ไหปีศาจ - บทที่ 66 ฉูจงฉวน
บทที่ 66
ฉูจงฉวน
ลั่วอู๋ออกจากที่พัก และขึ้นรถม้าเดินทางไปยังคฤหาสน์ชวนเทียน
เขาพาหลี่หยินไปด้วยแค่คนเดียว และไร้หน้าอยู่ที่โรงเตี๊ยม
วันนี้เป็นวันประมูลสินค้า แม้แต่ท้องถนนที่แออัดทุกวัน กลับว่างเปล่า
ไม่ช้า เขาก็มาถึงหน้าประตูของคฤหาสน์ชวนเทียน มีรถม้าสวย ๆ จอดอยู่ข้างนอกหลายคัน ดูเหมือนว่าผู้หลักผู้ใหญ่กำลังเดินทางมายังที่แห่งนี้
คฤหาสน์ชวนเทียน ให้ความสำคัญกับการประมูลอย่างมาก
มังกรเกล็ดโลหิต สัตว์วิญญาณระดับทอง มิติที่ 10 เดินผ่านถนนเข้ามา มันสูงและสง่างามมาก มันเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ ลมหายใจที่รุนแรง ทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้
จากนั้น ได้มีนกกางเขนหลากสีสันบินทั่วท้องฟ้า พวกมันคาบริบบิ้นหลากสีสันและแสดงท่าทางที่สวยงามในอากาศ เป็นที่ดึงดูดในสายผู้คนอย่างมาก
ทางเข้าขนาดใหญ่ของคฤหาสน์ชวนเทียน มีแสงสีทองสว่างออกมา จากนั้นมันกลายเป็นพรมสีแดงทอดยาวจากถนนเข้าไปข้างใน เพื่อให้ผู้คนเดินตามพรมเข้ามายังข้างในโรงประมูล
ลั่วอู๋ออกมาจากรถม้า ขณะที่กำลังจะเข้าไปข้างใน เขาได้ยินใครบางคนเรียกเขา
“ว่าไง น้องชายลั่ว!”
ลั่วอู๋หันหน้าไปตามเสียงเรียก ปรากฏว่าคนคนนั้นคือ ฉูจงฉวน
ฉูจงฉวนใส่เสื้อผ้าสีขาวสะอาด คิ้วดาบและดวงตามีความสง่างาม
ลั่วอู๋ยอมรับว่าตระกูลฉู ทั้งสาขาใหญ่และเล็กมีเงินทุนหนามาก เขาดูดีมากจริง ๆ
“บังเอิญจังเลยนะ” ลั่วอู๋ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ฉูจงฉวนเดินเข้ามาอย่างกระตือรือร้น “แหม ๆ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญสักหน่อย เข้าไปข้างในด้วยกันดีกว่า แล้วเจ้าก็นำสัตว์วิญญาณกลายพันธุ์มาประมูลด้วย เจ้าควรจะไปหาที่นั่งนะ”
“ขอรับ” ลั่วอู๋พยักหน้า
พวกเขาเดินเข้าไปในโรงประมูล
“โรงประมูลมีคนเข้ามาร่วมการประมูลไม่น้อยเลย ที่นั่งของเจ้าคงจะเป็นที่นั่งสีเหลืองตามปกติสินะ”
ฉูจงฉวนขมวดคิ้วและหยิบบัตรทองคำขาวขึ้นมา “นี่คือบัตรแขกสำคัญของคฤหาสน์ชวนเทียน ที่ข้าขโมยจากชายชรา…แค่ก! ยืมมาจากตระกูลฉู ที่ทรงอิทธิพลแห่งหนานจุน ดังนั้น เราจึงมีที่นั่งพิเศษใน คฤหาสน์ชวนเทียน ตราบใดที่แสดงบัตรทองคำขาวนี้ ก็สามารถเข้าไปได้นั่งในที่นั่งชวนซือได้”
ฉูจงฉวนพูดออกมาอย่างโอ้อวด
ลั่วอู๋มองบัตรระดับทองคำขาว
แต่เขายังมีบัตรสีดำที่ได้รับมาจากท่านหวังฉี เขาไม่รู้ว่าอันไหนมันดีกว่ากันแน่
ไม่ไกลนัก มีรถม้าคนหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามา มีชายชราผู้สง่างามนั่งมากับรถม้าคันนั้น เขาตะโกนออกมา เมื่อเขามองเห็น ฉูจงฉวนจากระยะไกล
“เจ้ากล้าดียังไง ที่มาขโมยบัตรทองคำขาวของข้าไป! เอามาให้ข้าเดี๋ยวนี้” เสียงของชายชราดังมาจากรถม้า
ผู้คนรอบข้างเอามือปิดไปที่หูของพวกเขา
ฉูจงฉวนตัวแข็งทื่อ เขาดึงลั่วอู๋อย่างเร่งรีบ “ไป ไปกัน งานประมูลสินค้ากำลังจะเริ่มแล้ว!”
