ไหปีศาจ - บทที่ 611 การทดสอบ
บทที่ 611 การทดสอบ
บทที่ 611
การทดสอบ
“พวกเราต้องไปที่อาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะเพื่อทำธุระบางอย่าง” หลังจากทุกคนสงบลง ลั่วอู๋ก็อธิบายความตั้งใจของเขาให้หยู่เฮาฟัง
ลั่วอู๋อธิบายเรื่องราวทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
พวกเขาต้องการน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เพื่อช่วยชีวิตผู้คน
โดนแน่นอนว่าซ่อนเรื่องราวเกี่ยวกับเหวินเสี่ยวเอาไว้
“โอ้ ขอเวลาสักครู่ ข้าจะไปขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ” หยู่เฮา จากไปอย่างไม่เร่งรีบ
หลังจากรอสักครู่หยู่เฮาก็กลับมา
“รู้สึกว่ามันจะลำบากเล็กน้อย” หยู่เฮา เกาหัวของเขา “อาจารย์บอกว่า เขาไม่ต้องการให้ใครเข้าไปที่อาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะดังนั้น…”
ทุกคนต่างแปลกใจ ทำไมกัน?
หยู่เฮา อธิบายว่า “อาจารย์บอกว่าเคยมีคนแอบเข้าไปในอาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะ ก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ ที่เกือบส่งผลต่อคนทั้งทวีป อย่างที่เจ้าก็รู้อาจารย์ของข้าสุขภาพไม่ดีเท่าไหร่ หากเกิดเรื่องขึ้นละก็ ข้าเกรงว่าจะไม่มีใครสามารถทำให้มันสงบลงได้ ”
ตอนนี้ท่านหม่าเฉินใกล้จะหมดอายุขัย เฮาจอมปีศาจผู้ยิ่งใหญ่เองก็อยู่ต่างมิติ
นั่นหมายความว่ามนุษยชาติ จะไม่มีการคุ้มครองจากผู้ใช้พลังวิญญาณระดับจักรพรรดิผู้ทรงอำนาจทั้งสอง
พรรคพวกลั่วอู๋บางคนเข้าใจความหมายของคำอธิบายนั้น พวกเขาสีหน้าตกใจ “อาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะมีสัตว์วิญญาณระดับจักรพรรดิสถิตอยู่งั้นเหรอ?”
“มันยากที่จะพูดแหละ” หยู่เฮาส่ายหัว “อย่างน้อย ๆ ก็มีหนึ่งตนแน่ ๆ และต่อให้จะไม่มีสัตว์วิญญาณระดับจักรพรรดิ แต่ถ้าหากอาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะคิดจะจู่โจมพวกเราละก็ ทั้งทวีปก็จะตกอยู่ในความปั่นป่วนครั้งใหญ่”
ลั่วอู๋ กล่าวอย่างรวดเร็วว่า “พวกเรากำลังตามหาน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ พวกเราจะไม่ก่อปัญหาใด ๆ แน่”
“มันต้องเป็นปัญหาอยู่แล้ว น้ำพุศักดิ์สิทธิ์นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะ” หยู่เฮากล่าวอย่างช่วยไม่ได้
ทุกคนต่างพากันผิดหวัง
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น
ลั่วอู๋กำลังจะพูดต่อ แต่เมื่อเขาเห็นหูของหยู่เฮาขยับเหมือนกำลังฟังอะไรอยู่ เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่ากำลังมีคนส่งข้อความมาหาหยู่เฮา จากนั้นหยู่เฮาก็พูดขึ้น “อาจารย์ของข้าต้องการพบเจ้า”
“ได้เลย” ลั่วอู๋พยักหน้า
ยังไงซะพวกเขาก็มาที่นี่เพื่อพบ ท่านหม่าเฉินอยู่แล้ว
ว่ากันว่าท่านหม่าเฉินและราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่เฮา เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณที่แข็งแกร่งในยุคเดียวกัน พวกเขาเป็นทั้งศัตรูและสหาย พวกเขามีมิตรภาพระหว่างกันมากมายให้เกียรติซึ่งกันและกันไปจนถึงจุดสูงสุดของมิติวิญญาณด้วยกัน
พวกเขาได้ร่วมกันก่อตั้งสำนักเฉียนหลงและสำนัก หม่าเฉิน
เข้าใจได้ง่ายๆว่าทั้งสองคนต่างเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของสำนักระหว่างกันและกัน แน่นอนว่าประเด็นนี้มักไม่มีใครพูดถึง
