ไหปีศาจ - บทที่ 621 ข้าให้เจ้า
บทที่ 621 ข้าให้เจ้า
บทที่ 621
ข้าให้เจ้า
จุดมุ่งหมายหลักของ กู่ฉวน คือการแก้แค้น
เมื่อการแก้แค้นได้สิ้นสุดลงจนอีกฝ่ายพังทลายลงอย่างสมบูรณ์ ความหมกมุ่นของเขาในตอนนี้จึงมีเพียง การหวังให้ญาติ ๆ ที่เหลืออยู่ของเขาฟื้นตัวกลับมา
แต่เขาก็ได้หมดหวังกับเรื่องนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง
เพราะเขาได้ไปถามมู่เถาเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว ในฐานะหัวหน้านักเล่นแร่แปรธาตุของสำนักโล่พิทักษ์ มู่เถานั้นเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับแปดอยู่แล้ว คำพูดของเขาจึงน่าเชื่อถือมาก
มู่เถากล่าวว่าทะเลแก่นวิญญาณของญาติ ๆ กู่ฉวนนั้นร้ายแรงเกินไป แม้แต่เขาก็ยังไม่เคยได้ยินว่ามียาวิญญาณใดจะสามารถรักษาความเสียหายที่เกินจริงเช่นนี้ได้
เขาจึงได้แต่ปลอบตัวเองว่า แค่ญาติ ๆ ของเขามีชีวิตรอดได้ก็ดีพอแล้ว แม้ว่าพวกเขามีสติเลอะเลือน แต่ก็ยังพอมีความหวังอันริบหรี่อยู่
สายเลือดของตระกูลหยางคงสิ้นสุดที่เขา
ทว่าความหวังก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อตอนนี้ลั่วอู๋บอกเขาว่า ญาติทั้งสี่ของเขามีโอกาสฟื้นตัวกลับมาได้ นี่ทำให้เขาตื่นเต้นมาก
กู่ฉวน รีบพาญาติทั้งสี่คนมาหาลั่วอู๋ในทันที
ท่านลุงคนที่สาม ท่านน้าคนที่สอง ท่านปู่ลำดับสี่ ท่านอา
แววตาของพวกเขาทั้งสี่คนล้วนหมองคล้ำว่างเปล่า ไม่มีชีวิตชีวา ไม่มีแม้แต่การเคลื่อนไหว เหมือนกับคนตาย
แตกต่างจากหงเฉา พวกเขาถูกใช้ทักษะค้นหาวิญญาณใส่หลายครั้งจนเกินไป ความเสียหายที่มีต่อทะเลแก่นวิญญาณนั้นร้ายแรงกว่ามาก จนแทบจะเหลือสตินึกคิดใด ๆ ที่จะมีชีวิตอยู่ พวกเขามีเพียงความปรารถนาเดียว ก็คือการตาย เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ต้องถูกทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม
สถานการณ์นี้อาจกล่าวได้ว่าร้ายแรงกว่าหงเฉาหลายสิบเท่า แม้ว่าน้ำพุศักดิ์สิทธิ์จะมีผลอันน่าอัศจรรย์ แต่ ลั่วอู๋ ก็ไม่สามารถรับประกันว่ามันจะสามารถช่วยพวกเขาให้รอดได้
กู่ฉวน ถามอย่างไม่สบายใจ “นายน้อยคิดว่ามันจะสำเร็จไหม ?”
“ก็ต้องลองดู” ลั่วอู๋ กล่าว
ลั่วอู๋นำส่วนที่เหลือของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แยกออกอย่างระมัดระวังประมาณหนึ่งในสิบ จากนั้นก็ค่อย ๆ ส่งไปยังปู่ลำดับสี่ของกู่ฉวน หยางเชา
แม้ว่า ลั่วอู๋ จะช่วยคนเหล่านี้เพื่อช่วย กู่ฉวน แต่เขาก็ยังเห็นแก่ตัว
เนื่องจากหยางเฉา ปู่ลำดับสี่ของ กู่ฉวน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตีเหล็ก ลั่วอู๋ จึงรักษาเขาเป็นคนแรก ด้วยวิธีนี้หากน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ได้ผลอย่างน้อยเขาก็สามารถฟื้นฟูช่างตีเหล็กขึ้นมาได้ เพราะลั่วอู๋ไม่แน่ใจว่าน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จะเพียงพอสำหรับทั้งสี่คนหรือไม่ อีกทั้งเขายังต้องแบ่งมันให้กับเหวินเสี่ยวด้วย
กู่ฉวน เห็นสิ่งนี้และรีบเปิดปากของปู่ลำดับสี่ “ท่านปู่มาเถอะ อ้าปากของท่าน”
หยางเฉาไม่มีความต้านทาน เขาถูกเปิดปากออก แล้วถูกบังคับให้กลืนน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ก้อนเล็ก ๆ ลงไป จากนั้นแสงสีขาวก็วาบขึ้นมาที่ร่างของเขา
ลั่วอู๋ จดจ่ออยู่กับ หยางเฉา
ใบหน้าของเขา ซึ่งซีดมาเป็นเวลานานตอนนี้เต็มไปด้วยร่องรอยของเลือดเนื้อ ดวงตาที่ว่างเปล่าของเขาดูเหมือนจะมีร่องรอยของความสดใส
จากนั้นร่างกายของเขาก็สั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ดวงตาหดตัวลงด้วยความกลัว แววตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว
“มันได้ผล!” ดวงตาของลั่วอู๋สว่างขึ้น
การแสดงอารมณ์เป็นสัญญาณที่ดี
กู่ฉวนอุ้มปู่ลำดับสี่ไว้ในอ้อมแขนแล้วพูดด้วยเสียงต่ำ“ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้วท่าน ปู่ลำดับสี่ ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่มีใครทำร้ายท่านได้อีกแล้ว”
ดวงตาของ หยางเฉาขุ่นมัว เขาจ้องไปที่ กู่ฉวน ด้วยความกลัว จากนั้นความกลัวของเขาก็ค่อยๆบรรเทาลงและกลายเป็นความหมองคล้ำและความลังเล “เจ้าตัวน้อย ?”
