ไหปีศาจ - บทที่ 613 ต้นกำเนิดของหินกลั่นหัวใจ
บทที่ 613 ต้นกำเนิดของหินกลั่นหัวใจ
บทที่ 613
ต้นกำเนิดของหินกลั่นหัวใจ
“ระวัง”
ทันทีที่เขาเข้าไปในถ้ำลั่วอู๋ก็รู้สึกหายใจติดขัด เขาจึงกระซิบเรียกคนอื่น ๆ
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ ดังมาจากด้านหลัง
ลั่วอู๋หันกลับไปจึงพบว่าไม่มีใครอยู่ข้างหลังเขาอีกต่อไปแล้ว แม้แต่ทางเข้าเองก็หายไปเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดถูกเคลื่อนย้ายไปยังห้วงมิติอิสระ
“แบบนี้นี่เอง” ลั่วอู๋ถอนหายใจ
ทุกคนต่างต้องพึ่งพาตัวเอง แม้ว่าพวกเขาอยากจะช่วยเหลือกันและกันก็ตาม
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลามัวมาคิดเรื่องอื่น ไม่นานนักลั่วอู๋ก็ลุกขึ้นและเริ่มเผชิญหน้ากับการทดสอบของตัวเอง
มันมืดมาก
เขามองไม่เห็นอะไรเลย
ราวกับอยู่ในกรงอันมืดมิด
ทักษะระดับ SS [นัยน์ตาปีศาจ] ถูกใช้งาน
ดวงตาของลั่วอู๋ระเบิดแสงสีทองออกมาในความมืด แต่ จู่ ๆ ก็มีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้น แสงสีทองนั้นจู่ ๆ ถูกความมืดกลืนกิน
ราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างไม่อนุญาตให้เขาได้เห็น
ลั่วอู๋ตะลึง
นี่เป็นครั้งแรกที่นัยน์ตาปีศาจไม่สามารถมองเห็นได้ ที่นี่มีพลังวิญญาณหนาแน่นจริง ๆ แต่เนื่องจากนี่เป็นการทดสอบ ก็น่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นไม่ใช่เหรอ?
ลั่วอู๋หลับตาและเริ่มรู้สึกถึงความเงียบสงบ
เขาก็รู้สึกถึงได้ถึงพลังวิญญาณอันคุ้นเคย
ความรู้สึกนี้เขาเคยเจอมาก่อนที่ไหนกันนะ ? ลั่วอู๋จมลงอยู่ในห้วงความคิด ครู่หนึ่งผ่านไปเขาก็จำได้ว่าลมปราณนี้เหมือนกับตอนที่เขาอยู่ในมิติเหนือเมฆ
ก่อนหน้านี้เพื่อที่จะได้เข้าร่วมสำนักเฉียนหลง เขาต้องเข้าร่วมรับการทดสอบเข้าสู่สำนักเฉียนหลงถึง สามรอบ
โดยในการประเมินรอบที่สามนั้นเป็นบททดสอบในมิติเหนือเมฆ ทว่าเขากลับต้องถอนตัวออกจากมิติเหนือเมฆอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งนำไปสู่ความล้มเหลวของเขา
“นี่มันมิติเหนือเมฆงั้นเหรอ?” ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ
ที่นี่มีความเกี่ยวข้องกับภูตไหด้วยงั้นเหรอ?
เมื่อความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจของเขา ในที่สุดแสงก็ปรากฏขึ้นมาในความมืด ลั่วอู๋เดินตรงไปที่แสงนั้นโดยไม่ลังเล
……
……
ข้างนอกถ้ำ ท่านหม่าเฉินกำลังหลับตานั่งอยู่บนเก้าอี้หวาย เขาเป็นเหมือนชายชราธรรมดา ๆ ที่กำลังงีบหลับท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่น
ถ้ำนี้สามารถนำผู้คนเข้าสู่พลังที่แท้จริงของหินกลั่นหัวใจ ทำให้สามารถสร้างมิติภาพเสมือนขึ้นมาได้
แต่มันนั้นแตกต่างจากมิติเหนือเมฆ
มิติเหนือเมฆจะสร้างภาพลวงตาตามคำสั่งของผู้เปิดใช้ แต่ของที่นี่มิติภาพลวงตานั้นจะเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อบกพร่องทางด้านจิตใจของผู้เข้าทดสอบ เพื่อที่จะโจมตีจิตใจของผู้ทดสอบอย่างแม่นยำ หากผู้ทดสอบสามารถอยู่รอดในภาพมิติลวงตาได้พวกเขาก็จะได้
ตัวอย่างเช่นหยู่เฮา เจตจำนงเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่สุดในการใช้พลังแห่งความบ้าคลั่งอันไม่ จำกัด หากเขาได้มีประสบการณ์ในมิติลวงตานี้ ความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจของเขาจะดีขึ้นมาก อีกทั้งระยะเวลาในการใช้งานความบ้าคลั่งเองก็จะยาวขึ้นด้วย
