ไหปีศาจ - บทที่ 493 ปลดผนึกความสามารถใหม่
บทที่ 493 ปลดผนึกความสามารถใหม่
บทที่ 493
ปลดผนึกความสามารถใหม่
หลี่หยิน ฉูจงฉวน และคนอื่น ๆ ต่างก็ได้มาถึงแนวปะการังหมอกผ่านทักษะทะลวงมิติ
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้มีปฏิกิริยาอะไรกับทะเลหมอก คลื่นขนาดใหญ่ก็ได้ก่อตัวขึ้นในทะเล ราวกับว่ามีสัตว์วิญญาณเจ้าถิ่นอาศัยอยู่ในมหาสมุทรส่วนนี้
ทุกคนจึงได้แต่หนีไปด้วยความหวาดกลัว
มีเพียงเหวินเสี่ยวเท่านั้นที่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เขาก็วิ่งหนีไปพร้อม ๆ กับคนอื่นอยู่ดี
เมื่อออกห่างไปจากทะเลบริเวณนั้น มันก็ไม่มีสัตว์วิญญาณทะเลที่น่ากลัวอีก คลื่นขนาดใหญ่ที่โหมกระหน่ำจึงค่อยๆลดลงอย่างช้าๆ
ทะเลลงสงบราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” ผู้คนต่างงงงวย
เหวินเสี่ยวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ดูเหมือนว่ามันจะเป็นฝีมือของช้างมังกรทะเล มันอาจเป็นตัวการทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของทะเลและก่อให้เกิดคลื่นยักษ์”
ทุกคนเข้าใจได้ในทันที
ในไม่ช้าแสงสีขาวก็สว่างวาบและลั่วอู๋ก็กลับมา
“ไม่เป็นไรใช่ไหม ?” ฉูจงฉวน ถาม
ลั่วอู๋พูดด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนสิ ไม่เป็นไรอยู่แล้ว ข้าได้มันมาแล้ว ถ้าเจ้าต้องการดูมัน เจ้าก็สามารถเข้าไปที่มิติไหและตามหามันได้เลย”
“ลืมมันไปเถอะ” ฉูจงฉวน โค้งงอปากของเขา เขาดูไม่พอใจเท่าไหร่ จากนั้นก็บ่นว่า “เรื่องแบบนี้มันจะไม่มีบันทึกลงในหนังสือไปได้อย่างไร”
ถ้าเขารู้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเงือกแห่งห้วงลึก ฉูจงฉวน คงไม่ได้คาดหวังอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขนาดนี้ และเขาก็คงจะไม่ต้องมาผิดหวัง
ทันใดนั้นพวกเขาทุกคนก็มองไปที่เหวินเสี่ยว
“หืม มองมาที่ข้าทำไม?” เหวินเสี่ยวขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบท่าทางของคนอื่น ๆ เท่าไหร่
ฉูจงฉวน กล่าวว่า “เจ้าเป็นชาวทะเลเหนือสุดขอบไม่ใช่เหรอ ? เจ้าไม่รู้เรื่องของเงือกแห่งห้วงลึกเลยหรือ?”
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรเล่า” เหวินเสี่ยวกลอกตาแล้วพูดต่อ “โดยปกติแล้วเงือกแห่งห้วงลึกจะอยู่ในแนวหมอกนี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นมัน ยิ่งไปกว่านั้นเงือกแห่งห้วงลึกแทบจะไม่เคยแสดงตัวออกมาเลย นอกเวลากิน ดังนั้นคนส่วนมากจึงไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับมัน”
ฉูจงฉวน ทำอะไรไม่ถูก
อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองที่ เขาไม่ได้เห็นข้อมูลพวกนี้ในหนังสือ
ในหนังสือต่าง ๆ คำอธิบายของเงือกแห่งห้วงลึกนั้นสมบูรณ์แบบมาก
“ ผู้แข็งแกร่งที่ต้องการแข็งแกร่งขึ้นจริง ๆ ไม่มีทางชอบสัตว์วิญญาณแบบนี้แน่ กลับกันแล้วคงมีแต่ผู้ที่มีจิตใจไม่ดี ที่จะไปซื้อมันมาจากโรงประมูล อย่างไรก็ตามพวกเขาก็กลัวที่จะต้องพูดความจริงว่าพวกเขาได้รับการสูญเสียอย่างหนักจากการประมูลมันมา หากเรื่องนี้ได้รับการเผยแพร่พวกเขาก็จะได้รับฉายาว่าเป็นคนโง่ที่มีหัวดื้อ” ลั่วอู๋เดา