“ท่านปู่ลำดับสี่ ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว” กู่ฉวน รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ดวงตาของหยางเฉาเบิกกว้าง เขามองไปรอบ ๆ ตัวอย่างกังวล สภาพจิตใจของเขาแย่มาก ราวกับว่าเขากำลังจะพังทลาย แม้ว่าเขาจะฟื้นคืนสติมาได้จากการฟื้นตัวของทะเลแก่นวิญญาณ แต่ความทรงจำอันเจ็บปวดก็ยังคงอยู่กับเขา
“เจ้าคือผู้สืบทอดตระกูลของเรา” หยางเฉากล่าวอย่างรีบร้อน
ดวงตาของกู่ฉวนเป็นสีแดง น้ำตาของเขาไหลลงมาอีกครั้ง เขาเช็ดน้ำตาแล้วพูดว่า “ท่านปู่ลำดับสี่ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้วขอรับ”
ต่อมา กู่ฉวน ก็ได้บอก หยางเฉาทุกอย่าง
บางครั้งการแสดงออกของ หยางเฉาก็เจ็บปวด บางครั้งดุร้าย บางครั้งก็เศร้า หลังจากสงบลงเป็นเวลานานเขาก็ยอมรับความจริงได้
ความทรงจำของเขายังคงสมบูรณ์ แต่ความทรงจำหลังจากที่ถูกทรมานนั้นหายไป
หยางเฉายืนตัวสั่น เนื่องจากเขาไม่ได้ขยับมาเป็นเวลานาน มันจึงเป็นเรื่องยากมากที่เขาจะยืนตัวตรง ได้ เขาคุกเข่าลงต่อหน้า ลั่วอู๋ “ขอบคุณท่านมาที่ช่วยข้าไว้”
“ไม่เป็นไร” ลั่วอู๋รีบพยุงเขาขึ้นมา
หยางเฉาดูซับซ้อน เขามองไปที่สมาชิกตระกูลหยางอีกสามคนที่ยังสติเลอะเลือน ก่อนที่เขาจะเสียสติไปอย่างสมบูรณ์ มีคนมากกว่าหนึ่งโหลที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่คิดเลยว่าหลังจากที่เขาฟื้นคืนสติขึ้นมา จะมีคนเหลืออยู่เพียงสามคน
“ได้โปรดช่วยพวกเขาด้วย” หยางเฉาวิงวอน
เขารู้ว่าลูกบอลน้ำสีฟ้าที่ลอยอยู่ในอากาศจะต้องมีค่าอย่างยิ่ง เขาจึงไม่กล้าขอให้ลั่วอู๋ช่วยเท่าไหร่นัก
ลั่วอู๋ พยักหน้า “เจ้าสบายใจได้ มันเป็นสิ่งที่ข้าคิดจะทำอยู่แล้ว กู่ฉวน เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาคนสำคัญของข้า”
หลังจากนั้น ลั่วอู๋ ก็แยกน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ออกมาอีกสามส่วน มวลของพวกมันนั้นใกล้เคียงกับเขาใช้กับหยางเฉา ตอนนี้จึงมีน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เหลืออยู่อีกประมาณครึ่งหนึ่ง
ในไม่ช้าน้ำพุศักดิ์สิทธิ์สามส่วนเข้าสู่ร่างของเหล่าผู้รอดชีวิตจากตระกูลหยางทั้งสามคนที่เหลือ ฟื้นฟูทะเลแก่นวิญญาณของพวกเขา
พวกเขาเองก็ทุกข์ใจไม่แพ้กัน เมื่อได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่พวกเขาก็ไม่มีทาง นอกจากยอมรับความจริง
“ขอบคุณมาก” พวกเขาต่างขอบคุณ ลั่วอู๋ ด้วยความเศร้าโศก
พวกเขาต้องการจะแก้แค้นเช่นกัน แต่ศัตรูนั้นได้ตายไปแล้ว พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำอย่างไรต่อไป โลกนี้นั้นแปลกเกินไปสำหรับพวกเขา
สุดท้ายเพื่อตอบแทนการแก้แค้นที่สำเร็จผล และความช่วยเหลือของ ลั่วอู๋ พวกเขาเลือกที่จะอยู่ต่อและกลายเป็นลูกน้องของ ลั่วอู๋
กู่ฉวน มองไปที่ ลั่วอู๋ ด้วยความรู้สึกขอบคุณ ต่อให้จนวันตายบุญคุณนี้เขาก็คงทดแทนให้ได้ไม่หมด
ลั่วอู๋ มองไปที่ หยางเฉา “ข้าได้ยินมาจากกู่ฉวนว่าเจ้าเป็นปรมาจารย์การหลอมศาสตราใช่รึเปล่า?”
