ไหปีศาจ - บทที่ 674 ชายที่ต้องสังหาร
บทที่ 674 ชายที่ต้องสังหาร
บทที่ 674
ชายที่ต้องสังหาร
ทันทีที่เขาออกคำสั่งเสียงฮือฮาก็ลดลง
ไม่มีใครคิดว่าหลี่ซวนซงที่ล้มเหลวในการก่อกบฏและถูกตัวหัวขาดไปแล้วมาเป็นเวลาหนึ่งปี จะยังคงมีอำนาจและอิทธิพลมากมหาศาลเช่นนี้
ก่อนหน้านี้กองทัพหมาป่าได้พ่ายแพ้และถูกรวมเข้ากับกองทหารสำคัญ ๆ อย่างไรก็ตามทหารส่วนใหญ่ก็ยังคงภักดีต่อเจียหมิงหยู
ดังนั้นหลังจากได้รับคำสั่งของเจียหมิงหยู พวกเขาก็เลือกที่จะทำการกบฏอย่างเด็ดเดี่ยว จึงทำให้กองทัพทั้งหมดของราชวงศ์มังกรเร้นกายตกอยู่ในความโกลาหล
การรื้อถอนรากถอนโคนพวกเขาไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใช้เวลา
เพียงแค่ความโกลาหลเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครตอบสนองทัน ทำให้ทั้งประเทศตกอยู่ในความวุ่นวาย กลายเป็นภาพลวงตาที่น่ากลัว
เมื่อมีการประกาศคำสั่ง คนของกองทัพหมาป่าดั้งเดิมก็ยอมที่จะถูกจับทันที เพราะภารกิจของพวกเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว
จักรพรรดิองค์ใหม่ได้ขึ้นครองบัลลังก์
ไม่มีใครตั้งตัวทัน
คำสั่งยังคงดำเนินต่อไป
ความวุ่นวายทางทหารเริ่มบรรเทาลง
วัตถุที่ถูกขโมยจากคลังก็ถูกนำมาคืน
หน่วยรักษาความปลอดภัยท้องถิ่นกลับเข้าทำงาน ปราบปรามเหตุวุ่นวายอย่างแข็งขัน
ขุนนางที่เจ็บป่วยก็กลับไปยังศาลและสถานที่ต่าง ๆ กลับไปทำงานตามปกติ
ร้านค้าซึ่งเดิมทีคิดจะเปิดประมูลราคา ก็ได้เลือกที่จะกลับสู่ราคาปกติ ความไม่สงบทางแพ่งเองก็ได้บรรเทาลง
สถานการณ์ทรงตัวลงในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน
แม้ว่านี่จะเป็นเหตุวุ่นวายที่ก่อขึ้นโดยหลี่ซวนซง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขามีพลังของจักรพรรดิจริง ๆ
เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์แม้หลายคนจะไม่เต็มใจ แต่คนส่วนใหญ่ก็อุ่นใจลง เพราะเมื่ออยู่กับเขาคนทั้งประเทศก็จะไม่ตกลงอยู่ในความสับสนวุ่นวายอีก
หลี่ซวนซง ออกคำสั่งให้เปลี่ยนขันที และองครักษ์หญิงในวังจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่เก่าหลายคนถูกบังคับให้ลาออกและแทนที่ด้วยคนสนิทของเขา
แน่นอนว่ากองทัพหมาป่าได้รับการจัดระเบียบใหม่ กองทหารสำคัญ ๆ ต่างได้รับการจัดระเบียบใหม่ มีเพียงแค่หน่วยสยบมังกร และหน่วยรบค่ายกลสังหารเท่านั้นอยู่เฉย ๆ ในขณะนี้
คำสั่งเหล่านี้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย แต่พวกเขาทั้งหมดถูกระงับด้วยความรุนแรงของหลี่ซวนซง
ในหอสมุดราชสำนัก
หลี่ซวนซง กำลังตรวจสอบเรื่องต่างอย่างจริงจัง
ทุกคำสั่งของเขาถูกดำเนินการออกไป
ทั้งประเทศค่อย ๆ อยู่ในกำมือของเขา แต่แน่นอนว่ายังคงมีกองกำลังลับจำนวนมากที่ถูกควบคุมโดยองค์จักรพรรดิองค์เก่า ซึ่งตอนนี้เขาต้องการที่จะขุดค้นหาและกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก
