วอู๋ ต้องการอะไร นางยื่นมือออกมา ปล่อยหมอกอันสวยงามค่อย ๆลอยออกไป จากนั้นลั่วอู๋ก็ยืมมันมาห่อรอบยาพิษ
สัตว์นรกพิษห้าสีนั้นมีพลังสามารถยับยั้งพิษได้
ตราบใดที่หมอกชั้นนี้ไม่กระจายออกไป ความเป็นพิษในเม็ดยาพิษก็จะไม่แตกออกมา
ลั่วอู๋เดินไปที่เหล่าสมาชิกทีมทะลวงน้ำแข็งและทีมหมีขาว แล้วจึงพูดด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา “กลืนยาพิษพวกนี้เข้าไปซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า”
พวกเขาต่างยืนมองหน้ากัน เพราะแน่นอนว่าไม่มีใครอยากทำ อย่างไรก็ตามพวกเขานั้นไม่มีทางเลือก เพื่อรักษาชีวิตของตัวเองไว้ ในที่สุดพวกเขาก็กัดฟันกลืนยาพิษลงไป
“หลังจากนี้ พวกเจ้าจงติดตาม ฮวงเสี่ยวหยวน และแน่นอนว่าข้าไม่ได้หมายความว่าแค่เฉพาะในการเดินทางครั้งนี้ แต่หมายความว่าหลังจากที่พวกเรากลับไปยังมณฑลเสิ่นชุนแล้วด้วย” ลั่วอู๋พูด “เข้าใจใช่ไหม?”
พวกเขาพยักหน้าอย่างเร่งรีบ
ใครเล่าจะไม่เข้าใจ
ลั่วอู๋ หันไปมองที่ ฮวงเสี่ยวหยวน “พวกเขาเหล่านี้คือผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้า หากเจ้าไม่พอใจเจ้าสามารถจัดการกับพวกเขาได้ตามที่ต้องการ ข้าจะไม่ขัดอะไร”
หลังจากนั้น องค์หญิงเจียโรวก็ได้ทิ้งตราวิญญาณไว้ในมือของ ฮวงเสี่ยวหยวน ทำให้แม้ว่านางจะไม่อยู่ เขาก็สามารถสั่งการให้สัตว์นรกพิษห้าสีถอนพลังของมันได้
และเมื่อพลังของสัตว์นรกพิษห้าสีสลายไปพิษของยาพิษก็จะแตกออกมาโดยธรรมชาติ
ฮวงเสี่ยวหยวนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
โอ้ พระเจ้า ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเงินกว่า 20 คน และ ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทอง 4 คนตกเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาทั้งหมดอย่างนั้นเหรอ?
ความสุขนี้มาอย่างกะทันหันเกินไป
ความแข็งแกร่งของสมาชิกที่เหลือจากทั้งสองทีมล่าสัตว์ นั้นหากนำมารวมกัน ก็ถือว่าความแข็งแกร่งมากเกินกว่าจะประมาทได้ เรียกได้ว่าเพียงพอที่จะแข่งขันกับตระกูลระดับ กลาง ๆ ได้เลยทีเดียว
อู้ววว นี่คือความรู้สึกของการเป็นผู้นำสินะ?
ฮวงเสี่ยวหยวน รู้สึกขอบคุณลั่วอู๋มาก
“ฝากทำความสะอาดจัดการให้เรียบร้อยด้วยล่ะ” ลั่วอู๋ กล่าว
จากนั้นพวกเขาทั้งหกคนก็ขึ้นมายังดาดฟ้า
ดูเหมือนว่าช้างมังกรทะเลยักษ์นั้นจะยังไม่ตาย ร่างของมันยังคงสั่น แต่ก็ไม่มีการขัดขืนใด ๆ และน้ำทะเลรอบ ๆ ก็เต็มไปด้วยสีแดงสดของเลือด
ลั่วอู๋รู้สึกเสียใจเล็กน้อย
เพราะไหปีศาจนั้นไม่สามารถรับ สัตว์วิญญาณที่มีมิติวิญญาณสูงกว่าความแข็งแกร่งของเขาเข้าไปได้
ลั่วอู๋ นั้นอยู่ในมิติวิญญาณเพียงระดับทองเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงสามารถรับสัตว์วิญญาณ เข้ามาได้สูงสุดเพียงแค่ระดับทอง มิติ 10 ความแข็งแกร่งของช้างมังกรทะเลตัวนี้นั้นสูงเกินไป
แต่มันก็ยังพอจะเก็บศพเข้าไปเพื่อปลดผนึกหนังสือสัตว์วิญญาณได้
“ลองใช้แตรที่ทำจากเขาของสัตว์สงครามทะเลเขาเดี่ยวบังคับมันดูสิ” เหวินเสี่ยวกล่าวอย่างกะทันหันจากอีกด้านหนึ่ง
ลั่วอู๋ตกตะลึง
“ ไม่ต้องแปลกใจไป” เหวินเสี่ยวขมวดคิ้วและกล่าว “แตรที่ทำจากเขาของสัตว์สงครามทะเลเขาเดี่ยว สามารถใช้บังคับมันได้ หากเรามีมันช่วยเราก็จะสามารถเข้าถึงส่วนลึกของทะเลเหนือได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น”
ไม่ว่าเรือจะเร็วแค่ไหนก็ไม่สามารถเร็วได้เท่ากับสัตว์วิญญาณแห่งท้องทะเล
เขาของสัตว์สงครามทะเลเขาเดี่ยวสามารถกดดันสัตว์วิญญาณในทะเลได้ แต่แน่นอนว่าระดับมิติวิญญาณและความแข็งแกร่งต้องไม่สูงเกินไป
โชคดีที่ช้างมังกรทะเลนั้นเกือบจะถึงขีดจำกัดของมันแล้ว แตรที่ทำจากเขาของสัตว์สงครามทะเลเขาเดี่ยวจึงสามารถใช้ควบคุมมันได้
นอกจากนี้การควมคุมด้วยแรงกดดันเช่นนี้ย่อมหมายความว่า พวกเขาจะสามารถขับเคลื่อนมันได้โดยที่ไม่ต้องใช้พลังวิญญาณของพวกเขาเอง