ไหปีศาจ - บทที่ 620 ผลของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์
บทที่ 620 ผลของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์
บทที่ 620
ผลของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์
แม้ว่าลั่วอู๋จะใส่ทุกอย่างลงในไหปีศาจได้ แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาไม่ใส่ลงไปได้นั่นก็คือตัวเขาเอง
การเข้าสู่มิติไหทำให้เขามีสติสัมปชัญญะ มีจิตวิญญาณมีทุกอย่าง แต่ไม่มีตัวตน
ดังนั้นทุกครั้งที่เขาเข้าสู่มิติไห เขาจะต้องเลือกสถานที่ที่ปลอดภัยเท่านั้น เพราะในเวลานั้นจะเป็นช่วงเวลาที่เขาอ่อนแอที่สุด เมื่อร่างกายของเขาถูกทำลายสติสัมปชัญญะพลังวิญญาณและอื่น ๆ จะหายไปด้วย ตัดการเชื่อมต่อระหว่างมิติไหกับโลกภายนอก
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาตกอยู่ในอันตรายลั่วอู๋ จะสามารถรู้สึกตัวแล้วออกมาจากมิติไหได้ในทันที เขาจึงไม่ต้องกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องนี้
ในมิติไห
พรรคพวกของลั่วอู๋ได้กลับเข้ามายังที่นี่อีกครั้ง
เหวินเสี่ยวมองดูโลกอันสวยงามเหมือนแดนสวรรค์เบื้องหน้าเขาอย่างตื่นตาตื่นใจ เขาสูดอากาศเย็นเข้าไปในปอดแล้วพยายามสงบลง
“ มันสวยมาก นี่สินะคือเคล็ดลับของเจ้า” เหวินเสี่ยวอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสามารถฝึกฝนได้เร็วถึงขนาดนี้”
เนื่องจากสัตว์วิญญาณถูกนำเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ มิติไหจึงได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน มันกว้างขึ้นเสียจนแม้แต่ ลั่วอู๋ ก็ยังไม่สามารถมองเห็นขอบของมิติไหได้
ลั่วอู๋ พยักหน้า “ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร”
“แน่อยู่แล้ว” เหวินเสี่ยวกล่าวตอบในทันที
นอกจากนี้เขารู้ดีว่าการมีโลกใบเล็กเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร หากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มันจะต้องดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้เข้ามาแย่งชิงแน่
ในไม่ช้าพรรคพวกลั่วอู๋ก็เดินมาถึง คฤหาสน์ที่ใหญ่โตดั่งพระราชวัง
หงเฉา ยังไร้สติ แม้ว่าอารมณ์ของนางจะดีขึ้นมาก แต่ปากของนางก็มักจะพูดแต่เรื่องไร้สาระเช่น “ช่วยด้วย” และ “ช่วยองค์หญิง”
ฉิงเหมยคอยดูแลนาง สภาพของนางดูซีดเซียวผอมแห้ง บางครั้งก็แอบไปที่มุมห้องเพื่อเช็ดน้ำตา นางพยายามกลั้นยิ้มเพื่อปลอบหงเฉา อีกทั้งยังช่วยป้อนอาหารและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับหงเฉา
นางรู้ดีว่าสาเหตุที่นางรอดมาจากการทรมานอันเลวร้ายได้นั้น เป็นเพราะหงเฉายอมรับมันแทนเพื่อนาง
“หงเฉา, หงเฉา.” องค์หญิงเจียโรวรีบวิ่งไปที่ห้อง
ฉิงเหมยลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจ แล้วจึงกล่าวทำความเคารพ “องค์หญิง”
“ ฉิงเหมย พวกเราพบน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แล้ว” องค์หญิง เจียโรวคว้าแขนของ ฉิงเหมยอย่างตื่นเต้น “หงเฉา รอดแล้วสินะเจ้าคะ”
ฉิงเหมยดูเหมือนได้รับการช่วยชีวิต น้ำตาของนางไหลออกมาไม่หยุด ที่ผ่านมานั้นนางตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมามาก
ลั่วอู๋ควบคุมลูกบอลน้ำโดยแยก 1 ใน 5 ของมันออกมา จากนั้นก็ค่อย ๆ ส่งมันลงไปในปากของหงเฉา น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีฟ้าเล็กน้อย มันได้ให้กำเนิดพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งขึ้น
อย่างไรก็ตามนั่นทำให้ หงเฉา ประหม่าจนหดตัวด้วยความกลัว
องค์หญิงเจียโรวรีบไปข้างหน้าแล้วกอดหงเฉาเอาไว้ นางพยายามปลอบโยนหงเฉา “ไม่เป็นไรนี่ มันเป็นเพียงน้ำธรรมดา หงเฉา ดื่มน้ำนี้เขาไปสิ”
ด้วยคำพูดขององค์หญิงเจียโรว หงเฉาก็เริ่มผ่อนคลายลง นางอ้าปากอย่างว่างเปล่าและกลืนน้ำจากน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ก้อน เล็ก ๆ ลงไป
จากนั้นแสงบริสุทธิ์ก็เข้าห่อหุ้มร่างกายของ หงเฉา
หลังจากนั้นพลังวิญญาณแสงสีขาวก็ค่อยๆมาบรรจบกัน มือที่สั่นเทาของหงเฉาได้สงบลงโดยสมบูรณ์ จนในที่สุดร่องรอยของสติก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง จากนั้นก็กลับเหลือเพียงแต่ความงุนงง
องค์หญิงเจียโรวไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น “มันไม่ได้ผลงั้นเหรอ?”