พวกเขามาที่ภูเขา ฮั่วอู๋หยวน
แม้ว่ามันจะมีชื่อที่หรูหรา แต่ก็เป็นภูเขาที่มีพลังวิญญาณรุนแรง
ที่เชิงเขานั้นมีเต่าสีขาวตัวใหญ่นอนอยู่ เส้นลวดลายบนกระดองเต่าเผยให้เห็นถึงความลึกลับที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว
เต่ายักษ์ที่ปิดตาอยู่นั่นอาจจะกำลังหลับสนิทแม้ว่า มันจะได้พบกับพรรคพวกลั่วอู๋ แต่มันยังไม่ได้ลืมตา
พวกเขาเดินไปจนถึงกระโจมเล็ก ๆ บนภูเขา
สายลมพัดผ่านป่าอันหนาแน่นโดยรอบ เสือดาวหิน ภูตทะเลทราย และแมมมอธธารน้ำแข็งพักผ่อนเล่นกันอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
พวกมันไม่กล้าเข้าไปใกล้ประตูกระโจม เนื่องจากตรงนั้นมีเก้าอี้ไม้ ซึ่งมีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ที่นั่น
พลังวิญญาณของชายชราแห้งเหือดไปมาก แขนของเขาผอมแห้ง ผิวหนังของเขาเหี่ยวย่นและใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยริ้วรอยบ่งบอกถึงอายุ
ถ้าไม่ใช่เพราะมีชายชราเพียงคนเดียวอยู่ที่นี่ ลั่วอู๋คงไม่คิดว่าเขาเป็นท่านหม่าเฉิน
ใครจะคิดว่าหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก จะมีหน้าตาเช่นนี้
“ฮ่า ๆ ผิดหวังไหม?” ชายชราเลิกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงบนุ่มลึกเหมือนทะเลที่ไร้ขอบเขต
พรรคพวกลั่วอู๋รีบทักทายอย่างเร่งรีบ “ยินดีที่ได้พบท่านหม่าเฉิน”
ท่านหม่าเฉินพยักหน้าเล็กน้อย “ข้าไม่ค่อยเข้าใจ พวกเจ้ากำลังจะไปยังอาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะ แล้วทำไมพวกเจ้าจึงต้องมาหาข้าเพื่อขอความช่วยเหลือด้วย ที่สำนักเฉียนหลงเองก็น่าจะมีหนทางพาพวกเจ้าสู่อาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะไม่ใช่เหรอ”
“รองเจ้าสำนัก หลี่หวู่หยวนจะไม่อนุญาตให้พวกเราไปที่นั่นขอรับ” ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้มอันบิดเบี้ยว
“อืม” สายตาของท่านหม่าเฉินเคลื่อนออกไป เขามองไปยังป่าที่อยู่ไม่ไกลนัก ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
พรรคพวกลั่วอู๋ไม่กล้ารบกวนเขา จึงทำได้เพียงแค่ยืนเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ
หลังจากนั้นไม่นานท่านหม่าเฉินก็กล่าวขึ้น “ข้าจะไม่ช่วยพวกเจ้า แม้ว่าเจ้าจะเคยช่วยชีวิตหยู่เฮาเอาไว้ก็ตาม”
“ แต่พวกเราต้องการน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เพื่อช่วยชีวิตผู้คน จริง ๆ ” ลั่วอู๋พูดเสียงเบา “ได้โปรดช่วยพวกข้าด้วยเถอะ ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้เกิดปัญหาใด ๆ ถ้ามีปัญหาข้าจะจัดการเอง”
ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะเกินความสามารถของพวกเขา
มันจะไม่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นแน่ ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นสูงตัวน้อยจะสามารถก่อเรื่องอะไรได้มากมายกัน
แต่ท่านหม่าเฉินดูเหมือนจะไม่ตอบสนองต่อคำขอร้องของลั่วอู๋
ช่วยชีวิตผู้คน
ดวงตาของท่านหม่าเฉินกวาดมองไปที่พรรคพวกลั่วอู๋
หลังจากมองไปที่หลี่หยินและองค์หญิงเจียโรวสักพัก ในที่สุดสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่ร่างของเหวินเสี่ยว
“เป็นกลุ่มเด็ก ๆ ที่น่าสนใจ” มุมปากของท่านหม่าเฉินดูเหมือนจะยกขึ้นมาเล็กน้อย
