ไหปีศาจ - บทที่ 477 การเดิมพัน
บทที่ 477 การเดิมพัน
บทที่ 477
การเดิมพัน
จูกู่เฉิง ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยสักนิด
ในเมื่อเขาไม่มีทางในการฟื้นฟูสภาพของปลาตัวใหญ่ได้ ก็แค่ทำให้พลังของผนึกลดลงกลับไปดังเดิมก็พอไม่ใช่เหรอ? แค่ปรับสมดุลให้กลับมาเป็นดังเดิมก็พอ
แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่อะไรที่เขาสามารถทำได้
ผนึกนั้นได้รับการเสริมความแข็งแกร่งโดยผู้ปกครองสูงสุดรุ่นต่าง ๆ ที่ผ่านมาเป็นจำนวนมาก จนความแข็งแกร่งของผนึกนั้นขึ้นไปถึงขีดสุด
ผู้ปกครองสูงสุดทุกคนต่างก็กังวลว่าผนึกจะได้รับความเสียหายเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ปลาตัวใหญ่สามารถทำลายผนึกออกมาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อเสริมกำลังของผนึก
ที่พวกเขาเสริมผนึกซ้อนทับกันขึ้นไปก็ด้วยเหตุนี้
ด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละ ในที่สุดพวกเขาก็ตัดโอกาสในการทำลายผนึกของปลาตัวใหญ่ไปได้โดยสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามเพราะผนึกนั้นก็กำลังจะทำให้ปลาตัวใหญ่สูญสิ้น ไปพร้อมกับพระราชวังเป่ยหมิงที่อยู่บนตัวของมัน
ถ้าจูกู่เฉิงต้องการทำให้พลังของผนึกอ่อนแอลงกลับไปเป็นดังเดิมแล้วล่ะก็ เขาจะต้องใช้ความแข็งแกร่งของคนคนเดียว เข้าต่อสู้กับความพยายามร่วมกันของผู้ปกครองสูงสุดทุกคนที่ผ่านมาในอดีตทั้งหมดในอดีต
มันไม่ใช่อะไรที่เขาคนเดียวสามารถทำได้
ผู้ปกครองสูงสุดทุกคนที่ผ่านมาต่างก็เป็นผู้ที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้น ๆ ของพระราชวังเป่ยหมิง
หากเขาต้องการจะแก้ไขผนึกอันแข็งแกร่งที่พวกเขาทิ้งเอาไว้ข้างหลังแล้วล่ะก็ คงไม่มีใครสามารถทำมันได้นอกจากผู้ใช้พลังวิญญาณระดับจักรพรรดิ
“เจ้า…เจ้าทำได้อย่างไร?” จูกู่เฉิง พยายามระงับความตกใจภายใน เพื่อจะได้ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา
ลั่วอู๋ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้ามีวิชาพิเศษ ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถบอกเจ้าได้”
จูกู่เฉิงทำจิตใจให้มั่นคงและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “เอาเถอะ ที่แน่ ๆ ตอนนี้มันยังไม่พอ ผนึกทั้ง 18 ตัวยังคงแข็งแกร่งเกินไป และสภาพของปลาตัวใหญ่เองก็ยังคงอ่อนแอลงอยู่ เรื่อย ๆ”
“ เจ้ารีบเหรอ?” ลั่วอู๋ ไม่พอใจ “เจ้าไม่พอใจที่ข้าทำไปทีละทีละขั้นตอนรึไง เจ้ามาทำเองไหม?”
จูกู่เฉิง รู้สึกสำลักในคอ เขาไม่กล้าที่จะหักล้างอีกฝ่าย
เขารู้ดีว่าตนเองไม่ควรคุกคามเด็กคนนี้ในตอนนี้
เหวินเสี่ยวตกอยู่ในความงุนงง
อย่างไรก็ตามจากคำพูดของ จูกู่เฉิง เขาก็สามารถเข้าใจได้โดยธรรมชาติว่า ลั่วอู๋ ประสบความสำเร็จ
เขาสามารถแก้วิกฤตของพระราชวังเป่ยหมิงได้แล้ว
ที่เขายังสับสนก็คือ ผนึกหมายถึงผนึกอะไร? ปลาตัวใหญ่ที่พูดถึงคือเรื่องอะไร?