นอกจากนี้มันยังเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขาได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามหากเขาไม่สามารถก้าวผ่านมันไปได้ เขาก็จะต้องได้รับความเสียหายทางจิตใจอย่างหนัก จนอาจจะไม่สามารถกู้คืนได้ ดังนั้นท่านหม่าเฉิน จึงไม่ได้นำหยู่เฮามาที่นี่จนถึงตอนนี้
โชคดีที่ด้วยสภาพของหยู่เฮาในตอนนี้ เขามีความสามารถมากพอที่จะทนต่อบาดแผลทางจิตใจจากการล้มเหลวนั้นได้แล้ว
“พวกเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเพื่อผ่านมิติภาพลวงตา” ท่านหม่าเฉินกล่าว
แม้ว่าเขาจะไม่มีอะไรให้รอ แต่เขาก็รู้สึกพอใจมากเมื่อได้มองไปที่อาณาจักรภูเขาแห้งแล้งอันแข็งแกร่ง
นี่คือสถานที่ที่เขาใช้เวลาทั้งชีวิตปกป้อง
ในช่วงบั้นปลายของการมีชีวิต การได้เฝ้าดูดินแดนแห่งนี้อย่างเงียบ ๆ เป็นความเพลิดเพลินสำหรับเขา
อย่างไรก็ตามระหว่างที่ท่านหม่าเฉินจ้องมองไปยังป่าอันกว้างใหญ่ จู่ ๆ แสงแวบหนึ่งก็กะพริบผ่านถ้ำ จากนั้นลั่วอู๋ก็เดินออกมา
ความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของท่านหม่าเฉิน “เจ้า… ”
“ ข้าออกมาได้แล้วเหรอ?” ลั่วอู๋เกาหัวด้วยความงุนงง
เช่นเดียวกับในมิติเหนือเมฆ ครั้งนี้ลั่วอู๋ไม่ได้เข้าสู่ห้วงมิติภาพลวงตา แต่กลับต้องถอนตัวออกจากมิติภาพลวงตากลางคัน แสงที่เขาเพิ่งเห็นกลับกลายเป็นปากทางเข้าถ้ำ
มันยากที่จะสงบใจลงได้
เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ท่านหม่าเฉินเจอสถานการณ์เช่นนี้
หากผู้ทดสอบไม่สามารถผ่านมิติลวงตาได้ พวกเขาก็ควรจะติดอยู่ในนั้น โดยที่ไม่สามารถหลบหนีออกมาได้
“เจ้าออกมาได้ยังไง?”ท่านหม่าเฉิน ถาม
ลั่วอู๋ส่ายหัว “ ไม่รู้สิ”
“มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ” ท่านหม่าเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงถามว่า “เจ้าได้พบกับมิติภาพลวงตาแบบไหนกัน?”
ลั่วอู๋พูดอย่างไร้เดียงสาว่า “อา ปัญหาก็คือ ข้าไม่ได้พบกับภาพลวงตาใด ๆ เลยนี่สิ”
สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ท่านหม่าเฉินไม่สามารถเข้าใจได้
เพราะเขาไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน
หินกลั่นหัวใจล้มเหลว?
“มันเป็น … ” สายตาของท่านหม่าเฉินที่มีต่อลั่วอู๋เปลี่ยนไป
จิตใจของเขาสมบูรณ์แบบ จนไม่มีที่ติงั้นเหรอ? เพราะแบบนั้นหินกลั่นหัวใจจึงไม่สามารถสร้างสภาพแวดล้อมห้วงมิติลวงตาที่เหมาะสมสำหรับข้อบกพร่องทางจิตวิญญาณของเขาได้
มีคนแบบนี้บนโลกได้อย่างไรกัน?
เดิมทีเขาคิดว่ามีเพียงองค์หญิงเจียโรว เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ชื่อหลี่หยิน และเด็กชายที่มีวิญญาณสองดวงในร่างเดียวเท่านั้นที่ควรใส่ใจ
เขาไม่คาดคิดเลย ที่เขาควรใส่ใจที่สุดกลับเป็นชายหนุ่มผมสีเงินที่ดูเรียบง่ายคนนี้
แม้ว่าลั่วอู๋จะเป็นอันดับหนึ่งของสำนักเฉียนหลง แต่เขาก็เป็นเพียงคนธรรมดาในสายตาของท่านหม่าเฉิน
เขาเห็นอัจฉริยะมามากแล้ว
ลั่วอู๋ถามด้วยเสียงต่ำ “ท่านหม่าเฉิน ข้าควรจะทำอย่างไรดี ข้าเดินเข้าไปแล้วจริง ๆ ตามที่ท่านบอก ข้าแค่เข้าไปข้างในและออกมา ข้าผ่านการทดสอบแล้วใช่ไหม?”