ดวงตาอันลึกล้ำคู่นั้นราวกับว่าสามารถมองทะลุทุกสิ่งได้
เกิดความเงียบชั่วขณะ
“ได้” ท่านหม่าเฉินดูเหมือนจะเปลี่ยนใจ “ตราบใดที่พวกเจ้าผ่านการทดสอบของข้า ข้าจะช่วยพวกเจ้าแก้ปัญหานั้นให้เอง”
ทุกคนต่างรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
เยี่ยมมาก
ท่านหม่าเฉิน หันศีรษะและมองไปที่หยู่เฮา “เจ้าเองก็มากับข้าด้วย การทดสอบนี้ไม่ว่าเจ้าจะทำสำเร็จหรือไม่ มันก็ส่งผลดีอย่างยิ่งสำหรับเจ้าในอนาคต มันจะช่วยให้เจ้าเชี่ยวชาญในทักษะบ้าคลั่งอันไม่มีที่สิ้นสุดได้”
หยู่เฮาพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
“ทดสอบอะไรขอรับ” ลั่วอู๋ถามอย่างระมัดระวัง
แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถประเมินการทดสอบของ ท่านหม่าเฉินต่ำจนเกินไปได้
อย่างไรก็ตาม ท่านหม่าเฉิน ไม่ได้ตอบสนองต่อคำถามนั้น เขาเพียงแค่สะบัดนิ้วตามความต้องการปลดปล่อยพลังวิญญาณอันทรงพลังและบริสุทธิ์ห่อหุ้มทุกคนไว้อย่างรวดเร็ว
ทุกคนต่างตกตะลึง
พวกเขาไม่สามารถต้านทานพลังนี้ได้เลย
ความแข็งแกร่งของ ท่านหม่าเฉิน เหนือกว่าจินตนาการของพวกเขามาก
วินาทีต่อมาภาพเบื้องหน้าของทุกคนก็เริ่มบิดเบี้ยวและจางหายไป และเมื่อรู้สึกตัวพวกเขาก็พบว่าตัวเองนั้นไม่ได้อยู่ในสถานที่เดิมอีกต่อไป
ตอนนี้พวกเขาอยู่บนยอดเขา ลมพัดแรงไปทั่วหูของทุกคน เสื้อผ้าของพวกเขาส่งเสียงดังไปมา ราวกับเสียงโห่ร้องของการล่าสัตว์
เมื่อไปในระยะไกลพวกเขาเห็นได้เพียงผืนป่าอันบริสุทธิ์และไม่มีที่สิ้นสุด เห็นได้ชัดว่าที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเผ่าเทียนหวู่อีกต่อไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรภูเขาแห้งแล้ง
ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนกัน
ลั่วอู๋กระซิบ “หลี่หยิน เจ้ารู้สึกถึงความผันผวนของห้วงมิติไหม ?”
“ไม่เจ้าค่ะ หลี่หยินส่ายหัว” “ข้าน่าจะยังอ่อนแอเกินไป ”
นางไม่ได้รู้สึกเหมือนเป็นมือใหม่แบบนี้มานานแล้ว ทั้ง ๆ ที่ทักษะดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นเพียงทักษะห้วงมิติธรรมดา ๆ แท้ ๆ
อย่างไรก็ตามผู้ที่เรียนรู้แก่นแท้แห่งห้วงมิติ เช่นนางกลับไม่ได้รู้สึกถึงความผันผวนของห้วงมิติเลย เห็นได้ชัดว่าแก่นแท้ทักษะแห่งห้วงมิติของท่านหม่าเฉินนั้นขึ้นอยู่เป็นระดับสูงเหมือนในตำนานอย่างแน่นอน พลังวิญญาณของเขาไม่มีใครเทียบได้
แม้ว่าจะมีอายุมากขึ้นจนแก่ชรา แต่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังคงเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด
ดวงตาของทุกคนมองเห็นถ้ำอันมืดมิด มันดูธรรมดามาก แต่แม้ว่าพวกเขาจะมีความแข็งแกร่งถึงในปัจจุบัน พวกเขากลับไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้เลย
บริเวณทางเข้าถ้ำมีกำแพงหินสูงกว่าครึ่งคน กำแพงหินนั้นเรียบง่ายและมีความผันผวน มันเต็มไปด้วยความรู้สึกของประวัติศาสตร์ อักขระที่ถูกแกะสลักบนพื้นผิวนั้นเป็นอะไรที่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้
“พวกเรามาที่นี่ทำไมกันเหรอขอรับ?” ลั่วอู๋ ถาม
“นี่คือสถานที่ที่พวกเจ้าจะถูกทดสอบ” ท่านหม่าเฉิน พูดช้าๆ “ข้าได้กำแพงหินนี้มาโดยบังเอิญ จากความเข้าใจในตัวเองของข้า และตั้งชื่อมันว่าหินกลั่นหัวใจ”