ไหปีศาจ - บทที่ 678 ซุ่มโจมตี
บทที่ 678 ซุ่มโจมตี
บทที่ 678
ซุ่มโจมตี
ทุกคนต่างมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
เมฆฝนฟ้าร้องเมื่อครู่ได้หายไปแล้วราวกับมันเป็นเพียงภาพลวงตา
อย่างไรก็ตามกลิ่นอายของการต่อสู้ยังไม่ได้ลดลงโดยสมบูรณ์ ทำให้ผู้คนยังรู้ตัวว่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ใช่ของปลอม
นี่เป็นความจริงที่ยากจะรับได้
ฝูงชนต่างหวาดผวา
ทักษะการกลืนกินของลั่วอู๋ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะว่าเขาเคยใช้ทักษะกลืนกินนี้ที่สำนักเฉียนหลงมาก่อนแล้ว
แต่ไม่มีใครคิดว่า ตอนนี้เขาจะสามารถใช้ทักษะการกลืนได้อย่างรุนแรงถึงขนาดที่กลืนกินทักษะ สายฟ้าผ่าพิภพ ของ หนิงฮัวโดยสมบูรณ์ได้
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมองไปยังใบหน้าอันผ่อนคลายของลั่วอู๋ เขาดูเหมือนจะไม่รู้สึกหนักใจเลยแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่ามันไม่ยากสำหรับเขาที่จะทำเช่นนี้
หนิงฮัวล้มลงคุกเข่ากับพื้น ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้พลังวิญญาณของเขาถูกใช้ไปอย่างมาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะปล่อยทักษะโจมตีเช่นนั้นออกมาได้
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้ ลั่วอู๋ เดือดร้อน แต่อย่างใด
มันยากที่เขาจะยอมรับความจริงนี้
“แค่นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้วนะ” ลั่วอู๋พูดด้วยเสียงแผ่ว
ทักษะกลืนกินสวรรค์นั้นไม่จำเป็นจะต้องอ้าปากเพื่อใช้ โดยพื้นฐานแล้วเขาเพียงแค่ต้องปลดปล่อยพลังแห่งการกลืนและสร้างกระแสพลังวิญญาณน้ำวนออกมากลืนกินสรรพสิ่งเหมือนหลุมดำ
พลังนี้สามารถใช้ในการเสริมพลังวิญญาณให้ตัวเองได้ด้วย
ทักษะกลืนกินของสัตว์วิญญาณบางชนิดมักอาศัยการกัดและกลืน เพราะมันเป็นทักษะที่มีความสามารถในดูดซับพลังวิญญาณที่แข็งแรง พวกมันจึงสามารถย่อยสารอาหารโดยตรงได้ดีขึ้น
มือของหนิงฮัวสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด เพราะการฝืนใช้กระแสฟ้ามากเกินไป เขาเข้าใจถึงความหมายในคำพูดของอีกฝ่าย
เนื่องจากการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาได้ถูกทำลายลงแล้ว หากสู้ต่อไปเกรงว่ามันจะทำให้เขาอับอาย นี่เหมือนการดูถูกตัวเขา
หนิงฮัวกัดฟันพร้อมคำราม “ไม่ มันยังไม่จบ”
เขายอมแพ้ไม่ได้ แม้ว่าตอนนี้จะมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพวกเขา
การกลืนกินทักษะสายฟ้าผ่าพิภพเข้าไปลั่วอู๋จะต้องรับภาระมากแน่ ๆ บางทีลั่วอู๋อาจจะแค่แอบใช้การสนับสนุนอันแข็งแกร่งช่วยเหลือ แต่ไม่ได้แสดงให้ใครเห็น
ทักษะกลืนกินนั้นไม่ได้ไร้เทียมทาน มันน่าจะมีขีดจำกัดที่สูงอยู่เช่นกัน!
หนิงฮัวลอยขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง ปีกสายฟ้าคู่หนึ่งปรากฏขึ้นมาข้างหลังเขา เห็นได้ชัดว่าเขาพร้อมที่จะต่อสู้ด้วยพลังสายฟ้าอีกครั้ง
ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว
การต่อสู้ครั้งนี้เริ่มทำให้เขารู้สึกรำคาญ มือของลั่วอู๋เปล่งแสงพราวออกมา พลังวิญญาณก่อตัวขึ้นในมือของเขาอย่างรวดเร็วตามด้วยดาวหกแฉกสีขาวน้ำนมที่ปรากฏขึ้นบนพื้น
เสาแสงขนาดใหญ่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
ทักษะระดับ SS [รวมพลเทวดา]
หลายคนคุ้นเคยกับแสงนี้เนื่องจากการทักษะรวมพลเทวดาเป็นทักษะที่ลั่วอู๋มักจะใช้ในการต่อสู้ เขาได้อัญเชิญภูตสงคราม ภูตแห่งปัญญา และ ภูตสวรรค์แห่งการเกิดใหม่และการทำลายล้าง ต่อหน้าผู้คนมากมาย
การปลดปล่อยทักษะนี้ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนต้องตกใจอีกครั้ง
เมื่อลำแสงมาบรรจบกัน ภูตสวรรค์ที่สง่างามและสงบนิ่งในมือถือหนังสือทองคำก็ปรากฏขึ้นมา
มันคือภูตแห่งปัญญา
แต่คราวนี้ภูตแห่งปัญญาดูเหมือนจะแตกต่างจากตัวก่อน ๆ ที่พวกเขาเคยเห็นเล็กน้อย ดวงตาอันลึกล้ำของมันกลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์ มีสายรุ้งเหมือนสะพานแสงอยู่ใต้เท้าของมัน ที่น่าตกใจที่สุดก็คือหนังสือทองคำในมือของมันห่อหุ้มไปด้วยไฟศักดิ์สิทธิ์
ใช่แล้ว ด้วยการพัฒนาปรับปรุงทักษะจนสมบูรณ์ ภูตสวรรค์ที่ลั่วอู๋อัญเชิญออกมาจะได้รับการเสริมพลังที่แตกต่างไปจากเดิม
ภูตมหาสงครามมีดาบแห่งการพิพากษาสองเล่ม
ส่วนภูตแห่งปัญญาก็ได้ไฟศักดิ์สิทธิ์อันโหมกระหน่ำที่หนังสือของมัน
“ช่วยข้าจัดการเขาที” ลั่วอู๋สั่งเบา ๆ
ภูตแห่งปัญญาคำนับแล้วพยักหน้าอย่างสง่างาม
จากนั้น ลั่วอู๋ ก็เดินจากไป
วันนี้เป็นวันที่ประตูของสำนักเฉียนหลงเปิด เขาต้องกลับไปที่เมืองหลวงของจักรวรรดิ เขามีเวลามาเล่นกับหนิงฮัวได้ที่ไหน ต่อให้หนิงฮัวไม่อยากกลับบ้าน แต่เขาต้องกลับบ้าน
หนิงฮัวที่เห็นสิ่งนี้ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ “เจ้าส่งสัตว์วิญญาณอัญเชิญมาสู้กับข้างั้นเหรอ เจ้าดูถูกข้ามากเกินไปแล้ว!”
“ถ้าเจ้าชนะมันได้ล่ะนะ” ลั่วอู๋ตอบอย่างเฉื่อยชา
ตอนนี้ภูตสวรรค์ที่ถูกเรียกออกมาอย่างน้อย ๆ ความแข็งแกร่งก็น่าจะอยู่ในระดับทองขั้นสูง อีกทั้งยังมีทักษะที่สูงมาก พลังของภูตสวรรค์เหล่านี้นั้นน่าสะพรึงกลัวมากและน่าตื่นตาอย่างยิ่ง
หากลั่วอู๋ ไม่ได้จำกัดมิติวิญญาณของพวกมัน และไม่ได้ใช้ทักษะที่ทรงพลัง แม้แต่ตัวเขาเองก็รู้สึกได้ว่า เขาไม่สามารถเอาชนะภูตแห่งปัญญาในตอนนี้ได้
“ อย่าเพิ่งไป!” หนิงฮัวตะโกน
ทว่าภูตแห่งปัญญาได้เข้ามาหาเขาเสียก่อน
ทักษะ ระดับ S [บทกลอนของพระเจ้า]
แสงสว่างพุ่งเข้าไปหาหนิงฮัวด้วยพลังแห่งพันธนาการ ทำให้หนิงฮัวที่ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับสัตว์วิญญาณอัญเชิญ ต้องใช้พลังสายฟ้ายิงไปเพื่อทำลายภูตแห่งปัญญา
ทว่าภูตแห่งปัญญากลับยิ้มและส่ายหัว
แสงศักดิ์สิทธิของมันกลายเป็นโล่ปกคลุมร่างกายปิดกั้นสายฟ้าอันน่ากลัว
หนิงฮัวรู้สึกประหลาดใจ
ไม่มีทางที่สัตว์วิญญาณอัญเชิญจะทรงพลังได้มากขนาดนี้