ทันใดนั้นหลินยูหลันก็ส่ายหัวและพูดว่า “ข้าเกรงว่ามันจะไม่ใช่แบบนั้น”
สายตาของผู้คนจดจ้องไปที่นาง
พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจว่านางหมายถึงอะไร
“ข้ามาจากรังโจรบนภูเขา ข้าเคยได้ยินเรื่องราวที่อันตรายในโลกมามาก” หลินยูหลัน กล่าวอย่างครุ่นคิด “ครั้งหนึ่งข้าเคยได้ยินพ่อของข้าพูดสิ่งหนึ่ง เขาบอกว่ามีสัตว์วิญญาณระดับเงินชนิดหนึ่งชื่อ ว่า เดรัจฉานแห่งความว่างเปล่า ดูเหมือนสุนัขขนของมันเป็นสีทองและนุ่ม มันมีก้นเล็ก ๆ น่ารักและขาสั้นดูตลก ๆ ดูน่ารักสุด ๆ แม้ว่ามิติวิญญาณของมันจะไม่สูง แต่มันก็มีความฉลาดมากใกล้เคียงกับมนุษย์ มันจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสัตว์วิญญาณที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นสัตว์เลี้ยง และเป็นที่ต้องการอย่างมาก อีกทั้งราคาก็ยังสูงด้วย มันมีราคาอย่างน้อย 300,000 หินวิญญาณเลยทีเดียว ”
ผู้คนต่างพยักหน้า พวกเขาเองก็เคยได้ยินเรื่องนี้
เดรัจฉานแห่งความว่างเปล่าไม่ได้เก่งกาจอะไรและมีขนาดเล็ก แต่ก็ถูกเรียกว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีเกียรติ
การที่มันเป็นวิญญาณระดับเงิน สามารถขายได้ถึง 300000 หินวิญญาณ มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อมาก ๆ
องค์หญิงเจียโรวกล่าวว่า “ข้าสามารถยืนยันได้เลยว่ามันอ่อนแอได้ และเป็นเพื่อนเล่นยามว่างที่ดีอีกด้วย”
หลินยูหลัน พยักหน้า”แต่จริง ๆ แล้วพวกเจ้าไม่ได้รู้เกี่ยวกับมันเลยสักนิด ที่จริงแล้วเดรัจฉานแห่งความว่างเปล่า นั้นเกิดมาพร้อมกับหางและมีหน้าตาน่าเกลียดมาก”
ผู้คนต่างประหลาดใจ
หาง? เดรัจฉานแห่งความว่างเปล่ามีหาง?
แม้พวกเขาจะพยายามนึกถึงมัน แต่ในความทรงจำของพวกเขาเดรัจฉานแห่งความว่างเปล่าตัวน้อยนั้นไม่มีหาง
“ ไม่ต้องแปลกใจไป” “ เนื่องจากหางของมันนั้นน่าเกลียดมาก เพื่อให้พวกมันมีลักษณะที่สวยงามโรงประมูลและพ่อค้าจึงมักจะตัดหางของมันออกตั้งแต่ตอนที่มันยังเล็กและใช้วิธีพิเศษ เพื่อหยุดไม่ให้มันได้เติบโต” หลินยูหลัน อธิบาย
เรื่องราวเหล่านี้เป็นสิ่งที่พ่อของนางเล่าให้ฟังเป็นนิทานก่อนนอน
สมควรแล้วแก่การถูกเรียกว่ามหาจอมโจรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
มันเป็นนิทานก่อนนอนที่ฟังแล้วข่มตานอนได้ยากมาก
เมื่อเล่าเรื่องเหล่านี้หลินกุยก็อดไม่ได้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์และเสียดสี เหล่าพ่อค้าที่แสวงหาผลกำไร แต่หลินยูหลันก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น
ทันใดนั้นทุกคนก็มองกลับไปที่ลั่วอู๋ ทำให้เขาตกตะลึงเล็กน้อย “ถึงแม้ว่าข้าจะเปิดร้าน แต่ข้าก็ไม่รู้นี้จริงๆ”
ธุรกิจของสำนักโล่พิทักษ์นั้นใหญ่มาก แต่หลังจากได้ไปเปิดร้านที่เมืองหลวงของจักรวรรดิลั่วอู๋ ก็แทบจะไม่ได้เข้าไปดูแลธุรกิจนี้เลย เขาจึงไม่รู้เรื่องพวกนี้มากนัก
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเงือกแห่งห้วงลึกล่ะ” ฉูจงฉวน งงงวยเล็กน้อย
