CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ไหปีศาจ - บทที่ 457 ความตาย

  1. Home
  2. ไหปีศาจ
  3. บทที่ 457 ความตาย
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 457 ความตาย

บทที่ 457

ความตาย

เมื่อซวนหยู่ฮานได้รับข่าวว่าผู้ปกครองสูงสุดได้เรียกเขาเข้าไปพบ เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

เพราะหลังจากที่ได้จัดฉากการต่อสู้ในห้องโถงหางกวง ซึ่งเป็นพระราชวังของเขา แต่เขาก็ได้เตรียมบทพูดของตัวเองไว้แล้ว

แต่แล้วทุกอย่างที่เขาคิดเอาไว้ก็ถูกลืมเลือนไปจนหมด

ตามแผนการที่กำหนดไว้เหวินเสี่ยวจะลงมือฆ่าหลี่หยุน จากนั้นนายน้อยแห่งวังหลวงอีกห้าคนที่เหลือก็จะฆ่าเหวินเสี่ยว

หลังจากนั้นเหล่าผู้มีอำนาจที่ถูกเรียกให้มารวมตัวกันด้วยเรื่องสำคัญก็จะมาถึงที่เกิดเหตุ แต่พวกเขาก็มาสายไปเกินไปเสียแล้ว

ทันทีที่ซวนหยู่ฮานมาถึงห้องโถงหางกวง เขาก็ต้องตกตะลึง

เพราะเหวินเสี่ยว ยังไม่ตาย?!

มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? เขาไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะสามารถอยู่รอดจนผู้รักษาความสงบมาถึงได้ พวกเขาควรจะมาสายกว่านี้ ทำให้มีเวลาเพียงพอที่จะจบการต่อสู้ก่อนที่พวกเขาจะมา

จากนั้นเขาก็เห็นศพหกร่างที่นอนอยู่บนพื้น

นี่ทำให้เขาตกใจมากอีกครั้ง

แน่นอนว่านายน้อยแห่งวังหลวงทั้งหกคนนี้เป็นคู่แข่งของเขา มันจึงถือเป็นเรื่องดีที่พวกเขาตาย แต่อะไรทำให้พวกเขาตายพร้อม ๆ กันถึง 6 คนได้กัน

เหวินเสี่ยวมีพลังมากพอที่จะบดขยี้นายน้อยแห่งวังหลวงอีกห้าคนที่ตามมาทีหลังด้วยงั้นเหรอ?

นี่มันเป็นไปไม่ได้

ซวนหยู่ฮาน สังเกตเห็น พรรคพวกลั่วอู๋ทั้งห้าคน อย่างรวดเร็วทำให้เขาก็อดสงสัยไม่ได้

เขารู้ว่าเหวินเสี่ยวพาคนกลุ่มหนึ่งกลับมาด้วย แต่เครือข่ายหน่วยสืบข่าวกรองของเขา นั้นจำกัดอยู่แค่ในพื้นที่ทะเลเหนือสุดขอบ เขาจึงไม่สามารถรู้ถึงข้อมูลเบื้องลึกของคนจากอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกาย

เพราะเหตุนี้เขาจึงไม่รู้จักพรรคพวกลั่วอู๋

ในความคิดของเขาตอนแรก คนเหล่านี้จึงเป็นเพียงผู้ติดตามทั่ว ๆ ไป

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นเสียแล้ว

“คนพวกนี้ช่วยเขางั้นเหรอ ? ไม่ ไม่ คนพวกนี้เข้ามาในวิหารได้อย่างไรกัน ? เหวินเสี่ยวพาคนเข้ามางั้นเหรอ ? ถ้าแบบนั้นก็ต้องมีรายงานสิ” ซวนหยู่ฮานกำลังสับสน

เขาไม่ได้คาดคิดถึงสิ่งนี้

เหวินเสี่ยวไม่ได้พาพวกลั่วอู๋เขามาในวิหาร แต่เป็นฝีมือของนักบุญต่างหาก

เขาจึงไม่ได้รับรายงานใด ๆ

“ในที่สุดข้าก็ได้พบกับ ท่านผู้ปกครองสูงสุดและเหล่าผู้อาวุโสเสียที” ซวนหยู่ฮาน รักษาท่าทางที่สง่างามของเขา และแสดงความเคารพยินดีต่อเหล่าผู้มีอำนาจ