“จัดการติดต่อ หน่วยสยบมังกร หน่วยรบค่ายกลสังหารให้ได้ซะ” หลี่ซวนซงเคาะนิ้วลงบนโต๊ะและนั่งสมาธิ
ในขณะนี้เขาไม่สามารถติดต่อกับกองกำลังทั้งสองได้
แม้ว่ากองกำลังทั้งสองจะไม่แสดงการต่อต้าน แต่เขาก็ยังไม่กล้าใช้วิธีที่รุนแรงเกินไปเพราะเขาต้องการควบคุมทั้งสองกองกำลังนี้อย่างราบรื่น
เขาต้องควบคุมหน่วยสยบมังกร หน่วยรบค่ายกลสังหารให้ได้เท่านั้น จึงจะถือว่าสามารถควบคุมอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกายได้อย่างสมบูรณ์
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงความมืดมิดปกคลุมเข้ามารอบตัว
ดูเหมือนว่าจะเขาจะถูกลากเข้าไปสู่ช่องว่างมิติอื่น
ขุนนางทั้งหมดที่รับผิดชอบธุระขององค์จักรพรรดิได้หายไป
หลี่ซวนซง วางตราหยกในมือของเขาลง จากนั้นชายชราลึกลับที่มีพัดขนกระเรียนและใบหน้าที่ไร้รูปลักษณ์บดบังโดยหมอกสีขาวอ่อน ๆ ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
“มาแล้วเหรอ” หลี่ซวนซงไม่มีท่าทีแปลกใจ
ชายชราพูดอย่างแผ่วเบา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะชินกับมันได้เร็วมากเลยนะ”
“ข้าเคยชินกับมันมายี่สิบเจ็ดปีแล้ว ข้ารู้ว่าข้าต้องเตรียมอะไรบ้าง”หลี่ซวนซง ยิ้ม
“ข้าให้เจ้าทุกอย่างที่เจ้าต้องการแล้ว” ชายชราพูดอย่างใจเย็น “อย่าลืมคำสัญญาของเจ้า สิ่งที่ข้าให้เจ้าข้าสามารถเอากลับคืนมาได้เสมอ”
แน่นอนว่าชายชราคนนี้คือภูตไห
หากปราศจากความช่วยเหลือของภูตไห เขาก็ไม่สามารถกลายเป็นองค์จักรพรรดิได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ การเนรเทศองค์จักรพรรดิออกไปนั้นทำได้ด้วยพลังวิญญาณของภูตไหด้วยเช่นกัน
ดวงตาของหลี่ซวนซงเป็นประกายแวววาว แต่มุมปากของเขากลับรอยยิ้มอันอ่อนโยน “แน่นอนหลังจากข้าพิชิตทั้งทวีปแล้ว เจ้าจะได้รับผิดชอบจักรวรรดินี้”
นี่คือราคาที่เขาจ่าย
เนื่องจากความล้มเหลวเขาจึงต้องจ่ายราคามากขึ้น เพื่อขอความช่วยเหลือจากภูตไหอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เงื่อนไขมีเพียงสิบปีสำหรับการปกครองจักรวรรดิ โดยภูตไห แต่ครั้งนี้ราคาที่ต้องจ่ายนั้นแย่ลงมากเป็นพิเศษ
เพราะเขาจะต้องกลายเป็นหุ่นเชิดของภูตไหและคอยที่ดูแลจักรวรรดิ
ดวงตาของภูตไหขยับและไม่พูดอะไร
ทั้งสองคนต่างมีความลับในใจ
หลี่ซวนซง เกลียดการถูกคุกคามนับประสาอะไรกับการพยายามทำลายอาณาจักรที่เขาควบคุม ในขณะที่ภูตไหเรียนรู้ที่จะไม่เชื่อในคำสัญญาของมนุษย์มานานแล้ว
แต่ทั้งสองคนก็ได้ทำข้อตกลงกันทั้งที่พวกเขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะสำเร็จ
“ข้าจะรอจนกว่าเจ้าจะพิชิตทั้งทวีปได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าต้องการให้เจ้าลงมือทำเลยในตอนนี้” ทันใดนั้นภูตไหก็พูดขึ้น
หลี่ซวนซงขมวดคิ้ว “อะไร ?”
