ไหปีศาจ - บทที่ 474 ดาบต้านสวรรค์
บทที่ 474 ดาบต้านสวรรค์
บทที่ 474
ดาบต้านสวรรค์
ทะเลแห่งดวงดาวที่เป็นแก่นวิญญาณของคุนนั้นยอดเยี่ยม ราวกับจักรวาลอันไร้ขอบเขตที่ทำให้เกิดความคิดที่ว่าตัวตนของตัวเองนั้นต่ำต้อยอย่างอธิบายไม่ถูก
คงมีเพียงสัตว์วิญญาณระดับจักรพรรดิเท่านั้นที่สามารถสร้างโลกในร่างกายของตัวเองได้แบบนี้
ลั่วอู๋เลือกที่จะไปยังผนึกที่ใกล้ที่สุดในการรับรู้ของเขา แม้ว่าข้างในนี้จะมีจักรวาลอยู่ แต่มันก็เป็นเพียงโลกจำลองเล็ก ๆ
ไม่นานลั่วอู๋ก็พบผนึกแรก
เขาเห็นดาบเล่มหนึ่งลอยอยู่ในอากาศเหนือพื้น โดยมีเสาไฟห้อยอยู่รายรอบสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของมัน
ดาบนั้นเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขาม แต่ก็ให้บรรยากาศของความสงบสุขออกมาในเวลาเดียวกัน
ราวกับว่าดาบนี้แสดงให้เขาเห็นถึงเส้นแบ่งระหว่างความดีและความชั่ว
ดาบนั้นเป็นอาวุธสังหารหลักของเหล่าผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ ลั่วอู๋ได้เห็นแล้วจากการต่อสู้ของผู้บัญชาการหลิงหลงที่ใช้ดาบสังหารศัตรูต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
อย่างไรก็ตามดาบที่ลอยอยู่ตรงหน้าเขานั้นกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปดาบเล่มอื่น ๆ ที่เขาเคยเห็นโดยสิ้นเชิง
ถึงแม้มันจะแตกต่างจากดาบที่เขาเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ แต่ ลั่วอู๋ ก็สามารถสรุปได้ว่า ดาบเล่มนี้ไม่ใช่ดาบธรรมดา ๆ อย่างแน่นอน
ลั่วอู๋เข้าไปใกล้มันโดยไม่มีอุปสรรคใด ๆ
“ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแค่ภาพเสมือน” ลั่วอู๋พยายามที่จะสัมผัสดาบนั้นด้วยมือของเขา แต่มือของเขาก็แล่นผ่านตัวดาบไป ทำให้รู้ได้ว่านี่ไม่ใช่ตัวดาบจริง ๆ
แต่แค่ภาพเสมือนมันก็แผ่พลังวิญญาณออกมามากมหาศาลเพียงพอให้กลัวได้แล้ว
ลั่วอู๋รู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณอันลึกลับ ราวกับว่าดาบที่อยู่ตรงหน้ากำลังร้องเรียกหาเขา
มันแปลกมาก
ดาบเสมือนจริงนี้ ทำให้ลั่วอู๋มีความรู้สึกอันหลากหลายที่อธิบายไม่ได้
“เจ้าต้องการให้ข้าชำระล้าง เจ้างั้นเหรอ ?” ลั่วอู๋อดคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้
มันเป็นสิ่งที่เขาควรทำในตอนนี้
ลั่วอู๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงใช้ความสามารถ “ชำระล้างบาป”
แน่นอนว่าพลังของความสามารถชำระล้างบาปไม่ได้ จำกัดในการใช้เพียงแค่สัตว์วิญญาณเท่านั้น
แสงสีขาวส่องลงมาที่ดาบ ทำให้ลมปราณของดาบบริสุทธิ์และสะอาดมากขึ้น พลังวิญญาณอันยุ่งเหยิงก็ถูกกวาดออกไปจนสิ้น
พลังวิญญาณของดาบดูเหมือนจะอ่อนแอลงเล็กน้อย แต่ตัวผนึกโดยรอบนั้นดูมั่นคงขึ้นกว่าเดิม
ยิ่งไปกว่านั้นความรู้สึกของการถูกดาบเรียกเข้าไปหาเองก็หายไป จากนั้นมันก็ปรากฏขึ้นตรงจุดผนึกจุดถัดไป
ลั่วอู๋ตะลึง
ผนึกนี้มีสติสัมปชัญญะเป็นของตัวเองงั้นเหรอ?