เหล่าผู้มีอำนาจต่างพยักหน้า

พวกเขาหลายคนต่างมองซวนหยู่ฮานในแง่ดี

เขาเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อย มีพรสวรรค์ ไม่อวดดีและเด็ดขาด เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้ปกครองสูงสุดของพระราชวังเป่ยหมิงในอนาคต

“มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน?” ซวนหยู่ฮาน แสร้งทำเป็นประหลาดใจแล้วมองไปที่เหวินเสี่ยว ด้วยความตกใจ จากนั้นเขาจึงกล่าวต้อนรับอย่างชาญฉลาด “โอ้ เหวินเสี่ยวเจ้ากลับมาแล้วสินะ”

พวกเขาเป็นพี่น้องที่เติบโตมาด้วยกัน

โดยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาโดยตลอด

มันจึงไม่น่าแปลกใจหากเขาจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้

เหวินเสี่ยวพูดอย่างเย็นชา“ อย่าเสแสร้งให้เสียเวลาเลยน่า พอแผนไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง เจ้าก็ชอบใช้วิธีสกปรกเช่นนี้ตลอด เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว”

จิตสังหารในดวงตาของซวนหยู่ฮานปรากฎขึ้น

ทันทีที่เขาได้ข่าวการกลับมาของเหวินเสี่ยว เขาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายนั้นเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูตปีกแสงนั้นได้กลายเป็นเทพตกสวรรค์

ดังนั้นความระแวงต่อเหวินเสี่ยวจึงเกิดขึ้นในใจของเขาอย่างรวดเร็ว

แต่เขานั้นไม่ได้คาดคิดว่าการเปลี่ยนแปลงของเหวินเสี่ยวจะใหญ่โต จนเขาแตกต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิงขนาดนี้ เหวินเสี่ยวเมื่อก่อนไม่มีทางพูดแบบนี้ได้แน่

“เหวินเสี่ยว เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร เจ้าไปได้ยินข่าวลือมาจากไหนรึเปล่า?” ซวนหยู่ฮาน รู้สึกประหลาดใจและโกรธเล็กน้อย “เจ้าคิดว่าข้าวางแผนอะไรไว้รึไง?”

การแสดงของเขาดีมาก

มันสอดคล้องกับสภาพอารมณ์ในปัจจุบันของเขาเป็นอย่างดี

จูกู่เฉิง พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “พวกเขาบอกว่าต้องการเจอเจ้า ดังนั้นเจ้าจงเผชิญหน้ากับพวกเขาและบอกทุกสิ่งที่เจ้ารู้มาซะ”

เหล่าผู้มีอำนาจของพระราชวังเป่ยหมิงพยักหน้าเล็กน้อย เพราะพวกเขาเองก็อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ซวนหยู่ฮาน เป็นฝ่ายพูดอธิบายก่อน

แน่นอนว่าชุดคำพูดของเขานั้นไร้ที่ติ

เขาเชิญนายน้อยแห่งวังหลวงมาเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ แต่เขานั้นติดธุระบางอย่างทำให้มาสายไปหน่อย

เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

ซวนหยู่ฮานนั้นมีพยานหลายคน เพราะเขาได้ออกจากวิหารในวันนี้เพื่อไปจัดการแก้ปัญหาการจลาจลในพระราชวังเป่ยหมิง มันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดจากจระเข้แห่งห้วงลึก สัตว์วิญญาณระดับทอง มันสูญเสียการควบคุมแล้วกัดเจ้าหน้าที่ พร้อมหลบหนีออกมาไล่โจมตีผู้คนที่ผ่านไปมา และทำลายอาคารต่าง ๆ

โชคดีที่ ซวนหยู่ฮาน มาถึงทันเวลาและได้ทำการสังหารจระเข้แห่งห้วงลึก ช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมากเอาไว้ ทำให้เขาได้รับความโปรดปรานจากคนกลุ่มใหญ่ที่นั่น

จูกู่เฉิง ถามด้วยเสียงต่ำ “เจ้าต้องการเรียกพวกเขามาปรึกษาเรื่องอะไร?”

