ไหปีศาจ - บทที่ 463 ทั้งหมดอยู่ในความดูแลของเจ้า
บทที่ 463 ทั้งหมดอยู่ในความดูแลของเจ้า
บทที่ 463
ทั้งหมดอยู่ในความดูแลของเจ้า
ลั่วอู๋กลับไปที่ลาน ในขณะที่คนอื่น ๆ ได้มารวมตัวกันครบแล้ว
ซึ่งเหวินเสี่ยวเองก็เดินเข้ามาถึงพอดี
“ อีกสิบวันทางพระราชวังเป่ยหมิง จะจัดให้เจ้าได้พบกับสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์” “ระหว่างนี้พวกเจ้าสามารถเดินไปรอบ ๆ ได้อย่างอิสระ แต่พวกเจ้าไม่สามารถออกจากพระราชวังเป่ยหมิงได้” เหวินเสี่ยวกล่าว
พวกเขาพยักหน้า แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ออกไปไหนตามใจชอบแน่
เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่าที่นี่มีช้างมังกรทะเลมากกว่า 50 ตัวเฝ้าอยู่
หลินยูหลัน ออกจากวิหารเพื่อไปซื้อของกับ องค์หญิง เจียโรว และ หลี่หยิน ยังไงซะที่นี่ก็เป็นทวีปใหม่ที่พวกเขาไม่เคยเดินทางมา ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่สามารถเห็นได้ในอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกาย
แน่นอนว่าการซื้อของเป็นกิจกรรมที่ดึงดูดผู้หญิงได้เสมอ
องค์หญิงเจียโรว กระตือรือร้นที่อยากจะไปชมวิวทิวทัศน์อยู่แล้ว
นางอยากออกไปสัมผัสข้างนอก เพื่อจะได้เห็นโลกอันกว้างใหญ่
“นายน้อย แล้วข้าจะซื้อของกลับมานะเจ้าคะ” หลี่หยิน กระซิบกับลั่วอู๋
ลั่วอู๋พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ไปเที่ยวให้สนุก แล้วอย่าลืมระวังตัวเรื่องความปลอดภัยด้วยล่ะ”
“ไม่ต้องห่วง นางไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่ไม่มีแรง ไม่มีความเสี่ยงใด ๆ เกิดขึ้นได้หรอกน่า ข้าก็จะปกป้องคนของเจ้าทั้งสองคนเอง” หลินยูหลัน ตบหน้าอกของนางอย่างมั่นใจ
“ ……”
สามสาวเดินจากไป
ฉูจงฉวน แตะคางของเขาแล้วพูดกับตัวเองว่า “ข้ายังไม่รู้เลยแฮะว่า ผู้หญิงในทะเลเหนือสุดขอบจะมีเสน่ห์พิเศษแค่ไหน”
“เฮ้ หลินยูหลัน เพิ่งเดินจากไปเมื้อกี้เองนะ” ลั่วอู๋กลอกตา
ฉูจงฉวน กล่าวอย่างเคร่งขรึม “ข้าแค่ต้องการแสวงหาความงาม อย่าคิดว่าข้าคิดเรื่องสกปรกสิ”
“มันยากที่จะห้ามไม่ให้คนอื่นคิดนะ” ลั่วอู๋สำลัก
จากนั้นฉูจงฉวน เดินจากไปอย่างชาญฉลาด
เขาแค่ไปหาแสวงหาความงามจริงๆ แต่ถ้าเขากล้าที่จะติดต่อสัมผัสกับความงามเหล่านั้น หลินยูหลัน จะเป็นคนแรกที่ฆ่าเขาทิ้ง ให้เป็นเขาเป็นเพียงเงาไปชั่วชีวิต
ฉูจงฉวนเรียกสัตว์วิญญาณทั้งสามตัวของเขาออกมา ให้พวกนางได้เดินเล่นตามต้องการ ..