หลินยูหลัน กล่าวว่า “อย่างที่ข้าพูดไปเมื่อกี้ ผู้แข็งแกร่งไม่ได้มองไปที่เงือกแห่งห้วงลึกเลย เหตุผลที่เงือกแห่งห้วงลึกสามารถขายได้ในราคาที่สูงเสียดฟ้านั้นเป็นเพราะคนรวยที่มีงานอดิเรกแปลก ๆ พยายามประมูลเพื่อให้ได้มา ราคาร้านค้าและโรงประมูลจึงไม่รังเกียจที่จะลบข้อบกพร่องทางความงามของเงือกแห่งห้วงลึก ดังนั้นเรื่องราวที่ว่าเงือกแห่งห้วงลึกนั้นมีเขี้ยวอันดุร้ายจึงไม่ได้ถูกเปิดเผย ทำให้ไม่มีการบันทึกเกี่ยวกับมัน”
พวกพ่อค้าได้กำจัดข้อบกพร่องของเงือกแห่งห้วงลึก
พวกเขาเข้าใจได้ไม่ยากเลย
บางทีก่อนที่พวกมันจะถูกขาย พวกพ่อค้าก็อาจจะบังคับพวกมันให้หักเขี้ยวออก จากนั้นด้วยวิธีพิเศษบางอย่าง พวกมันก็จะต้องกัดฟันไว้ให้แน่น ทำให้ตัวให้เรียบร้อยเหมือนมนุษย์ทั่วไป นอกจากนี้บางทีพวกมันน่าจะถูกบังคับให้เรียนรู้ วิธีทำให้ผู้คนพอใจอีกด้วย
ฟังดูเหมือนนี่จะเป็นเรื่องที่น่าสลดเล็กน้อย
ไม่มีใครพูดอะไรเสริมเกี่ยวกับเรื่องนี้
หัวข้อสนทนานี้มันหนักขึ้นมาก
ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับ สัตว์วิญญาณ นั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และเรื่องนี้ก็ไม่เคยได้รับการแก้ไขมานานนับหมื่นปี ข้อพิพาทในประเด็นนี้จึงมักจะจบลงโดยเปล่าประโยชน์
“พวกเรารีบออกไปกันเถอะ” ลั่วอู๋กล่าว “เมื่อกี้พวกเราใช้เสียงดังไปมาก บางทีสัตว์วิญญาณทะเลบางตัว อาจถูกดึงดูดเข้ามา มันจะเป็นปัญหาแน่ไปถ้าสัตว์วิญญาณทะเลเจ้าถิ่นถูกดึงดูดตามเรามาที่นี่”
มีเพียงแค่สัตว์วิญญาณทะเลระดับเพชรเท่านั้น ที่มีคุณสมบัติเป็นเจ้าถิ่น
ทุกคนพยักหน้า
ลั่วอู๋ เรียกปลาผีค้างคาวออกมา จากนั้นก็ให้ปลาผีค้างคาวลากเรือไปทางใต้
สามเดือนผ่านไปโดยไม่มีปัญหาใด ๆ พวกเขาออกจากส่วนลึกของทะเลเหนือสุดขอบ ข้ามธารน้ำแข็งและกลับสู่เข้าสู่พื้นที่ของจักรวรรดิ
ด้วยความเร็วของปลาผีค้างคาวแล้วพวกเขาน่าจะถึงในเวลาเพียงแค่สองเดือน
อย่างไรก็ตามเพื่อปลดผนึกหนังสือสัตว์วิญญาณลั่วอู๋ ได้อ้อมทางพิเศษ เพื่อจับสัตว์วิญญาณที่หายากหลายตัวที่มีเฉพาะในพื้นที่ทะเลเข้าไปในมิติไห
ในที่สุดหนังสือสัตว์วิญญาณก็ได้ ผ่านขั้นตอนของการปลดผนึกได้สำเร็จ เขาสามารถปลดผนึกความสามารถใหม่ของการไหปีศาจ “วิเคราะห์ข้อมูล”
ความสามารถนี้ทำให้ลั่วอู๋ประหลาดใจมาก
ถึงมันจะใช้พลังวิญญาณมาก แต่มันก็ช่วยให้เขาสามารถวิเคราะห์ ส่วนประกอบภายในของอะไรก็ได้
ตัวอย่างเช่น หากลั่วอู๋ใช้ความสามารถวิเคราะห์ข้อมูลกับยาวิญญาณ เขาก็จะได้รู้ส่วนผสมของมัน และเข้าใจได้ในทันทีว่ามันทำมาจากสมุนไพรวิญญาณอะไร
แน่นอนยิ่งส่วนผสมซับซ้อนมากเท่าไหร่ พลังวิญญาณที่ต้องจ่ายก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น เพราะเขายิ่งต้องใช้พลังวิญญาณมากขึ้นในการวิเคราะห์และอัตราความสำเร็จเองก็จะต่ำลง
ในกรณีที่เกิดความล้มเหลว เขาจำเป็นต้องแยกวิเคราะห์ใหม่ตั้งแต่เริ่ม
แต่ที่สำคัญที่สุดก็เมื่อเขาวิเคราะห์บางสิ่งอย่างจนครบถ้วนแล้ว เขาก็จะสามารถใช้เป็นสูตรในการสังเคราะห์สิ่ง ต่าง ๆ ด้วยไหปีศาจได้