นี่มันแปลกมาก
ถ้ามันมีสติสัมปชัญญะทำไม มันไม่เรียกจูกู่เฉิงมา แต่กลับเป็นเขา
“ลองไปดูหน่อยดีกว่า” ลั่วอู๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายเขาเดินตรงไปยังจุดผนึกถัดไป
ในสถานที่ปิดผนึกถัดไป มีดาบเสมือนจริงลอยอยู่
“บางทีดาบเล่มนี้อาจแสดงให้เห็น ถึงตำแหน่งของผนึกให้เห็นเป็นรูปธรรม”
ลั่วอู๋ออกแรงใช้ความสามารถชำระล้างบาปอีกครั้ง
ทันทีที่พลังวิญญาณอันยุ่งเหยิงบนดาบสลายไป ความรู้สึกถูกร้องเรียกอันไม่สามารถอธิบายได้ก็ปรากฏขึ้นในจุดผนึกถัดไป
ลั่วอู๋เดินไปยังผนึกต่อ ๆ ไป
เป็นสิบเจ็ดครั้งติดต่อกัน
จุดผนึกทั้งสิบเจ็ดแห่งต่างก็มีดาบเสมือนจริงนี้ลอยอยู่
หลังจากชำระล้างบาป พวกมันแต่ล่ะจุด ความรู้สึกถูกร้องเรียกก็จะปรากฏในที่ต่อไป
จนในที่สุดลั่วอู๋ก็มาถึงจุดผนึกอันสุดท้าย
ในที่สุดดาบตรงผนึกก็ไม่ใช่เพียงแค่ของเสมือนจริง
ใบดาบนั้นเรียบง่ายและดูเก่าแก่ มันมีรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์และลมปราณอันเงียบสงบ เหมือนกับดาบของนักดาบผู้มุ่งมั่นที่อุทิศตนเพื่อความยุติธรรม
“เป็นดาบที่ดีเลย” ลั่วอู๋โพล่งออกมา
ดาบนี้นั้นให้ความรู้สึกอันคุ้นเคยแปลก ๆ
ลั่วอู๋ลองย้อนนึกถึงมันอย่างรอบคอบ เขาเคยไปเยี่ยมชมทั้งคฤหาสน์สุตราและหอสมุดหยุนเฉียน เขาได้อ่านหนังสือโบราณมาเป็นจำนวนมาก
ไม่นานนักเขาก็จำมันได้
เมื่อหลายหมื่นปีก่อน ในสมัยที่ศิลปะการต่อสู้โบราณยังเจริญรุ่งเรือง ดาบคืออาวุธที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดอาวุธสำหรับเหล่าทหารหลายร้อยนาย วีรบุรุษหลายคนต่างเลือกใช้ดาบต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์ ก่อให้เกิดดาบที่มีชื่อเสียงหลายสิบเล่ม ซึ่งพวกมันต่างก็ได้รับการยอมรับและยกย่องจากผู้คนทั่วโลก
ดาบที่อยู่ตรงหน้าเขาเองก็เช่นกัน มันเป็นหนึ่งในสิบดาบที่มีชื่อเสียงที่สุดในบันทึกโบราณ
ว่ากันว่าเมื่อดาบเล่มนี้ถือกำเนิดขึ้น ทั่วทั้งสวรรค์ได้สั่นสะเทือนพร้อมกับสายฟ้าฟาดสีดำอันน่ากลัวกินเวลานานถึงสิบวันสิบคืน ราวกับการลงโทษจากสวรรค์
อย่างไรก็ตามดาบนี้ก็สามารถผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ มันถูกอาบด้วยการสายฟ้าทำให้ขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้น
แม้แต่การลงทัณฑ์ของสวรรค์ก็ไม่สามารถทำลายมันได้ ดาบที่ผ่านสิบวันสิบคืนอันทรหดของมรสุมฟ้า จึงถูกเรียกว่าดาบต้านสวรรค์
“ดาบที่หายไปเมื่อหลายหมื่นปีก่อนมาอยู่ที่นี่นี่เอง” ลั่วอู๋พึมพำ “เจ้าเรียกหาข้างั้นเหรอ?”
ทว่าในไม่ช้าความรู้สึกเรียกร้องที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็หายไป
และมันก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย
“อยากให้ข้าใช้ ชำระล้างอีกไหม?” ลั่วอู๋พยายามที่จะชำระล้างบาปให้กับดาบ
แต่แล้วช่วงเวลาที่ทำให้ลั่วอู๋ต้องหดหู่ก็เกิดขึ้น
แม้ว่าเขาจะใช้พลังวิญญาณจนหมด แต่เขาก็ยังไม่สามารถชำระล้างพลังวิญญาณอันยุ่งเหยิงที่เป็นดั่งจุดด่างดำบนดาบในตำนานออกไปได้ แม้แต่หนึ่งเปอร์เซ็นต์
“ ไม่จริงน่า ต้องทำเป็นร้อย ๆ ครั้งเลยงั้นเหรอ?” ลั่วอู๋เลิกความคิดที่จะชำระล้างมันไปก่อน
เขาต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ชดเชยพลังวิญญาณของเขาที่หมดลง เขาไม่สามารถอยู่ที่นี่เป็นเวลานานได้
“ ดูท่า ข้าไปก่อนเลยดีกว่า”
ในจังหวะที่ลั่วอู๋พร้อมจะจากไป เสียงเรียกที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ตำแหน่งของมันคือจุดเริ่มต้นในตอนแรก สถานที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของสระน้ำทองคำ
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ลั่วอู๋ ก็เดินกลับไป
เขาต้องการเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อมาถึงสระทองคำ ลั่วอู๋ ก็ไม่ได้เข้าใกล้มันจนเกินไป เนื่องจากเขากังวลว่าจะไปสัมผัสกับน้ำในสระสีทอง ที่เปรียบได้ดั่งยาพิษโดยไม่ได้ตั้งใจ
ในขณะที่เขากำลังตกตะลึง เงาสีฟ้าที่อยู่กลางสระน้ำสีทองก็ขยับ
สัตว์วิญญาณระดับจักรพรรดิ คุน ตื่นขึ้น โดยที่เขาไม่ได้คาดคิด!