“เจ้าต้องการเวลานานแค่ไหน?” จูกู่เฉิง ถาม
ลั่วอู๋คิดว่า “คาดว่าข้าจะต้องใช้เวลาประมาณสี่หรือห้าเดือน”
“ไม่เลว ไม่เลว” จูกู่เฉิง ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่มีปัญหาไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ใช่ไหม?”
“ เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” ลั่วอู๋อย่างสับสน
จูกู่เฉิง ชี้ไปที่เงาสีฟ้า ณ ใจกลางสระน้ำ “ปลาตัวใหญ่ตื่นขึ้นมาบ้างรึยัง?”
“ก็ไม่นะ” ลั่วอู๋เลือกที่จะโกหกโดยไม่รู้ตัว
เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
แต่ลั่วอู๋ไม่ต้องการให้คนนอกรู้เกี่ยวกับความเชื่อมโยงที่เขามีกับคุน
โดยเฉพาะคนของพระราชวังเป่ยหมิง
จูกู่เฉิงโล่งใจ “ดีจัง ปลาตัวใหญ่มีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งมาก แม้ว่ามันจะตื่นขึ้นมาเพียงครู่เดียวมันก็สามารถฆ่าเจ้าได้อย่างง่ายดาย”
“เจ้าบ้า เจ้าไม่ได้บอกข้าแบบนั้น ก่อนหน้านี้นี่” ลั่วอู๋แทบจะพลิกตัว ณ จุดนั้น
“ อย่าเพิ่งตื่นเต้นไป” จูกู่เฉิงอธิบาย “มันแทบจะไม่เคยตื่นขึ้นมาเลย ข้าแค่ถามในกรณีที่มันเกิดขึ้น”
มีความเคลื่อนไหวสั่นกลัวในหัวใจของลั่วอู๋
มันแทบจะไม่ตื่น?
แต่นี่มันตื่นขึ้นมาถึงสองครั้งในเดือนเดียว
แสดงว่า จูกู่เฉิง ไม่รู้สึกตัวเมื่อมันตื่นขึ้นมา?
“ฮึ่ม” ลั่วอู๋ตะคอกและไม่พูดอะไรอีก
เหวินเสี่ยวที่ดูเหมือนจะเข้าใจสถานการณ์บ้างเล็กน้อย ยังคงเต็มไปด้วยความสับสนและความตกใจสลับไปมาบนใบหน้าของเขา เพราะความจริงตรงหน้านั้นแทบจะพลิกผันความรู้ความเข้าใจตลอดยี่สิบปีของเขาไปเป็นคนล่ะด้าน
“ข้าก็เคยเป็นเหมือนกับเจ้า” จูกู่เฉิง มองไปที่ เหวินเสี่ยว และพูดอย่างเรียบ ๆ
จากนั้นเขาก็อธิบายให้เหวินเสี่ยวฟังทุกอย่าง
เหวินเสี่ยวเงียบหลังจากฟัง แต่เขาก็ไม่ได้ตอบสนองด้วยความตกใจมากไปกว่านั้น
แม้แต่คนนอกอย่าง ลั่วอู๋ ยังตกตะลึงไปสักพักใหญ่ ๆ เมื่อได้ยินความลับนี้ ไม่ต้องพูดถึงคนของพระราชวังเป่ยหมิงเลย
เพราะมันเป็นอะไรที่จะพลิกจากความรู้ความเข้าใจก่อนหน้านี้ทั้งหมดของพวกเขาเหล่านั้นมาก
“มีสิ่งหนึ่งที่ข้าไม่ค่อยเข้าใจ”จูกู่เฉิงขมวดคิ้วแล้วจึงพูด “ในเมื่อเจ้าสามารถแก้ไขปัญหาที่นี่ได้ แล้วทำไม เจ้าต้องปล่อยให้เพื่อนของเจ้าหนีออกไปก่อนด้วยล่ะ?”