จุดนี้ต่างหากคือกุญแจสำคัญ

ท้ายที่สุดแล้วการช่วยผู้คน ไม่ได้พิสูจน์ว่าเขาไม่ได้เป็นคนวางแผนการกับดักนี้ขึ้นมา

“เพื่อสำรวจผลกระทบของการควบแน่นคลื่นพลังวิญญาณ” ซวนหยู่ฮาน ถอนหายใจจากนั้นจึงยื่นมือออกไป เขาค่อยๆย่อตัวดูดซับพลังวิญญาณรอบตัวเขาบางส่วนเข้ามา “แบบนี้”

การควบแน่นของพลังวิญญาณ เดิมทีนั้นเกิดจากการรับรู้พลังวิญญาณในอากาศ เมื่อพวกมันถูกรวมอยู่ในมือของเขา มันจึงง่ายที่จะควบแน่นและเริ่มก่อตัวออกมาในลักษณะของของเหลว

ผู้คนในพระราชวังเป่ยหมิงต่างประหลาดใจ

นี่เป็นทักษะที่ยากจะเชี่ยวชาญ

ก่อนที่จะดูดซับการควบแน่นพลังวิญญาณให้การเป็นของเหลวโดยตรงย่อมสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการดูดซึมพลังวิญญาณ และประสิทธิภาพการฝึกฝนพลังวิญญาณ รวมถึงความสามารถในการต่อสู้อย่างต่อเนื่องได้เป็นอย่างมาก

“ข้าอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ของข้ากับพวกเขา เนื่องจากตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับพระราชวัง เป่ยหมิง การเสริมสร้างความแข็งแกร่งจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก” ซวนหยู่ฮาน กล่าวด้วยความเจ็บปวดใจ “แต่ข้าไม่คาดคิดเลยว่า พวกเขาทั้งหมดจะถูกฆ่า ข้าขอโทษ โทษข้าได้เลยที่มาสาย ไม่งั้นข้าก็คงอาจจะสามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้ทัน”

พวกเขาต่างก็มีทักษะในระดับเดียวกัน พวกเขาจึงสามารถยืนยันวิชาของอีกฝ่ายให้กันและกันได้ มันจึงเป็นเรื่องปกติที่บางครั้ง พวกเขาจะพบปะกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการฝึกฝนพลังวิญญาณ

แววตาของเหล่าผู้มีอำนาจของพระราชวังเป่ยหมิงเต็มไปด้วยความพึงพอใจ

ช่างเป็นศิษย์ที่ดียิ่งนัก

เขายินดีที่จะบอกเพื่อน ๆ ในรุ่นเกี่ยวกับประสบการณ์การฝึกฝนของเขา

นอกจากนี้เหล่าผู้มีอำนาจก็ยังรู้สึกโกรธมากเช่นกัน เนื่องจากนายน้อยแห่งวังหลวงเหล่านั้นต่างก็เป็นตัวตนที่จะได้เติบโตไปเป็นแกนนำของพระราชวังเป่ยหมิงได้ แต่ตอนนี้พวกเขากลับเสียชีวิตไปกันหมดเสียแล้ว

พอนึกถึงเรื่องนั้นแววตาของเหล่าผู้มีอำนาจที่มองไปยังพรรคพวกลั่วอู๋ก็ดูอาฆาตมาดร้ายขึ้นมา

ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว

ช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ยากจริง ๆ

นี่มันแย่มาก

ในกรณีนี้แม้ว่าพวกเขาจะพิสูจน์ได้ว่า ซวนหยู่ฮาน เป็นคนวางแผนจริง ๆ แต่มันก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะนายน้อยแห่งวังหลวงเหล่านี้ถูกพวกเขาสังหารไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ได้ว่า ซวนหยู่ฮาน เป็นคนทำ ทุกอย่างเป็นเพียงการคาดเดาของ เหวินเสี่ยว

ในขณะนี้เหวินเสี่ยวมองไปที่ซวนหยู่ฮาน โดยไม่มีความคิดอื่นใดในสายตาของเขานอกจากการฆ่า

ดังนั้น ลั่วอู๋ จึงแสดงท่าทางบอกกับฝูงชนอย่างเรียบ ๆ

จูกู่เฉิง มองไปที่ เหวินเสี่ยว และ ลั่วอู๋ “ถึงเวลาที่พวกเจ้าต้องอธิบายบ้างแล้ว”

“ดี งั้นข้าก่อนเลยก็แล้วกัน” เหวินเสี่ยวจ้องมองไปที่ ซวนหยู่ฮาน “เจ้ายังกล้ายืนอยู่ตรงหน้าข้าอีกเหรอ ?”

