ไหปีศาจ - บทที่ 675 จินหลิงเจีย
บทที่ 675 จินหลิงเจีย
บทที่ 675
จินหลิงเจีย
ลั่วอู๋ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของร่างเงาเอ๋าเฉียนจุน
ภูตมหาสงครามที่ถูกอัญเชิญมาฟาดฟันมือดาบแห่งการพิพากษาสองเล่มในมือของมัน การแสดงออกของมันดูไม่แยแสต่อสิ่งใด ดาบทั้งสองไขว้กันและระเบิดแสงพราวออกมา
เปลวไฟนั้นกำลังเดือดระอุ
พลังวิญญาณแห่งสงครามกำลังเดือดระอุ
พลังวิญญาณของภูตมหาสงครามนั้นน่ากลัวจนน่าตกใจ ในขณะนี้แสงดาบที่มีเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ไขว้ออกไปเหมือนไม้กางเขนเพื่อให้สามารถรับพลังของสายฟ้าและพายุเอาไว้ได้
ตูม
ลมพายุและสายฟ้าร้องถูกตัดออกเป็นสี่ส่วน
ร่างจำลองของเอ๋าเฉียนจุนถูกสับออกและหายไปในอากาศ
“ฟู่ … ” ลั่วอู๋ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
ในสามเดือนที่ผ่านมาเขาไม่เคยหยุดที่จะพยายามทำความเข้าใจแก่นแท้ทักษะ แก่นแท้ทักษะการอัญเชิญ และแก่นแท้ทักษะแห่งการกลืนทั้งหมดของเขาได้ไปถึงระดับของ “ความเข้าใจเบื้องต้น”แล้วจริง ๆ
ปัจจุบันความเชี่ยวชาญในแก่นแท้ทักษะของเขามีดังนี้:
การอัญเชิญ การกลืนกิน และ มนตรา เป็นแก่นแท้ทักษะสามข้อที่เข้าบรรลุถึงระดับความเข้าใจเบื้องต้นจริง ๆ
ส่วนแก่นแท้แห่งการทำลายล้างของเขาได้ไปถึงขั้นการหยั่งรู้
ด้วยการพัฒนา ทักษะของเขาจึงสมบูรณ์ขึ้น สัตว์วิญญาณที่เขาอัญเชิญออกมาไม่เพียงแต่มีเวลาในการคงอยู่นานขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีความแข็งแกร่งมากขึ้นอีกด้วย
แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดเลยก็คือเมื่อการเปลี่ยนแปลงแบบนี้เกิดขึ้น ความแข็งแกร่งของภูตมหาสงครามเองก็แข็งแกร่งขึ้นไปด้วย
เขาทดลองใช้พลังดาบของมันอีกสองครั้ง
อย่างไรก็ตามภาพลวงตาของเอ๋าเฉียนจุน นั้นยังเป็นแค่เพียงระดับทองมิติ 10 เพราะครั้งสุดท้ายที่เขาเจอกับเอ๋าเฉียนจุน อีกฝ่ายนั้นยังเป็นแค่ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทอง มิติ10
ดังนั้นหอคอยสีขาวจึงสามารถสร้างภาพลวงตาของ เอ๋าเฉียนจุน ในเพียงแค่ในระดับนี้
ต้องยอมรับว่า เอ๋าเฉียนจุน นั้นแข็งแกร่งจนผิดปกติจริงๆ เขามีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับทองขั้นสูงตั้งแต่ในตอนที่เขาเป็นเพียงแค่ระดับทอง มิติ 10 มีเพียงภูตสวรรค์ที่แข็งแกร่งมาก ๆ เท่านั้นจึงจะสามารถฆ่าเขาได้
หลังจากการฝึกในช่วงนี้
มิติวิญญาณของ ลั่วอู๋ ก็ได้รับการยกระดับเป็นทองขั้นสูงมิติ 2 เรียบร้อยแล้ว
“ ใกล้จะถึงเวลาพักผ่อนแล้ว” ลั่วอู๋ก้าวออกจากหอคอยสีขาว
ฉูจงฉวน ที่อยู่ห่างไกลออกไปในทะเลสาบวิญญาณ ได้เข้าถึงแก่นแท้ทักษะแห่งธาตุน้ำได้สำเร็จแล้ว เขาจึงพักผ่อนตามนิสัยปกติ
เขากำลังเล่นกระดานโต้คลื่นอยู่กับราชาแห่งน้ำอย่างสนุกสนาน
ฉูจงฉวน เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด เขารักการผจญภัยในการฝึกฝน เขากล้าที่จะลองทำอะไรก็ได้ เขาจึงสามารถผ่อนคลายตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดหลังการฝึกซ้อม
ทุกคนต่างมีวิธีการฝึกฝนเป็นของตนเอง