ลั่วอู๋ส่ายหัวอย่างงง ๆ “ท่านหม่าเฉินไม่มีเหตุผลที่จะโกหกเรา น้ำพุศักดิ์สิทธิ์นี่เก่าเกินไปจนหมดอายุไปแล้วงั้นเหรอ?”
ในขณะที่ทุกคนกำลังสับสน หงเฉาก็เปิดปากของนางออกมา นางพูดอย่างระมัดระวัง “พวกเจ้ามองมาที่ข้าทำไมกัน?”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน จากนั้นความสุขของผู้คนก็ระเบิดออกมา
“หงเฉา ในที่สุดเจ้าก็หายดี” ราวกับว่าหัวใจของนางแตกสลาย ฉิงเหมยพุ่งเข้าหาหงเฉา แล้วหลั่งน้ำตาออกมา
องค์หญิงเจียโรวเองก็ได้เข้าไปกอดสาวใช้ทั้งสอง พลางร้องไห้ออกมาดั่งสาวฝน “หงเฉา ฉิงเหมยข้าสัญญาว่าข้าจะไม่ทิ้งพวกเจ้าไปอีกแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปทุก ๆ ที่ที่ข้าไปเที่ยวเล่น”
เมื่อ หงเฉา กลายเป็นแบบนี้หัวใจของ องค์หญิงเจียโรวก็เต็มไปด้วยความสำนึกผิด
ท้ายที่สุดมันเป็นเพราะนาง ที่หงเฉาและฉิงเหมยต้องถูกจับตัวไป ถ้านางมีความคิดและพาหงเฉา และฉิงเหมยไปด้วยกันกับนาง ในขณะที่นางกำลังเที่ยวเล่น เรื่องแบบนี้คงจะไม่เกิดขึ้น
หงเฉา ดูสับสน
แม้ว่านางจะฟื้นคืนสติของนางกลับมาได้ แต่ดูเหมือนว่านางจะจำอะไรไม่ได้เลย
ลั่วอู๋ เองก็ดูมีความสุขมากกับการฟื้นตัวของหงเฉา ในที่สุดหินก้อนใหญ่ในใจของเขาก็หายไป และพิสูจน์ให้เห็นถึงผลลัพธ์ของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์
หลังจากร้องไห้อย่างขมขื่นเป็นระยะเวลาหนึ่ง สาว ๆ ทั้งสองคนก็คลายความกังวลได้ในที่สุด แต่ หงเฉา นั้นยังคงสับสนอยู่มาก
องค์หญิงเจียโรวถามว่า “หงเฉา เจ้าจำไม่ได้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอเจ้าคะ?” หงเฉา กะพริบตา “ข้าจำได้ว่า กำลังจะออกไปข้างนอกกับฉิงเหมย หลังจากนั้นข้าก็จำอะไรไม่ได้เลย”
องค์หญิงเจียโรวและฉิงเหมยมองหน้ากันอย่างสับสน
ในตอนนั้นองค์หญิงเจียโรว ไม่ได้บอกพวกนางว่าตนจะไปที่ไหน พวกนางจึงตัดสินใจที่จะแอบออกไปตามหา องค์หญิงเจียโรว แล้วจึงถูกจับตัวไป
องค์หญิงเจียโรวเดินไปด้านหนึ่งแล้วกระซิบ กับ ลั่วอู๋ อย่างประหม่า “มีอะไรผิดพลาดงั้นเหรอ นางสูญเสียความทรงจำมากมายไปได้อย่างไร”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” ลั่วอู๋ปลอบใจนาง “มันน่าจะเป็นเพราะ ความทรงจำเหล่านั้นมันเจ็บปวดเกินไปกลไกการป้องกันตนเองของนาง จึงเริ่มทำงานโดยทำให้นางลืมความทรงจำนั้นไป มันไม่มีอันตรายต่อตัวนางมากนักหรอก อย่าได้กังวลไป”
องค์หญิงเจียโรวเช็ดน้ำตาของนาง ทำให้พรรคพวกต่างอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารนาง “ดีจริง ๆ”
“อืม ไม่ต้องกังวลไปน่า มันได้ผลดีมากเลยล่ะ” ลั่วอู๋ กล่าว
ลั่วอู๋ไม่ได้พูดโกหกปลอบใจองค์หญิงเจียโรว