“ทำไมจะไม่ล่ะ?” ซวนหยู่ฮาน ยิ้มอย่างใจเย็น

หลังจากนั้นซวนหยู่ฮาน ก็เดินเข้าไปหาเหวินเสี่ยว มีร่องรอยของการดูถูกอยู่ในดวงตาของเขา กรณีนี้เหวินเสี่ยวจะทำอะไรได้? แม้ว่าเขารอดจากเหล่านายน้อยแห่งวังหลวงมาได้ เขาก็สามารถลงโทษเหวินเสี่ยวได้ด้วยกฎของพระราชวังเป่ยหมิงได้ คิดจะมาทะเลาะกับเขางั้นเหรอ ? คิดว่าตัวเองไร้ยางอายได้จริง ๆ แค่ไหม เพิ่มความแข็งแกร่งมาแล้วมันทำไมล่ะ?

ต่อมาเงาของเทพตกสวรรค์ที่ด้านหลังเหวินเสี่ยวก็ควบแน่นขึ้นมาทันใด จากนั้นคลื่นแห่งความมืดก็ปรากฏขึ้น

นี่คือทักษะที่ทรงพลังที่สุดของมัน [ราตรีนิรันดร์]

เกือบจะในเวลาเดียวกัน ลั่วอู๋, ฉูจงฉวน และหลี่หยิน เองก็ลงมือเช่นกัน

ลั่วอู๋เลือกใช้ดาบแห่งวันพิพากษา ในขณะที่ฉูจงฉวนเองก็ไม่ได้ใช้ อัญเชิญเทพเพลิง หรือ ร่างอวตารเทพปีศาจที่ทรงพลัง แต่เลือกดาวตกเพลิงที่เขาคุ้นเคยที่สุดแทน สำหรับหลี่หยิน นางใช้ทักษะหลอกหลอนร่วมกับทะลวงมิติเพิ่มความเร็วในการโจมตีอันน่าทึ่งออกมา

ทั้งสี่ก็พุ่งเข้าไปโดยมุ่งเป้าไปที่ซวนหยู่ฮาน

ซวนหยู่ฮาน ตกใจ

พวกเขาคิดจะทำอะไร?

พวกเขากล้าแค่ไหนกัน

แต่มันก็สายเกินไปที่เขาจะได้คิดอะไร เพราะเขานั้นอยู่ใกล้พรรคพวกลั่วอู๋มากเกินไป

แม้ว่าเขาจะกางโล่พลังวิญญาณและเลือกที่จะหลบหนี แต่เขาก็ยังคงอยู่ในระยะการโจมตีของพวกลั่วอู๋อยู่ดี

ถึง ลั่วอู๋ และ ฉูจงฉวน จะไม่ได้ใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด แต่พวกเขาก็ทำลายสามารถโล่พลังวิญญาณทิ้ง แล้วปล่อยให้หลี่หยินฉีกร่างของซวนหยู่ฮานออกเป็นชิ้น ๆ ได้สำเร็จ

ไม่มีอะไรผิดปกติในการตัดสินใจของเขา เขานั้นเป็นอัจฉริยะไม่ผิดแน่

น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่เอ๋าเฉียนจุน

ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือทั้งสี่ เขาก็เป็นได้เพียงเศษเสี้ยวของความเกลียดชังเท่านั้น

ในชั่วพริบตาชีวิตของเขาก็ถูกตัดขาด

ลั่วอู๋ ไม่รอช้าเขารีบใช้ทักษะไฟทมิฬ ส่วนทางเหวินเสี่ยวเองก็เรียกใช้ทักษะ เปลวไฟทมิฬของตนที่อยู่ในรูปแบบของเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ออกมาเช่นกัน

เปลวไฟทั้งสองชนิดนี้สามารถทำลายทักษะ [ร่างอมตะศักดิ์สิทธิ์จำลอง] ให้ไร้ผลได้

“อา”

แบบนี้นี่เอง

ศพของซวนหยู่ฮานกรีดร้องออกมาด้วยเสียงร้องอันเสียดแทง

เหวินเสี่ยวได้บอกลั่วอู๋ไว้แล้วว่าสัตว์วิญญาณตัวที่สามของซวนหยูฮาน คือสัตว์วิญญาณยักษ์ในทะเลลึก ซึ่งเป็นสัตว์วิญญาณที่มีทักษะ ร่างอมตะศักดิ์สิทธิ์จำลอง อยู่ในครอบครอง

ดังนั้นพวกเขาจึงต้องยับยั้งการทำงานของมัน

เสียงโหยหวนเบาลงไปเรื่อย ๆ

ซวนหยูฮานตาย!

การฟื้นคืนชีพล้มเหลว

เขาตายลงแล้วจริง ๆ

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 457 ความตาย"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์