หยางเฉาพยักหน้า “ใช่ขอรับ”
“ดีมาก” ลั่วอู๋หยิบกล่องดำออกมาพร้อมกับ “ตำราแห่งการหลอม” แล้วส่งมันให้ หยางเฉา “งานของเจ้าคือ หลอมอาวุธในตำราเล่มนี้ให้หมด”
หยางเฉาเปิดตำราการหลอมด้วยความอยากรู้อยากเห็น หลังจากมองดูสองสามครั้งมือที่ตื่นเต้นของเขาก็สั่นสะท้าน “สวรรค์ นี่มันวิชาการหลอมที่หลงเหลือมาจากสมัยโบราณ มันบันทึกวิธีการหลอมอาวุธมนตราที่สูญหายไปแล้ว อย่าง ๆ น้อยก็เจ็ดชนิด นี่คือสำเนาตำราที่ไม่เหมือนของใครในโลก”
เขาคู่ควรกับการเป็นปรมาจารย์ด้านการตีเหล็กและหลอมอาวุธจริง ๆ หลังจากได้ดูตำราเพียงชั่วครู่ เขาก็สังเกตเห็นได้ถึงคุณค่าของหนังสือโบราณเล่มนี้
แม้ว่าชื่อจะดูเรียบง่าย แต่ก็เป็นสิ่งที่จักรพรรดิดาบทิ้งเอาไว้ มันจะไปธรรมดาได้ยังไง? แม้ว่าจะเขียนไว้เมื่อหลายหมื่นปีก่อน แต่มันก็มีค่ามาก
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่ามันถูกเขียนในยุคของการหลอมอาวุธและศิลปะการต่อสู้
“ถ้าเจ้าเรียนรู้หนังสือเล่มนี้อย่างละเอียด เจ้าจะสามารถสร้างอาวุธมนตราได้รึเปล่า?” ลั่วอู๋ ถาม
อาวุธมนตราเหล่านี้ อย่าง ๆ น้อยก็ต้องมีความสามารถระดับปรมาจารย์
ช่างหลอมระดับปรมาจารย์ในยุคนี้มีอยู่น้อยมาก และลั่วอู๋โชคดีพอที่จะช่วยชีวิตเขาซึ่งเป็นหนึ่งในนั้นได้
หยางเฉาสงบลง เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “ตอนนี้ข้าอ่อนแอมากและต้องการเวลาในการฝึกฝนตัวเอง นอกจากนี้การหลอมอาวุธมนตรา ยังต้องการเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม … ”
“ข้ารู้ว่ามันยาก แต่ข้าจะให้เวลาเจ้า และหาวัสดุมาให้ ข้าจะให้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ เจ้าเพียงแค่พยายามทำให้ดีที่สุด เจ้าพอจะมีโอกาสสร้างอาวุธมนตราได้ไหม?” ลั่วอู๋ถาม
เขารู้ว่าการหลอมอาวุธมนตราขึ้นมานั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก แม้ว่าจะเป็นเพียงการร่างแบบก็ยังยาก แต่มันก็เป็นการลงทุนที่ดี ดังนั้นเขาจึงถามว่ามีโอกาสหรือไม่
หยางเฉาจ้องมองไปที่ “ตำราการปลอมอันสมบูรณ์” ในมือของเขา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วพยักหน้าอย่างแน่วแน่ “ข้าทำได้แน่”
นี่คือความภาคภูมิใจในฐานะที่เขาเป็นสุดยอดช่างตีเหล็กในยุคนี้
ทางเดียวที่จะหยุดเขาได้คือการมีข้อมูลไม่เพียงพอเท่านั้น
แต่ตอนนี้เขามีหนังสือเล่มนี้แล้ว เขาคงจะไม่สามารถพูดปฏิเสธได้อีก
“ดีมาก” ในที่สุดลั่วอู๋ก็แสดงรอยยิ้มออกมา “ดูแลสุขภาพของเจ้าให้ดีก่อน รู้ไว้ด้วยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพียงแค่ข้าฝากเจ้าให้ไปทำเท่านั้น”