ในครั้งที่เขาต้องทดสอบในมิติเหนือเมฆ เพราะเขาไม่สามารถเข้าสู่มิติเหนือเมฆได้ เขาจึงถูกตัดสินว่าล้มเหลว และเป็นผลให้เขาเกือบพลาดการเข้าร่วมสำนักเฉียนหลง
“อืม”ท่านหม่าเฉิน พยักหน้าเล็กน้อย
ลั่วอู๋ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ใด ๆ
เพราะทุกอย่างที่ท่านหม่าเฉินกล่าวนั้นคือกฎ
เนื่องจากท่านหม่าเฉินบอกว่ามันไม่เป็นไร ลั่วอู๋จึงได้ผ่านการทดสอบของเขาโดยปริยาย
ลั่วอู๋ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
เยี่ยมมาก
เหลือแค่รอฟังข่าวดีจาก พวกฉูจงฉวน
“อ่า องค์หญิงเจียโรวเป็นยังไงบ้าง” ลั่วอู๋มองไปรอบ ๆ แต่เขากลับไม่เห็นองค์หญิงเจียโรว
ท่านหม่าเฉินพูดเบา ๆ ว่า “นางเองก็เข้าไปด้วย แต่ไม่ต้องกังวลไป นี่เป็นการทดสอบตามความตั้งใจของตัวนางเอง มันจะไม่ส่งผลใด ๆ แน่”
ลั่วอู๋รู้สึกโล่งใจ
ขั้นตอนการรอนั้นน่าเบื่อมาก
เขาควรจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ที่อยู่กับท่านหม่าเฉินเรียนรู้อะไรบ้าง
“ข้าพอจะถามท่านเกี่ยวกับบางเรื่องได้หรือไม่?”
“ก็ได้นิดหน่อย.”ท่านหม่าเฉิน พยักหน้า
“หินกลั่นหัวใจของท่านมันคล้ายกับมิติเหนือเมฆรึเปล่า?” ลั่วอู๋ ถาม
ท่านหม่าเฉินส่ายหัว “มันไม่เหมือนกัน แม้ว่าผลลัพธ์จะคล้าย ๆ กันบ้าง แต่ขอบเขตของมิติเหนือเมฆนั้นเป็นมิติพื้นที่แยก ส่วนหินกลั่นหัวใจนั้นเป็นเพียงวัตถุวิญญาณ”
โดยทั่วไปแล้วมิติเหนือเมฆนั้นเหนือชั้นกว่าหินกลั่นหัวใจ
แต่ในแง่ของการมองหาข้อบกพร่องทางจิตใจนั้น แน่นอนว่าเป็นหินกลั่นหัวใจนั้นทำได้ดีกว่า
“ท่านรู้จักภูตไหไหม” ลั่วอู๋ ถาม
“ ข้าพอรู้ว่ามีชายแปลกหน้าชื่อนั้นอยู่ เขาน่าจะเป็นคนช่วยเฮาสร้างสำนักเฉียนหลงด้วยใช่ไหม?” ท่านหม่าเฉินพูดอย่างช้าๆ “น่าเสียดายที่พวกเราไม่เคยเจอกันมาก่อน”
ลั่วอู๋ตะลึง
เดิมทีเขาคิดว่าหินกลั่นหัวใจนี้มาจากภูตไห
แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น ท่านหม่าเฉินนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภูตไหเลย
“ท่านได้หินกลั่นหัวใจมาจากที่ไหนกัน” ลั่วอู๋โพล่งคำถามออกมา
ท่านหม่าเฉินมองไปที่ลั่วอู๋โดยไม่ตอบอะไร
ลั่วอู๋ตระหนักได้ทันทีว่าคำถามของตัวเอง ดูเหมือนจะไกลเกินขอบเขตที่เขาถามได้ ที่มาของสมบัติเหล่านี้คงไม่ใช่อะไรที่สามารถบอกกันได้ง่าย ๆ
เขาหุบปากทันทีและเลือกที่จะหุบปากนิ่งสนิท
หลังจากนั้นไม่นานท่านหม่าเฉินก็พูดอย่างสบาย ๆ “เมื่อหนึ่งพันปีที่แล้ว ในตอนที่ผนึกของนรกมนตราหลุดออก และปลดปล่อยปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนออกมาจนเป็นหายนะ อาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกาย และภูเขาแห้งแล้งต่างก็ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมาก ในตอนนั้นข้ายังไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินใหญ่ ตอนนั้นข้าเป็นเพียงแค่ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทอง แต่ข้าก็ยังคงพุ่งเข้าสู่การต่อสู้เพื่อขัดขวางพวกมันโดยไม่ลังเล หินกลั่นหัวใจนี้ ข้าได้มันมาจากส่วนลึกของป่าหวงชา ตรงจุดที่นรกมนตราถูกผนึกเอาไว้”
ลั่วอู๋สูดหายใจ
เมื่อพันปีก่อนเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันแน่?