“ ลั่วอู๋” ภูตไหค่อย ๆ พูดชื่อออกมา “ข้าต้องการให้เจ้าฆ่าเขาและนำไหเล็ก ๆ ของเขามาให้ข้า”
ดวงตาของ หลี่ซวนซง หรี่ลงเล็กน้อย จิตสังหารฉายแววออกมาในดวงตาของเขา “ไม่จำเป็นต้องพูด ข้าทำให้เจ้าได้เลย”
ถ้าไม่ใช่เพราะลั่วอู๋ในคราวก่อน แผนของเขาจะล้มเหลวได้อย่างไร
เขาเกลียดลั่วอู๋ที่สุด
“ดีมาก” ภูตไหพูดจบประโยคนี้ จากนั้นก็จากไปอย่างเงียบ ๆ
เมื่อไม่มีหมามีแดงคอยอยู่ข้างๆ เขาก็ดูจะรู้สึกโดดเดี่ยว แต่เขาก็ไม่ได้ดุว่าหลี่ซวนซง ที่ทำให้เขาต้องเสียเทพพิทักษ์เวหาไป
หลี่ซวนซง นั่งบนบัลลังก์มังกร หลับตาและยกระดับความคิดของเขา
เขาไม่เคยเห็นอารมณ์ของภูตไหแปรปรวนเลย
ชายคนนี้เป็นเหมือนหุ่นเชิดที่ไม่มีความรู้สึก แต่คราวนี้เขาแสดงเจตนาฆ่ากับลั่วอู๋ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก
เป็นไปได้ไหมว่าลั่วอู๋จะเข้าใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับภูตไห
“ ดูเหมือนว่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับไหใบเล็กที่เขาพูดถึงสินะ” หลี่ซวนซงครุ่นคิด
……
……
ในสำนักเฉียนหลงไม่มีใครรู้ข่าวสารของโลกภายนอก
ไม่มีทางเลยที่คนในสำนักเฉียนหลงจะสื่อสารกับโลกภายนอกได้
ดังนั้นแม้ว่าภายในจักรวรรดิราชวงศ์มังกรเร้นกายจะเปลี่ยนไปมาก แต่สำนักเฉียนหลงก็ยังไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ
แน่นอนว่าลั่วอู๋ก็ยังไม่รู้ว่าเขากำลังอยู่ในช่วงวิกฤต เขายังคงขัดเกลาฝึกฝนตัวเองอยู่ในหอคอยสีขาว
ครึ่งบนของหอคอยสีขาว
ที่นี่เขาสามารถรวบรวมเงาของคู่ต่อสู้ในอดีต มาเพื่อฝึกต่อสู้ได้
คู่ต่อสู้ของ ลั่วอู๋ยังคงเป็น เอ๋าเฉียนจุน
หมัดวายุสายฟ้าคำรน!
ร่างกายของ เอ๋าเฉียนจุน กลายเป็นสายฟ้า การแสดงออกของเขาไม่แยแสต่อสรรพสิ่ง หมัดของเขาเปี่ยมไปด้วยแรงลมและสายฟ้า พุ่งลงมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเสียงฟ้าร้อง
ตูมม
ลั่วอู๋ยังคงสงบนิ่ง มือของเขาถูกห่อหุ้มด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ เขาพุ่งผ่านความว่างเปล่า และในที่สุดก็ปล่อยพลังวิญญาณรวมตัวกันเป็นสว่านพุ่งขึ้นไปกลายหกดาวขนาดเล็กหกดวง
ทักษะระดับ SS [รวมพลเทวดา]
ไม่รู้ว่าทำไมความเร็วในการใช้ทักษะนี้ของลั่วอู๋ ถึงช้ากว่าเดิมมาก แต่ครั้งนี้มันมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าเดิมมากมาย
การกลั่นตัวของดาวหกแฉกส่องแสงศักดิ์สิทธิ์ก็แพรวพราวออกมา เสาแสงขนาดใหญ่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
ภูตสวรรค์ที่มีปีกหกปีก และถือดาบแห่งการพิพากษาสองเล่มในมือ ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างช้า ๆ ดาบแห่งการพิพากษาทั้งสองเล่มกำลังลุกไหม้ด้วยเปลวไฟ
ภูตมหาสงคราม
มันเป็นภูตที่มีพลังในการรบเป็นอันดับหนึ่ง
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือมันมีดาบอยู่ถึงสองเล่มในมือ ทำให้พลังในการต่อสู้ของมันเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50%
“ในที่สุด” ลั่วอู๋ยิ้มอย่างดีใจ
แก่นแท้ทักษะแห่งการอัญเชิญของเข้าได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นระดับที่สองของ “ความเข้าใจเบื้องต้น” และระดับความเชี่ยวชาญในทักษะนี้ของเขาก็สูงถึง 55%
เขาจึงสามารถอัญเชิญภูตมหาสงครามออกมาได้
และภูตมหาสงครามนี้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างน้อยก็เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง
ยิ่งมันสามารถคงร่างอยู่ได้นานเท่าไหร่ ทักษะนี้ก็ยิ่งมีค่ามากขึ้นเท่านั้น เพราะมันสามารถทิ้งเจ้านายไปทำอย่างอื่นได้เช่นอ่านหนังสือ ขุดหลุม ตกปลา เป็นต้น
แต่ก็คงไม่มีใครว่างพอที่จะส่งคำเรียกร้องอัญเชิญตัวตนอันทรงพลังเช่นนี้ให้ทำเรื่องพวกนั้นแน่