ไหปีศาจ - บทที่ 581 พัฒนาการของเสี่ยวกง
บทที่ 581 พัฒนาการของเสี่ยวกง
บทที่ 581
พัฒนาการของเสี่ยวกง
ลั่วอู๋คุ้นเคยกับดาบพลังวิญญาณสีเทาเล่มนี้ดี เพราะเขานั้นได้มันมาจากพลังวิญญาณของดาบที่ปล่อยออกมาโดยภาพเสมือนของดาบวิญญาณ
พลังวิญญาณของดาบเล่มนี้ไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่ ลั่วอู๋จึงทำลายมันได้อย่างง่ายดาย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือดาบพลังวิญญาณของ เสี่ยวกง
เนื่องจากเขาเป็นคนมอบดาบเสมือนของดาบตัดสวรรค์ให้กับเสี่ยวกงเพียงคนเดียวเท่านั้น
แต่ตอนนี้เขามีปัญหาบางอย่าง เพื่อช่วยท่านหญิง หยู่ ลั่วอู๋จึงได้นำดาบเสมือนดังกล่าวกลับไป แล้วดาบนี่มาจากที่ไหนกัน ?
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ลั่วอู๋หายโกรธ
“นี่คือสิ่งที่เจ้าทำเพื่อ ต้อนรับข้ากลับมางั้นเหรอ!” ลั่วอู๋เดินเข้าไปในป่าด้วยความโกรธ
ถัดไปจากกระท่อมในป่าไผ่
หลินเจิ้งในชุดเสื้อสีเขียวกำลังแกะสลักไม้ไผ่ด้วยมีดในมือ การแสดงออกของเขาจดจ่อราวกับว่าจะไม่มีอะไรมารบกวนเขาได้
กระท่อมแห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยงานแกะสลักไม้ไผ่
พวกมันไม่มีรูปแบบที่ตายตัว โดยพื้นฐานแล้วจะเป็นการแกะสลักสิ่งมีชีวิตเช่นนก สัตว์ต่าง ๆ ดอกไม้ ปลา แมลง นอกจากนี้ยังมีดาบขวานและขวาน
โดยมีเสี่ยวกงสมาธิอยู่ด้านหน้า อย่างสงบ
นี่เป็นครั้งแรกที่ลั่วอู๋ได้เห็นเสี่ยวกงเป็นแบบนี้
เสี่ยวกงนั้นเป็นสัตว์วิญญาณ และมันก็เป็นลิงที่กระตือรือร้นมาก มันจึงน่าทึ่งมากที่เสี่ยวกงสามารถเรียนรู้ที่จะนั่งสมาธิไขว่ห้างแบบเดียวกับมนุษย์ได้
ขณะที่ลั่วอู๋กำลังจะพูด หลินเจิ้งก็วางไม้แกะสลักไม้ไผ่ลงครึ่งหนึ่ง “อย่าได้รบกวนมัน”
“เกิดอะไรขึ้น?” ลั่วอู๋ลดเสียงลง “มันอยู่ในขั้นตอนที่สำคัญมากของการฝึกฝน?”