ฉูจงฉวนดึงมือลั่วอู๋ เข้าไปในโรงประมูล
ฉูจงฉวนแสดงจดหมายรับเชิญและบัตรทองคำขาวขึ้นมา เขาได้รับการต้อนรับจากคนงานด้วยความเคารพ เขารู้สึกโล่งใจอย่างมาก
โชคดีจริง ๆ ข้าฉลาดชะมัดยาด
เขาขโมยจดหมายรับเชิญมาจากชายชราคนนั้น เพื่อเข้ามาในงานประมูลสินค้าในนามของตระกูลฉู
มิฉะนั้น ชายชราคนนั้นจะต้องเข้าไปเพื่อซื้อภูตดอกไม้ แล้วบังคับเขาให้นำมันไปมอบกับองค์หญิงเจียโรว เป็นของที่ระลึกในงานเลี้ยง
แต่นั่นมันองค์หญิงนะ!
มันเป็นเรื่องยากสำหรับหนุ่มใหญ่? ไม่ว่าดอกไม้นั้นจะบอบบางและสวยงามเพียงใด ก็มิอาจต่อกรกับมวลดอกไม้ทั้งผืนป่าได้
ด้านนอกโรงประมูล ชายชราคนหนึ่งกำลังถูกผู้คุมของคฤหาสน์ชวนเทียนหยุดเอาไว้ “ขออภัยด้วยขอรับ! ท่านไม่มีจดหมายรับเชิญให้เข้าร่วมงานประมูล”
“เจ้ากำลังทำอะไร? ไม่รู้จักข้าหรือไงกัน? ข้า ฉูจานเทียน” ชายชราดูกำลังรีบร้อน
ฉูจานเทียน
เขาเป็นผู้นำของตระกูลฉู อย่างไม่ต้องสงสัย ครั้งหนึ่ง เขาเคยเข้าไปในหุบเขาแห่งความตายเป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ มาเลย
เหตุผลที่ตระกูลฉูมีอิทธิพลในเมืองหมิงหนานมากขนาดนี้ เพราะบรรพบุรุษส่วนใหญ่ของตระกูลฉูนั้นแข็งแกร่ง และมีพลังในการต่อสู้อยู่จุดสูงสุด
“ขอโทษด้วยขอรับ แม้แต่องค์ชายถ้าไม่มีจดหมายเชิญ ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ขอรับ” ผู้คุมพูดอย่างถ่อมตน และไม่เย่อหยิ่ง
ฉูจานเทียน รู้สึกเวียนหัว ที่ไม่มีทางเข้าไปได้
นี่คือกฎของคฤหาสน์ชวนเทียน
จดหมายรับเชิญและบัตรแขกสำคัญถูกฉูจงฉวนขโมยไป โดยปกติแล้ว เขาไม่สามารถเข้าไปข้างในโรงประมูลได้
“เจ้าเด็กเวรนั่น ถ้าเจ้าไม่สามารถประมูลภูตดอกไม้มาละก็ ข้าจะไล่ทุบซ่องในเขตหนานจุนให้หมดเลยคอยดู” ฉูจานเทียน ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
แม้ว่า เขาจะเข้าไปในโรงประมูลแล้ว ฉูจงฉวนก็ยังคงได้ยินเสียงของชายชราคนนั้นอยู่ เขาแสดงท่าทีอย่างน่ารังเกียจ
หนังเหนียวจังนะ ตาแก่
ผู้คนรอบข้างมองมาที่ ฉูจงฉวนอย่างประหลาด ในแววตาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
อย่างที่รู้กันว่าฉูจงฉวนมักจะชอบไปยังสถานเริงรมย์
อย่างไรก็ตาม การข่มขู่นายน้อยตระกูลฉูว่าจะทำลายซ่องทุกที่ มันแย่มาก
ฉูจงฉวนยิ้มอย่างเจื่อน ๆ เขาก้มศีรษะลงและจูงลั่วอู๋เข้าไปข้างใน มันน่าขายหน้าชะมัด
อย่างไรก็ตาม งานประมูลสินค้าครั้งนี้ ผู้คนที่ร่ำรวยมารวมตัวในที่แห่งนี้เป็นจำนวนมาก พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลกับหน้าตาของผู้ที่มาจากตระกูลฉูเลย
ลั่วอู๋หัวเราะ และถามว่า “ท่านมาที่นี่เพราะภูตดอกไม้งั้นเหรอ?”