ภูตไฟและภูตทะเลทรายนั้นมีความภักดีตามธรรมชาติ 100% แต่อาชูร่านั้นยังคงดื้อด้านอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ฉูจงฉวน นั้นมีการสื่อสารที่ดีกับนาง
ส่วนทางลั่วอู๋ก็ได้เดินทางไปที่ท่าของเกาะ
เรือของเขายังอยู่ดีไม่มีปัญหาอะไร
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ฮวงเสี่ยวหยวน และคนของทีมล่าสัตว์นั้นยังคงอยู่บนเรือ หากไม่มีคำสั่งของ ลั่วอู๋ พวกเขาก็ไม่กล้าลงมาโดยไม่ได้รับอนุญาต
“ตื่นเต้นกันหน่อย นายน้อยลั่วกลับมาที่นี่แล้ว” ฮวงเสี่ยวหยวนตะโกน
ทุกคนต่างมาเข้าแถวอย่างพร้อมเพรียงกัน
ต้องบอกว่า ฮวงเสี่ยวหยวน ได้เติบโตขึ้นมามากหลังจากสองเดือนของการเดินทางออกเรือ ตอนนี้เขามีลักษณะของการเป็นผู้นำอย่างเต็มเปี่ยม
“ นายน้อยลั่ว” ฮวงเสี่ยวหยวน กล่าวด้วยความเคารพ
ลั่วอู๋พยักหน้า “ในอนาคตจะไม่มีทีมล่าสัตว์ ต่อไปนี้ให้เรียกตัวเองกันว่า ทีมคุ้มกันทะลวงน้ำแข็งตกลงไหม”
ฝูงชนพยักหน้า
พวกเขาไม่กล้าที่จะออกความเห็น
“พวกเจ้าอยู่ที่นี่และอย่าได้ลงจากเรือ” ลั่วอู๋ มองไปที่ ฮวงเสี่ยวหยวน “ส่วนเจ้ามากับข้า ข้ามีงานต้องให้เจ้าช่วย”
“ขอรับ” ฮวงเสี่ยวหยวนตกลง แล้วจึงเดินลงมาอย่างเร่งรีบ
ลั่วอู๋พาหวงเสี่ยวหยวนไปที่พระราชวังเป่ยหมิง ถนนอันพลุกพล่านเต็มไปด้วยผู้คน การจราจรคึกคักเฟื่องฟูไปด้วยร้านค้า
เสื้อผ้าของคนที่นี่แตกต่างจากในอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกาย
คนส่วนใหญ่สวมเสื้อผ้าที่มีลวดลายคล้ายเกล็ดปลา แต่ไม่หยาบกระด้างและมีรูปแบบเฉพาะตัว ดูเหมือนว่าพวกมันทำจากหนังปลา
ส่วนตระกูลอันร่ำรวยบางตระกูลก็มีเสื้อผ้าที่ดูบอบบางและเรียบเนียนกว่า ซึ่งอาจจะทำมาจากผิวหนังของสัตว์วิญญาณทะเลบางชนิดที่มีผิวเรียบ
ในแผงขายของริมถนนยังมีขนมแปลก ๆ ที่ไม่ซ้ำจำเจ เช่นลูกชิ้นปลาแห้งหอม ๆ , ปลาดิบหน้าตาแปลก ๆ ทรงห้าฉาก, หนวดปลาหมึกย่างชิ้นโตเป็นต้น
ผู้ใช้พลังวิญญาณที่นี่มักจะมีสัตว์วิญญาณเป็นงูทะเล เต่าทะเล นกทะเล และอื่น ๆ
“ท่านลั่ว พวกเรามาทำอะไรกันที่นี่?” ฮวงเสี่ยวหยวนตื่นตากับสิ่งต่าง ๆ แต่เขาก็ยังไม่ลืมธุระของเขา
“การค้า” ลั่วอู๋ กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฮวงเสี่ยวหยวน ระงับความตื่นเต้นภายในใจของเขา “จริงเหรอ? ถ้าท่านสามารถทำธุรกิจที่นี่ได้ล่ะก็ มันจะทำเงินได้มากมหาศาล จากที่ข้าดูคร่าวๆแล้ว มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างจากในอาณาจักรของเรามาก ข้าเกรงว่าแม้ต้นทุนจะแพง แต่ก็คงได้กำไรกลับมาหลายสิบเท่า หากเราจัดการดี ๆ ”
ความหายากคือสิ่งที่มีค่าที่สุด
ชาธรรมดา ๆ ของอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกาย สามารถขายให้กับคนในอาณาจักรภูเขาแห้งแล้งได้ในราคาที่สูงมาก ๆ ทำให้ชนเผ่าสำคัญ ๆ พยายามแย่งชิงมัน และได้รับผลกำไรเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า
ในทำนองเดียวกันนั้นเอง มีดพร้าพิเศษและม้าเชินชิงจูว ของภูเขาแห้งแล้งเองก็สามารถดึงดูดขุนนางในอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกายให้จ่ายซื้อได้ในราคาสูงเช่นกัน
เหตุผลที่ คฤหาสน์ชวนเทียน ยังคงรุ่งเรืองได้ ก็คือการที่ร้านค้าของพวกเขาเชี่ยวชาญช่องทางการค้าระหว่างสองอาณาจักร ซึ่งเทียบเท่ากับการผูกขาดธุรกิจเหล่านี้
ลั่วอู๋รู้สึกถึงผลกำไรอันน่ากลัว
เนื่องจากเขามีความเชี่ยวชาญในช่องทางการซื้อขายกับนรกมนตรา แร่บางชนิดที่มีอยู่ทั่วไปในนรกมนตราจึงสามารถขายได้ในราคาสูงเสียดฟ้าบนอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกาย
ลั่วอู๋พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าเก่งมาก ที่เจ้ามาได้เพียงแค่พักนึงก็ตระหนักได้ถึงเรื่องนั้นอย่างจริงจัง ถูกต้องงานของเจ้าคือการเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างอาณาจักรสองแห่งนี้”
“ท่านต้องการเปิดสาขาของ สำนักโล่พิทักษ์ ที่นี่งั้น เหรอ ?” ใบหน้าเล็ก ๆ อันตื่นเต้นของ ฮวงเสี่ยวหยวน แดงขึ้น “ข้าจะเป็นพนักงานให้ท่านได้ไหม?”