“เจ้าเรียกข้างั้นเหรอ?” ลั่วอู๋ใช้ทักษะ สื่อสารวิญญาณกับมันในทันที
“ใช่…”
พลังวิญญาณอันคลุมเครือและอ่อนแอถูกส่งออกมา
“คลื่นทะเลแก่นวิญญาณของข้าทำให้ข้าต้องตื่นขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจ ได้โปรดใช้พลังลึกลับนั้นอีกครั้ง ช่วยข้าคลายให้พลังของผนึกให้อ่อนลงที”
ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ
ตอนแรกเขาคิดว่าดาบในตำนานกำลังเรียกหาเขา แต่ที่จริงแล้วมันเป็นจิตวิญญาณของ คุน ที่กำลังพยายามก่อความเสียหาย โดยจุดประสงค์หลักของมันก็คือทำให้ผนึกนั้นอ่อนแอลงโดยพลังชำระล้างบาปของลั่วอู๋
ผนึกน้ำทั้งสิบแปดจุดต่างเต็มไปด้วยพลังวิญญาณที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากได้รับการเสริมความแข็งแกร่งโดยปรมาจารย์ของพระราชวังเป่ยหมิงหลายคนตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามพลังของความสามารถ ชำระล้างบาปได้ชะล้างพลังวิญญาณเหล่านั้นออกไป ทำให้ผนึกเปลี่ยนกลับไปเป็นแบบเดิม
ในไม่ช้าลั่วอู๋ก็คิดได้ว่าทำไม
“ทำให้พลังของผนึกอ่อนแอลง ? เจ้าต้องการหลุดออกจากมันงั้นเหรอ?” หัวใจของลั่วอู๋จมลง เขารู้สึกผิดที่ช่วยคุนทำลายผนึกของมัน
เสียงอันคลุมเครือดังขึ้นมาอีกครั้ง “ไม่ ข้าแค่ไม่อยากตาย”
พลังของผนึกที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้คุนอ่อนแอลง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปมันจะต้องถูกฆ่าตายด้วยพลังของผนึก
นี่ทำให้จุดประสงค์ของ จูกู่เฉิง และ คุน นั้นคล้ายคลึงกัน
“ ถ้าข้าแก้ผนึกให้กลับสู่สภาพเดิม เจ้าก็จะไม่อ่อนแอลงอีกต่อไป แต่เจ้าจะนอนต่อไปใช่ไหม?” ลั่วอู๋ ถาม
“ใช่”
“เจ้าไม่ได้ต้องการให้ข้าทำลายผนึกให้เจ้างั้นเหรอ ?” ลั่วอู๋สงสัย
“ไม่ เจ้ามันอ่อนแอเกินไป” เจตจำนงของคุนที่ถูกส่งมานั้นไม่ต่อเนื่องเท่าไหร่ เห็นได้ชัดว่าเนื่องจากการมีอยู่ของผนึก มันจึงกำลังจะกลับเข้าสู่ห้วงนิทราในไม่ช้า
ลั่วอู๋รู้สึกโล่งใจที่ได้ยินสิ่งนี้
เขาอ่อนแอเกินไปที่จะทำลายผนึกคุน เขาจึงไม่น่าจะสามารถทำมันได้
นี่ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่เลย
ด้วยวิธีนี้อย่างน้อยเขาก็มั่นใจได้ว่าตัวเองจะไม่พลาด ไปทำให้ผนึกเสียหาย
แม้ลั่วอู๋จะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ แต่ความสงสารของเขาก็เอ่อล้นขึ้นมา เมื่อเขาเห็นสัตว์วิญญาณที่กำลังถูกผนึกอย่างน่าสงสาร
สำหรับเขาสภาพของคุนนั้นน่าสงสารมาก
แต่ถ้าเขาทำลายผนึก พระราชวังเป่ยหมิงก็ล่มสลาย ทำให้ผู้คนหลายร้อยล้านคนต้องตาย
“โทษชายที่ปิดผนึกเจ้าเถอะนะ”
ลั่วอู๋ไม่คิดจะหนีไปอีกแล้ว
เพราะดูเหมือนว่าเขาจะพบวิธีที่จะทำให้ คำขอของพระราชวังเป่ยหมิงเสร็จสมบูรณ์แล้ว
นอกจากนี้
ดวงตาของลั่วอู๋มองลงไปที่สระน้ำสีทองอีกครั้ง
เขาไม่ต้องการค่าตอบแทนใด ๆ นอกจากสิ่งดี ๆ แบบนี้