มีแต่ผี และแมลงเหลืออยู่ที่ลาน
สิ่งเหล่านี้เป็นของลั่วอู๋ เหวินเสี่ยวสามารถยืนยันข้อนี้ได้
เขาปกปิดความจริงต่อไปไม่ได้แล้ว
ลั่วอู๋ ยอมรับอย่างจริงใจ “แน่นอนว่ามันเป็นเพราะข้าไม่แน่ใจว่าตัวเองจะแก้ไขปัญหาให้กับพระราชวังเป่ยหมิงได้รึ เปล่า ? ดังนั้นข้าต้องยืนยันความปลอดภัยให้เพื่อนพ้องข้า ข้าไม่สามารถเอาพวกเขามาเสี่ยงด้วยได้”
“พวกเขาหายตัวไปได้อย่างไรกัน ? หินทะลวงมิติงั้น เหรอ ?” จูกู่เฉิง งงงวย
อย่างไรก็ตามถ้าพวกเขาใช้หินทะลวงมิติ เหล่าผู้รักษาความสงบก็คงจะรู้สึกตัวได้ในทันที
นอกจากการใช้หินทะลวงมิติแล้ว จูกู่เฉิง คิดไม่ออกว่าพวกเขาที่เป็นเพียงผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองสองสามคนจะใช้วิธีอื่นใดในการหลบหนีออกจากการล้อมรักษาความปลอดภัยได้
ต่อให้เป็นการเดินทางด้วยพลังมิติก็ตาม
ความแข็งแรงของพวกเขานั้นไม่เพียงพอ อีกทั้งระยะทางเองก็ไกลเกินกว่าที่จะใช้ทักษะห้วงมิติในการหลบหนีออกจากวิหารตรง ๆ เช่นกัน
“ข้ามีเหตุจำเป็นอะไรต้องบอกเจ้าล่ะ?” ลั่วอู๋เหลือบมองเขา
จูกู่เฉิง ไม่ได้โกรธ “เจ้าสามารถบอกข้าได้ไหมว่าพวกเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน แล้วทำไมพวกเขาถึงหลบเลี่ยงจากการตรวจสอบค้นหาของพระราชวังเป่ยหมิงได้ ? พวกเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทางนักบุญที่อยู่ในทะเลเองก็น่าจะสังเกตได้ทัน หากมีใครหนีออกจากพระราชวังเป่ยหมิงไป เขาจะรู้ตัวก่อนแน่ ถ้าสหายของเจ้าออกไปจากพระราชวังเป่ยหมิงแล้ว”
เขาถามในฐานะผู้ปกครองสูงสุดของพระราชวังเป่ยหมิง
การที่มีใครบางคนหลบหนีไปราวกับซ่อนอยู่ใต้เปลือกตาของเขา ที่แม้แต่ตัวเอาเองก็หาไม่พบ
มันทำให้ จูกู่เฉิง รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
แต่ลั่วอู๋นั้นไม่ได้สนใจ “มันก็จริงอยู่ว่า พวกเขายังไม่ได้ออกไปจากพระราชวังเป่ยหมิง แต่ข้าจะไม่บอกเจ้าหรอกว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน เจ้าสามารถมองหาพวกเขาไปเรื่อย ๆ ได้ตามสบายเลย ข้าไม่รังเกียจ”
“เจ้ามั่นใจมากงั้นเหรอ?” ดวงตาของ จูกู่เฉิง หรี่ลงเล็กน้อย “พระราชวังเป่ยหมิงทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของข้านะ”
“มาเดิมพันกันไหมล่ะ?” ลั่วอู๋อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
จูกู่เฉิง ก็หัวเราะ “เอาสิ”
“มีเวลาจำกัดที่หนึ่งเดือน ถ้าเจ้าชนะข้าจะเรียกหาเจ้า ถ้าเจ้าต้องการอะไรข้าจะมอบให้ กลับกันแล้วถ้าข้าชนะ ข้าก็ต้องการอะไรบางอย่างเช่นกัน”
“อะไรงั้นเหรอ?”