ลั่วอู๋ส่ายหัว “ไม่มันไม่ใช่สำนักโล่พิทักษ์มันคือ ร้านค้าสีฟางต่างหาก”
ฮวงเสี่ยวหยวน ตกตะลึงจากนั้นใบหน้าของเขาก็หมองคล้ำราวกับว่าเขาไม่เชื่อคำพูดของลั่วอู๋
“นายน้อยลั่ว … ”
“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าเข้าร่วมสำนักโล่พิทักษ์ ข้าต้องการให้เจ้าบริหารร้านค้าสีฟางของเจ้าให้ดีธุรกิจทั้งหมดนี้จะเป็นของเจ้า เจ้าเป็นเจ้าของร้านใหญ่” ลั่วอู๋ กล่าว
ทันใดนั้นสมองของเขาก็โล่ง เขาไม่สามารถหยุดสั่นได้
ข้าจะได้เป็นเจ้าของร้านใหญ่?
ทำธุรกิจระหว่างทะเลเหนือสุดขอบกับจักรวรรดิ?
เขารู้ว่าธุรกิจขนาดใหญ่คืออะไร และมันมีความสำคัญมากเพียงใด
เขารู้ดีว่าถ้าเขาคว้าโอกาสนี้ไว้ เขาจะสามารถบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและตระหนักถึงความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาได้
ฮวงเสี่ยวหยวน รู้สึกราวกับว่าเขากำลังตกอยู่ในห้วงความฝัน และเขาก็เริ่มรู้สึกเวียนหัว
แต่ทันทีที่เขาตั้งสติได้ เขาก้มศีรษะลงและกล่าวด้วยความเคารพว่า “ขอบคุณขอรับ ท่านอาจารย์”
เขาไม่ได้พูดว่า นายน้อยลั่วอีกต่อไป แต่เรียกอีกฝ่ายว่า ท่านอาจารย์
“ ไปสำรวจตลาดด้วยกันเถอะ” ลั่วอู๋กล่าวอย่างเรียบ ๆ
จากนั้นทั้งสองก็เริ่มออกไปเที่ยวในย่านร้านค้า
ยาของที่นี่พิเศษมาก พวกมันหลายชนิดได้รับการกลั่นจากเนื้อและเลือดของสัตว์ทะเล ที่นี่มีความต้องการเพียงเล็กน้อยสำหรับสมุนไพรวิญญาณ
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ต้องการดอกไม้วิญญาณและสมุนไพรวิญญาณ ยิ่งไปกว่านั้น มันพิสูจน์ให้เห็นว่าที่นี่ขาดสมุนไพรวิญญาณทุกชนิด บางทีสภาพแวดล้อมของพระราชวังเป่ยหมิงอาจไม่เหมาะกับการเติบโตของสมุนไพรวิญญาณ
ดังนั้นในการเล่นแร่แปรธาตุจึงมักถูกแทนที่ด้วยเนื้อและเลือดของสัตว์วิญญาณที่ทรงพลัง
หากมีสมุนไพรวิญญาณเพียงพอ ธุรกิจที่นี่จะต้องร้อนแรงมากแน่ ๆ
ฮวงเสี่ยวหยวน บันทึกสิ่งที่เห็นลงในสมุดเล่มเล็กอย่างจริงจัง
พวกเขาใช้เวลาทั้งช่วงบ่ายเดินไปรอบ ๆ
สมุดเล่มเล็ก ๆ ของ ฮวงเสี่ยวหยวน ใกล้จะเต็มแล้ว
จากนั้นพวกเขาเดินเข้าไปในห้องเก็บของขนาดใหญ่ที่เรียกว่าร้านค้าสีคราม
ร้านค้าสีครามอาจกล่าวได้ว่าเป็นร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในพระราชวังเป่ยหมิง สถานะของมันก็เท่ากับคฤหาสน์ชวนเทียนของอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกาย
ลูกค้าในร้านนั้นมีเยอะมาก ตราบใดที่เป็นสินค้าในทะเลเหนือสุดขอบ ร้านค้าสีครามก็จะมีมันเกือบทั้งหมด นี่เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการศึกษาตลาด
ในขณะนั้นเองก็มีสัญญาณปรากฏขึ้น
ทันใดนั้นผู้คนทั้งถนนก็เดือดพล่าน
ผู้คนนับไม่ถ้วนรีบเข้ามาในร้าน
ฝูงชนกำลังพลุกพล่าน เป็นฉากอันงดงาม
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพวกลั่วอู๋บังเอิญอยู่ในร้านพอดีก็คงจะไม่สามารถเข้ามาในนี้ได้
มีผู้คนมากมายที่เดินผ่านพวกลั่วอู๋ คงเขาต้องตั้งโล่พลังวิญญาณเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้ามาเบียดเสียด
“คนพวกนี้กำลังทำอะไรกันเนี่ย ? มีเงินก็ค่อย ๆ เลือกซื้อของกันก็ได้ไม่ใช่รึไง ?” ลั่วอู๋พูดอย่างหดหู่