หลินเจิ้งตอบว่า “โอ้ ไม่หรอก เพียงแค่ว่า ข้าต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะทำให้มันเงียบสงบ จนสามารถรู้สึกได้ถึงแก่นแท้ของดาบ”
ลั่วอู๋ ขมวดคิ้ว “แล้วทำไมมันถึงโจมตีข้ากัน”
“ข้ารู้ว่ามันโจมตีเจ้า” หลินเจิ้งกล่าวอย่างสบาย ๆ “มันคือทักษะ วงล้อมแห่งดาบ ที่ข้าสอนให้กับมันศัตรูที่เดินเข้ามาในระยะของทักษะจะถูกโจมตีโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามทักษะวงล้อมดาบของมันยังค่อนข้างอ่อนแอ และมันยังไม่ถึงขั้นที่สามารถทำให้ดาบวิญญาณพุ่งออกไปได้ตรง ๆ มันเลยต้องสร้างดาบออกมาจากพลังวิญญาณของตัวเอง ”
“ ข้าไม่เข้าใจ” ลั่วอู๋ส่ายหัว
หลินเจิ้งมองไปที่เขาแล้วจึงส่ายหัวด้วยความผิดหวัง “เจ้ามันไม่มีความเข้าใจในเรื่องดาบเลยจริงๆ”
สีหน้าของลั่วอู๋เหมือนถูกปกคลุมไปด้วยเส้นสีดำแห่งความสับสน
หลินเจิ้งอธิบาย “กล่าวก็คือการโจมตีในตอนนั้นเป็นปฏิกิริยาของจิตใต้สำนึก มันไม่ใช่ว่า เสี่ยวกง ต้องการจะโจมตีเจ้า แต่เจ้าก้าวเข้าไปในพื้นที่ของทักษะต่างหาก ใครก็ตามที่เข้าไปในระยะนั้นจะถูกโจมตี”
ลั่วอู๋จำมันได้ดี
มันคือทักษะที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของ หลินเจิ้ง
วงล้อมแห่งดาบ
ดาบพลังวิญญาณจะถูกสร้างออกมาจากร่างกายราวกับรั้วของกั้นผู้ใช้กับศัตรู หากมีศัตรูเข้ามาใกล้ พวกเขาเหล่านั้นก็จะถูกตรวจพบในทันที จากนั้นการโจมตีก็จะถูกยิงออกไปโดยอัตโนมัติ
ยิ่งฝึกฝนพลังของทักษะนี้ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น จนถึงระดับที่ดาบพลังวิญญาณของวงล้อมแห่งดาบสามสามารถทำลายภูเขาและแม่น้ำ อย่างหลินเจิ้งเองก็ได้ไปถึงระดับที่ใช้ดาบวิญญาณเพียงสามเล่มในการรับมือกับผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรได้สบาย ๆ
มันเป็นวิชาอันลึกลับ ที่ทำให้หลินเจิ้งเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลกและมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ก่อนหน้านี้ที่เขาจะถูกทำลายแก่นวิญญาณไป ที่เขาสามารถเดินออกจากลานจัตุรัสซวนวูโดยไม่มีใครกล้าที่จะหยุดเขา สาเหตุก็เป็นเพราะทุกคนต่างเกรงกลัวพลังของทักษะวงล้อมแห่งดาบของเขา
เห็นได้ชัดว่า เสี่ยวกง กำลังเรียนรู้วิชานี้อยู่
ลั่วอู๋ไม่สนใจที่จะโกรธอีกต่อไป เขาถามอย่างรีบร้อน “แล้วการฝึกเป็นยังไงบ้าง?”
“ น่าเสียดาย” หลินเจิ้งกล่าวอย่างใจเย็น
หัวใจของลั่วอู๋จมลง “มันทำความเข้าใจได้ไม่ดีอย่างนั้นเหรอ?”