นี่เป็นเรื่องจริง เมื่อผู้คนได้รับการกระตุ้นมากเกินไป สมองของพวกเขาจะลืมบางคนหรือบางสิ่งที่พวกเขาไม่อยากจะจำ ซึ่งเรียกว่าความจำเสื่อมแบบเลือกได้
หลังจากจัดการเรื่องที่นี่แล้ว ลั่วอู๋ ก็เดินออกจากห้องไปอย่างเงียบ ๆ และปล่อยให้ องค์หญิงเจียโรว กับหงเฉา ได้คุยกัน พวกเขาคงมีอะไรมากมายที่อยากจะพูดคุยกัน
จากนั้น ลั่วอู๋ ปล่อยสัญญาณเรียกทีมพันธมิตรผู้ล้างแค้นออกมา
กู่ฉวนหัวหน้ากลุ่มได้ออกมาหา ลั่วอู๋ คุกเข่าต่อหน้าเขาอย่างเคารพเป็นคนแรก จากนั้นเงาเสมือนจริงหลายสิบร่างก็กะพริบขึ้นมาคุกเข่าต่อหน้า ลั่วอู๋
“นายน้อยขอรับ” ทุกคนต่างเรียกลั่วอู๋ด้วยความเคารพ
ลั่วอู๋โบกมือ “เงยหน้าขึ้นเถอะ”
“ขอรับ”
กู่ฉวนได้เปลี่ยนไปเป็นหนุ่มโดยสิ้นเชิง ใบหน้าของเขาแน่วแน่และมั่นคง ลมปราณของเขาเหนือกว่าคนอื่น ๆ เขาได้มาถึงมิติวิญญาณระดับทอง 6 ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับที่ไม่สามารถประมาทได้เลยทีเดียว
ลั่วอู๋มองไปที่แขนเสื้อด้านขวาอันว่างเปล่าของเขาแล้วจึงกล่าวว่า “แม้ว่ายาฟื้นฟูระดับสูงจะมีค่า แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับสำนักโล่พิทักษ์ หากไม่มีใครใช้มัน”
กู่ฉวน เข้าใจว่า ลั่วอู๋ หมายถึงอะไร
“ไม่ใช่อย่างนั้นขอรับนายน้อย” กู่ฉวนก้มคำนับพลางอธิบาย “ ข้าเคยชินกับมันแล้ว หากแขนข้าฟื้นขึ้นมา มันจะส่งผลต่อความแข็งแกร่ง”
ลั่วอู๋คิ้วขมวดด้วยความโกรธ “ความเคยชินมันไม่ได้สำคัญเลย ถ้าเจ้าไม่ชินก็จงไปฝึกให้ชินใหม่อีกครั้ง ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่มันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด การที่เจ้ายังแขนขาด มันก็เหมือนกับการทำให้ข้าต้องเสียหน้า”
“ข้า … ” กู่ฉวน ลังเล
ลั่วอู๋ แสยะยิ้ม: “ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องนี้กันต่ออีกแล้ว เจ้าจงไปที่ห้องเล่นแร่แปรธาตุซะ ไปหามู่เถาแล้วขอให้เขากลั่นยารักษาให้กับเจ้า ที่นี่มีสมุนไพรวิญญาณหายากมากมายอยู่ในโกดัง ถ้าไม่ใช้มันเพื่อสิ่งนี้แล้วจะให้ข้าใช้มันตอนไหน?”
กู่ฉวนถูกไล่ไป
แน่นอนว่าเขารู้ว่าจริง ๆ แล้ว ลั่วอู๋ไม่ได้โกรธที่ตัวเองเสียหน้า แต่กำลังคำนึงถึงสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวกู่ฉวนเอง
เพียงแต่เขารู้สึกว่าตนเองรบกวนท่านลั่วอู๋มาเยอะแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ควรขออะไรมากมายขนาดนั้น
“ขอรับ” กู่ฉวน รับคำสั่ง
ลั่วอู๋ กล่าวเสริมว่า “มีเรื่องสำคัญอีกเรื่อง ข้าพบวัตถุวิญญาณที่สามารถฟื้นฟูญาติ ๆ ของเจ้าได้แล้ว ไปพาพวกเขามาให้ข้าด้วย”
นี่ทำให้กู่ฉวนดีใจมาก