“จะว่างั้นก็ได้” ฉูจงฉวนถอนหายใจ: “เดิมที ข้าไม่ต้องการที่จะประมูล ตอนนี้ข้าไม่สามารถทำได้ถ้าข้าไม่ต้องการที่จะประมูลมัน ชายชราอาจเล่นงานข้าได้”
ฉูจงฉวนส่ายหัว “อย่าไปพูดถึงมันเลย เรามาคุยกันเรื่องอื่นดีกว่า เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าคฤหาสน์ชวนเทียน เปลี่ยนการประมูลภูตน้ำมาเป็นภูตดอกไม้แทน”
“รู้สิ.” ลั่วอู๋พยักหน้า
คฤหาสน์ชวนเทียนประกาศออกไปว่า เขาจะประมูลภูตดอกไม้แทนภูตน้ำ
มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่า คฤหาสน์ชวนเทียนไม่สามารถนำภูตน้ำกลับมาได้
“คฤหาสน์ชวนเทียนมีความสามารถมากจริง ๆ สามารถหาภูตดอกไม้มาแทนภูตชนิดอื่นได้ โรงประมูลชวนเทียน เดินทางไปยังเมืองอมตะโบราณงั้นหรือ?” ฉูจงฉวนพูดด้วยเสียงเบา ๆ
“เจ้าไม่รู้เหรอ” ฉูจงฉวนพูดด้วยความตื่นเต้น “ในรายชื่อของสัตว์วิญญาณที่องค์หญิงเจียโรวต้องการมากที่สุดคือ ภูตดอกไม้”
ลั่วอู๋ลูบคางไปมา “จริง ๆ แล้วข้า… “
“แต่ครั้งนี้ ข้าได้แอบขโมยจดหมายรับเชิญมาแล้ว เราไปหาที่นั่งกันดีกว่า” ฉูจงฉวนพูดอย่างระมัดระวัง
“คนจำนวนมากกำลังเดินเข้ามาแล้ว”
“พ่อค้าลึกลับที่แสนร่ำรวย”
“หัวหน้าผู้บังคับบัญชา”
“หัวหน้าของตำหนักเจ้าเมือง”
“องค์ชายรัชทายาทแห่งพิงหนาน”
“ท่านมาที่นี่เพื่ออะไร? มันเป็นภูตดอกไม้สำหรับองค์หญิงเจียโรว บุตรสาวเพียงคนเดียวขององค์ราชา และเป็นที่รักของใครหลาย ๆ คน”
“ท่านรู้อะไรไหม? ว่าอำนาจขององค์หญิงเจียโรวเป็นอย่างไร?”
“มันคือความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่”
“ถ้าข้าสามารถอยู่ในสายตาขององค์หญิงเจียโรว และเข้าไปเป็นราชบุตรเขยได้ มันจะยิ่งวิเศษขึ้นไปอีก แม้ว่าข้าจะไม่สนใจนางเลยก็ตาม”
ลั่วอู๋แตะจมูก “ทรงพลัง? ข้าไม่คิดว่า องค์หญิงเจียโรว จะมีอะไรพิเศษเลยสักนิด”
เขาคิดอยู่ในใจ
นางแค่นอนอยู่บนเตียง และรอให้มีคนส่งอาหารให้นางทุกวัน
“เจ้ารู้อะไรงั้นเหรอ?” ฉูจงฉวนกลอกตา
“กล่าวกันว่า เมื่อวันที่องค์หญิงเจียโรวถือกำเนิด เกิดแสงสว่างทั่วราชอาณาจักร และมีพลังวิญญาณอมตะปกคลุมไปทั่วราชวัง ดอกไม้ผลิบานทั่วทั้งอาณาจักร แม้แต่ภูตในตำนานก็ปรากฏตัวขึ้น”
“แน่นอนว่า มันเป็นแค่เรื่องเล่า”
“ข้าอยากรู้เกี่ยวกับรูปลักษณ์ขององค์หญิงเจียโรวเหลือเกิน ข้าได้ยินมาว่า เธอมีความงดงามและใบหน้าที่เขินอายราวกับดอกไม้ ข้าไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่”
ยิ่งพูดยิ่งน่าสนใจ
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่นั่ง
“เข้ามาเลย ข้าจะพาเจ้าไปนั่งในที่นั่งชวนซือ มันน่าจะดีพอนะ” ฉูจงฉวนยักคิ้วที่ดูดีของเขา
ณ ที่นั่งชวนซือ
บรรยากาศภายในนั้น หรูหรา เรียบง่าย และมีความเป็นระเบียบ
บนโต๊ะน้ำชา มีชาหลิงยุนอันล้ำค่าวางอยู่ กลิ่นหอมจากชาทำให้รู้สึกสบาย
ความเป็นจริงแล้ว ที่นั่งนั้นไม่มีความหรูหรา แต่ในการประมูลสินค้า ที่นั่งดังกล่าวมันเป็นจุดศูนย์รวมของสายตา
เมื่อกำลังจะนั่งลงบนที่นั่ง ได้มีเสียงพูดจาเยาะเย้ยดังขึ้นมา
“นั่นไม่ใช่ที่สำหรับเจ้า ฉูจงฉวน”