“ ไม่ น่าเสียดายที่ลิงน้อยผู้ชาญฉลาดตัวนี้ จะต้องกลายเป็นสัตว์วิญญาณของเจ้า” หลินเจิ้งถอนหายใจ
“ข้า … ” ลั่วอู๋ปิดหน้าอกของเขาและพยายามหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับแรงกระตุ้นที่จะทุบตีหลินเจิ้ง
ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงไม่เคยถูกใครทำร้ายอย่างรุนแรงสักครั้งกัน
หลินเจิ้งไม่เคยพูดอย่างเกรงใจ
เขาเพียงแต่พูดตรงๆเกี่ยวกับความรู้สึกของตนเอง
เป็นเพราะเหตุนี้เองจึงยิ่งทำให้ ลั่วอู๋ รู้สึกหดหู่ใจมากขึ้นเพราะเขารู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง
ถ้าเสี่ยวกงยังคงอยู่กับลั่วอู๋ แล้วได้รับการฝึกฝนเช่นเดียวกับลิงเผือกตัวอื่น ๆ มันก็น่าจะกลายเป็นสัตว์วิญญาณระดับเพชรที่อ่อนแอที่สุดในโลก
โชคดีที่มันบังเอิญได้กลายเป็นศิษย์ของหลินเจิ้งทำให้ผลลัพธ์แตกต่างออกไป
อาจารย์ที่มีชื่อเสียงเช่นนี้ เป็นดั่งของขวัญจากสวรรค์สำหรับ เสี่ยวกง แม้ว่าหลินเจิ้งจะจู้จี้จุกจิก แต่เขาก็เข้าใจถึงคุณสมบัติของเสี่ยวกงดี
เรื่องที่ลั่วอู๋ถูกโจมตี ลืม ๆ ไปเลยก็ได้
ยังไงซะ การสอนบทเรียนให้เสี่ยวกงก็ถือว่าเป็นเรื่องยาก
เอาให้เขาสบายใจดีกว่า
นอกจากนี้สำนักเฉียนหลงเองก็ยังไม่เปิด เขาจึงไม่จำเป็นต้องพาเสี่ยวกงไปในตอนนี้
“เดี๋ยวก่อนนะ นี่ยังโชคดีที่ข้าเป็นคนโดน แล้วถ้ามีบริกรนำอาหารเข้ามาให้พวกเจ้าล่ะ แบบนั้นจะทำยังไง?” ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว “แม้ว่าดาบพลังวิญญาณของเสี่ยวกงจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่ แต่สำหรับคนธรรมดา ๆ แล้ว พวกเขาไม่สามารถต้านทานมันได้แน่”
หลินเจิ้งตอบอย่างสบาย ๆ “ถ้ามีคนธรรมดาเข้ามาที่นี่ ข้าก็จะออกไปหยุดดาบพลังวิญญาณเอาไว้ให้ เพื่อที่มันจะได้ไม่เผลอไปทำร้ายคนอื่น”
“ หมายความว่ายังไง?”
“สำหรับเจ้าคงไม่เป็นไร ข้าก็เลยไม่ได้ออกไปหยุด” หลินเจิ้งยังคงซื่อสัตย์เช่นเคย
แม้ว่าเขาจะกลายเป็นคนธรรมดาที่ไร้แก่นพลังวิญญาณ แต่เขาก็ยังมีดาบหลิงเทียนอยู่ มันจึงไม่มีปัญหาสำหรับเขาในการที่จะหยุดดาบพลังวิญญาณอันอ่อนแอของเสี่ยวกง
ลั่วอู๋กัดฟันด้วยความโกรธ
หากเขาไม่ระวัง เขาคงมีรอยแผลเป็นบนใบหน้าไปแล้ว
นี่มันน่าโมโหมาก
ลั่วอู๋หายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้งแล้วพยายามอดกลั้น
เขาควรจะทำยังไงกับหลินเจิ้งดี? นิสัยของเขาอยู่ในระดับที่เทพเจ้ายังต้องกุมหัว เขาตรงไปตรงมาเกินไปจนไม่เข้าใจโลก แม้เขาจะไม่ได้มีเจตนาไม่ดีก็ตาม
ลั่วอู๋ได้ แต่ปลอบตัวเองด้วยวิธีนี้
“ ครั้งสุดท้ายที่เจ้าสอนเสี่ยวกง เจ้าได้สอนทักษะดาบวิญญาณนั้นให้มันหรือยัง?” ลั่วอู๋ ถาม
แน่นอนว่าเขาหมายถึงทักษะวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของหลินเจิ้ง
ชื่อของทักษะนั้นก็คือ “หยินเซียน”