“ข้าต้องการบันทึกที่แท้จริงของราชาหมอกซานเหริน”
ใบหน้าของ จูกู่เฉิง เย็นชาลง “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้ามีสิ่งนั้น”
“ ข้าได้อ่านหนังสือทั้งหมดใน หอสมุดหยุนเฉียน มาแล้ว” ลั่วอู๋พูดอย่างใจเย็น “แต่มันกลับมีเพียงบันทึกไม่กี่อย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อ 8000 ปีก่อน มันเรียบง่ายจนน่ากลัว และข้าก็ไม่เชื่อว่าราชาหมอกซานเหรินจะไม่ได้บันทึกอะไรทิ้งไว้”
ลั่วอู๋อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อ 8000 ปีก่อน
เขาอยากรู้เรื่องราวระหว่างภูตไหกับราชาหมอก ซานเหริน
เขาอยากรู้ว่าทำไมคุนถึงถูกผนึกไว้
เขาอยากรู้ว่าทำไมดาบต้านสวรรค์ถึงมาอยู่ที่นี่ได้
เห็นได้ชัดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในบันทึกทั่ว ๆ ไป มันน่าจะอยู่ในบันทึกส่วนตัวของราชาหมอกซานเหริน เท่านั้น
“มีเพียงผู้ปกครองสูงสุดของพระราชวังเป่ยหมิงเท่านั้น ที่จะสามารถอ่านจดหมายของท่านบรรพบุรุษได้” จูกู่เฉิง กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้ม
ลั่วอู๋ กล่าวว่า “แต่การเดิมพันนี้ก็น่าสนใจใช่ไหมล่ะ ?”
“ เจ้ามันหยิ่งยโสเกินไปแล้ว” จูกู่เฉิงพูดช้าๆ ปากของเขายกขึ้น “เจ้าไม่รู้ว่าพลังที่แท้จริงคืออะไร ในทะเลเหนือข้าคือผู้ปกครองที่แท้จริง เทียบได้กับจักรพรรดิของเจ้า”
โดยนัยแล้ว นี่หมายความว่าเขาตกลงที่จะเดิมพันกับลั่วอู๋
ด้วยความช่วยเหลือของมงกุฎหินความ พลังวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาสามารถขยายไปทั่วพระราชวังเป่ยหมิงทั้งหมดได้ แม้กระทั่งในส่วนลึกของทะเลเหนือใต้น้ำลึกลงไป เขาก็ยังสามารถสัมผัสถึงมันได้อย่างชัดเจนทุกซอกทุกมุม
นี่เป็นสิทธิพิเศษ ในฐานะผู้ปกครองสูงสุดของพระราชวังเป่ยหมิง
หากไม่มีผู้ใช้พลังวิญญาณระดับจักรพรรดิโผล่มา ในทะเลเหนือสุดขอบเขานั้นคือผู้ไร้เทียมทาน
“เอาล่ะ เจ้าตกลงแล้วนะ” ลั่วอู๋พูดอย่างไม่ใส่ใจ
จูกู่เฉิงพาเหวินเสี่ยวออกไป “ข้าฝากผนึกไว้ในมือเจ้า หลังจากนี้หนึ่งเดือนข้าจะกลับมา”
เหวินเสี่ยว ต้องการอยู่ที่นี่ด้วย แต่ลั่วอู๋ก็ปฏิเสธแล้วไล่เขาไป
ตอนนี้เหวินเสี่ยวไม่ใช่คนของเขา
ลั่วอู๋จึงไม่ต้องการเปิดเผยวิชาลับและไพ่ในมือให้เขารู้