ทางตะวันออกของมิติไห มีแสงสีม่วงลอยอยู่ในทุ่งดอกไม้ มันคือภูตน่ารักแสนซนที่บินอยู่ในทุ่งดอกไม้อย่างมีสุข
แน่นอนว่าทุ่งดอกไม้นี้คือสิ่งที่ลั่วอู๋ปล้นมาจากป่าอสูร
องค์หญิงเจียโรวกำลังนั่งอยู่ในทุ่งดอกไม้
นางได้เข้าใจถึงแก่นแท้แห่งดอกไม้ได้สำเร็จ เมื่อนางคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดอกไม้ทุ่งก็แกว่งไปมาส่งกลิ่นหอมหวานจาง ๆ ออกโชยไปตามลม
ลั่วอู๋เดินไปที่พระราชวัง
ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาการฝึกฝนของเขาไม่ได้มีเพียงการพัฒนาการรับรู้แก่นแท้ทักษะเท่านั้น
และรวมถึงการสังเคราะห์ด้วย
ในป่าอสูร เข้าได้จับสัตว์วิญญาณมากมายกลับมา
เดิมทีสิ่งที่ลั่วอู๋ได้ไม่ค่อยมีประโยชน์ไม่มากเท่าไหร่นัก ส่วนมากสิ่งที่ถูกสังเคราะห์โดยไหปีศาจนั้นมีผลสุ่มเสี่ยงมากเกินไป
แต่ในครั้งนี้มันคุ้มค่า
สมบัติลึกลับ น้ำเต้าสีม่วง
ส่วนผสมคือไอแห่งดอกไม้และหญ้าเขาเดี่ยว มันมีสีทองอมม่วง ห่อหุ้มด้วยแสงงดงามและลึกลับ มันสามารถทำให้เกิดพื้นที่ห้วงมิติขนาดเล็กได้
พลังของน้ำเต้าสีม่วงสามารถใช้เป็นที่กำบังหลบหนีได้
แน่นอนว่ามันแตกต่างจากแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป มันสามารถรองรับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ได้มากกว่า ระดับที่แม้แต่มนุษย์ก็สามารถเข้าไปได้
ภายในนั้นมีพื้นที่ไม่มากขนาดประมาณตำหนักเล็ก ๆ แต่ก็ใหญ่เกือบเท่าพื้นที่ของแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง
แต่น้ำเต้าสีม่วงมีข้อได้เปรียบที่สำคัญมากคือมันสามารถดูดซับพลังวิญญาณจากภายนอกเข้ามาเติมเต็มตัวเองได้โดยอัตโนมัติ จึงทำให้สภาพแวดล้อมภายในกลายเป็นสถานที่ที่มีความสุขกว่ามาก
กล่าวอีกนัยหนึ่งผู้คนและสัตว์วิญญาณ สามารถอยู่ในนั้นเพื่อฝึกฝนได้
เรียกได้ว่าเป็นวัตถุวิญญาณที่คุ้มกับโชคลาภ
แน่นอนว่ามันมีข้อบกพร่องเช่นกัน เนื่องจากความแข็งของเปลือกน้ำเต้าสีม่วงไม่ได้ดีแข็งแกร่งมาก เรียกได้ว่าแม้แต่ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเงินก็สามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังไม่สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ มันจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ควบคุมน้ำเต้าสีม่วง มันจึงเทียบเท่ากับไหปีศาจที่อ่อนแอลงมา
ลั่วอู๋ที่มีไหปีศาจคงไม่ต้องการมัน แต่แน่นอนว่าคนนั้นอยากได้
มันใช้งานง่ายกว่าแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์มาก
นอกจากนี้ยังได้มีอย่างที่สอง
ลั่วอู๋เดินไปที่ห้องเล็ก ๆ ในวัง ห้องนี้นั้นอบอุ่นมาก แต่ก็เต็มไปด้วยกลิ่นของโลหะ
มีไข่ทองคำสองฟองตั้งอยู่กลางห้อง
ไข่ทั้งสองมีขนาดประมาณฝ่ามือ มันมีลายเส้นแปลก ๆ บนเปลือกของมัน นอกจากนี้ยังสั่นเป็นครั้งคราว ราวกับกำลังแสดงว่ามันยังมีชีวิตอยู่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือไข่ของสัตว์วิญญาณ
นี่เป็นครั้งที่สองที่ลั่วอู๋สังเคราะห์ได้ไข่ของสัตว์วิญญาณ
ก่อนหน้านี้ที่เขาได้มาก็คือไข่ลึกลับที่ตวนซีฟักออกมา แน่นอนมันเป็นเพียงอุบัติเหตุ เป็นเพียงโชคดีและยากที่จะเกิดแบบเดิมซ้ำสองอีก
แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป
คราวนี้เป็นมันเป็นสูตรสังเคราะห์
ใช่แล้ว ลั่วอู๋ ได้สูตรสังเคราะห์มา
ไม่งั้นคงไม่มีไข่ใบที่สองออกมาแบบนี้แน่
เพียงแค่ว่าวัตถุดิบของสูตรนี้นั้นหาได้ยาก มันทำจากสัตว์ร้ายเมฆาและสัตว์ฉีเซียว แม้ว่าสัตว์ร้ายเมฆามีเฉพาะในป่าวิญญาณ แต่ก็ยังมีปริมาณที่ค่อนข้างมาก
ทว่าสัตว์ฉีเซียวนั้นหาได้ยาก มันมีมิติวิญญาณระดับทองขั้นสูง และทรงพลังมาก ลักษณะของมันคล้ายกับสัตว์ร้ายในตำนาน มันถูกจับได้โดยบังเอิญขณะที่เขาเดินทางไปในภูเขาแห้งแล้ง
ตามที่หยู่เฮาบอก สัตว์ฉีเซียว เป็นสัตว์วิญญาณที่หาได้ยาก มันอาศัยอยู่ตามลำพังและมีจำนวนน้อย อย่างไรก็ตามมันสามารถปรับตัวได้ดี จึงแทบจะวิ่งไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
มันยากที่จะดักรอจับสัตว์ฉีเซียวในที่เดียว
สิ่งนี้ทำให้การจับสัตว์ฉีเซียว เป็นได้ด้วยเรื่องบังเอิญเพียงเท่านั้น
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหาว่าไข่ทั้งสองใบนี้เป็นของสัตว์วิญญาณอะไร
ก่อนหน้านี้ลั่วอู๋จึงได้เข้าไปพบเจ้าของร้านของคฤหาสน์หวู่หยู่ หลังจากจ่ายค่าประเมิน 10000 แต้มเขาก็ได้คำตอบ
สัตว์วิญญาณระดับเพชร – จินหลิงเจีย
ทันใดนั้นเจ้าของร้านของคฤหาสน์หวู่หยุนก็ตกใจ และร้องขอซื้อไข่ทั้งสองฟอง แต่ลั่วอู๋ก็ปฏิเสธ ความขุ่นเคืองในดวงตาของเจ้าของร้านในตอนนั้นทำให้ผู้คนรอบข้างถึงกับต้องสั่นกลัว
แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่ลั่วอู๋จะขายไข่ที่สำคัญเช่นนี้
สัตว์วิญญาณระดับเพชร ไม่ว่าจะขยะแค่ไหนก็ยังมีมูลค่ามาก
น่าเสียดายที่มันเป็นไข่ มันต้องใช้เวลาฟักและเติบโตนาน แต่ก็ดีเหมือนกัน มันเป็นเรื่องง่ายที่จะนำออกมาใช้ได้ในอนาคต
จินหลิงเจีย เป็นสัตว์วิญญาณธาตุโลหะ
ว่ากันว่าพวกมันชอบกินโลหะ พวกมันไม่มีความแตกต่างทางเพศ เพราะพวกมันเป็นสัตว์วิญญาณไร้เพศ มันมีพลังในการโจมตีที่รุนแรงมาก
แต่เดิมมีการกล่าวว่ามันมีรูปร่างคล้ายมนุษย์ ฉูจงฉวนจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่พอได้ยินคำว่าไร้เพศ จู่ ๆ เขาก็หมดรัก
จินหลิงเจียมีความสามารถในการปรับแต่งโลหะเพื่อสร้างอาวุธสำหรับตัวมันเองได้ ดังนั้นจินหลิงเจียแต่ละตัวจึงมีอาวุธที่แตกต่างกัน
สัตว์วิญญาณนี้เป็นที่ชื่นชอบของช่างหลอมอาวุธ
เนื่องจากมันแทบจะไม่มีสิ่งเจือปนใด ๆ ในโลหะกลั่นของมัน
อย่างไรก็ตามสัตว์วิญญาณชนิดนี้ มีความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพในการต่อสู้สูง ดังนั้นคุณค่าของมันจึงสูงมากตั้งแต่สมัยโบราณ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่นักตีเหล็กธรรมดา ๆ จะมีสัตว์วิญญาณที่มีพลังยอดเยี่ยมเช่นนี้ เว้นแต่พวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง
ไข่สองฟองนี้คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีในการฟักไข่ ที่แน่ ๆ หนึ่งฟองต้องเป็นของหยางเฉา
ส่วนอีกฟองต้องดูว่าจะเป็นของใคร
จู่ ๆ พลังอันแข็งแกร่งของห้วงมิติก็ได้เกิดขึ้นในพระราชวัง ทำให้พื้นแผ่นดินของมิติไหสั่นสะเทือน
เมื่อรู้สึกถึงลมปราณนั้น ลั่วอู๋ก็หัวเราะ
มันเป็นของหลี่หยิน
หลี่หยินได้ก้าวข้ามผ่านมิติวิญญาณของนางไปแล้ว