มันเป็นทักษะที่เกิดจากการสั่งสมความเข้าใจในแก่นแท้ของดาบมาเป็นเวลาหลายปี จนอยู่ในระดับที่สามารถต้านพลังดาบไร้ลักษณ์ของจักรพรรดิดาบหยางไคเทียนได้
แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้และสูญเสียทะเลแก่นวิญญาณไป แต่อย่างน้อยเขาก็รอดชีวิตจากมันมาได้
แค่นั้นมันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทักษะนี้น่ากลัวเพียงใด
หลินเจิ้งพยักหน้า “หากแค่สอนให้มันเรียนรู้น่ะ ข้าทำไปแล้ว อย่างไรก็ตามข้าก็ทำได้เพียงแค่สอนวิธีในการใช้ให้กับมันเท่านั้น หลังจากนี้พลังของมันจะผลิบานออกมาแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวมันเองแล้ว”
การรับรู้ถึงชีวิตและความเข้าใจในแก่นแท้แห่งดาบไม่ใช่อะไรที่สามารถสอนกันได้ หลินเจิ้งจึงสามารถสอนได้เพียงวิธีการใช้มันได้เท่านั้น หากมันต้องการมอบพลังวิญญาณให้กับดาบของตนเองจริงๆ มันก็ต้องพึ่งพาตัวเอง
หนทางของการฝึกฝนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ทุกคนต่างมีความเข้าใจที่แตกต่างกัน ทำให้พลังวิญญาณที่ปล่อยออกมาจากหยินเซียน จึงแตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ เสี่ยวกง นั้นยังคงอ่อนแอเกินไปและยังไม่มีประสบการณ์อะไรเลย แม้ว่ามันจะเรียนรู้ทักษะดาบนี้ได้ แต่พลังวิญญาณของมันก็ธรรมดาเกินไป ทักษะแบบนี้ส่วนใหญ่ต้องอาศัยพลังวิญญาณของตัวเองเสริมเข้าไป
ถึงอย่างนั้นลั่วอู๋ก็ดีใจมาก
พอใจแล้ว เขาพอใจแล้ว
นี่คือทักษะดาบอันยอดเยี่ยมที่กำลังเติบโต ตราบใดที่มันได้ใช้เวลาฝึกฝนเรียนรู้ทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในแก่นแท้ของดาบ พลังของทักษะนี้ที่มันครอบครองก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
“ น่าเสียดายที่ทักษะเหล่านี้เป็นของเสี่ยวกงเพียงคนเดียว” ลั่วอู๋ยังคงรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
เพราะมันเป็นความเข้าใจของเสี่ยวกง แม้ว่าเขาจะใช้การผสานพลังวิญญาณระหว่างผู้ใช้พลังวิญญาณและสัตว์วิญญาณได้ แต่ลั่วอู๋ก็คงไม่สามารถใช้ทักษะเหล่านั้นได้อยู่ดี
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ลั่วอู๋ ก็ตรวจสอบข้อมูลของเสี่ยวกงด้วยไหปีศาจ
เผ่าพันธุ์: ลิงเผือก
ระดับ: เพชร
มิติ: ระดับเงิน มิติ 9
ทักษะ: ศิลปะแห่งจักรพรรดิดาบ (ระดับ S) , หยินเซียน (ระดับ c), วงล้อมแห่งดาบ (ระดับ SS)
พื้นเพ: เผ่าพันธุ์อันภาคภูมิใจและสันโดษ ว่ากันว่าพวกมันมีสายเลือดของลิงศักดิ์สิทธิ์ มีสติปัญญา และพลังในการต่อสู้สูง พวกมันจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ จากการต่อสู้
ลั่วอู๋ตกใจและดีใจมาก
ทักษะดาบต่าง ๆ ที่เสี่ยวกงเรียนรู้มานั้น สามารถกลายเป็นทักษะของตัวเขาได้ด้วย
นี่หมายความว่าถ้าเขาใช้การผสานพลังวิญญาณระหว่างผู้ใช้พลังวิญญาณและสัตว์วิญญาณ ลั่วอู๋ก็จะสามารถใช้ท่าทักษะดาบเหล่านี้ได้นั่นเอง