พลังวิญญาณแห่งการพันธนาการได้เข้าผนึกหนิงฮัวได้สำเร็จ เขารู้สึกได้ถึงการกระทำของตัวเขาว่ามันช้าลงเรื่อย ๆ ความรู้สึกเริ่มแข็งทื่อไปเรื่อย ๆ
“ทำลายมันซะ!” หนิงฮัวส่งเสียงคำรามต่ำ จากนั้นปีกสายฟ้าของเขาก็เบ่งบานบังคับให้เล่กุยในร่างทำลายพลังของพันธนาการนี้
แต่ภูตแห่งปัญญาไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย
ใช้งานทักษะระดับ A
ทักษะระดับ A [ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์]
ทักษะระดับ A [เส้นแบ่งแห่งพลังชีวิต]
……
ทักษะมากกว่าหนึ่งโหลถูกปลดปล่อยออกมาติดต่อกัน ทำให้หนิงฮัวที่รีบร้อนได้แต่พยายามหลบตัวออกจากระยะของทักษะเหล่านี้ และไม่มีเวลาเข้าไปหาลั่วอู๋
ทุกคนต่างตกตะลึง
สัตว์วิญญาณอัญเชิญตัวนี้สามารถต่อสู้กับ หนิงฮัว ได้อย่างสูสี
อีกทั้งสัตว์วิญญาณอัญเชิญตัวนี้ยังคงอยู่ได้นานเกินไปแล้วด้วย
ลั่วอู๋ได้เดินไปถึงประตูสำนักเฉียนหลง
ที่นี่หลี่หยิน และ ฉูจงฉวนได้มารอเขาอยู่ก่อนแล้ว
“ ทำไมมาช้าจัง” ฉูจงฉวน บ่น
ลั่วอู๋หัวเราะ “มีบางอย่างทำให้ข้าต้องล่าช้าไปสักพัก เอาล่ะไปกันเถอะ”
“กลับบ้านกัน” ฉูจงฉวนเหยียดแขนยาวแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ครั้งนี้ปู่ข้าต้องประหลาดใจแน่”
หลินยูหลันกลอกตาสีขาว “ใช่สิ พ่อคนเก่ง”
“ฮ่า ๆ ๆ ข้าจะไปแสดงให้เขาเห็นว่าข้าได้รับการเลื่อนขั้นมิติวิญญาณเป็นทองขั้นสูงแล้ว” “ ข้าน่าจะเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นสูงที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลฉูแล้วล่ะ” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม
พวกเขาเดินไปที่ประตูสำนักเฉียนหลงพร้อมกับเสียงหัวเราะ
เข้าถึงประตูห้วงมิติที่กำลังเปิดอยู่
ในไม่ช้าพวกเขาก็กลับไปถึงเมืองหลวงของจักรวรรดิ
ไม่มีความแตกต่างใด ๆ จากสถานการณ์ปกติ นักเรียนที่ต้องการจะกลับมาที่นี่คนอื่น ๆ เองก็เดินทางกลับมาด้วยเช่นกัน แต่บรรยากาศกลับค่อนข้างบอบบาง
ทางเดินห้วงมิติถูกสร้างขึ้นบนลานจัตุรัสของจักรวรรดิ
เดิมทีลานจัตุรัสนี้ค่อนข้างมีชีวิตชีวา แต่ในวันนี้มันกลับค่อนข้างเงียบเหงา
“ เกิดอะไรขึ้นกับเมืองหลวงของจักรวรรดิเนี่ย?” ลั่วอู๋ถามทูตเฉียนหลง
ทุกครั้งที่ประตูของสำนักเฉียนหลงถูกเปิดและปิด ทูตเฉียนหลงจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ทูตเฉียนหลงส่ายหัว “ข้าก็ไม่แน่ใจ ข้าเองก็อยู่ที่สำนักเฉียนหลง”
ลั่วอู๋อยากจะพูดขัด แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ใส่ใจ
ทันใดนั้นช่องว่างห้วงมิติเดิมก็ถูกปกคลุมไปด้วยระลอกคลื่นและพลังงานห้วงมิติอันไม่เป็นระเบียบ
ทูตเฉียนหลงสะดุ้ง “ใครบังอาจมายุ่งกับห้วงมิติของข้ากัน?”
จู่ ๆ ในขณะนี้การเข้าใช้ประตูห้วงมิติก็กลับมาเป็นในสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน
พรรคพวกลั่วอู๋ตื่นตัวในทันที สถานการณ์แบบนี้แปลกมาก ไม่น่ามีใครกล้าเข้ามายุ่งกับทางเดินห้วงมิติของสำนักเฉียนหลงกันได้ง่าย ๆ
ทันใดนั้นที่ลานจัตุรัสลมปราณอันรุนแรงหลายสิบครั้งก็ปะทุขึ้น
อย่างน้อยก็เหนือกว่ามิติวิญญาณระดับทองขั้นสูง
ใบหน้าของลั่วอู๋จมลง เพราะเขารู้สึกว่าลมปราณหลายสิบครั้งนั้นมุ่งเป้ามาที่เขาโดยตรง